ปฐมบทแห่งตำนานโรงแรมต้นไทรที่ภูเก็ต
BANYAN TREE แห่งแรกของโลกเกิดขึ้นที่นี่
จากเหมืองแร่ริมทะเล สู่ลากูน่า ผืนป่าและวิลล่าหรู
สารภาพตามตรงว่าแอบหวั่นๆ ใจ ก่อนการเข้าพักที่นี่ครับ
คงจะเป็นความรู้สึกเดียวกับที่หลายคนคิด คือ กลัวว่าจะเก่า
เพราะบันยันทรี ภูเก็ต เปิดมานานถึง 27 ปี
เป็นบันยันทรี เชนโรงแรมหรูแห่งแรกของโลกเลยครับ
จากเหมืองแร่เก่า เจ้าของคือคุณ Ho Kwon Ping ชาวสิงคโปร์
ได้พลิกฟื้นที่ดิน ปลูกต้นไม้หลายพันต้น เรียงรายไปตามทะเลสาบ
เข้ากันดีกับบรรยากาศของหาดบางเทา ที่ทอดยาวไปด้วยแนวต้นสน
จนกลายเป็นรีสอร์ตขนาดใหญ่ #ที่นี่เป็นพูลวิลล่าทุกหลัง
ท่ามกลางการบำรุงรักษาที่เรียกได้ว่าใช้คนและงบมหาศาล
เพื่อการคงเสน่ห์ของวิลล่ากลางป่าไม้ รายล้อมทะเลสาบ
ซึ่งวิลล่าจะมีทั้งดีไซน์ที่เป็นไทยร่วมสมัย
และวิลล่ารูปแบบใหม่ที่ปรับโฉมให้ดูโมเดิร์นขึ้นครับ
สำหรับวิลล่าที่กานต์พัก เป็น type ที่ชื่อว่า Doublepool Villa
มีพื้นที่วิลล่าขนาดใหญ่มากถึง 1,300 ตารางเมตร
ที่พิเศษคือมีถึง 2 สระในวิลล่าเดียว เก๋มากกกก
หนึ่งคือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่หันหน้าเข้าหาลากูน
อีกหนึ่งเป็นสระทรงสี่เหลี่ยมที่ล้อมรอบห้องนอนเอาไว้
เพื่อให้น้ำ ฟ้า ป่า เขา … และทะเล
โอบล้อมความรู้สึกในวันพักผ่อนของเราเอาไว้ที่นี่
อีกกิจกรรมที่ผมชอบคือสปาครับ
บันยันทรีเองขึ้นชื่อเรื่องสปาและเทอราพิสมาก
ถึงกับมีโรงเรียนฝึกสอนสปาเป็นของตัวเอง
วันแรกผมขอนวดที่วิลล่าเพราะอยากได้บรรยากาศสบายๆ ริมทะเลสาบ
แต่ก็ไม่พลาดที่จะไปเยือนสปาของบันยันทรีในสถานที่จริง
แม้ฟีลลิ่งจะต่างกัน แต่ต้องบอกว่า
ฝีมือการลงน้ำหนักของเทอราพิสนั้น … แน่นอนเหมือนเดิม
ภูเก็ตทริปนี้แทบไม่ได้ออกไปไหนเลยครับ
อยู่แต่ในลากูน่า เพราะว่าที่นี่มีหลายรีสอร์ตให้เราได้เยือน
ตอนเช้าไปทานอาหารริมทะเล ลมพัดเย็นสบาย
ผมยังแวะไปทานดินเนอร์บนเรือโดนัทชมพระอาทิตย์ตกดินที่อังสนา
และมาทานอาหารเช้าที่ XANA สเต๊กเนื้อวากิวคือดีย์มาก นุ่ม ลืมมมมม
เป็น #ทริปภูเก็ตเด็ดกว่าที่คิด ครับ
ปล. การเดินทางเข้าภูเก็ตต้องได้รับวัคซีนก่อนนะครับ
ซิโนแวค 2 เข็ม หรือ แอสตร้าซิเนก้า 1 เข็ม
หรือหากใครมีผลตรวจโควิดก็แสดงต่อเจ้าหน้าที่ภาคพื้นตอนเช็คอิน
ส่วนขากลับเข้ากรุงเทพไม่ต้องแสดงเอกสารใดๆ ครับ
—
