รู้หรือไม่ ยอดขายของ #LouisVuitton ทั่วโลกครึ่งหนึงมาจากญี่ปุ่น
Louis Vuitton เปิดคาเฟ่และร้านอาหารสาขาแรกของโลกก็ที่ญีปุน
เปิดร้านเสื้อผ้าผู้ชายครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลกก็ที่โตเกียว, ญี่ปุ่น
แบรนด์ Louis Vuitton กับประเทศญีปุ่นเกี่ยวพันกันอย่างไรนะ
ทำไมคนญี่ปุ่นถึงคลั่ง Louis Vuitton ได้เบอร์นี้ … กานต์มีคำตอบครับ
วันนี้ 4 สิงหาคม ครบวาระ 200 ปีชาตกาล “มองซิเออร์หลุยส์ วิตตอง” Louis Vuitton ชาวเมืองอองเชย์ ฝรั่งเศส ผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่มาจากชื่อของเขา เป็นผู้ที่วางฐานรากให้กับแบรนด์แฟชั่น จนเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงมากในโลก โดยเริ่มจากสร้างกล่องและหีบเดินทางถวายจักรพรรดินีเออเฌนี เดอ มอนตีโค จนกลายเป็นกระเป๋าแคนวาสกันน้ำ Signature ของแบรนด์ Louis Vuitton ก่อนจะมีสินค้าอีกหลายไลน์ออกมาขายและมีแฟชั่นแบรนด์กว่า 50 แบรนด์ที่ LVMH ดูแลอยู่
ล่าสุด Louis Vuitton ผลิตหลอดดูดโลหะลายโมโนแกรม แบบรักษ์โลกพร้อมกระเป๋าในราคา 41,300 บาท และแก้วกาแฟ พร้อมที่จับลายโมโนแกรม ในราคา 28,000 บาท ก็ยังขายดิบขายดี เพราะมีแฟนตัวยงของแบรนด์ที่เหนียวแน่น
ย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ญี่ปุ่นเป็นตลาดใหม่ที Louis Vuitton ให้ความสนใจเนื่องจากชาวญี่ปุ่นนิยมนำเข้ากระเป๋า Louis Vuitton ของแท้ จากปารีสมาขายในราคาที่สูงเกินจริงกว่า 300% ขายดีจนชนิดที่ว่า บริษัท Louis Vuitton ต้องจำกัดการขายกระเป๋าให้กับชาวญี่ปุ่น เพราะเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่างหนึ่งในขณะนั้น คือการผลิตมาในจำนวนที่ไม่มาก และมีความ Limited Edition อยู่กลายๆ หมดก็ไม่ผลิตเพิ่ม แต่ละร้านจะมีสินค้าแบบเดียวกันอยู่น้อยชิ้นและไม่มีขายใน outlet ไม่ขาย license และไม่มีส่วนลด!!
ปรากฏการณ์ Louis Vuitton Boom กลายเป็นความประหลาดใจที่ทำให้ทางปารีสต้องส่งคนเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับตลาดญี่ปุ่น จน 8 ปีต่อมาคือในเดือนมีนาคม ปี 1978 จึงได้เกิดเป็น Louis Vuitton Japan เปิดตัวทีเดียว 6 ร้าน ตั้งราคาให้สูงกว่าที่ปารีสประมาณ 1.4 เท่า โดยช่วงแรกได้ออกแบบและตกแต่งร้านให้เป็นบรรยากาศแบบปารีส ก่อนจะพัฒนาดีไซน์ร้านไปตามโลเคชั่น และร้าน Louis Vuitton สาขา Omotesando ก็กลายเป็นร้าน Louis Vuitton ที่ (เคย) ใหญ่ที่สุดในโลก ดีไซน์เป็นรูปหีบแบบดั้งเดิมซ้อนกัน
ส่วนร้าน Louis Vuitton สาขา Ginza Namiki Dori เป็นตัวอย่างที่ชัดสำหรับการให้ความสำคัญเรื่องงานออกแบบ ล่าสุดมีการปรับโฉมตึก 7 ชั้นนี้อีกครั้ง ซึ่งโดดเด่นด้วย facade ลอนคลื่นสีมุกมันขลับที่สะท้อนแสงแยกสเปกตรัมออกมาหลากเฉดสี ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการตกกระทบของแสงสู่น้ำ ภายในนอกจากจะมีแบรนด์ Louis Vuitton แล้วชั้นบนยังมี Le Café V และร้านอาหาร Sugalabo V โดยได้เชฟคนดังของญี่ปุ่น Yosuke Suga เจ้าของร้าน Sugalabo ที่โตเกียวมาดูแล
