ชอบชื่อ HEADQUARTERS จัง ฟังดูแล้วยิ่งใหญ่ดี
เหมือน #คนที่อยากจะทำธุรกิจต้องคิดให้ใหญ่
… แต่ให้เริ่มต้นจากเล็กๆ ก่อน
_
Even if you miss,
You still land among the starts”
วลีสุดคลาสสิคจาก Les Brown ชาวอเมริกัน
“จงตั้งเป้าไปที่ดวงจันทร์อันแสนไกล
แม้คุณจะไปไม่ถึง … พลาดเป้า
คุณก็ยังได้อยู่ท่ามกลางดวงดาว”
_
ว๊าวไหมครับ!! ฟังแล้วอยากทำตามฝันด้วยการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
อะแฮ่ม!! จริงๆ ผมก็มีแล้วแหละ ยังเตาะแตะอยู่ครับ
แต่พอมาดูโฮมออฟฟิศสไตล์ Modern Luxury ที่วิภาวดี 62
หัวใจมันเรียกร้องให้ลงมือทำมันอย่างจริงจังเสียที
_
ดูจากการตกแต่งบ้านตัวอย่างผมว่า ทำออกมาได้เก๋ดีครับ
อย่างที่บอก SC ASSET นอกจากจะทำบ้านคุณภาพดีแล้ว
บ้านตัวอย่างก็ตกแต่งให้สร้างแรงบันดาลใจและไอเดียลูกค้า
ว่าถ้าเราตัดสินใจซื้อที่นี่ ย้ายเข้ามาอยู่แล้ว บรรยากาศจะเป็นอย่างไรนะ
_
อย่างเช่นตอนผมมาชมโครงการ HEADQUARTERS ที่วิภาวดีครั้งแรก
ฟีลเหมือนผมมาติดต่อธุรกิจกับบริษัทคอสเมติคเลยครับ เนียนมาก
รู้เลยว่าถ้าเราเป็นเจ้าของธุรกิจแล้วต้องดีลงานกับลูกค้า
ฟีลมันก็จะประมาณนี้แหละ ดูเก๋ๆ ชิคๆ หน่อย สไตล์บริษัทคนรุ่นใหม่
ส่วนของออฟฟิศจะอยู่ชั้นล่างและชั้นลอย ทำเป็นห้องประชุมได้
_
ส่วนพักผ่อนของเราจะขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 มีด้วยกัน 3 ห้องนอน
ผมชอบ Family Area เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับสมาชิกในครอบครัว
ตรงจุดนี้ผมว่า ที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านจริงๆ
ส่วน Master Bedroom ไม่ต้องพูดถึง ยังคงความอลังการ
ห้องขนาดใหญ่ ได้แสงธรรมชาติสาดส่องเข้ามา อารมณ์บ้านเดี่ยวเลยครับ
เป็น #HomeOffice ที่ #Homey มาก ยอมรับเลยว่าอยากได้
ไปชมภาพรีวิวพร้อมรายละเอียดของโครงการกันดีกว่าครับ
#HEADQUARTERS#HEADQUARTERSVIBHAVADI#SCASSET
#HOMEOFFICE#MODERNLUXURY#โฮมออฟฟิศ
#KANT#KantJournal#Luxury#Design#Lifestyle
—
โครงการ HEADQUARTERS วิภาวดี 62
LUXURY HOME OFFICE
สอบถามรายละเอียดและนัดหมายเข้าเยี่ยมชมโครงการได้ที่ โทร 1749 หรือ 098-247-3666
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก >> https://m.scasset.com/4KeN
รีวิวนี้ กานต์จะพามาชมโครงการโฮมออฟฟิศหรู บนทำเลดี๊ดี ซอยวิภาวดีรังสิต 62 ซึ่งเชื่อมต่อกับซอย 64 แถวนี้คึกคักมากครับ ร้านรวงเยอะแยะมากมาย เดินทางได้สะดวก เชื่อมต่อกับทางด่วน ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์และรถไฟฟ้าที่กำลังจะสร้างเสร็จ
เป็นโลเคชั่นแห่งอนาคตที่เหมาะกับคนมีวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจ ต้องคิดเผื่อไปอีกสเตปครับ
กานต์ชอบภาพนี้ มุมนี้สวยครับ ดูโมเดิร์นเรียบหรู ให้ความรู้สึกแกรนด์มาก สร้างความน่าเชื่อถือ เชื่อมั่นให้กับผู้มาติดต่อได้ดีเลยทีเดียว
