ยืนหนึ่งในย่านฟ้าฮ่าม จากป่ามะขามอายุ 120 ปี
X2 รีสอร์ตริมน้ำปิงบรรยากาศดีที่สุดในเชียงใหม่
มาพร้อม fine dining ระดับมิชลิน
__________________________________
Design Luxury Resort ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกำแพงประตูคูเมืองเชียงใหม่ ใช้อิฐมอญสั่งพิเศษเนรมิตให้เป็นงานสไตล์ล้านนา ตั้งอยู่กลางป่ามะขามเก่าอายุร้อยซาวปี มีบ่อและแฮ้วอยู่กลางสวนเป็น signature เพิ่มดีไซน์ให้ดูโมเดิร์นคลาสสิคมากขึ้นครับ กานต์ยอมรับเลยว่า I’ll Design Studio ออกแบบรีสอร์ตนี้ได้สวยโดนใจมาก
ทริปนี้กานต์พัก Pool Suite ครับ เป็น rare item ของที่นี่ เพราะห้อง typr นี้มีน้อย ขนาดห้องกว้างขวางดี แต่ที่ชอบคือวิวดี มีความใกล้ชิดธรรมชาติ ที่สำคัญคือให้ความเป็นส่วนตัวสูงมาก เหมาะแก่การมาพักผ่อนอย่างเงียบๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบอะไรวุ่นวาย ได้อยู่กับตัวเองบ้างก็ดีเหมือนกัน
#วิวแม่น้ำปิงคือนิพพาน การได้นั่งมองสายน้ำไหลคล้ายกับเป็นสัจธรรม ทุกวินาทีที่สายลมหนาวพัดผ่านเป็นการเรียกสติให้อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับธรรมชาติแวดล้อม เป็นรีสอร์ตที่บรรยากาศดีมาก เหมาะแก่การพักผ่อนถ่ายรูปเล่นสบายๆ สระว่ายน้ำยามทไวไลท์คือมุมไฮไลท์ ท่ามกลางลมหนาวและดาวเดือน ประทับใจมากครับ
Oxygen Dining Room คืออีกหนึ่งไฮไลท์ครับ ใครจะคิดว่า fine dining ดีๆ ของเชียงใหม่จะพบได้ที่นี่ ราวกับเป็น hidden gems “เชฟเข้ม” เก่งมากครับ นำวัตถุดิบท้องถิ่นมารังสรรค์เป็นเมนูสุดพิเศษ ได้อย่างน่าสนใจ ผมเจอข้าวซอยที่หน้าตาไม่ใช่แต่รสชาติได้มากก็จากที่นี่ จนทำให้ปีนี้คว้า Micheline Plate มาครองได้สำเร็จครับ
X2 Chiang Mai Riverside Resort นับเป็นหนึ่งใน Bucket list ของกานต์เลยครับ ครั้งหนึ่งที่ต้องมาและผมเชื่อว่าใครหลายคนก็อยากมาพักที่นี่เหมือนกัน
#X2#X2ChiangMai#X2ChiangMaiRiversideResort
#luxurytravel#leisuretravel#hotellifestyle
#ท่องเที่ยวพักผ่อน#ชอบนอนโรงแรมสวย
—
เจอรูปนี้เข้าไป คนโสดตายไปเลยครับ เพลงของปนัดดา #ลมหนาวและดาวเดือน ต้องมา กานต์ชอบสระว่ายน้ำของที่นี่มาก เป็นสระที่ไม่ใหญ่ที่บรรยากาศได้มาก โรแมนติกสุดๆ
วิวแม่น้ำปิง เส้นเลือดใหญ่ของนครพิงค์ยังคงดงามในความทรงจำของกานต์เสมอครับ
#เชียงใหม่ ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ก็ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวตลอดเวลาครับ เป็นเมืองที่สวยเงียบๆ แต่ไม่เคยหยุดยิ่ง ไปเชียงใหม่ครั้งใด ก็มักมีอะไรใหม่ๆ ให้เราได้ว๊าวเสมอ
รีสอร์ตริมน้ำปิงของเราในทริปนี้ คือที่ X2 Chiang Mai Riverside Resort ดีไซน์ด้วยอิฐแดงขอบสีดำ ดูโมเดิร์นมากครับ ได้ฟีลเหมือนเที่ยวอยู่เมือง Siena ของ Italy
