BEATNIQ

ยอมรับว่า #BEATNIQ เป็นคอนโดตัวแรกๆ ที่กระตุ้นให้ผมสนใจศึกษาเรื่องการ #ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หลังตัดสินใจลาออกจากการเป็นสื่อมวลชนมาทำธุรกิจด้านท่องเที่ยว เป็นการเหยียบหลายขา เพื่อที่ว่าธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งของเรามีปัญหา ยังมีก๊อกสองไว้เดินเครื่องต่อไปได้

_

ผมต่อยอดจากการเป็น (อดีต) นักข่าวสายอสังหาฯ มาสู่ผู้ที่สนใจเรื่องการลงทุนซื้อขายเช่า จะสังเกตว่าระยะหลังผมจะออกรีวิวคอนโด ทาวน์โฮมและบ้านค่อนข้างบ่อย สลับกับรีวิวโรงแรม เพราะบางแห่งไปดูมาแล้วชอบ อยากเล่าต่อให้ฟังว่าโครงการนั้น น่าสนใจอย่างไร

_

อย่าง BEATNIQ คอนโดเทพแห่งทองหล่อ สุขุมวิท ย่านธุรกิจที่ได้ชื่อว่าร้อนแรงที่สุดในกรุงเทพ เพราะมีคอนโดมากมาย แต่เชื่อว่า จุดขาย ดีไซน์และทำเล ที่คิดมาแล้วว่าเผื่อลงทุนซื้อปล่อยเช่า BEATNIQ เขาทำได้ดี

_

เอาเรื่อง #ดีไซน์ ก่อน กลิ่นอายของที่ดินเดิมคือโรงแรม REX ที่มีความเป็น Mid Century Modern ทางโครงการก็นำฟีลลิ่งดั้งเดิมของบริบทฉบับเก่า เอากลับมารีดีไซน์จนกลายเป็น ไอเดียหลักของการออกแบบ BEATNIQ หลายคนที่มาดูดึกจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า #มันสวยมาก

_

ฟังก์ชั่นภายใน #ออกแบบให้โปร่งสบาย เน้นแสงจากธรรมชาติเปิดเข้ามา ทางโครงการออกแบบให้มีอ่างอาบน้ำ ในทุกห้อง เป็นการคิดเผื่อปล่อยเช่าสำหรับลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติที่นิยมการแช่อ่างน้ำร้อนในย่านสุขุมวิท เช่น กลุ่มญี่ปุ่น

_

ฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นที่ภายนอกต้องบอกว่าครบ ทั้ง #ConciergeService ตามแบบฉบับของ Super Luxury ที่มีเพียง 197 ยูนิตเท่านั้น ลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง Privacy จะนิยมเป็นพิเศษ มีที่จอดรถแบบ Conventional เกือบ 100% หายากมากในย่านนี้ หรือจะเดินทางโดย BTS ก็สะดวกครับ เพราะอยู่ห่างจากสถานีทองหล่อเพียง 250 เมตรเท่านั้น

_

สระว่ายน้ำและสวนคือสวยมาก แต่ที่ผมชอบสุดคือมี #SkyLounge ส่วนกลางทำได้ดี ตอบโจทย์คอนโดที่เน้นการอยู่อาศัยและพักผ่อน ที่สำคัญคือมี #SkyOnsen วิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยมาก อยากให้มาลองชมบรรยากาศจริงกันเพราะตึกเสร็จแล้ว

_

ผมเห็น SC ASSET การันตีรับผลตอบแทนล่วงหน้า 6% นาน 1 ปี* มีส่วนลดให้สูงสุดถึง 9 ล้าน* BEATNIQ จึงเป็นอีกหนึ่งของโครงการที่ผมอยากแนะนำให้มาชม

_

นัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่ ไลน์ https://lin.ee/3GVztBsNX หรือโทร 1749

