กานต์พาชม #คอนโดหน้ากว้างมว๊ากกกก
มุมถ่ายรูปเยอะ เป็นคอนโด Photogenic
ดีไซน์สุดล้ำสมัย ยืนหนึ่งบนสุขุมวิท
_
KANT x REAL ESTATE รีวิวนี้ไปที่ถนนสุขุมวิทช่วงบางนาครับ กับคอนโด IDEO MOBI SUKHUMVIT EASTPOINT ที่ผมมองว่า จุดขายคือความที่เป็นคอนโด High Rise ตึกใหญ่ ส่วนกลางจัดเต็ม เป็นคอนโดที่ดีไซน์ล้ำมากตามสไตล์อนันดา ที่ดินแบบเปิดหน้ากว้าง ไม่ค่อยมีตึกอื่นมาบัง ทำให้เรานั่งเทควิวได้เต็มตา ในราคาที่เราเต็มใจจ่าย
กานต์ชอบงานออกแบบของอนันดามากครับ ดูทันสมัยมาก่อนเวลา ถ่ายรูปออกมาคือสวย อย่างที่นี่ ออกแบบให้มีความโค้งมนของเส้นสายฉีกกรอบของคอนโดทั่วไปที่มักจะมาเป็นแท่งสี่เหลี่ยมทื่อๆ ดูแล้วน่าเบื่อ ผมว่าอนันดาก็คงคิดแบบนี้แหละ เลยออกแบบให้คอนโดทุกที่มีดีเทลคอนเซ็ปต์ชัดเป๊ะ และไม่ลืมเรื่องการใช้งานจริงของลูกบ้านที่เข้าอยู่
มุมส่วนใหญ่ที่ผมเลือกมาถ่ายจะเน้นสื่อสารความเป็นเส้นสายลายแสง ที่คำนวนมาแล้วว่าให้ตกกระทบกันพอดี ผมชอบมุมโถง URBAN FOREST เป็นทางเดินที่เชื่อมจากชั้น 1 ภายในโครงการไปสู่ชั้น 5 คล้ายกับประตูที่เดินเข้าสู่อุโมงค์อวกาศ ที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ให้บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ ให้เราเดินแล้วรู้สึกผ่อนคลายแถมยังเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยด้วยนะ
สระว่ายน้ำแบบฟรีฟอร์มก็สวยดี เชื่อมอาคาร A และ B เข้าด้วยกัน เป็นสระว่ายน้ำแบบฟรีฟอร์มที่ยาวและใหญ่มาก ออกแบบให้ว่ายออกกำลังกายได้ แช่น้ำเล่นได้ หรือจะนั่งอ่านหนังสือในสระก็ยังได้ ตอนเย็นมุมนี้จะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยมาก
อีกจุดที่สวยและอยากแนะนำคือ SKY LOUNGE บนชั้น 32 ครับ จะมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในมุมมองที่กว้างกว่า 180 องศา มองเห็นวิวเมืองของกรุงเทพในอีกฝั่ง เป็นวิวที่อลังการมาก จริงๆ ผมอยากนั่งอยู่มุมนี้จนถึงค่ำ แต่เกรงใจลูกบ้านที่อยากมาเก็บภาพความงามของพระอาทิตย์ตกเช่นกัน เพราะเป็นมุมที่ถ่ายรูปออกมาสวยมาก
ส่วนห้องพักจะพาไปชมด้วยกัน 2 แบบครับ คือ 1 ห้องนอน Sexy Bath มีจุดเด่นคืออ่างอาบน้ำที่เห็นวิวเปิดโล่งสบายตา ให้ความรู้สึกน่าผ่อนคลาย ส่วนอีกห้องจะเป็นแบบ 2 ห้องนอน Sky Yard วิวกว้างด้วยกระจกเข้ามุมเปิดได้รอบ เป็นทำเลห้องที่ผมว่าออกแบบมาได้สวยสตั้นท์มาก อยากให้ลองเข้ามาชมห้องตัวอย่างของจริงกันแบบผม
ชวนไปชมภาพในคอลเลคชั่นคอนโด IDEO MOBI SUKHUMVIT EASTPOINT กันต่อด้านในครับ
—
ผมอยากจะยกตำแหน่ง Photogenic Condominium ให้กับโครงการ IDEO MOBI SUKHUMVIT EASTPOINT เสียเหลือเกินครับ โดยเฉพาะมุม URBAN FOREST ที่สวยล้ำมาก อยากชวนให้เข้าไปชมของจริงกันที่โครงการ
ช่วงนี้โครงการมีราคาพิเศษ ลดส่งท้ายปี ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่นี่ครับ >> https://anan.ly/3pf3gtc
อ่อ!! ถ้าแจ้งว่ามาจากเพจคุณ KANT ได้รับ Voucher 10,000 บาท หมดเขต 31 ธ.ค. 64 นี้