X2 Chiang Mai Riverside Resort เป็นรีสอร์ตที่ทำให้กานต์แทบจะไม่อยากออกไปไหนเลยครับ โดยเฉพาะช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดินไปจนย่ำค่ำ แสงสีทองลับมุมเขาของนครเวียงพิงค์ โดยมีฉากหน้าเป็นแม่น้ำปิงไฟลเอื่อยๆ กลายเป็นโมเมนต์ที่กานต์อยากจะดื่มด่ำกับมันเอาไว้ให้ได้นานที่สุด
การมาพักที่ X2 Chiang Mai Riverside Resort ยังทำให้ผมได้ค้นพบเพชรเม็ดงามของเชียงใหม่ เป็นร้านอาหาร fine dining ที่บรรยากาศดี อาหารเสิร์ฟอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ คุณภาพคับจานล้นแก้วมากๆ ครับชื่อว่า Oxygen Dining Room
ภาพนี้โรงแรมไม่ได้ร้าง แต่ผมอยากจะเล่าบรรยากาศเก่าๆ ของรีสอร์ตนี้ให้ฟัง เพราะที่ตั้งอยู่ย่านนี้เรียกว่า “ฟ้าฮ่าม” ครับ (ที่เราคุ้นหูก็เพราะมาจากร้านข้าวซอยชื่อดังอย่าง ลำดวน, เสมอใจ) X2 Chiang Mai Riverside Resort ก็ตั้งอยู่ตรงกันข้ามเลยครับ
ย่านนี้ดูเผินๆ เหมือนเป็นรอบนอก ดูจะไกลตัวเมืองเชียงใหม่ไปนิด ในอดีตน่ะใช่ครับ เพราะเป็นป่ามะขามอายุร้อยกว่าปี มีช้างป่าอาศัยอยู่กันที่นี่เป็นจำนวนมาก แต่จากการที่ปัจจุบัน เมืองเชียงใหม่ขยายความเจริญไปสู่อำเภอต่างๆ มากขึ้น ฟ้าฮ่ามจึงเป็นตัวเมืองรอบนอกที่เดินทางออกไปไหนมาไหนง่าย แต่ยังคงไว้ซึ่งความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย พลุกพล่าน เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจครับ
ด้วยความที่ป่าต้นมะขาม ทำให้ยังมีร่องรอยเหลือไว้บ้าง อย่าง Glass House ของร้านอาหาร Oxygen ก็ร่มเย็นได้ เพราะร่มเงาของไม้มะขามที่ปกคลุม เมื่อมีแสงอาทิตย์พาดผ่านยามเย็น ก็เป็นบรรยากาศที่ดีมากครับ เหมาะแก่การนั่งดื่มเครื่องดื่มเบาๆ ในสถานที่สบายๆ
รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดประทุนสีแดงสดใส กลายเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่จอดโชว์อยู่ที่โถงใหญ่ใจกลางรีสอร์ต เป็น Photo Spot ที่ใครมาใครไปก็ต้องมาถ่ายรูปกันเก็บไว้
ภาพมุมสูงที่แสดงถึงการเชื่อมต่อกันแบบ 3 ประสานคืออาคารอิฐมอญโบราณ ตั้งอยู่กลางป่าขนาดย่อมและสนามหญ้า ถัดไปคือแม่น้ำปิงที่พาดผ่าน กลายเป็นสัญลักษณ์ของการย้อนอดีตวันวานเมืองเชียงใหม่ที่เป็นหัวใจหลักในการสร้าง X2 Chiang Mai Riverside Resort จริงๆ ถ้ามองไกลๆ จากรีสอร์ตจะเห็นไปถึงดอยสุเทพเลยครับ
ผนังอิฐมอญสีส้มที่สั่งทำพิเศษจากอ่างทอง เป็นก้อนเล็กที่เรียวยาวกว่าอิฐทั่วไป ช่างนำมาก่อเรียงไว้อย่างประณีตแต่ไม่ฉาบผิว เป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของรีสอร์ต เป็นกลิ่นอายที่ได้จากประตูท่าแพของเมืองเชียงใหม่ ที่ใส่ความเป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนาร่วมสมัยเข้ามาด้วยขอบเหล็กสีดำ มีการเจาะช่องแสงผ่านกระจกใสเปิดไว้รับธรรมชาติเอาไว้ และบางจุดก็จะเป็นพื้นที่ open air เพื่อให้เราได้สัมผัสกับต้นไม้ใบหญ้าให้ได้มากที่สุด