ลงทะเบียนรับสิทธิ์ : https://m.scasset.com/3ROh

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

#beatniq32#beatniqsukhumvit32#condothonglor#condosukhumvit#คอนโดทองหล่อ#คอนโดสุขุมวิท#ลงทุนคอนโด#บีทนิค

“Form Follows Function” เป็นวลียอดฮิตของ Louis Sullivan สถาปนิกชาวอเมริกัน เด็ก’ถาปัตย์รู้จักกันดี ในนาม บิดาแห่งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ผู้ซึ่งเชื่อว่าภายนอกของอาคารควรสะท้อนถึงฟังก์ชันภายใน จนกลายเป็นไอเดียในการออกแบบ BEATNIQ คอนโดดีไซน์ที่ไร้กาลเวลา

BEATNIQ เป็น Limited Luxury Collection ของทาง SC Asset ครับ ชื่อโครงการ BEATNIQ เป็นการสนธิระหว่าง 2 คำ คือ Beatnik ซึ่งเป็นคำเรียกกลุ่มวัยรุ่นในยุค ’60s ที่มีความขบถนิดๆ ย้อนยุคหน่อยๆ นำมารวมกับคำว่า Unique ที่แปลว่าเอกลักษณ์ จนกลายมาเป็นคำว่า BEATNIQ

เป็นที่มาของชื่อโครงการที่เก๋มาก จนผมต้องอุทานเบาๆ ในใจว่า “คิดได้ไงเนี่ย”

ผมเล่าให้ฟังถึงอดีตนิดนึง Location ตรงนี้ แต่ก่อนเป็นที่ตั้งของ Rex Hotel ซึ่งเป็นแหล่งนัดพบยอดฮิตของคนในสมัยก่อนต้องมาทานข้าวต้มมื้อดึกกันที่นี่ ดีไซน์ของตัวอาคาร BEATNIQ จึงคงคอนเซ็ปต์แบบลายเส้นแบบ Mid Century Modern (MCM) ที่ค่อนข้างคลาสสิคเอาไว้ แต่เพิ่มรายละเอียดเข้าไปให้ดูโมเดิร์นมากขึ้น

Facade ของตัวตึกมีการ interlock ระหว่างส่วนที่เป็นงานเหล็กกับกระจก ผสานดีไซน์เข้ากับรูปสี่เหลี่ยมแบบบล็อค ให้ดูมีมิติของแสงและเงา เป็นการออกแบบที่เร้าใจผมมาก จนอยากเข้ามาดูโครงการนี้

ส่วน #ที่ตั้งของโครงการ BEATNIQ ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทฝั่งเลขคู่ ติดกับซอยสุขุมวิท 32 มุ่งหน้าพร้อมพงษ์ ย่านนี้ต้องบอกว่า นับวันที่ดินจะเป็น Rare Item ขึ้นทุกที การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในทำเลทองเช่นนี้ จึงถือว่าค่อนข้างคุ้มค่า

โดยเฉพาะทำเลของ BEATNIQ ที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อเพียง 250 เมตร หรือจะขับรถตรงไปขึ้นทางด่วนแถวพระราม 4 ก็ทำได้

ส่วนผมมาตอนบ่ายๆ สุขุมวิทรถไม่ติดเท่าไร เดินทางได้สบายเลยครับ ผ่านระบบรักษาความปลอดภัย จอดรถแล้วเดิน เข้ามาในโครงการ ประทับใจใน Concierge Service มากครับ

เข้ามาในโถง Lobby Lounge รู้สึกทีันทีถึงความโปร่ง โล่ง สบาย เพราะ Full Height สูงถึง 4.2 เมตร รายล้อมด้วยกระจกที่มองออกไปเป็นวิวสวนขนาดย่อม ตกแต่งให้มีความโมเดิร์นคลาสสิค คุมโทนสีดำ เทา ขาว น้ำตาล เฟอร์นิเจอร์ที่นำมาใช้เป็นหนังและผ้าให้ความรู้สึกหรูหราทว่าเรียบง่าย ภายในยังจัดให้มี Reading Lounge with Meeting Room สำหรับลูกบ้านเข้าใช้งานได้อีกด้วย