ไม่ใช่แค่ถ่ายพอร์ตเทรตแล้วสวย ใดๆ คือแลนด์สเคปโครงการนี้ก็สวยมากเช่นกัน
ผมใช้เวลาทั้งวันในการเดินถ่ายรูปชมคอนโด เพลินมากครับ เดี๋ยวเราไปชมภาพในคอลเลคชั่น IDEO MOBI SUKHUMVIT EASTPOINT กัน
“Future Nature Facade”
– IDEO MOBI SUKHUMVIT EASTPOINT
คอนโดนี้ผมเดินทางมาถ่ายรีวิวด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสครับ ลงที่สถานีบางนาซึ่งอยู่หน้าโครงการเยื้องไปทางซ้ายประมาณ 250 เมตรเดินประมาณ 3 นาทีก็ถึง มองเห็นรถไฟฟ้าวิ่งผ่านด้านหน้าเลย หรือใครจะขับรถมาก็ได้ครับสะดวกทั้งขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีและทางด่วนเฉลิมมหานคร
ด้วยความที่เป็นคอนโดหน้ากว้าง ทำให้เป็นจุดขายที่ดี เพราะหาที่ดินลักษณะนี้ค่อนข้างยาก หรือหากมีก็มักจะถูกดีเวลลอปเปอร์ซอยออกเป็นคอนโดแนวลึกหลายๆ ตึกเรียงกันไป ทำให้สุนทรียะในการอยู่อาศัยไม่ค่อยมี อันนี้เป็นข้อดีจุดที่หนึ่ง
จุดต่อมาคือพอคอนโดเป็นหน้ากว้าง การวางผังแต่ละห้องจึงเปิดโล่งได้มากขึ้น ไม่ได้เป็นห้องแนวลึกเหมือนคอนโดทั่วไป เป็นการออกแบบห้องพักในสไตล์ Spanning Layout เราสามารถเทควิวเมืองได้กว้างทุกยูนิต ทำให้เปิดมุมมองการอยู่อาศัยในทุกพื้นที่ห้อง พร้อมให้ความเป็นส่วนตัวได้มากกว่า เรียกได้ว่าอยู่แล้วรู้สึกสบาย ผ่อนคลายว่างั้นเถอะ
พูดถึงเรื่องความผ่อนคลาย อดไม่ได้ที่จะเล่าถึงความใจป้ำของอนันดายกพื้นที่สีเขียวมากกว่า 2 ไร่ มาให้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ทั้ง O2 Garden และ Pocket Garden แถมยังมี Urban Forest เป็นโถงทางเดินที่ร่มรื่นมากจากชั้น 1 สู่ชั้น 5 เหมือนกีับเดินอยู่ในป่าแห่งอนาคต
ด้วยความที่เป็นตึกใหญ่ 2 ตึกติดกัน เชื่อมต่อกันที่ชั้น 1 และชั้น 5 ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ ทำให้มีห้องพักที่หลากหลาย Roomtype ให้เลือกกันได้ตามความต้องการไม่ต้องซ้ำหรือจำเจแบบมาตรฐานคอนโดทั่วไป
ตัวอาคารออกแบบภายใต้แนวคิด Future Nature Facade เป็นคล้ายรูปตัววาย Y 3 ปีก 2 อาคาร ให้สังเกตจุดเด่นที่ส่วนยอดของตึกครับจะไม่ได้เป็นแนวราบเหมือนคอนโดทั่วไป แต่ออกแบบให้เป็นเส้นโค้งคล้ายกับภูเขา การวางแลนด์สเคปของที่นี่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมืองกุ้ยหลิน สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจีนที่ได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองสวรรค์บนพิภพคือมีครบทั้งภูเขา ป่าไม้ สายน้ำ เป็นความงดงามที่มหัศจรรย์ ทางอนันดาจึงนำมาตีความใหม่ให้ดูโมเดิร์นมากขึ้น งาน Exterior Design จึงออกมาในสไตล์ Monochrom ซึ่งผมชอบมาก ยอมใจในการลงดีเทลของเส้นสายลายสีเทาที่คาดผ่านอาคารซึ่งเน้นสีดำเป็นหลักทำให้ดูโดดเด่นมาก อีกจุดที่ชอบคือการออกแบบให้ระเบียงเฉียงออกจากกันพาดไปมา อุทานในใจว่า “คิดได้ไง” ทำให้อาคารดูสวยมากขึ้น ดึงดูดสายตา ดูน่าสนใจ ออกแบบมาในลักษณะนี้จึงเป็นคอนโดที่มีความโมเดิร์น ล้ำสมัย สวยหรูหราเหนือระดับ ถ้าเป็นภาษาแบบอนันดาจะเรียกว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมแบบ Iconic Design ทอดยาวไปตามตัวถนนสุขุมวิทด้านหน้า และออกแบบ Lobby ให้ยาวขนานกันไปกับพื้นที่สีเขียวตามแนวอาคารด้านหน้าด้วย จึงนับว่ามีไม่กี่โครงการในย่านนี้ที่ออกแบบคอนโดได้ยาวจนสุดขนาดนี้ จึงทำให้ IDEO MOBI SUKHUMVIT EASTPOINT เป็นคอนโดที่ดูแล้วแกรนด์มากครับ