เป็นการผสานธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ เข้ากับงานดีไซน์และสถาปัตยกรรมได้อย่างลงตัว
บ่อน้ำและ #แฮ้ว ผมจะเรียกเป็นภาษากลางว่าอย่างไรดี แต่ที่แน่ๆ เป็นสัญลักษณ์ของ X2 Chiang Mai Riverside Resort ไปเสียแล้ว
ห้องพักหมายเลข 1 ของเราในคืนนี้ เป็น type Pool Suite ซึ่งบอกเลยว่าห้องแบบนี้มีเพียง 2 ห้องเท่านั้น ต้องรีบจองครับ โทรเลย 0-5393-1999
ตัวห้องเป็นแนวยาวและลึกจากตึกไปจรดแม่น้ำปิงด้านหน้า ตกแต่งแบบล้านนาร่วมสมัย ใช้การลดทอนงานดีไซน์แบบดั้งเดิม เพิ่มความโมเดิร์นเข้าไป ประกอบด้วยเส้นสายของไม้ ไฟและกระจก ช่วยให้ห้องพักดูมีมิติที่หลากหลายมากขึ้น
แม้ห้องจะเป็นสี่เหลื่ยมผืนผ้าที่ค่อนข้างยาว ทว่ามีการแยกสัดส่วนฟังก์ชั่นภายในได้ดี ผมชอบห้องทรงนี้ ไล่เรียงจากมุมหน้าประตูเป็นโซนแต่งตัวเชื่อมต่อห้องน้ำ มุมมินิบาร์ โต๊ะทำงาน เตียงนอนขนาดใหญ่ มีที่นั่งอ่านหนังสือสบายๆ ทั้งด้านในไปจนถึงประตูกระจกก่อนจะเจอกับเดย์เบดขนาดใหญ่ด้านนอก เชื่อมออกไปยังสวนและสระส่วนตัวขนาดย่อม
ห้องน้ำสีสวยดี มีความคลาสสิค อ่างล้างหน้าแยกกระจก 2 บานและฟังก์ชั่นแบบคู่ His & Her พร้อม Amenities ของเครือ X2 ทั่วไป
แต่สีของไฟเข้าคู่กับน้ำหอมใหม่จาก LUSH ที่กานต์พกมาด้วยครับ กลิ่น Dirty คือหอมนะ เป็นกลิ่นเบสหลักๆ ของแบรนด์เวลาที่เราเดินผ่าน น่าเสียดายที่เวลาน้ำหอมเข้ามาที่ร้านจำนวนไม่เยอะ ของหมดไว ใครสนใจอาจจะต้องสอบถามกับ LUSH Thailand ไว้ให้ดีๆ
คาบาน่า ริมสระกลางสวนในวิลล่า ที่เราสามารถนั่งจิบชากาแฟได้ทั้งวัน เป็นบรรยากาศที่เชื่อว่าหลายคนถวิลหาครับ
อ่ะ!! ได้เวลาไปเดินสำรวจรอบๆ รีสอร์ตกันดูบ้าง ผมชอบการจัดวางวัสดุที่เรียบและคุมโทนได้ดี ไปทางไหนเราก็จะเห็นอิฐแดง เป็นเมนหลักตามมาด้วยสัจจะวัสดุอย่างเหล็ก กระจก ไม้ ช่วยให้งานดีไซน์ของที่นี่มีเอกลักษณ์มากๆ ครับ
มุมสระว่ายน้ำส่วนกลาง เป็นไฮไลต์ที่กานต์เห็นรูปแล้วชอบมาก อยากมาดูด้วยตาตัวเอง
สระว่ายน้ำชั้นบนสุดของอาคาร จะมาช่วงเช้า กลางวัน หรือเย็น ก็สวยเด่นเป็นสง่าทุกครั้ง ตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้น้อยใหญ่ ฟีลคือได้วันพักผ่อนมากๆ แยกโซนนั่งพักผ่อนในน้ำ สระเด็กและสระหลักอย่างเป็นสัดส่วน
ข้างบนนี้มีบาร์ด้วยครับ ชื่อว่า Ozone Roof Bar สามารถสั่งเครื่องดื่มเบาๆ มาทานได้ระหว่างพักผ่อน
ยอมรับว่า สระว่ายน้ำโดดเด่นมาก ผมชอบดีไซน์ของเดย์เบดริมสระ ที่ออกแบบมาให้เป็นแนวกำแพงทรงโค้ง โดยผสมผสานวัสดุอย่างหินอ่อนเพิ่มความเรียบหรูและหวาย ผ้า เพื่อให้เกิดความเบาสบายเป็นสัมผัสจากธรรมชาติ
ที่สำคัญคือไฟใต้น้ำในสระจะสะท้อนเป็นดาวระยิบระยับ วิบวับๆ งดงามมากครับ
“Nature is pleased with simplicity. And nature is no dummy.”