ผมไปดูห้องตัวอย่างแรก เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ บนชั้น 11 มีพื้นที่ใช้สอย 83.06 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างกว้าง ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค ให้ความรู้สึกหรูหรา มีระดับ

จากทางเข้าจะเป็นโถงทางเดินเล็กๆ เสมือนเป็น Foyer ซึ่งด้านข้างจะ Built-in ตู้เก็บของขนาดใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้า ก่อนจะเดินเข้าสู่ Common Area ด้านในที่มีทั้ง Living ที่จัดวางโซฟาขนาดใหญ่เอาไว้ ปลายสุดเป็นประตูกระจกเต็มบานเชื่อมต่อกับระเบียง

ถัดมาด้านในเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร อีกด้านในห้องตัวอย่างมีผนังกระจกเงาหลายบานนำมาต่อกัน ติดตั้งเอาไว้เป็นไอเดียในการตกแต่ง ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นและมีมิติ ต่อเนื่องไปจนถึงครัวปิด พร้อมเค้าท์เตอร์รูปตัว L ทำอาหารเบาๆ ได้สบาย ทางโครงการได้ติดตั้งชุดครัวจาก Starmark ที่มาพร้อมท็อปหินควอท์ ชุด Sink เป็นแบบหลุมคู่ จาก TEKA มีเตา Induction และเครื่องดูดควันติดตั้งมาให้พร้อมสรรพ

เข้ามาด้านในสุดแล้วเลี้ยวขวาจะเป็น Master Bedroom ที่มีโถงทางเดินผ่านห้องน้ำ มุมแต่งตัวแบบ Walk-in Closet มีโต๊ะทำงานอ่านหนังสือตั้งไว้ด้านในบริเวณปลายเตียง ก่อนจะมาสู่เตียงนอนที่มีพื้นที่รอบเตียงเหลือเผือ ผนังห้องรายล้อมด้วยหน้าต่างบานกระจกโดยรอบ เปิดรับแสงจากธรรมชาติเข้ามา ทำให้ห้องดูอยู่สบายมากขึ้น

Master Bedroom

ห้องน้ำ ติดตั้งสุขภัณฑ์อัตโนมัติแบบญี่ปุ่นเอาไว้ กะเอาใจผู้เช่าชาวญี่ปุ่นเต็มที่ พร้อมกับมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่ให้วิวกรุงเทพแบบเปิดโล่ง เหมาะสำหรับใครที่ชอบอาบน้ำชมวิวสวยๆ อารมณ์เหมือนพักผ่อนอยู่โรงแรมหรู แต่ความจริงแล้วคืออยู่บ้านตัวเอง

ห้องนอนที่สอง มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่สามารถจัดวางเตียงได้ พอมีเหลือพืนที่ด้านข้างเล็กน้อย ห้องนี้ไม่มีห้องน้ำในตัว แต่สามารถใช้ร่วมกับห้องน้ำด้านนอกได้เพราะอยู่ติดกัน

ขึ้นมาชั้น 12 กันบ้าง เป็นห้องตัวอย่างขนาด 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ถึง 107.61 ตารางเมตร มีสเปซเหลือเฟือในการพักอาศัยและการทำกิจกรรมภายในครอบครัว

ผังห้องนี้ ผมชอบมาก เพราะมีพื้นที่กว้าง มองเห็นวิวได้โดยรอบแบบพาโนรามิค ตั้งแต่ Living room ไปจนถึงระเบียงที่มีการกั้นกระจกเอาไว้ ทำให้สามารถใช้พื้นที่ได้เต็มประสิทธิภาพ