อย่างที่บอกไปว่าผมเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าบีทีเอส เดินจากสถานีต่อเข้ามาได้ในอาคารได้ทันทีสะดวกมากครับ ทำเลแถวนี้ดูจะเพรียบพร้อมในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนนานาชาติ 3 แห่ง คือ Berkeley, St. Andrews และ Bangkok Pattana ใกล้ๆ กันมีศูนย์นิทรรศการและการประชุม Bitec บางนา ส่วนห้างสรรพสินค้าไม่ต้องพูดถึงเลยครับทั้งคอมมูนิตี้มอลล์น้อยใหญ่ ห้างเซ็นทรัล และอภิมหาโปรเจคอย่าง The Bangkok Mall แยกบางนา หรือถ้าใครจะไปเดินเล่นที่เมกา ก็ถือว่าไม่ไกลครับ เหล่านี้ทำให้ทำเลของ IDEO MOBI SUKHUMVIT EASTPOINT เป็นที่น่าจับตามองมากครับ
เดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยสักแปบผมก็มาถึงโครงการแล้วครับ ด้านหน้ามีอาคารรีเทลที่เตรียมเปิดเป็นเซเว่น-อีเลฟเว่นขนาดใหญ่ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน ใกล้ๆ กันจะมีโถงทางเข้าทางโมเดิร์นสีขาวที่จะพาเราขึ้นไปสู่ชั้น 5 ผ่าน Urban Forest ซึ่งเราจะยังไม่ขึ้นทางนี้
ผมจะพาเดินตรงไปยังทางเข้าด้านหน้าอาคารซึ่งจะผ่านพื้นที่สีเขียวเป็นสวนสีเขียว O2 Garden ซึ่งออกแบบให้เป็น Softscape โดยจะเน้นเป็นความเขียวของสนามหญ้า ต้นไม้ ไม้ดอก ไม้พุ่ม จัดวางเก้าอี้ไม้ให้นั่งเล่นกระจายกันไปทั่วสวน เมื่อเดินเข้ามาก็สัมผัสได้ถึงความสดชื่นดีครับ ผมว่าถ้านานไปต้นไม้โตขึ้นคงจะร่มรื่นกว่านี้
ผมพาเดินเข้าไปชมด้านในอาคารกันก่อนครับ ที่ Lobby จะเป็นจุดเชื่อมกันระหว่าง 2 อาคารแยกซ้ายขวา ภายใน Lobby เป็นแบบเพดานสูง ติดตั้งกระจกตัดแสงแบบ Full Height ไปตามแนวอาคารที่มีความยาวของ Lobby กว่า 45 เมตร ทอดขนานไปตามแนวสวนด้านหน้า เป็นวิวที่ร่มรื่นมากครับ จัดที่นั่งไว้เต็มพื้นที่ เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย และยังมีห้องประชุมสำหรับลูกบ้านได้ลงชื่อขอเข้าใช้งานเป็นการอำนวยความสะดวกอีกด้วยครับ ภายในตกแต่งหรูหราด้วยพื้นและผนังลายหินอ่อนสีดำและเทาขลิบทอง พร้อมกับชั้นโชว์ที่ใช้โลหะเป็นหลักทำให้ดูโมเดิร์นเบาสบายตา
เดินเข้าไปด้านในของทั้ง 2 อาคารจะตกแต่งคล้ายๆ กัน ผมเดินไปยัง Lift Hall ขนาดใหญ่ เห็นมุม Mail Room คือสวยมากดูล้ำสมัยด้วยการใช้ Lighting เข้ามาช่วยในงานออกแบบและตกแต่งพื้นด้วยกระเบื้องหินอ่อนคุมโทนสีดำขลิบทองต่อเนื่องมาจาก Lobby เพิ่มความ Luxury ด้วยผนังสีเบจและไฟ LED สี Warm White เป็นคอนโดที่ดูดีชะมัด
เรากดลิฟต์ขึ้นไปชั้น 5 กันก่อนครับเป็นชั้นของสระว่ายน้ำที่เชื่อมระหว่าง 2 อาคาร มีที่นั่งพักริมสระสบายๆ
“I love being outdoors – hiking, biking, and swimming.”