-Isaac Newton
ความเก๋กู๊ดของ X2 Chiang Mai Riverside Resort อีกอย่างคือวิวแม่น้ำปิงที่ตัดผ่านด้านหน้า มีท่าน้ำของรีสอร์ตที่เชื่อมออกไป ผ่านสนามหญ้าขนาดใหญ่ (ดูจากภาพมุมสูงก็คงพอนึกออก)
รีสอร์ตจัดวางที่นั่งริมน้ำไว้ประปราย ให้ผู้เข้าพักได้เอนกาย ขออนุญาตลากเก้าอี้มานั่งเอกเขนกสบายๆ
แล้วซูมให้เห็นโมเมนต์แห่งการพักผ่อนนี้ชัดๆ
ร้านอาหาร Oxygen Dining Room ตั้งชื่อได้สอดรับกับโลเคชั่นและดีไซน์แวดล้อมมากๆ ครับ เป็น Glass House ขนาดใหญ่ใจกลางป่ามะขามและต้นไม้ที่ปกคลุม ให้ฟีลเหมือนทานอาหารอยู่ในป่าที่เต็มไปด้วยต้นสนและใบเฟิร์น มองออกจะเห็นแม่น้ำอยู่ลิบๆ ได้บรรยากาศที่สดชื่นดีมากครับ
ภายในห้องอาหารเรียบหรูโก้มากๆ ด้วยหินอ่อนสีขาว ส่องสว่างด้วยแสงไฟเข้าคู่กับ Glass House แสงที่ส่องผ่านกระจกที่กรุใสโดยรอบ จัดวางโต๊ะทานอาหารไว้แบบหลวมๆ เพื่อความผ่อนคลายและยังคงมาตรการรักษาระยะห่างเอาไว้ได้ มีทั้งพื้นที่ภายในและด้านนอกวิวสวนและแม่น้ำครับ
ด้านในห้องอาหารยังมีบาร์เล็กๆ ให้เรานั่งจิบเครื่องดื่มแก้วโปรดในบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร ก่อนจะไปร่วมโต๊ะเพื่อทาน fine dining ในค่ำคืนนี้
คืนนี้ผมจองโต๊ะนี้มุมนี้ไว้ ให้ความเป็นส่วนตัวและเป็นมุมที่สวยมากครับ กับการรับประทานอาหาร fine dining ที่ดีงามที่สุดแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ ในสไตล์ Thai-French fine dining เต็มเปี่ยมไปด้วยไอเดียสดใหม่สุดสร้างสรรค์ในแบบฉบับ Innovative Crusine ไม่เหมือนใคร ที่ Oxygen Dining Room เพิ่งได้ Michelin Plate ปี 2020 มาครองครับ
ห้องอาหาร Oxygen Dining Room ดูแลโดยเชฟเข้ม เชฟหนุ่มรูปหล่อยิ้มง่าย ขี้อายเล็กน้อย แต่ทำอาหารอร่อยมาก โดยนำเสนออาหารไทยสไตล์ฝรั่งเศสนำมาทวิสต์กันได้อย่างน่าสนใจ โดยใช้วัตถุดิบหลักสดใหม่จากในท้องถิ่น เพื่อช่วยส่งเสริมสินค้าเกษตรคุณภาพดีให้เป็นที่รู้จักและยอมรับ
เชฟเข้ม ที่ใช้กรรมวิธีปรุงอาหารที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน แต่เมื่อทานเข้าไปแล้วยังคงรสชาติของต้นตำรับเอาไว้ได้ กานต์ไล่เรียงคอร์ส THAI MENU ของ Oxygen Dining Room ได้ดังนี้ครับ
Amuse Bouche เมนูเรียกน้ำย่อย
•Shallot Cromesquis
•Pizza Tart
•Pomme Bread and Yuzu Jelly
ขนมปัง 3 แบบคือ Brioche, Whole Grain และ Focaccia เข้าคู่กับเนยโฮมเมดสูตรพิเศษจากเชฟ