ขึ้นมาชั้น 12 กันบ้าง เป็นห้องตัวอย่างขนาด 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ถึง 107.61 ตารางเมตร มีสเปซเหลือเฟือในการพักอาศัยและการทำกิจกรรมภายในครอบครัว

ผังห้องนี้ ผมชอบมาก เพราะมีพื้นที่กว้าง มองเห็นวิวได้โดยรอบแบบพาโนรามิค ตั้งแต่ Living room ไปจนถึงระเบียงที่มีการกั้นกระจกเอาไว้ ทำให้สามารถใช้พื้นที่ได้เต็มประสิทธิภาพ

การจัดวางผังภายใน Common Area ต้องบอกว่าเป็นสัดส่วนดีครับ นับตั้งแต่โถงประตูทางเข้า จะมีห้องน้ำอยู่ด้านหน้า คล้ายกับพาวเดอร์รูมในโรงแรมหรู ก่อนจะมาเป็นครัวแบบปิดที่ติดตั้งเค้าท์เตอร์ครัวเอาไว้เป็นรูปตัว U เชื่อมต่อกับมุมรับประทานอาหารในห้องได้ทันที

Common Area

มุมพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา มีหน้าต่างเข้ามุม ทำให้เทควิวได้เต็มที่กว่า เราสามารถออกแบบให้เป็นฟังก์ชั่นอเนกประสงค์ได้ตามใจ จะเป็นห้องจิบไวน์ก็ได้ ห้องทำงานก็ดี หรือจะเอาไว้นั่งพักผ่อนชิลล์ๆ ดูวิวตึกสวยๆ ย่านสุขุมวิทก็เก๋ดีครับ

การออกแบบผังห้องแบบนี้ ทำได้ฉลาดดี ผมไม่ค่อยได้เห็นเท่าไร ที่ให้ห้องนอนสอง คล้ายกับซ้อนมาในห้องนอนใหญ่อีกที เพราะอยู่เชื่อมกัน แต่ก็ยังแยกสัดส่วนกันได้ดี เดินเลยเข้าไปด้านในสุดถึงจะเป็น Master Bedroom

ยอมใจในความกว้างของ Master Bedroom จริงๆ ครับ สไตล์นี้ฝั่งยุโรปน่าจะชอบ เพราะห้องนอนค่อนข้างใหญ่ มีพื้นที่ส่วนตัวเยอะ ใช้สอยได้สบายเลย

ขนาดว่าจัดวางเตียงขนาดใหญ่แล้วยังเหลือพื้นที่โดยรอบภายในห้องอีกมาก จัดเป็นมุมทำงาน อ่านหนังสือ หรือว่า นั่งคุยกันกันเพลินๆ ภายในห้องได้สบาย

ถัดไปเป็นมุมแต่งตัวที่มี Walk In Closet เล็กๆ จัดเตรียมไว้ ก่อนจะเข้าไปพบกับห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่ จัดวางอ่างอาบน้ำไว้ให้พร้อมสรรพ ต้อนรับผู้ที่ชอบแช่น้ำร้อนเป็นชีวิตจิดใจ ในสไตล์ Sexy Bath เพราะจะเป็นกระจกใสบานใหญ่เข้ามุมจากขอบอ่างไปจรดถึงฝ้าเพดานเลยทีเดียว

โถงลิฟต์ของทุกชั้น เห็นแล้วก็ถูกใจในความอาร์ตนิดๆ ของการตกแต่งภายใน ที่จะแขวนงานศิลปะเอาไว้ พร้อมกับตัวเลขที่แตกต่างกันไปในแต่ละชั้น

เท่ดีเหมือนกัน ขอถ่ายภาพแบบติสต์ๆ เก็บไว้บ้างครับ

กดลิฟต์ขึ้นมาชั้น 25 เป็นห้องในฝันของกานต์เลยครับ ห้องนี้อยากซื้ออยู่เอง เพราะชอบว่าที่เป็น Duplex เป็นห้องที่มี 2 ชั้น โถงจากพื้นถึงฝ้าเพดานสูงมาก ทำให้มองวิวได้เต็มที่ มีขนาดพื้นที่ใช้สอยภายใน 103.33 ตารางเมตร