-Lea Michele
สระว่ายน้ำรูปทรงฟรีฟอร์มที่มีความยาวกว่า 60 เมตรขนานไปกับด้านหน้าถนนสุขุมวิท ตัวสระแบ่งเป็นสระเด็ก พร้อมมุม Jacuzzi ออกแบบให้มีสวนเล่นระดับอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ มีที่นั่งพักให้อ่านหนังสือในสระได้ และยังสวนที่ซ่อนอยู่ใต้สระว่ายน้ำ เรียกว่า Hidden Cave
ระหว่างทางที่เราเดินจากอาคาร A ไปยังอาคาร B บรรยากาศคือดีมาก
ชั้น 5 ของอาคาร B เป็นฟิตเนสและโยคะสตูดิโอซึ่งทางโครงการได้จัดเตรียมเครื่องออกกำลังกายไว้อย่างครบครันทั้งแบบฟรีเวทและแมชชีน
ผมชอบการออกแบบที่เน้นกระจกโล่งๆ ให้รู้สึกไม่อึดอัดแถมยังได้ชมวิวสวยๆ ของสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวสบายตาในขณะที่เราออกกำลังกายอีกด้วย
ลองถ่ายย้อนมุมตอนกลับจากอาคาร B มายังอาคาร A กันบ้าง สวยไม่แพ้กัน จะพาไปชม Social Club กันต่อครับ
มองกลับไปดูสระว่ายน้ำอีกที ที่นี่คือใหญ่แบบจริงจังมาก สามารถมาว่ายน้ำได้ นั่งเล่นได้ พักผ่อนในวันสบายๆ ที่คอนโดได้ฟีลรีสอร์ตเลยครับ
ที่ยังไม่พูดถึง Social Club ในทันทีแม้จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ในอาคาร A ติดกับสระว่ายน้ำ ก็เพราะจะลองเดินขึ้นมาทาง Urban Forest ด้านหน้า ผมว่าเป็นมุมที่ว๊าวมาก อาจจะแอบเหนื่อยเล็กน้อยตอนเดินขึ้น แต่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศการออกแบบที่ดูตื่นตาตื่นใจ ในความรู้สึกของสวนสีเขียวที่ปลูกสลับไว้ตลอดโถงทางเดิน จากนั้นจะเริ่มเห็น Social Club ตั้งแต่ชั้น 4 ที่ตกแต่งสวยงามดีมากครับ
Social Club มีด้วยกัน 2 ชั้น คือโซน Library มีมุมนั่งอ่านหนังสือกระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณและ Co-working Space ชั้นล่างที่ออกแบบได้สวยเช่นกัน จัดเตรียมโซฟารับรอง และ โต๊ะประชุมตัวยาว พร้อมติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟ รองรับการใช้ Labtop, Tablet หรือ Smart Phone ของลูกบ้าน
การออกแบบเน้นการใช้งานเพื่อความเป็นส่วนตัว ภายในใช้สไตล์ Modern Luxury ที่คุมโทนมาตั้งแต่ Lobby เน้นสีน้ำตาล ทอง เทา ดำ จัดวางเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์คลาสสิคและโมเดิร์นสลับกันไป จัดวางไว้ทั่วบริเวณเลยครับ รับรองการใช้งานทั้งแบบเดี่ยว มาคู่ หรือมากันเป็นกลุ่ม
ส่วนผนังห้องจะใช้เป็นกระจกใสตัดแสงแบบ Full Height ซึ่งจะช่วยให้ภายใน Social Club เมื่อได้เข้าไปนั่งจะสัมผัสได้ถึงความโปร่ง โล่ง สบาย น่าใช้งาน อยากจะมานั่งอ่านหนังสือใน Social Club ทั้งวัน ซึ่งมีให้เลือกกันหลากหลายมุม ซึ่งจะมองเห็นวิวภายนอกที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็น วิวสระว่ายน้ำ สวยพื้นที่สีเขียว รวมถึงวิวเมือง และมองเห็นแนวรถไฟฟ้าที่วิ่งผ่านไปมา แต่ไม่ได้ยินเสียงหรอกนะครับเพราะเป็นห้องที่เก็บเสียงได้ดีมาก