•Oxygen Dining Room Khao Kha Moo เป็นข้าวขาหมูในรูปแบบอาหารฝรั่งเศสที่ได้แรงบันดาลใจมากจากแกงกระด้าง
•Wild Ceviche Seabass Somtam ส้มตำสไตล์ห้องอาหารออกซิเจน เป็นเหมือนซาวิเช่ปลากระพง คลุกส้มตำไทยเสิร์ฟคู่หนังปลากรอบ แซ่บมาก
•Stuffed Squid ปลาหมึกยัดไส้ที่ได้แรงบันดาลใจจากไส้อั่วของทางเหนือ ทานคู่กับน้ำยำรสเปรี้ยวๆ และเครื่องสมุนไพรไทยดับกลิ่นและเพิ่มความสดชื่น
•Glazed River Prown Tom Yam กุ้งแม่น้ำที่เซียแล้วเสิร์ฟมาบนเครื่องต้มยำแบบเข้มข้น มีเครื่องเคียงเป็นแอปเปิ้ลเขียวและซอสส้มซ่า จานนี้อร่อยมาก
•Khao Soi Gai ข้าวซอยแบบโมเดิร์น ที่นำสะโพกไก่ไปตุ๋นในน้ำซอสข้าวซอย ห่อด้วยเส้นพาสต้า พร้อมเครื่องเคียง เป็นข้าวซอยที่หรูหรามากครับ
ของหวานเป็น Mango Sticky Rice ข้าวเหนียวมะม่วงที่มาในรูปแบบของสปองก์เค้ก ด้านในเป็นมูสข้าวเหนียวและมะม่วงสด ราดซอสกะทิเสิร์ฟคู่กับไอศกรีมมะม่วง นอกจากนี้ยังมี petit four เป็น Macaron, Chocolate Classic และ Religieuse รสชาเขียวหมดเลย ช่วยปิดท้ายมื้ออาหารได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ทุกจานกานต์รับรองว่าเด็ด ใครมาเชียงใหม่ อยากให้ลองแวะมาทานที่นี่กันครับ
ในส่วนของอาหารเช้า เราก็ทานที่ห้องอาหารนี้เช่นกันครับ ในบรรยากาศสบายๆ เริ่มต้นวันใหม่ด้วยแสงตะวัน
ยอมรับว่าไลน์อาหารไม่ใหญ่มากครับ แต่ครบถ้วนในทุกความต้องการ ที่สำคัญคือวัตถุดิบในการเตรียมอาหารสดใหม่มากๆ หลายๆ อย่างเป็นโฮมเมดซึ่งหาทานที่ไหนไม่ได้
ในส่วนของอาหารเช้า เราก็ทานที่ห้องอาหารนี้เช่นกันครับ ในบรรยากาศสบายๆ เริ่มต้นวันใหม่ด้วยแสงตะวัน
ยอมรับว่าไลน์อาหารไม่ใหญ่มากครับ แต่ครบถ้วนในทุกความต้องการ ที่สำคัญคือวัตถุดิบในการเตรียมอาหารสดใหม่มากๆ หลายๆ อย่างเป็นโฮมเมดซึ่งหาทานที่ไหนไม่ได้
นั่งด้านนอกก็ได้บรรยากาศของความสดชื่นยามเช้าไปอีกแบบครับ อาหารเช้าของที่นี่จะมี rack ของเบเกอรี่มาเสิร์ฟให้เป็น signature พร้อมกับ Sparkling wine ที่พบเห็นได้ในรีสอร์ตเครือ X2 ทั่วโลกครับ
ส่วนตัวผมชอบน้ำสลัดงาคั่วในไลน์อาหารเช้านี้มาก ทานไป 2 จาน จนอดไม่ได้ต้องเสียมารยาทถามว่าซื้อน้ำสลัดมาจากไหน ยี่ห้ออะไรจะไปซื้อตาม
“เชฟทำเองค่ะ” – น้องพนักงานตอบ ผมนี่อดเลยครับ แต่อร่อยหอมกลมกล่อมมาก อยากให้ได้ไปลองสำหรับใครที่พักที่นี่
เนย 3 แบบที่เสิร์ฟตอนเช้า ผมก็ขอพิเศษมาจากดินเนอร์เมื่อคืนครับ เพราะว่าติดใจเนยมะกอกดำมาก อยากเอามาทานกับขนมปังในช่วงสายบ้าง เป็นเนยที่เชฟทำขึ้นมาเอง 3 แบบให้รสชาติ รสสัมผัสและความหอมที่แตกต่างกันออกไป
ใครที่พัก Pool Suite ก็สามารถสั่ง floating breakfast มาทานได้นะครับ
แนะนำว่าให้สั่งตั้งแต่ก่อนนอน เลือกเลยว่าอยากจะทานอะไรบ้าง หรือมีอะไรพิเศษที่ชอบ ทีม FB จะได้เตรียมไว้ให้ตามความต้องการ จะให้เสิร์ฟเวลาไหนก็นัดแนะกันให้ดีครับ จะได้มีโมเมนต์แห่งความประทับใจแบบนี้เหมือนผม
กลางวัน ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็ออกไปทานข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี้ยวฟ้าฮ่ามได้นะครับ แต่ยามบ่าย เราต้องกลับมาในรีสอร์ต เพราะมี Afternoon Tea แบบผู้ดีอังกฤษ จิบชาทานขนมอร่อยๆ กันบรรยากาศริมน้ำสบายๆ ครับ
เป็น Afternoon Tea ที่บรรยกาศดีและคุ้มราคามากอีกแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ไม่ต้องพักที่ X2 Chiang Mai Riverside Resort ก็สามารถ walk in เข้ามาทานได้ครับ ขนมหวานและ Savoury มีเยอะหลากหลาย
เล่านิดนึง สำหรับเกร็ดเรื่อง Afternoon Tea จริงๆ แล้วเป็นประเพณีของชาวอังกฤษ นิยมจิบชากันในช่วงบ่าย หลังจากที่ผ่านมื้ออาหารกลางวันมา ก่อนจะเข้าสู่มื้อเย็นต่อไปในช่วงค่ำ แอนนา ดัสเชส ลำดับที่ 7 แห่งเบดฟอร์ด (Duchess of Bedford) ผู้ริเริ่มการจิบชายามบ่าย ได้มีคำสั่งให้ตั้งโต๊ะชา พร้อมกับเสิร์ฟขนม โดยมีสโคน แซนวิช และเค้กเพื่อคลายความหิว โดยมีเหล่าสหายและขุนนาง มาร่วมดื่มชาและทานขนมไปด้วยกัน จนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของพวกคนชนชั้นสูงและขุนนางเป็นส่วนใหญ่ เพราะใบชาสมัยนั้นมีราคาสูงและหายากมาก ก่อนที่คนทั่วไปจะเริ่มนิยมการจิบชายามบ่าย จนกลายเป็นจุดขายของโรงแรมทั่วโลก
#โดยสรุป X2 เชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นี่สนใจในเชียงใหม่ หากใครกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนสบายๆ เงียบๆ ไม่วุ่นวาย ได้ฟีลแบบล้านนา มีป่ามีน้ำ มีความร่มรื่น ครบถ้วนคงไว้ซึ่ง Facilities และการให้บริการ ก็อยากให้ดูที่นี่ไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
X2 Chiang Mai Riverside Resort 69/1 ถนนเจริญราษฎร์ ตำบลวัดเกตุ อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ 0-5393-1999 หรือ www.x2resorts.com