วิวจากวิลล่าด้านหลังครับ ซึ่งติดกับลากูน สมชื่อลากูน่า เชื่อมต่อผืนน้ำเข้าไว้ด้วยกันให้เป็นหนึ่งเดียว สวยมาก
ภาพมุมสูงที่เชื่อว่าหลายคนไม่เคยเห็น เป็นภาพบรรยากาศของวิลล่าต่างๆ ภายในบันยันทรี ภูเก็ต ที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ ให้อารมณ์เหมือนที่พักตากอากาศเมืองนอกเลยครับ
วิลล่าของผม อยู่ท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่ ให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ อย่างที่บอกไปว่าที่นี่ปลูกต้นไม้เพิ่มเข้ามา จนอยากจะเรียกเพิ่มว่า ลากูน่า & ฟอร์เรส
เรียกชื่อวิลล่านี้ว่า Villa KANT ได้เลยครับ หากใครจะมาพักที่นี่ เป็นวิลล่าที่วิวสวยมาก
หน้าบ้านจัดเตรียมจักรยานไว้ให้เผื่ออยากจะปั่นไปชมนก ชมไม้ ดื่มด่ำกับธรรมชาติภายในรีสอร์ต
แสงด้านหลังจะเป็นตอนพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งสวยไปอีกแบบครับ แม้ว่าจะไม่เห็นทะเลเลยก็ตาม แต่เราก็ยังสัมผัสได้ถึงธรรมชาติ ป่าเขา สายน้ำ
ตอนเย็นพนักงานกำลังมาเตรียมบาร์บีคิว in วิลล่าครับ
ภาพมุมสูงของวิลล่าและลากูน ซึ่งเป็นแค่ฝั่งเดียวนะครับ จริงๆ ที่นี่มีหลายทะเลสาบน้อยใหญ่ที่เชื่อมเข้าไว้ด้วยกัน สวยงามมาก ได้บรรยากาศของการพักผ่อนสุดๆ จึงไม่ต้องแปลกใจหากที่นี่จะกลายเป็น Flagship ของ บันยันทรี ทั่วโลก มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนที่นี่กันเป็นจำนวนมากครับ
เข้ามาในวิลล่าของผม เดินผ่านโถงทางเดินเข้ามาแล้วเปิดประตูจะเจอกับภาพประมาณนี้ ที่เห็นเบื้องหน้าเป็นวิวสระว่ายน้ำส่วนตัวและทะเลสาบ โถงกลางบ้านจัดวางโต๊ะกลางที่ตกแต่งด้วยดอกไม้ ภายในวิลล่าประดับด้วยโคมไฟสไตล์แอนทีค เข้ากับดีไซน์ของวิลล่าที่มีเอกลักษณ์ไทยค่อนข้างสูง
ด้านซ้ายเป็นโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง ส่วนแยกไปทางด้านขวาเป็นที่นั่งพักผ่อน ก่อนที่จะเดินเข้าไปยังห้องนั่งเล่นด้านใน
บนโต๊ะจัดวางน้ำมะพร้าวสด พร้อมโดนัทเป็นทรงคริสมาสต์วางไว้ให้น่ารักมาก หอมสุดๆ เห็นแล้วหิว เลยครับ พร้อมกับการ์ดต้อนรับจากผู้บริหารโรงแรม
ภายในห้องนั่งเล่น เป็นวิวกระจก 2 ด้าน ทำให้ห้องดูกว้าง มาพร้อมกับโซฟาเบดตรงกลาง วางหมอนไว้เยอะมากกกกก จริงๆ ห้องนี้ก็นอนได้อีก 2 คนแหละ ว่ามั้ยครับ