มาดูห้องตัวอย่างกันบ้างครับ ผมเลือกมาให้ 2 Roomtype ที่มีความโดดเด่นในแต่ละสไตล์ เริ่มจากห้องแบบ 1 Bedroom Sexy Bath ราคา 3.69 ล้านบาท ขนาด 35 ตารางเมตร ประกอบด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ส่วนครัวด้านหน้า และโซน Living ซึ่งค่อนข้างเป็นสัดส่วนดีมีความโดดเด่นตรงที่เป็นห้องหน้ากว้าง 7.6 เมตรลดพื้นที่ระเบียงแต่จะเพิ่มพื้นที่ภายในห้องนั่งเล่นให้ใหญ่ขึ้น
ภายในจะโดดเด่นด้วยกระจกบานใหญ่ที่ให้เราเปิดรับแสงและวิวจากภายนอกได้เต็มที่ มีมุมนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งและเคาน์เตอร์ครัวซึ่งทางโครงการได้ติดตั้งตู้เก็บของชั้นบน-ล่าง, เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน ซิงค์ล้างจาน และยังได้เปิดช่องสำหรับจัดวางไมโครเวฟ เครื่องซักผ้าและตู้เย็นเอาไว้ให้เรียบร้อย
มุมด้านในออกแบบให้เป็นโซฟาสำหรับนั่งเล่น อ่านหนังสือหรือดูทีวีที่ติดตั้งไว้อีกด้านของผนังห้อง
ห้องตัวอย่างตกแต่งเป็นไอเดียได้สวยมากราวกับหลุดออกมาจากพินเทอเรส มีความคุมโทนสีน้ำตาลแนวเอิร์ธโทน รู้สึกอบอุ่นดี ผมลองนั่งเล่นที่โซน Living สักพัก ก็ไม่รู้สึกอึดอัดอย่างที่คิด
ส่วนด้านในห้องนอนคือไฮไลท์เลยครับ ผมกลับรู้สึกว่าห้องนอนค่อนข้างกว้าง ใช้งานได้หลากหลาย ด้านหน้าออกแบบให้มีช่องเก็บของหรือทำเป็นมุมแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ขนาดย่อมๆ ก็ได้ การจัดวางฟังก์ชันพื้นที่ใช้สอยภายในห้องผมว่าดูลงตัวมากๆ
เดินเข้ามาด้านในจะเป็นมุมพักผ่อนที่สามารถจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ได้สบายเลยครับ พร้อมกับโต๊ะหัวเตียงที่จัดวางโคมไฟสไตล์โมเดิร์น นอกจากนี้ยังเหลือพื้นที่ให้เดินเล่นรอบเตียงได้สบายเลย ผนังเป็นกระจกบานใหญ่เปิดรับแสงได้เต็มที่ ช่วงกลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟเลยครับ
เสริมความโปร่งของห้องด้วยผนังห้องน้ำที่เป็นกระจกแบบ Sexy Bath ซึ่งเป็นจุดขายของห้อง Type นี้เลย ภายในติดตั้งอ่างอาบน้ำซึ่งมองออกไปจะเห็นวิวภายนอกได้ โดยทางโครงการเลือกใช้สุขภัณฑ์แบรนด์ American Standard ห้องนี้ให้อารมณ์เหมือนพักผ่อนอยู่ในโรงแรมหรูเลยครับ ผมว่าถ้าเราติดตั้งทีวีไว้ที่ปลายเตียงแล้วต่อลำโพงมายังในห้องน้ำ ทำให้เราสามารถแช่อ่างพร้อมกับดูซีรีย์เรื่องโปรดอยู่ภายในห้องได้เลยครับ นับว่าเป็นไลฟ์สไตล์ที่น่าอิจฉามากๆ เลยทีเดียว
ผมยกให้ห้อง 1 Bed Sexy Bath เป็นอีกหนึ่ง Roomtype ที่น่าสนใจครับ
มาดูห้องแบบ 2 ห้องนอน Sky Yard กันบ้างครับ ราคาโปรโมชั่นเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท นับเป็นอีก Roomtype ที่มีจุดขายน่าสนใจเช่นกัน ด้วยความที่เป็นห้องมุมด้านหน้า ทำให้สามารถเทควิวได้มากกว่า 180 องศา มาพร้อมกับกระจกใสบานใหญ่ที่ติดตั้งโดยรอบห้อง ผมชอบห้องนี้มากครับ
เมื่อเปิดประตูมาด้านหน้า เราจะพบกับครัวที่ทางโครงการได้ติดตั้งตู้เก็บของชั้นบน-ล่าง, เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน ซิงค์ล้างจาน และยังได้เปิดช่องสำหรับจัดวางไมโครเวฟ เครื่องซักผ้าและตู้เย็นเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน แต่ดูแล้วเป็นสัดส่วนเพราะเป็นมุมห้องด้านหน้าพอดี
เมื่อเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ของ Living Area ที่มีแนวยาวโค้งเข้าไปขนานกับแนวกระจกโค้งเข้ามุมเช่นกัน ทำให้วิวตรงหน้าสตั้นท์ผมมากเลยครับ ทางโครงการจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่เป็นรูปตัวแอล (L) ไว้ด้านหน้า
ส่วนด้านในจะเป็นมุมรับประทานอาหารและโต๊ะทำงานติดกระจก เทควิวได้รอบทิศทางราวกับรับประทาน Fine Dining อยู่ในโรงแรมหรูที่มีวิวลอยฟ้า
เป็นห้องที่รู้สึกว่าโปร่ง สบาย ไม่อึดอัดที่สุดตั้งแต่เคยไปชมคอนโดมา
ผมพาชม Master Bedroom ก่อนนะครับ ห้องนอนตัวอย่างจัดวางเตียงขนาดใหญ่เอาไว้ แต่ยังมีพื้นที่ภายในเหลือเยอะมาก อย่าว่าแต่เดินได้รอบเลยครับ ปลูกต้นไม้ยังได้เลยคิดดู ปลายเตียงติดตั้งทีวีแบบแขวนเอาไว้ผมว่าโมเดิร์นดี แถมยังได้พื้นที่กลับคืนมาอีกเยอะเลย อีกด้านเป็นตู้เสื้อผ้าพร้อมกับห้องน้ำในตัว
ห้องนอนมีขนาดใหญ่ ตกแต่งในสไตล์ที่ผมชอบอีกแล้วคือมีความเรียบหรู ออกแนวเอิร์ธโทนนิดๆ ช่วยให้ชีวิตดูเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยรสนิยมที่ดี
ส่วนห้องนอนรองก็น่าอยู่ไม่แพ้กัน ตกแต่งให้ดูคุมโทนด้วยการใช้สีเทาควันบุหรี่ ทำให้ห้องนี้ดูขรึมขึ้นมาก เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีลูกเล่นกำลังจะโตเป็นวัยรุ่น จัดวางเตียงเดี่ยวเอาไว้ให้เหลือมีพื้นที่ในการใช้ชีวิตด้านอื่นๆ ภายในห้อง แต่ถ้าเป็นผมอยู่คนเดียว อาจจะปรับห้องนี้เป็นห้องทำงานหรือดูหนังฟังเพลงก็น่าจะเข้าท่าดี
เอาจริงๆ การตกแต่งภายในผมว่าเป็นศิลปะที่น่าสนใจเพราะการออกแบบควรตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนที่ใช้งานจริงมากกว่า ดังนั้น สิ่งที่ดีเวลลอปเปอร์จะทำได้คือการออกแบบผังห้องให้เอื้อต่อการใช้งานที่หลากหลายความต้องการ ปรับเปลี่ยนได้ตามใจ ซึ่ง IDEO MOBI SUKHUMVIT EASTPOINT ก็ทำออกมาได้น่าประทับใจมากครับ
แต่มุมที่ผมว่าเซอร์ไพรส์คือระเบียงด้านนอกที่ออกแบบให้เป็นเหลี่ยมยื่นออกไปในแนวที่ไม่ตรงกับห้องด้านบนหรือด้านล่าง ให้ความรู้สึกสบายเปิดมุมมองได้ดีกว่า เป็นพื้นที่ที่ผมอยากจะมานั่งเล่นชมพระอาทิตย์ตกดินในทุกเย็นเลยล่ะครับ
ผมพาขึ้นไปชมชั้นบนซึ่งเป็นไฮไลท์อีกจุดของที่นี่ครับ ผมว่าสมัยนี้ผู้พัฒนาโครงการเองก็ทำการบ้านมาอย่างดีเลยนะ ว่าไลฟ์สไตล์ผู้คนในปัจจุบันเป็นอย่างไร แต่ละยุคก็ชอบไม่เหมือนกัน ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกที่แตกต่างกันไป ที่สำคัญคือส่งผลดีกับผู้อาศัยอย่างไร
อย่างเช่นชั้นบนสุดชั้นที่ 32 ของ อาคาร A ผู้ที่พักอาศัย อาคาร B ก็สามารถมาใช้งานได้เช่นกันนะครับ เป็น Sky Lounge รูปทรงสามเหลี่ยมที่ล้อมรอบด้วยกระจกโค้งทำให้มองวิวได้ 3 ด้านเลยล่ะครับ
Sky Lounge ออกแบบได้สวยมากด้วยกระจกทรงโค้งตามคอนเซ็ปต์ Spanning All Dimensions of Living ประดับด้วยไฟรูปทรงกลมแขวนเรียงกันไปตามแนวกระจก มองออกไปเห็นวิวเมือง ตึกสูงน้อยใหญ่และแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งยังเป็นทิศตะวันตกทำให้ได้วิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยมาก ภายในจัดที่นั่งไว้กระจายกันไปเป็นสามเหลี่ยน แต่ผมว่ามุมเก้าอี้ตรงจุดปลายของมุมชมวิวตัวนี้คือดีงามที่สุด เป็นมุมจบการรีวิวที่สวยที่สุดของผมในวันนี้ได้อย่างน่าประทับใจ
#โดยสรุป IDEO MOBI SUKHUMVIT EASTPOINT เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่โดดเด่นมากในย่านต้นบางนา ทำเลคือดีมากอยู่ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก และด้วยความที่เป็นที่ดินหน้ากว้าง ทำให้ได้มุมมองที่แตกต่างจากคอนโดอื่น โดยเฉพาะวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ Sky Lounge สวยงามมาก ประทับใจมุมนี้ที่สุด
อีกจุดที่ชอบคือพื้นที่ส่วนกลางที่ใหญ่ ออกแบบการใช้งานได้หลากหลายและที่สำคัญคือยังคงความสวยล้ำตามสไตล์อนันดา ไว้ได้อย่างน่าสนใจ ผมว่าเป็นจุดขายที่ทำให้อนันดาเป็นแบรนด์คอนโดดีไซน์ที่อยู่ในใจใครหลายคน รวมถึงผมด้วยครับ
ด้วยความเป็นคอนโดหน้ากว้าง ติดตั้งกระจกโดยรอบ จึงทำให้ห้องชุดออกแบบแล้วดูมีความกว้างและโปร่งสบายมากกว่าที่อื่น อยู่สบายไม่อึดอัดเลยครับ แถมยังให้เราได้รับวิวสวยๆ จากภายในห้องได้ตลอดเวลา ในราคาที่สมเหตุสมผลมากในตอนนี้
ช่วงนี้โครงการมีราคาพิเศษ ลดส่งท้ายปี
1 ห้องนอน Sexy Bath ราคาโปรโมชั่น 3.69 ล้านบาท และ 2 ห้องนอน Sky Yard ราคา 5.99 ล้านบาท
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่นี่ครับ >> https://anan.ly/3pf3gtc
อ่อ!! ถ้าแจ้งว่ามาจากเพจคุณ KANT ได้รับ Voucher 10,000 บาท หมดเขต 31 ธ.ค. 64 นี้