ชั้นบน จะเป็นส่วนพักอาศัย ให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่บ้านจริงๆ ห้องนอนทั้ง 3 ห้องแยกสัดส่วนกันชัดเจน เพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ยังมีพื้นที่ Common ตรงกลางทั้ง 2 ชั้น เพื่อให้สมาชิกได้มาพบปะทำกิจกรรมร่วมกัน
มุมมองในด้านเจ้าของออฟฟิศ จะเห็นเป็นภาพนี้ครับ คือมีส่วนต้อนรับ มีชุดรับแขกให้นั่งพักหรือคุยงานกันแบบสบายๆ ในบรรยากาศที่เปิดโล่งกว้าง สไตล์โมเดิร์น พร้อมการตกแต่งที่เรียบหรู ไม่เยอะจนเกินไป
ห้องตัวอย่างตกแต่งให้เป็นบริษัทคอสเมติค มีความเป็น Working Woman ชิคๆ อยู่ในตัว สังเกตได้จากที่นั่งสีเหลืองมัสตาร์ดเด่นๆ อยู่กลางบ้าน
เฉิดฉายไฉไลมากครับ
ด้านหน้าออฟฟิศจริงๆ แล้วจอดรถได้มากถึง 4 คัน แต่ห้องตัวอย่างได้ทำการกั้นพื้นที่ห้องกระจกเพิ่มเข้ามา ทว่าก็ยังมีพื้นที่จอดรถเหลืออยู่ ที่นี่จะไม่มีรั้วกั้น แต่จะมีล้อเลื่อนเหล็กพร้อมติดป้ายบ้านเลขที่ติดไว้ของแต่ละยูนิตอย่างชัดเจน เอาไว้กันพื้นที่สำหรับออฟฟิศแต่ละหลัง เพื่อความเป็นสัดส่วน
อย่างไรก็ดี ที่ด้านบนของประตู ได้มีการติดตั้งระบบกันขโมย เอาไว้ให้แล้ว เพื่อความอุ่นใจในการรักษาความปลอดภัยครับ
ในส่วนของพื้นที่ด้านหน้านั้น ทางโครงการดำเนินการลงเสาเข็มเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ เผื่อสำหรับใครจะต่อเติมในอนาคต
มองเข้ามาด้านใน จากมุมมองของคู่ค้าผู้มาติดต่อกันบ้าง จะเห็นความยิ่งใหญ่อลังการของโถงด้านหน้าแบบ Double Volume
เนื่องจากเป็นบ้านหน้ากว้าง ช่วยให้มี Space มากขึ้นกว่าเดิม พื้นที่ด้านหน้าดูกว้างขวาง สังเกตได้จากการ ติดตั้งเคาน์เตอร์ต้อนรับ ชั้นโชว์ และยังมีพื้นที่เหลือสำหรับวางชุดโซฟาได้อีกหลายที่นั่งแบบเหลือ ดูคอมฟี่ ไม่มีฟีลอึดอัดเลยครับ
ผมชอบด้านขวาซึ่งเป็นส่วนของรีเซฟชั่นทำหน้าที่ต้อนรับ ด้านหลังทำเป็นตู้โชว์เต็มผนังสูงจรด ชั้นบน ทำให้ออฟฟิศดูอลังการมากขึ้น สามารถหยิบไปใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งได้เลยครับ
ถ้าจะให้ดีก็ซื้อห้องตัวอย่างไปเลย รับรองว่าได้รับการตกแต่งแบบนี้แน่นอน ไม่ต้องเสียเวลามาทำใหม่
ผมชอบการตกแต่งห้องตัวอย่างที่ให้ฟีลเป็นโฮม+ออฟฟิศจริงๆ มีการแบ่งฟังก์ชั่นของสำนักงานและพื้นที่พักอาศัยออกจากกันได้อย่างชัดเจน ให้ความเป็นส่วนตัวทั้งกับสมาชิกในครอบครัวและคู่ค้าที่เข้ามาติดต่อธุรกิจ ช่วยสร้างความรู้สึกว่า เรามีความเป็นมืออาชีพมากๆ ครับ
ชั้นล่างในส่วนของออฟฟิศนั้นจะเป็นแนวยาวลึกเข้ามาครับ แบ่งสัดส่วนของห้องได้ดี ซึ่งก็อยู่ที่ว่าเราอยากดีไซน์ให้โฮมออฟฟิศในฝันของเราเป็นแบบไหน มีฟังก์ชั่นอะไรบ้าง หลักๆ ก็มีที่นั่งรับรองสำหรับแขก เอาไว้คุยงาน ทดลองใช้สินค้าหรือบริการ
ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับส่วนงานของแม่บ้าน เพื่อจะเสิร์ฟน้ำของว่างได้ง่ายๆ แต่ถ้าจะไปประชุมกันจริงจังก็ขึ้นไปห้องประชุมบนชั้นลอยดีกว่า
โซนด้านหลัง เป็นประตูบานเลื่อนกระจก พร้อมกับพื้นที่เปิดโล่งด้านนอก ช่วยให้ได้แสงธรรมชาติส่องเข้าภายใน จะได้ไม่รู้สึกอุดอู้จนเกินไปนัก
โซนนี้ นอกจากจะมีพื้นที่ครัวสำหรับพนักงานแล้ว ยังจัดเป็นส่วนสันทนาการเบาๆ ได้อีกด้วย เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศระหว่างการทำงาน
ส่วนชั้นล่างมีห้องน้ำไว้รองรับเรียบร้อยครับ
บันไดทางขึ้นชั้นลอยและชั้นบน ด้านข้างที่มีประตูปิดจะเป็นห้องเก็บของครับ พวกอุปกรณ์สำนักงานต่างๆ สามารถนำมาเก็บไว้ที่นี่ได้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
เดินขึ้นบันไดมาจะเจอกับชั้นลอยก่อนครับ ยังคงเป็นส่วนของออฟฟิศอยู่นะ พื้นที่ตรงนี้ผมว่าสามารถทำเป็นห้องประชุมได้เลย เพราะมีขนาดใหญ่มาก รองรับได้กว่า 10 คนสบายๆ ส่วนตอนที่ไม่ได้ใช้ประชุมก็ปรับเป็นมุมทำงานตามปกติ
เพราะเอาเข้าจริง สมัยนี้บริษัทไม่ค่อยเน้นเรื่องนั่งโต๊ะทำงานกันแล้วครับ มีโน๊ตบุ๊คหนึ่งเครื่องก็สามารถนั่งทำงานได้ทุกที่ ทำให้โฮมออฟฟิศของเราดูโปร่ง สบาย สไตล์โมเดิร์น สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้ตลอดเวลา
จริงๆ จะเรียกชั้นลอยว่าเป็นชั้น 2 เลยก็ได้ เพราะมีขนาดใหญ่จริงๆ ด้านหน้าจะเป็นผนังกระจกที่ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว เชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้นล่างได้เลย เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกัน
ขณะที่ ด้านในก็จัดวางโต๊ะขนาดใหญ่ที่สามารถแยกหรือนำมาต่อกันเป็นโต๊ะประชุมได้ ผมชอบไอเดียจัดเป็นเดย์เบดริมผนัง เอาไว้แอบงีบได้ในเวลาพัก เพราะบางทีเราก็เหนื่อยล้าบ้าง ก็อาจจะปรับเป็นมุมพักผ่อนได้
ด้านหลังเป็นประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่พร้อมระเบียง สามารถออกไปยืนรับลมได้ และช่วยให้เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ดีด้วยครับ
ขึ้นบันไดมายังชั้น 2 กันบ้าง ตรงส่วนนี้จะเริ่มเข้าสู่โซนพักผ่อนของเจ้าของบ้านกันแล้วนะครับ เริ่มจากโถงบันไดที่กั้นด้วยกระจกสีดำทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนมากขึ้น พร้อมประดับประดาด้วยภาพสไตล์โมเดิร์นบริเวณทางเดิน ทำให้บ้านดูไม่น่าเบื่อ เผื่อมีลูกค้าอยากขอชมบ้าน หรือชวนมาทานอาหารชั้นบนได้
ถ้าไม่บอกแทบจะดูไม่ออกว่าเป็นโฮมออฟฟิศ เพราะดูจากกการตกแต่ง สะท้อนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นได้ดีเลยครับ
โซนนี้จัดให้เป็น Living Area ที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่พอสมควรครับ เราสามารถจัดวางชุดโซฟานั่งเล่น เชื่อมต่อกับมุมทานอาหาร และครัว ดู Modern และ Classi มากๆ