ภายในห้องจะแบ่งเป็นมุมโต๊ะทำงานวิวทะเลสาบ ฝั่งตรงข้ามเป็นทีวี และมีมินิบาร์จากมุมที่เราถ่ายด้วยครับ
โต๊ะทำงานวิวดีมาก เหมาะแก่การมา Work from Hotel ที่นี่สุดๆ มีลำโพง Marshall วางไว้ให้พร้อม เพื่อการพักผ่อนระหว่างทำงาน พร้อมกับบรรยากาศของสีเขียวของต้นไม้และน้ำ ฟ้า สบายตาจังเลย
ขออนุญาตนั่งๆ นอนๆ ทำงานไปด้วยดูซีรีย์ไปด้วย 555
มุมรับประทานอาหารภายในบ้านเชื่อมต่อกับมุมรับประทานอาหารภายนอก เหมาะแก่การทานอาหารเช้าในวันสบายๆ แดดไม่ร้อน ถ้ารู้สึกร้อนก็ค่อยมูฟออนมาข้างใน
มุมนี้เหมาะมานั่งทานอาหารเช้า เน้นรับลมพัดสบายๆ เคล้าไอแดดอุ่นๆ หรือจะทานไปเล่นน้ำไปก็ได้ ใครมาเป็นครอบครัวคงสนุกน่าดู
ต่อไปจะพาไปชมส่วนของห้องนอนกันครับ จะอยู่ปีกซ้ายของวิลล่า เดินเข้ามาจะเป็นโถงเล็กๆ จากนั้นจะเป็นทางแยกซ้ายขวา ที่มีโต๊ะกลางที่ตกแต่งด้วยภาพเขียนสวยงาม สามารถวางของประดับวิลล่าได้
ห้องนอนคือตู๊วหูววววว ใหญ่มากครับ ที่ผมชอบคือเป็นห้องนอนที่ล้อมรอบด้วยกระจกใส ด้านนอกแต่อยู่ภายในห้องนอนก็จะเป็นสระว่ายน้ำ ทั้งหมดรอบห้อง สมกับชื่อดับเบิ้ลพูลวิลล่า เราสามารถลงไปว่ายได้ หรือจะทานอาหารเช้าในน้ำก็ได้ มีการจัดเตรียมที่นั่งไว้ให้เรียบร้อย
เตียงนอนขนาดใหญ่เกิ้นนนนนน
อีกด้านของห้องนอนเป็นห้องน้ำครับ ใหญ่เท่ากับห้องนอนอีกห้องเลยครับ ถึงขนาดวางโซฟาไว้ในห้องน้ำได้อ่ะ คิดดู
ห้องน้ำจัดวางฟังก์ชันการใช้งานกระจายกันไป เริ่มจากห้องสุขา ห้องอาบน้ำแบบชาวเวอร์ และเรนชาวเวอร์ ที่สามารถเปิดประตูออกไปเพื่ออาบน้ำแบบ outdoor ได้ ซึ่งจะเชื่อมกับสระว่ายน้ำพอดี ทำให้เราเปียกขึ้นมาจากสระแล้วสามารถเข้าห้องน้ำได้เลยทันที
ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้าแยกซ้ายขวา พร้อมกับวางน้ำดื่มไว้ให้ จัดเตรียมผ้าเช็ดตัว ผ้าขนหนู กระจายกันไปในหลายจุดทั่วห้อง ส่วนของใช้ในห้องน้ำเป็นแบรนด์ของบันยันทรีเองครับ มาในขวดเซรามิกเพื่อลดปริมาณขยะ
ถัดมาจะเป็นส่วนของอ่างอาบน้ำที่ทำจากหินอ่อนแล้ววางซ้อนบนหินจริงอีกที พร้อมกันนี้จะสามารถแช่น้ำไปชมวิวไปได้เลยครับ
ส่วนมุมแต่งตัว ตู้เสื้อผ้าจะอยู่ถัดไปจากอ่างอาบน้ำ
วันนี้เรานัดทำสปากันที่วิลล่า สปาของบันยันทรี ก็ถือว่าดีติดอันดับโลกเลยครับ
บรรยกาศคือยกให้ 10 เต็ม 10 ผมว่าทำด้านนอกรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าทำในห้องสปาเสียอีก แตกต่างกันที่อากาศจะร้อนกว่าในห้องปรับอากาศเท่านั้นเอง