แต่นี่ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของการก้าวสู่วงการร้านอาหาร เพราะร้านแรกของ Café le V และ Sugalabo V คือที่ Louis Vuitton Maison Osaka Midosuji แฟลกชิพสโตร์ของแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองโอซาก้า ซึ่งซื้อที่ดิน 750 ตร.ม. นี้มาในราคา 1 แสนล้านเยนเมื่อปี 2006 ซึ่งถือว่าแพงกว่าราคาประเมินถึง 3 เท่า ตึกนี้ออกแบบโดย Jun Aoki (คนเดียวกับที่ออกแบบสาขา Ginza) ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรือสำเภา Higaki-Kaisen (菱垣回船) ที่เคยใช้ค้าขายในอดีตของญี่ปุ่น ออกแบบให้เหมือนลอยอยู่เหนือนพื้น ตกแต่งภายในด้วยวัสดุ ไม้ เหล็ก และ กระดาษ เป็นหลักเพื่อให้สื่อถึงความเป็นญี่ปุ่น ภายในนอกจากมีคาเฟ่และร้านอาหารแล้วยังประกอบด้วย คอลเลคชั่นสินค้าสำหรับผู้หญิง ผู้ชาย อุปกรณ์การเดินทาง ห้องโถงสำหรับจัดอีเว้นต์ ซึ่งออกแบบให้เน้นถึงประวัติศาสตร์เมืองโอซาก้าอย่างเด่นชัด
การสอดแทรกอัตลักษณ์ญี่ปุ่นเข้าไปในสินค้าของ Louis Vuitton ก็เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ ปี 2003 ร่วมกับ Takashi Murakami ศิลปินชาวญี่ปุ่น เจ้าของผลงานดอกไม้ซากุระหลากสี คอลเลคชั่น “Eye Love” ที่พิมพ์ลายโมโนแกรมมากถึง 33 สีลงบนพื้นหลังสีขาว/ดำของหนัง Louis Vuitton ได้อย่างสวยงาม ดูสดใสร่าเริง ถูกใจคนญี่ปุ่นและแฟนทั่วโลก
ปี 2006 Louis Vuitton เลือก “Lighting” ตัวละครจากซีรีส์วิดีโอเกมส์สุดฮิตของญี่ปุ่น Final Fantasy XIII มาเป็นนางแบบให้กับคอลเลคชัน Series 4 ที่ปล่อยออกมาต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ
ปี 2020 ในช่วงโอลิมปิคที่ผ่านมา Louis Vuitton ก็ได้เปิดร้านสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ที่ Miyashita Park Mall หลัง Virgil Abloh ดีไซเนอร์ของแบรนด์ฝั่งผู้ชายได้จุดกระแส Ready to Wear ได้สำเร็จโดยมีทั้ง เครื่องหนัง รองเท้า แอ็กเซสเซอรี่ แว่นตา น้ำหอม อุปกรณ์สำหรับการเดินทาง ไปจนถึงจิวเวอรี เรียกว่าครบวงจรเลยทีเดียว ถือเป็นบันทึกประวัติศาสตร์อีกหน้าของแบรนด์เก่าแก่ที่มีอายุกว่า 166 ปี
เหล่านี้สะท้อนถึงความนิยมใน Louis Vuitton ของคนญี่ปุ่น แค่เพียงประเทศเดียวก็ “เคย” สร้างยอดขายให้เกือบครึ่งหนึ่งของยอดขาย Louis Vuitton ทั้งโลกรวมกันมาแล้ว
ถ้าเปรียบเป็นการแข่งขันโอลิมปิกแฟชั่น Louis Vuitton ก็คือแบรนด์ที่คว้าเจ้าเหรียญทองในญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ชมการเดินทางอันแสนพิเศษ ในวาระครบ 200 ปี ชาตกาลของ Louis Vuitton ได้ที่ https://th.louisvuitton.com/tha-th/stories/louis-200#
SOURCE :
Louis Vuitton no Hosoku – Saikyo no Brand Senryaku by Shinya Nagasawa