น่าจะเป็นอีกมุมโปรดในบ้านของผมครับ เอาจริง ผมว่าเป็นฟีลลิ่งที่ดี เพราะบางทีเราก็มีเพื่อนที่มาคุยงานเสร็จแล้วก็อยากมาปาร์ตี้ทานข้าวกัน ก็สามารถใช้พื้นที่นี้รับรองได้เลย โดยที่ไม่รู้สึกว่าถูกรบกวนความเป็นส่วนตัวแต่อย่างใด นั่นเป็นเพราะการออกแบบที่จัดวางฟังก์ชั่นภายในบ้านได้ดี Relate กับทั้งแขกและสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวได้อยู่ เป็น Home Office ที่ Homey มากครับ
ผมชอบรูปนี้ครับ แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมต่อกันระหว่างบันไดขึ้นบนซึ่งเป็นทางขึ้นห้องนอน กับส่วน Living ที่มีโต๊ะรับประทานอาหารจัดวางไว้สำหรับสมาชิกในครอบครัว
ผมว่าจริงๆ แล้วเราสามารถขยายพื้นที่ของโต๊ะรับประทานอาหารให้มากกว่านี้ได้ โดยเอาชุดโฟซานั่งเล่นออกไป เนื่องจากถ้าเราไปดูชั้นบนก็จะมีโซนพักผ่อนตรงกลางอยู่แล้ว ก็เป็นอีกไอเดียในการทำบ้านของเราให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ครับ
มุม Pantry ครัว ที่เชื่อมต่อกับโต๊ะรับประทานอาหาร เป็นสไตล์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่จริงๆ เช้ามากับกาแฟจากแคปซูลรสโปรด พร้อมกับตอบอีเมลล์ หรืออัพเดทข่าวเช้า จากนั้นก็ทานอาหารเบาๆ ในบ้านก่อนไปเริ่มงานต่อในช่วงสาย
ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล ลงบันไดไปไม่กี่ขั้นก็ถึงออฟฟิศแล้วครับ สบายมาก
“Humanity runs on coffee.” คำนี้ดี
นอกจากติดแฟนแล้วก็ติดกาแฟนี่แหละ 5555
ด้านในสุดของชั้น 2 จะมีห้องซักล้างที่สามารถเก็บของได้ด้วยครับ แยกสัดส่วนออกไปทำให้บ้านไม่รก เป็นระเบียบมากขึ้น
ภาพนี้ถ่ายผ่านกระจกสีดำที่กั้นพื้นที่ระหว่างบันไดกับ Living Area ครับ ช่วยให้เห็นมุมมองของบ้านบนชั้น 2 ที่แตกต่างจากส่วนธุรกิจบริเวณชั้นล่างได้เป็นอย่างดี ทั้งๆ ที่ก็เป็นส่วนที่อยู่อาศัยเดียวกัน จึงเหมาะสำหรับใครที่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวได้ดีเลยครับ
มาดูในส่วนของพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งชั้นนี้จะเป็น Master Bedroom กันก่อนครับ จะอยู่ที่บริเวณโซนด้านหน้าบ้าน กินพื้นที่เกินครึ่งชั้น ทำให้ห้องดูกว้างมากครับ
เริ่มจากโซนทางเข้าห้องนอนใหญ่ ด้านซ้ายจะเป็น ห้องน้ำขนาดใหญ่เช่นกัน ด้านขวาเป็นส่วนแต่งตัว ตรงกลางจะเป็นส่วนพักผ่อนครับ
ข้อดีของการออกแบบให้พื้นที่ห้องน้ำและห้องแต่งตัวไปอยู่ด้านใน และให้ผนังเปิดโล่งรับแสงเข้าห้องนอนในส่วนพักผ่อน ก็ช่วยให้เราสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้ห้องดูกว้างและโปร่งแสง สบายตาอยู่แล้วไม่อึดอัดครับ แต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็สามารถดึงม่านมาปิดได้