ชอบนวดแบบไหน สามารถแจ้งทางเทอราพิสได้เลยครับ คนที่นวดผมชื่อพี่ตู่ ไปเรียกเค้าพี่ เดี๋ยวเค้าก็ค้อนเข้าให้ ผมอ่ะ แก่กว่าอีก 555
นวดดี มีประสบการณ์มาเป็น 10 ปี จับตรงไหน ติดตรงไหน นางรู้หมด ก็จะรีดๆๆๆ จนปรี๊ด ออก คลายเส้น สบายตัว
วิวระหว่างที่นวดก็จะประมาณนี้ครับ เป็นวิลล่าที่มองเห็นทะเลสาบและสนามกอล์ฟของลากูน่า
นวดเสร็จก็มาเล่นน้ำต่อสบายใจ ผมว่าวันพักผ่อนสบายๆ เราไม่ต้องไปทำอะไรมากครับ นั่งๆ นอนๆ กินๆ เล่นๆ เน้นให้เกิดความสุขกับตัวเอง
ภาพวิลล่าในมุมสูงกันดูบ้าง เย็นนี้มีบาร์บีคิว เชฟจะมาย่างและเสิร์ฟกันในวิลล่าเลยครับ
บรรยากาศตอนเย็นๆ ภายในวิลล่า กับอาหารจานอร่อยตรงหน้า ผมว่าเป็นอะไรที่สุดยอดแล้วครับ
เชฟมากริลล์ซีฟู๊ดกันในวิลล่า ยกเตากันมาเลยครับ จริงๆ เราอยากทานอะไรหรือไม่ทานอะไร สามารถแจ้งทางห้องอาหารไว้ก่อนได้เลย จะได้เตรียมให้ถูกใจ
อย่างผมก็จะชอบซีฟู๊ดสดๆ กับวากิวนุ่มๆ ขอแค่นี้พอครับ
ทานเสร็จ เชฟก็มาถามว่าจะปล่อยโคมเลยมั้ย ผมก็งงๆ เอ้ามีปล่อยโคมด้วย เชฟบอกว่าลูกค้าต่างชาติชอบกันมาก
คงจะเป็นอะไรที่แปลกดีละมั้ง … ผมคิด
แต่ก็ปล่อยนะ เป็นกิมมิคที่น่ารักดี มีความเป็นไทยสไตล์ ปล่อยโคมเสร็จก็ได้เวลาพักผ่อน คืนนี้คงนอนฝันดี เพราะลอยเคราะห์ลอยโศกไปหมดแล้ว
เช้าๆ ของหาดบางเทา เราจะเห็นภาพความอุดมสมบูรณ์ซึ่งยังคงเต็มเปี่ยม ไม่แปลกใจว่าทำไมต่างชาติถึงหลงรักภูเก็ตได้ขนาดนี้
เช้าๆ เราจะไปทานข้าวกันที่ชายหาดครับ บรรยากาศดีมาก มีคนมาออกกำลังกาย เอาหมามาเดินเล่นริมทะเล ฟีลดีสุดๆ
เช้านี้มาในคอนเซปต์ Breakfast on the Beach
ทีมงานห้องอาหารมาจัดเตรียมสถานที่พร้อมกับอาหารเอาไว้ให้ครับ เราสามารถรีเควสบริการนี้ได้จากทางเจ้าหน้าที่โรงแรมเลย แนะนำว่าบอกก่อนล่วงหน้าสักหนึ่งวัน ทางโรงแรมจะได้เตรียมสถานที่ได้ทัน
จากนั้นตอนเช้าก็จะมีรถบัคกี้ไปรับในวิลล่า มาถึงก็นั่งทานได้เลยครับ
เป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจมาก เอาจริงๆ ผมไม่คิดว่าบันยันทรี ภูเก็ตจะมีทีเด็ดซ่อนไว้เยอะขนาดนี้ เห็นมีแต่วิลล่าทรงไทย ก็นึกว่าจะธรรมดาทั่วไปที่ไหนได้ เหนือกว่าดีไซน์คือการบริการด้วยใจครับ พนักงานที่นี่ถือว่าสอบผ่านมากสำหรับผม
ส่วนบรรยากาศโดยรวมก็ถือว่าดี แม้จะไม่ติดหาดเลยเสียทีเดียว แต่หากอยากมาพักผ่อนที่ชายทะเลก็สามารถแจ้งขอรถมาส่งได้ ใช้เวลาไม่ถึง 3 นาทีครับ
ส่วนมื้อกลางวันไปทานที่ห้องอาหารในสนามกอล์ฟ เป็นอาหารสไตล์ยุโรปทานง่ายๆ เช่น พิซซ่า สเต๊ก ซุป สลัด
ทานอาหารกลางวันเสร็จก็บ่ายโข ออกมาเดินเล่นชมบรรยากาศของรีสอร์ตในส่วนอื่นๆ กันบ้าง เริ่มจากต้นไทรขนาดใหญ่ด้านหน้า เป็นสัญลักษณ์ของบันยันทรี
ตรงเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนของสปา ซึ่งถือว่าใหญ่นะครับ มีสระน้ำภายในอลังการเว่อร์วัง จริงๆ ในรีสอร์ตก็มีสระว่ายน้ำส่วนกลางนะครับ รายล้อมด้วยต้นมะพร้าว แต่ช่วงที่ผมไปยังไม่อนุญาตให้ใช้สระ เลยไม่ได้ออกมาเก็บภาพบรรยากาศสักเท่าไร
ไหนๆ ก็มาแวะสปาแล้ว ถือโอกาสนวดกันอีกสักรอบ เพราะติดใจในน้ำหนักของเทอราพิสที่นวดดีมาก
หลังจากนวดเสร็จก็มาเดินสำรวจดู Lobby มีที่นั่งเยอะดีครับ การตกแต่งจะมีความเป็นโมเดิร์นไทยและแอบมีลวดลายสไตล์ภูเก็ตแทรกไว้ด้วย
พนักงานเอาโอ๋เอ๋วมาลองให้ทาน คล้ายกับน้ำแข็งใสใส่ถั่วแดง พร้อมกับนำเสนอวัตถุดิบหลักของเราในวันนี้
จากนั้น ก็ให้พนักงานขับรถบัคกี้ วนเล่นชมบรรยากาศรอบรีสอร์ตกัน จะมีจุดที่สวยงามหลายจุดมากครับ เป็นรีสอร์ตที่ถ่ายรูปสวยจริงๆ
ตอนเย็นไปทานข้าวเป็นเรือโดนัทที่อังสนา ชมพระอาทิตย์ตกดินครับ
ขากลับระหว่างล่องเรือโดนัท แสงคือดี สีเป็นแบบนี้เลยครับ เป็นอสังนาในเวอร์ชั่นทไวไลท์
ตอนเช้าของอีกวันก็มาทานที่ห้องอาหาร XANA เพราะว่าอยากได้บรรยากาศริมทะเล ช่วงเสาร์อาทิตย์ทางห้องอาหารก็มีโปรโมชั่นพิเศษอยู่นะ
เนื้อคือดีย์มีความนุ่ม ผมสั่งมาพร้อมกับเมนูอารมณ์เหมือนโจ๊ก ทานกับปอเปี๊ยะ สไตล์ฟิลิปปินส์
ส่วนเมนูที่ชอบและเหมาะสำหรับคนรักสุขภาพคือเฮลตี้โบลว์ครับ
#โดยสรุป ผมว่า บันยันทรี ภูเก็ต มีอะไรเด็ดๆ ซ่อนอยู่เยอะมาก นอกจากธรรมชาติที่รายล้อมด้วยต้นไม้ โอบล้อมวิลล่าของเราด้วยทะเลสาบแล้ว พวกเซอร์วิสต่างๆ ผมถือว่าทำได้ดีเลยนะ หลายคนอาจจะติดกับดีไซน์ของวิลล่าที่ดูเป็นโมเดิร์นไทย ไม่ค่อยชอบ แต่ผมไม่ติด เพราะก็สวยไม่ได้ดูเก่าอย่างที่เข้าใจ แต่ถ้าใครชอบโมเดิร์นไปเลยก็มีวิลล่าเซเนริตี้ คอยให้บริการอยู่ครับ
สนใจก็สอบถามรายละเอียดจากทางโรงแรมได้เลย โทร 076 372 400 หรือดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.banyantree.com/en/thailand/phuket