การตกแต่งภายในห้องตัวอย่างทำได้หรูหราดี ผมชอบ SC ASSET ก็ตรงนี้แหละ ห้องตัวอย่างโครงการไหน หรือบ้านตัวอย่างโครงการใด ต้องยอมใจในความจัดเต็มตลอด

จาก Living Room ทางด้านซ้ายมือจะมีบันไดขึ้นไปชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องนอนใหญ่แบบเต็มฟลอร์ แต่ทว่า ชั้นล่างยีังมีอีก 1 ห้องนอนรออยู่

โถงทางเข้าห้องนอนเล็กจะเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน

ก่อนจะเข้ามาภายในเป็นพื้นที่ส่วนตัว ห้องนอนตัวอย่างตกแต่งแบบวัยรุ่น สไตล์โมเดิร์นดี

“Never look down on yourself when the whole world turn against you, just look in the mirror then you’ll find out that you’re not alone. That person you see in the mirror is your reflection, it shows that even if everybody ignore you it will always stick around with you.”

– Usman Ismaheel

ขึ้นบันไดมาชั้น 2 จะเป็นห้องนอนหลักแบบเต็มพื้นที่ราวกับเพนท์เฮาส์ ภายในค่อนข้างกว้าง ซึ่งก็แน่นอนเพราะห้องนอนเดียวกินพื้นที่ทั้งหมด จึงทำให้การออกแบบตกแต่งภายในมีการแบ่งสันปันส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานได้ค่อนข้างดี

เริ่มตั้งแต่พื้นที่บริเวณเตียงนอน ตกแต่งอย่างหรูหรา โคมไฟวงกลมดูเก๋ดี มีพื้นที่รอบเตียงเหลือเฟือ สามารถจัดวางโซฟาขนาดใหญ่บริเวณริมผนังกระจกเอาไว้ชมวิวกรุงเทพได้ไกลสุดลูกหูลูกตา บริเวณปลายเตียงยังจัดเก้านั่งอ่านหนังสือไว้อีกตัว หากเราเบื่อที่จะดูทีวี

ส่วนอีกด้าน จัดเป็นมุมทำงานและโต๊ะเครื่องแป้งในคราวเดียวกัน เป็นการ Combined ฟังก์ชั่นการใช้สอยได้อย่างลงตัวตามไลฟ์สไตล์

“Fashion changes,
but style endures.”

-Coco Chanel

ส่วนตัวชอบห้องที่เป็นแบบ Duplex อยู่แล้ว ค่อนข้างเทใจมาทางนี้ เจอ SC ASSET ตกแต่งห้องตัวอย่างสไตล์นี้เข้าไป โดนใจมากเลยครับ

ห้องน้ำของ Duplex เก๋มาก เป็นมุมห้องน้ำที่จัดวางอ่างอาบน้ำให้อยู่ติดผนัง ซึ่งมองไปจะเห็นวิวจากกระจกด้านนอกและสามารถมองลงไปยังโถงกลางชั้นล่างได้ด้วย

ชอบมุมนี้ที่สุดครับ

เช่นเดียวกับในห้องนอนที่จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งเล็กๆ เอาไว้ สามารถมองความเคลื่อนไหวของ Living Area ชั้นล่างได้

สระว่ายน้ำของ BEATNIQ สวยมาก เป็นหินอ่อนสีขาวนวลตา และจะปรับสีไปตามช่วงเวลา

สระว่ายน้ำตั้งอยู่ที่ชั้น 7 ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับฟิตเนสและ Kids Room เป็นสระว่ายน้ำขนาด 24 x 9 เมตร เป็นแบบสระเกลือ ที่ยกระดับโถงทางเดินเชื่อมด้านบนหรือ Floating Pavilion เอาไว้ไปยังสตูดิโอโยคะ