ห้องน้ำภายใน Master Bedroom มีขนาดค่อนข้างกว้าง ภายในแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกแห้งไว้เป็นสัดส่วนดีครับ ภายในจะไม่มีอ่างอาบน้ำ แต่จะติดตั้ง Shower Box พร้อมฝักบัวและ Rain Shower มาให้
อีกด้านจะเป็นอ่างล่างหน้าและติดตั้งสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติของ American Standard พร้อมสายฉีดชำระมาให้เรียบร้อย
อีกด้านฝั่งตรงข้ามห้องน้ำจะเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ต่อเนื่องกันเลยครับ ทำให้สะดวกเวลาออกจากห้องน้ำมาก็สามารถแต่งตัวต่อได้เลย
ในโซนพักผ่อนนั้น มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างชนิดที่ว่า สามารถวางเตียงนอนขนาด King Size พร้อมจัดวางโคมไฟหัวเตียงแล้วยังมีพื้นที่โดยรอบเหลือๆ อีก
เตียงนอนวางอยู่ริมผนังที่เป็นกระจกเต็มบาน ทำให้เปิดรับแสงจากธรรมชาติผ่านเข้ามาได้สบาย หรือหากอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดตั้งผ้าม่านเพิ่มได้
ปลายเตียงจัดวางเดย์เบดขนาดใหญ่ เพื่อให้เป็นพื้นที่พักผ่อน อ่านหนังสือเบาๆ ก่อนเข้านอน
“Fashion is architecture: it is a matter of proportions.”
-Coco Chanel
เนื่องจาก พื้นที่พักผ่อนในห้องนอนใหญ่ออกแบบให้เป็นแนวขนานไปกับหน้าบ้าน ด้วยผนังกระจกเต็มบานต่อเนื่องจากเตียงนอนถึงมุมนั่งเล่น ทำให้ห้องดูกว้างและอยู่สบาย ปลายเตียงอีกด้านมีระยะมากพอที่จะติดตั้งจอทีวีขนาดใหญ่กว่านี้ก็ได้ หากใครอยากจะนอนชม Netflix จากบนเตียงแบบผม
ขึ้นบันไดมาชั้นบนจะเจอกับกิมมิคของการออกแบบที่ซ่อนไว้ภายในบ้าน นั่นคือบันไดทางขึ้น ไปยังลานโล่งขนาดเล็กบ้านบน ซึ่งเปิดรับแสงจากฝ้าเพดาน ช่วยให้บ้านมีมิติมากขึ้น
ตรงนี้สามารถจัดวางเป็นห้องพระหรือว่ามุมเอนกประสงค์ได้ครับ
บนชั้น 3 จะเป็นในส่วนของห้องนอนด้านหน้าและด้านหลัง ตรงกลางเป็นโถงสำหรับสมาชิกในครอบครัว ที่มีขนาดกว้างมาก สามารถติดตั้งชั้นหนังสือหรือตู้โชว์ พร้อมกับมุมสร้างสรรค์ให้กับเด็กๆ ได้นั่งทำการบ้าน หรือพักผ่อนกันบริเวณนี้ได้เลยครับ สำหรับบ้านไหนที่มีลูกเล็ก
ชอบการเลือกใช้สีในการตกแต่งบ้านตัวอย่างจังครับ มีถ้าอยากได้ความสดใสก็เติมสีเหลืองมัสตาร์ดเข้าไป ดูสวยแปลกตาและน่าอยู่ดี
ขณะที่หันไปอีกด้านเราจะเจอกับมุมพักผ่อนของสมาชิกในครอบครัว
พื้นที่ Family Area ตรงกลางที่เชื่อมต่อระหว่างห้องนอนทั้ง 2 ห้อง หน้าหลัง
เป็นห้องตัวอย่างที่สีสันสดใสถูกใจคุณกานต์มากครับ ดูโมเดิร์นดี และที่สำคัญเข้ากันกับไลฟ์สไตล์เจ้าของชั้นที่ค่อนข้างจะเป็นวัยรุ่นนิดๆ ดูจากห้องนอนได้
เริ่มจากห้องนอนด้านหน้า มีขนาดใหญ่พอๆ กับ Master Bedroom เลยครับ นึกว่าห้องนอนลิซ่า เพราะว่า Black Pink มาเป็น Inspired เลยจ้า
ตกแต่งสดใสน่ารักดีครับ
ด้วยความที่ห้องมีขนาดใหญ่ จึงสามารถวางเตียง King Size ได้สบายๆ แถมมีพื้นที่เหลือรอบเตียงอีกต่างหาก ด้านข้างเตียงจัดวางโต๊ะอ่านหนังสือได้ ซึ่งแสงดีด้วยเพราะอยู่ริมผนัง สามารถเปิดออกได้
ผมชอบการออกแบบให้ห้องนี้สะท้อนตัวตนของคนอยู่อาศัยได้ดีตามสไตล์บ้านตัวอย่างของ SC Asset ห้องนี้ก็จะมีความเป็นสาววัยรุ่น เปรี้ยวนิดๆ บิชชี่หน่อยๆ ซนกำลังดี มีความสดใส กำลังชอบแต่งตัวเลยครับ
ด้านในของห้องนอนออกแบบให้เป็น Walk-in Closet ฟีลแบบคอนเทนเนอร์สไตล์วัยรุ่นชอบ พร้อมห้องน้ำในตัวครับ ด้านขวาของภาพจะเป็นช่องแสงขนาดใหญ่จากด้านหน้าบ้านซึ่งเปิดได้ ใกล้ๆ กันกับบานหน้าต่างแนะนำให้วางโต๊ะเครื่องแป้งไว้จะได้แต่งหน้าสบายๆ
ผู้หญิงอย่าหยุดสวย
“I don’t understand how a woman can leave the house without fixing herself up a little – if only out of politeness. And then, you never know, maybe that’s the day she has a date with destiny. And it’s best to be as pretty as possible for destiny.”
-Coco Chanel
จากห้องนอนด้านหน้า สีสันสดใส ขอเบรคอารมณ์ให้ละมุนหน่อย เพราะกานต์จะพาไปชมห้องนอนด้านหลัง สไตล์วัยรุ่นบอยๆ กันบ้างครับ
ห้องนอน 3 บริเวณโซนด้านหลัง จะมีพื้นที่น้อยกว่าห้องนอนด้านหน้าแต่ก็ถือว่ากว้างขวางอยู่ครับ สามารถจัดวางเตียงขนาดใหญ่ พร้อมมีพื้นที่ด้านข้าง ติดตั้งโต๊ะเขียนหนังสือได้ ส่วนอีกด้านเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เต็มผนัง
อินทีเรียออกแบบห้องนี้ให้ดูโมเดิร์นเข้ากับไลฟ์สไตล์วัยรุ่นชาย ชอบการจับคู่สีน้ำเงินเหลืองเข้ากันดีครับ
ห้องนี้ก็จะมีแนวผนังด้านหลังเป็นกระจกบานใหญ่เพื่อเปิดช่องให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้แบบเต็มที่ ทำให้ห้องดูโปร่งสบายเข้าไปอีก
ห้องนอนนี้ก็มีห้องน้ำในตัวด้วยเช่นกันครับ ถือว่าเป็นสัดส่วนดี
เป็นอีกห้องที่ผมว่าตกแต่งได้น่ารักและน่าอยู่ดีครับ ส่วนมากผมจะชอบห้องด้านหลังบ้านมากกว่า เพราะค่อนข้างส่วนตัวดี และห้องนี้ก็เป็นสไตล์ที่ชอบเลยครับ
#โดยสรุป HEADQUARTERS วิภาวดี โฮมออฟฟิศสไตล์ Modern Luxury เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ หากใครกำลังมองหาสถานที่ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ เพื่อวางรากฐานให้กับอนาคตของตัวเองและครอบครัว ในทำเลที่ถือว่าดีเยี่ยมครับ เพราะอยู่ในซอยวิภาวดีรังสิต 62 เข้ามานิดเดียวเองครับ เป็นซอยที่มีผู้คนผ่านไปมาเยอะมาก เพราะเชื่อมต่อกับซอยวิภาวดี 64 ด้วย มีร้านรวง อาคารสำนักงาน ตลาด เรียกได้ว่าเป็นซอยใหญ่ เดินทางง่าย เป็นโลเคชั่นแห่งอนาคตสำหรับคนที่มีวิสับทัศน์แห่งความสำเร็จที่แท้จริง
HEADQUARTERS VIBHAVADI
LUXURY HOME OFFICE
สอบถามรายละเอียดและนัดหมายเข้าเยี่ยมชมโครงการได้ที่ โทร 1749 หรือ 098-247-3666
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก >> https://m.scasset.com/4KeN