เป็นสระว่ายน้ำที่เก๋มาก ชอบ Floating Pavilion ตรงที่มีความโมเดิร์นดี วัสดุที่ใช้ออกแบบที่ BEATNIQ ส่วนใหญ่จะอาศัย Material ที่มีความเรียบง่าย เป็นสัจจะวัสดุที่เราสามารถเข้าใจและสัมผัสความรู้สึกของงานดีไซน์ได้ในทันที

Kids Room

ทางเข้าฟิตเนสจากบริเวณสระว่ายน้ำ เป็นฟิตเนสที่หันออกไปทางด้านนอก ทำให้เห็นวิวสบายตา สามารถปล่อยใจไปกับการออกกำลังกายในแบบ Body & Mind ได้เต็มที่

ฟิตเนส และ โยคะสตูดิโอ

Sky Onsen เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่ครับ ด้วยความที่อยู่ชั้นสูง จึงทำให้ได้วิวกรุงเทพที่กว้างกว่าในมุมมองใหม่ วิวที่ได้จึงสวยมาก

#ลูกค้าเช่าชาวญี่ปุ่นน่าจะถูกใจสิ่งนี้

อีกจุดที่ผมชอบคือ Sky Lounge เพราะเขาออกแบบมาได้สวยมาก ฟีลลิ่งเหมือนเป็น Glass House บนดาดฟ้า ที่ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย เพราะเป็นแบบ Double Volume ภายในห้องจัดวางเฟอร์นิเจอร์หลากสไตล์เอาไว้พอหลวมๆ สำหรับนั่งคุยกันเบาๆ หรือหยิบเอาหนังสือเล่มโปรดจากในห้องมาอ่านต่อที่นี่ และยังจัดพื้นที่สำหรับโต๊ะรับประทานอาหารแบบ Long Table แถมยังมีครัวสำหรับทำอาหารจัดเป็นงานปาร์ตี้ส่วนตัวเฉพาะกลุ่มเพื่อนได้อีกด้วย

ออกมาจาก Sky Lounge ด้านนอกจะมีสวนและมีบันไดวนซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ ให้เราเดินลงมายังชั้น 32 ซึ่งเป็นสวนรอบอาคารเช่นกัน

Sky Garden ประดับประดาด้วยต้นไม้และไม้พุ่ม ให้ความรู้สึกสีเขียวสบายตา พร้อมจัดวางที่นั่งไว้สลับกับต้นไม้เพื่อให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวในยามพักผ่อน

ตอนเย็นๆ บรรยากาศคือดีมากครับ อยากมานั่งอยู่ตรงนี้เพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกดินกับคนที่เรารัก

#โดยสรุป BEATNIQ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ผมตกหลุมรัก ตั้งแต่งานดีไซน์ไปจนถึงฟังก์ชั่นการใช้สอยภายในที่ออกแบบให้คำนึงถึงผู้อยู่อาศัยหลักคือเรา และผู้อยู่อาศัยรอง คือผู้เช่า ซึ่งส่วนใหญ่ย่านนี้จะมีชาวญี่ปุ่นค่อนข้างเยอะ การออกแบบจึงคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ให้เข้ากับคนกลุ่มนี้ด้วย ทั้งอ่างอาบน้ำและ Sky Onsen จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ

BEATNIQ เป็นอีกโครงการที่น่าสนใจไม่เพียงแต่เรื่องราคาและฟังก์ชั่น ซึ่งจะนำำมาคำนวนเป็นปัจจัยเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาถึงเรื่อง Emotional ในการพักอาศัยในสังคมหรูมีระดับเช่นนี้ด้วย

“MAKE YOUR OWN TIMELESS MOMENT”
นัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่ ไลน์ https://lin.ee/3GVztBsNX หรือโทร 1749
ลงทะเบียนรับสิทธิ์ : https://m.scasset.com/3ROh

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน