“𝑳𝒖𝒙𝒖𝒓𝒚 𝒊𝒔 𝑷𝒆𝒓𝒔𝒐𝒏𝒂𝒍”
กานต์ได้ยินวลีนี้ครั้งแรกจากโรงแรมหรูย่านเพลินจิต-สุขุมวิท ทำให้คิดถึงคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งซึ่งผมเห็นความเป็นไปมาตั้งแต่เริ่มล้อมรั้ว ก่อสร้างจนกระทั่งตกแต่งเสร็จพร้อมเข้าอยู่
“BRIGHT วงเวียนใหญ่” คือคอนโดมิเนียมสุดหรูที่ว่า กับอาคารสูงถึง 46 ชั้น ยืนหนึ่งในย่านวงเวียนใหญ่ อยู่ใกล้กับบ้านผมมากเลยครับ นั่นจึงทำให้ผมเล่าเรื่องราวได้ลึกซึ้งถึงดีไซน์ ดีเทลและโลเคชั่น
อันดับแรก ถ้าใครมองหาคอนโดสร้างเสร็จพร้อม Furniture Package เข้าอยู่ได้ทันที BRIGHT วงเวียนใหญ่ จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สามารถเข้าชมห้องจริงได้เลย อย่างรีวิวนี้ผมจะพาไปชมห้องตัวอย่างสุดหรูเพนท์เฮ้าส์ 3 ห้องนอนและเพนท์เฮ้าส์แบบดูเพล็กซ์ 3 ห้องนอน อยู่ชั้นสูงวิวสวยมากครับ
มีจำนวนยูนิตต่อชั้นไม่มากนัก ทำให้ได้รับความเป็นส่วนตัวสูง เงียบสงบ ผ่อนคลาย สระว่ายน้ำส่วนกลางสวยมาก ดูร่มรื่นเหมือนพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ตหรูกลางกรุง จึงเหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างแท้จริง ตลอดจนการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ระดับที่สะท้อนความหรูหราเทียบชั้นคอนโดย่านสุขุมวิทแต่จ่ายในราคาที่ย่อมเยากว่า จุดนี้ถือว่าคุ้มมาก
รายละเอียดในการออกแบบที่เป็นไปตามหลักฮวงจุ้ย จำลองตัวตึกเป็นภูเขาตระหง่านยิ่งใหญ่ มีน้ำไหลผ่าน ทั้งหยินหยาง มังกร เหรียญจักรพรรดิเพื่อเก็บเงินทอง โกยความสำเร็จเก็บความมั่งคั่ง ยอดตึกออกแบบให้เป็นสีทองอร่ามเด่นชัดเหมือนสมบัติอันล้ำค่าเพื่อนำพาลูกบ้านทุกคนไปสู่อนาคตอันเปี่ยมสุข
โลเคชั่นก็น่าสนใจ เพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS 2 สถานีคือวงเวียนใหญ่และโพธิ์นิมิตรในระยะที่เดินได้สบายเลยครับ เลี้ยวขวาเพื่อขึ้นสาทรก็ง่าย หรือจะไปหาอะไรอร่อยๆ ทานที่เยาวราชก็สะดวก แต่เอาจริงๆ แค่ย่าน ตลาดพลู-วงเวียนใหญ่ ก็มีร้านอาหารชื่อดังมากมายให้เราเลือกทานกันไม่ไหวแล้วล่ะครับ ถูกใจสายกินแบบผมเลยนะ
เอาเป็นว่ารีวิวนี้จะพาไปสัมผัสความ Luxury ผ่านงานดีไซน์และประสบการณ์พักอาศัยที่น่าสนใจกับคอนโดมิเนียม BRIGHT วงเวียนใหญ่ ติดตามอ่านต่อในแคปชั่นได้เลยครับ
—
ด้วยความที่ผมคุ้นเคยกับพื้นที่โซนนี้มานานทำให้มองเห็นพัฒนาการที่ก้าวกระโดดของทำเลวงเวียนใหญ่
ปัจจุบันย่านนี้มีทั้งห้างสรรพสินค้าระดับ Luxury อย่าง IconSiam ทำหน้าที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวและร้านรวงต่างๆ มากมาย สามารถใช้บริการรถไฟฟ้า BTS เพื่อเชื่อมต่อกับสายสีทองได้เลยครับ นอกจากนี้ยังมี Community Mall Hypermarket ตลาดสด ร้านอาหาร คาเฟ่เปิดใหม่มากมายเลยทีเดียว
ในการเดินทางมาชมโครงการ BRIGHT วงเวียนใหญ่ ถือว่าสะดวกมากครับ จะโดยสารรถไฟฟ้า BTS สายบางหว้า มาลงที่สถานีโพธิ์นิมิตรหรือว่าวงเวียนใหญ่ก็ได้ เพราะอยู่ในระยะเดินได้สบายๆ ทั้ง 2 สถานี แต่ถ้าเลือกลงที่สถานีวงเวียนใหญ่ ทางออก 2 หรือ 4 จะมี Skywalk ให้ใช้บริการ เดินลงจากทางเชื่อมต่อมาอีก 100 เมตรก็ถึงโครงการเลยครับ นับว่าสะดวกและปลอดภัยมาก และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วง เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ตัดผ่านหน้าโครงการด้วยครับ
นอกจากนี้ ทำเลที่ตั้งยังเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย ไม่ว่าจะเป็นเลี้ยวขวาจากหน้าโครงการเข้าสู่ถนนกรุงธนบุรีเพื่อมุ่งหน้าสู่สาทร เพลินจิต สุขุมวิทได้ทันที และมีทางด่วนสายศรีรัชด่านสีลมให้ใช้บริการ ทั้งยังเชื่อมต่อกับย่านเมืองเก่ารอบเกาะรัตนโกสินทร์ มุ่งหน้าไปทางประชาธิปก เยาวราช ปากคลองตลาด สามารถเชื่อมเข้าพระนครได้อีกทาง หรือหากใครจะออกนอกเมืองก็สามารถกลับรถเพื่อมุ่งหน้าไปทางพระราม 3 พระราม 2 หรือเลี้ยวซ้ายไปทางถนนราชพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ จอมทองบรรจบกับพระราม 2 ได้เช่นกัน เป็นโครงข่ายในการสัญจรที่สะดวกมากครับ
นอกจากนี้ ยังเดินทางไปสถานศึกษาชื่อดังได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก โรงเรียนเซนต์โยเซฟ โรงเรียนนานาชาติ St.Andrews โรงเรียนสวนกุหลาบและยังรายล้อมด้วยโรงพยาบาลชั้นนำไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า โรงพยาบาลตากสิน และอีกมากมาย
Overview :
BRIGHT วงเวียนใหญ่ มาในคอนเซ็ปต์ Brighten up your ultimate progress ชีวิตที่เหนือกว่าอย่างมีระดับ เป็นคอนโด High Rise สุดหรูพร้อมอยู่ ขนาดความสูง 46 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนที่ดิน 3-1-22 ไร่ ห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 472 ยูนิต มีห้องให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน 3 ห้องนอนและห้องดูเพล็กซ์ 3 ห้องนอน ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 35-119 ตร.ม.
จุดที่น่าสนใจของโครงการนี้คือการจัดสเปคของวัสดุในห้องและพื้นที่ส่วนกลางมาให้ในระดับสูงเทียบเท่ากับคอนโดหรูหราใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท ซึ่งเป็นทำเลที่ Developer ประสบความสำเร็จจากโครงการ Bright 24 ทำให้ลูกบ้านของ BRIGHT วงเวียนใหญ่ จะได้รับสเปคของวัสดุที่ดี มีคุณภาพสูง ดูสวยงามหรูหราและที่สำคัญคือเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมเก็บกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที
รีวิวนี้จะพาไปชมห้องตัวอย่างสุดหรูที่มีขนาดใหญ่มาก 2 แบบด้วยกันคือเพนท์เฮ้าส์ขนาด 3 ห้องนอน 118 ตร.ม. และห้องดูเพล็กซ์ 3 ห้องนอน 119 ตร.ม. โครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า
Master Plan เริ่มจากด้านหน้าโครงการติดถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน มีป้อมรปภ. อยู่ด้านหน้า มีสวนหย่อมสีเขียวบริเวณทางเข้าเพิ่มความสดชื่น และลดบรรยากาศเรื่องเสียงจากภายนอกได้ ภายในสวนมีประติมากรรมเป็นรูปเรือสำเภาจีนพร้อมที่นั่งสำหรับพักผ่อนหย่อนใจในช่วงเวลาเย็นๆ
เข้ามาด้านในจะเป็นจุด Drop Off ด้านหน้าอาคาร สามารถจอดให้ลูกบ้านลงจากรถด้านหน้าแล้วเข้าสู่ตัวอาคารได้ทันที หรือสามารถวนรถไปจอดได้ในพื้นที่ใต้อาคารด้านหลัง โดยออกแบบให้มีถนนล้อมรอบตัวอาคาร
ชั้น 1-8 จะเป็นชั้นจอดรถ ที่ติดตั้งระบบแจ้งสถานะอัจฉริยะเพื่อจะอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านทราบว่าชั้นไหนยังมีที่จอดรถว่างอยู่อีกกี่คัน อารมณ์เดียวกับเหมือนเราเข้าไปจอดรถในห้างสรรพสินค้าเลยครับ
ที่จอดรถทั้งโครงการคิดเป็น 75% รวมซ้อนคันซึ่งถือว่าให้มาเยอะมาก โดยอาคารจอดรถจะมีลิฟต์แยก เพื่อเชื่อมต่อกับลิฟต์ส่วนพักอาศัยซึ่งเริ่มตั้งแต่ชั้น 9 เป็นต้นไปครับ
ผมสังเกตว่าที่นี่สร้างตามหลักฮวงจุ้ยซึ่งออกแบบไว้ในหลายจุด ไม่่จะเป็นเรือสำเภาที่สวนหย่อมด้านหน้า หันหัวเรือเข้าอาคารตรงกับประตูเพื่อเป็นการรับเงินเข้า เพราะเรือสำเภาเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง
เมื่อเราเดินเข้าสู่อาคารบริเวณประตูทางเข้าด้านหน้า จะมีป้ายโครงการพร้อมกับรูปเหรียญจีนโบราณ “กู่เฉียน” เป็นเหรียญวงกลมมีรูสีเหลี่ยมจตุรัสตรงกลาง เป็นสัญลักษณ์ที่มีความเป็นสิริมงคลเงินทองไหลมาเทมา
ส่วนภายใน Lobby จัดวางชุดโซฟาที่นั่งขนาดใหญ่กระจายกันไปในหลายจุด พร้อม Co-working Space มุมส่วนตัวสำหรับนั่งทำงานโถง Lobby มีขนาดใหญ่ ผนังเป็นกระจกใสเต็มบานเปิดรับแสงจากภายนอก
ส่วนเพดานฝ้าทรงสูงเพื่อให้เกิดความโปร่งโล่งสบาย ด้านบนฝ้าออกแบบให้เป็นวงกลม 5 วง สัญลักษณ์ของ “อู่ตี่เฉียน” หรือเหรียญจีนโบราณ 5 จักรพรรดิ์ ตามหลักก็คือจะช่วยป้องกันสิ่งไม่ดีต่างๆ ไม่ให้เข้ามาในอาคารและทำให้สิ่งร้ายๆ กลายเป็นเรื่องดีได้
นอกจากนี้ยังแขวนแชนเดอร์เลียรูปทรงคล้ายกับท้องมังกร เป็นเหมือนคลื่นน้ำแนวยาวเข้าไปด้านใน ซึ่งก็เป็นไปตามศาสตร์ฮวงจุ้ยนั่นเอง
เดินผ่านเข้ามาจาก Lobby ด้านในจะมีประตูสำหรับเปิดออกไปยังสโมสรส่วนกลางขนาดใหญ่พื้นที่กว่า 1 ไร่ เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวให้ความร่มรื่นและเป็น Private Open Space สำหรับลูกบ้านเท่านั้น เนื่องจากจะมีประตูรั้วเล็กๆ กั้นไว้ต้องใช้ Key Card ในการแตะบัตรผ่านเข้าไปด้านใน ซึ่งจะต้องเข้าไปจนสุดอาคารจนถึงตัว Clubhouse ถึงจะเข้าใช้พื้นที่สระว่ายน้ำได้ครับ
สระว่ายน้ำออกแบบให้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 25×8 เมตร ลึก 1.2 เมตร แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นสระจากุซซี่ พื้นที่โดยรอบเป็นพื้นไม้ยกระดับจัดวางเก้าอี้สำหรับนอนอาบแดด พักผ่อน อ่านหนังสือไว้โดยรอบสระทั้ง 2 ฝั่ง อยู่ใต้ต้นไม้ให้ความรื่นรื่นเย็นสบายดีครับ
ข้อดีก็คือสามารถพักผ่อนได้ทั้งวันเพราะได้เงาจากร่มไม้ช่วยบังแดดให้ ใกล้กันเป็นจุดล้างตัวก่อนและหลังใช้บริการสระว่ายน้ำ ด้านข้างเป็นรั้วซึ่งตีระแนงกั้นเพิ่มความสูงขึ้นไปอีกประมาณ 3 เมตร เพื่อให้บดบังสายตาจากบ้านเรือนภายนอก สร้างความเป็นส่วนตัวภายในให้กับลูกบ้านที่มาใช้บริการ
ด้านในสุดเป็นอาคาร Clubhouse มีลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น ออกแบบโดย a49 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเสน่ห์ของชุมชนชาวจีนดั้งเดิมในละแวกนั้น สอดรับกันดีระหว่าง Clubhouse กับงานดีไซน์ของตัวอาคารพักอาศัยที่ได้บอกเล่าเรื่องราวของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในสไตล์โมเดิร์นไทย-ไชนิส ที่มีการแฝงแนวคิดฮวงจุ้ยเข้ามาด้วย
อาคาร Clubhouse ออกแบบให้มี Multi-purpose area กึ่ง Outddor อยู่ตรงกลางเพื่อให้มองเห็นความเคลื่อนไหวที่สระว่ายน้ำ สำหรับผู้ปกครองที่มานั่งรอลูกหลาน หรือมาพักผ่อนอ่านหนังสือ
นอกจากนี้ ชั้นดาดฟ้าของอาคาร Clubhouse ยังออกแบบให้เป็นลานโล่งสำหรับขึ้นมาชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามได้อีกด้วยครับ
ด้านในเป็นฟิตเนสสำหรับออกกำลังกาย รวมถึง Sauna และ Steam Room แยกเอาไว้ให้เรียบร้อย ห้องขนาดใหญ่มีเพดานสูงโปร่งเป็นพิเศษ
ฟิตเนสจะอยู่ด้านหน้าของ Clubhouse ทำให้รับวิวสวนและสระว่ายน้ำไปด้วย ออกกำลังกาย Cadio ไปพลางก็รู้สึกสดชื่นสบายตา ภายในจัดวางอุปกรณ์ออกกำลังครบครันทั้งแบบฟรีเวทและแมทชีน จัดแบ่งพื้นที่ได้อย่างลงตัว ผมว่าเป็นมุมออกกำลังกายที่เติม Energy ได้ดีมาก ถ้ารู้สึกเหนื่อยๆ ก็แค่มองออกไปนอกหน้าต่าง เพียงเท่านี้ก็ได้ Reboost ตัวเองขึ้นมาจากความเหนื่อยล้าได้ระดับหนึ่งแล้วครับ
เราใช้ลิฟต์ที่ลานจอดรถกดขึ้นมาที่ชั้น 9 จะพบกับพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดหนึ่งซึ่งออกแบบให้เป็นสวนลอยฟ้า เพื่อให้สามารถดื่มด่ำกับวิวพระอาทิตย์ตกดินได้เช่นกัน โดยมีการจัดวาง Daybed ไว้ที่ศาลาหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทำให้ไม่มีอาคารสูงมาบดบังทัศนียภาพในระยะสายตาเลยครับ ให้เราได้ชมวิวดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเย็นได้อย่างสบายใจ
มองออกไปเราจะเห็นสถานีรถไฟฟ้าโพธิ์นิมิตรที่อยู่ใกล้ๆ และสามารถมองวิวผ่านเลยไปจนถึงวัดปากน้ำภาษีเจริญ เราจะมองเห็น พระพุทธธรรมกายเทพมงคล สูง 69 เมตรเทียบเท่ากับตึก 20 ชั้นได้อย่างชัดเจน เป็นวิวที่สวยมากครับ ผมอยู่ฝั่งธนแท้ๆ ก็ต้องยอมรับว่า ถ้าไม่ได้ขึ้นมาชมภาพมุมสูงจาก BRIGHT วงเวียนใหญ่ ก็คงไม่ได้มีโอกาสเห็นวิวสวยๆ แบบนี้สักเท่าไรนัก
เดินต่อจากที่นั่งชมวิวจะพบกับสวนไม้พุ่ม ไม้ดอกและไม้ยืนต้นสีเขียวรอทักทายเราอยู่ด้านใน ออกแบบให้มีคาบาน่าสำหรับนั่งพักผ่อนรับลมสบายๆ จากชั้นบน เป็นบรรยากาศที่สดชื่นมาก เหมาะแก่การมาผ่อนคลายยามเย็น ซึ่งผมว่าใครที่ซื้อห้องชั้น 9 ไปน่าจะได้เปรียบอยู่นิดหน่อยตรงที่เดินออกมาจากห้องก็จะพบกับสวนพักผ่อนในบรรยากาศแบบส่วนตัวได้เลยทันทีครับ
พามาชมห้องตัวอย่างกันบ้างครับ ผมเริ่มจากวิวภายในห้องตัวอย่างก่อนเลยแล้วกัน เพราะเป็นภาพบรรยากาศของห้องในฝันเลย ได้อยู่บนชั้นสูงๆ มองเห็นวิวฝั่งพระนครและแม่น้ำเจ้าพระยา และถ้าใครได้พักอาศัยที่ห้องนี้ จะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ตกดินแบบส่วนตัวภายในห้องอีกด้วยครับ คลาสสิคมาก
เราเริ่มจากห้อง 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำขนาด 118.29 ตร.ม. บนชั้น 43 กันก่อนนะครับ ซึ่งผมชอบมาก ด้วยความที่เป็นชั้นสูง วิวสวย และจำนวนยูนิตของห้องต่อชั้นค่อนข้างน้อยอย่างชั้นนี้จะมีเพียงแค่ 5 ยูนิตเท่านั้น ทำให้ได้เรื่องของความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมากครับ
การจัดวางผังห้องของ Room Type นี้ทำได้ดีมากเลยครับ เพราะเป็นห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวลึกขนานไปกับตัวอาคาร ทำให้เราได้ประโยชน์จากช่องแสงธรรมชาติผ่านกระจกบานใหญ่และได้เรื่องวิวทิวทัศน์แบบเต็มๆ ในทุกห้อง
ประตูหน้าห้องทางโครงการได้ติดตั้ง Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung มาให้เรียบร้อยแล้ว เปิดประตูเข้าไปเราจะพบกับ Common Area ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ภาพเบื้องหน้าจะเป็นมุมนั่งเล่นรับแขกขนาดใหญ่ ห้องตัวอย่างจัดวางชุดโซฟาสุดหรูเอาไว้ให้เรียบร้อย เพื่อเป็นไอเดียในการตกแต่ง ส่วนพื้นเป็น Engineering Oak Wood หน้ากว้าง 6 นิ้ว ให้ความรู้สึกถึงพื้นผิวสัมผัสเหมือนไม้จริงถือว่าสเปคดีมากครับ
เราสามารถชมวิวผ่านที่นั่งรับแขกหรือเปิดประตูกระจกออกไปที่ระเบียงได้ ซึ่งถ้าใครจะหาเก้าอี้โยกมาวางที่ระเบียงสักตัวเพื่อชมวิวก็เข้าท่าดีเหมือนกันครับ
Living Area ค่อนข้างสว่างในเวลากลางวันโดยแทบไม่ต้องเปิดไฟ และช่วยให้ความรู้สึกภายในค่อนข้างโล่งโปร่งสบาย เนื่องจากเปิดรับช่องแสงธรรมชาติและเพดานที่สูง 2.7 เมตร
ด้านหลังโซฟาจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร ห้องตัวอย่างจัดวางโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งมาให้ แต่ผมว่าเราสามารถปรับไซส์ให้ใหญ่กว่านี้ได้ เนื่องจากมีพื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างกว้าง เผื่อมีแขกมารับประทานอาหารที่ห้อง
อีกด้านเป็นส่วนของครัวแบบเปิดซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่มาก จัดวางเคาน์เตอร์เป็นรูปตัวแอล (L-Shape) พร้อมกับมี Island สำหรับจัดเตรียมอาหารซึ่งโครงการจัดมาให้แบบนี้เลยครับ
พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ เหล่านี้ทางโครงการจึงจัดเตรียมไว้ให้ครบเลยครับไม่ว่าจะเป็นชุดครัว อ่างล้างจานแบบ 2 อ่างพร้อมก๊อกน้ำทรงโค้งอย่างดี และมี Hob & Hood ของ Franke ตู้เก็บของบนล่างและตู้ลิ้นชักสีขาวปิดผิวเงาอย่างสวยงามเรียบหรูดูดี
ในส่วนของครัวจะปูพื้นด้วยกระเบื้อง Homogeneous ขนาด 60 เซนติเมตร ข้อดีก็คือทำความสะอาดเช็ดถูได้ง่ายไม่ค่อยทิ้งคราบ
ด้วยความที่โถงมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ผมแนะนำเป็นไอเดียเผื่อใครอยากจะกั้นครัวเป็นห้องกระจกเพิ่มก็สามารถทำได้เลยครับ จะได้ตัดปัญหาเรื่องกลิ่นภายในห้องออกไป
เราเข้าไปดูด้านในสุดของห้องกันก่อนจะเป็นห้องนอน 2 ซึ่งมีขนาดใหญ่พอสมควร เปิดรับช่องแสงด้านข้างเตียงขนาดใหญ่ด้วยกระจกเต็มบานแต่ไม่สามารถเปิดออกไปได้เนื่องจากไม่มีระเบียง แต่โครงการได้ออกแบบให้มีบานกระทุ้งสำหรับเปิดออกเพื่อระบายอากาศ ที่สำคัญคือจะเปิดรับแสงจากธรรมชาติภายนอกได้เต็มๆ เลยครับ ทำให้อยู่สบายมาก
ห้องตัวอย่างจัดวางเตียงเกือบชิดติดผนัง เพื่อให้เราสามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นได้ในช่วงเวลาตื่นนอนหรือหากใครไม่อยากถูกรบกวนด้วยแสงตะวันก็สามรถติดตั้งผ้าม่านทึบได้เลยครับ ห้องมีขนาดกว้างขวาง บริเวณรอบเตียงมีพื้นที่เหลือสามารถเดินได้สบายเลยครับ จัดวางโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ไว้บริเวณทางเข้าเชื่อมต่อกับห้องน้ำ
ห้องนอน 2 เป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว ดังนั้นส่วนของห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า ฝักบัวภายในห้องน้ำเป็นของ Kohler พร้อมฉากกั้นส่วนเปียกแห้งเอาไว้แล้วเช่นกัน
ถัดจากห้องนอน 2 เข้ามาอีกนิดจะเป็นห้องนอน 3 ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุดและไม่มีห้องน้ำในตัวครับ ห้องตัวอย่างจัดวางเตียงนอนที่ปรับเป็นโซฟานั่งพักผ่อนได้นั่งตัวพร้อมกับโต๊ะทำำงานและมีเครื่องปรับอากาศแบบแขวนผนังติดตั้งไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากครอบครัวไหนยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ห้องนอนนี้ ก็อาจจะปรับให้เป็นห้องเอนกประสงค์สำหรับทำงาน อ่านหนังสือหรือดูหนังฟังเพลงก็เข้าท่าดีเหมือนกันครับ หรือใครที่ชอบสังสรรค์มีเพื่อนมาที่บ้านบ่อยๆ อาจจะปรับห้องนี้ให้เป็นไวน์เล้าจน์แบบส่วนตัวก็เก๋ดีเหมือนกัน
เดินทางจากโถงกลางมาดูห้องนอนหลักหรือว่า Master Bedroom กันบ้างครับ
Master Bedroom จะอยู่มุมสุดของห้องบริเวณด้านหน้าทางเข้า ซึ่งเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวและมีขนาดห้องที่ใหญ่มาก ภายในแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานได้เป็นสัดส่วนชัดเจนดีครับ เริ่มจากส่วนพักผ่อนจะอยู่ติดกับผนังกระจกใสแบบเต็มบาน ไม่สามารถเปิดออกไปได้เช่นกัน แต่ที่สำคัญคือได้วิวที่สวยมากในตอนตื่นนอน
ห้องตัวอย่างจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่พร้อมโคมไฟและตู้หัวเตียง ส่วนปลายเตียงจัดวางโซฟาดีไซน์สวยขนาด 2 ที่นั่งสำหรับพักผ่อนดูทีวีแบบเป็นส่วนตัว ผนังช่วงปลายเตียงออกแบบให้มีโต๊ะทำงานพร้อมกับชั้นวางทีวีขนาดใหญ่อยู่ใกล้กัน สามารถชมซีรีย์เรื่องโปรดภายในห้องนอนส่วนตัวได้อย่างสบายใจ
ในส่วนของสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะได้เป็นของ Kohler ติดตั้งฉากกั้นส่วนเปียกและอ่างอาบน้ำเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว มุมอ่างอาบน้ำเป็นผนังกระจกดูหรูหราดีครับ เหมือนกับห้องสวีทในโรงแรมหรู อีกด้านที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำจะเป็นมุมแต่งตัวแบบ Walk-in Closet เข้ามุมเป็นรูปตัวแอลทำให้เราสะดวกขึ้นหลังออกจากห้องน้ำก็สามารถแต่งตัวได้ทันที นอกจากนี้ยังเพิ่มมิติของห้องให้ดูกว้างและน่าสนใจขึ้นด้วยกันติดกระจกเงาสีดำบริเวณผนังด้านนอกของห้องแต่งตัว
ต่อมาพาไปชมห้อง Duplex 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 119.56 ตร.ม. กันบ้างครับ
ประตูหน้าห้องติดตั้ง Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung ใช้งานได้ทั้ง รหัสผ่าน Key Card และกุญแจมาให้เรียบร้อย เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบกับ Foyer ที่เป็นแนวลึกเข้าไป เพื่อเป็น Buffer Zone สำหรับลดเสียงรบกวนจากโถงทางเดินส่วนกลาง หน้าห้องออกแบบให้เป็นตู้เก็บรอบเท้าและตู้เก็บของขนาดใหญ่สูงจรดเพดานพร้อมที่นั่งสำหรับสวมรองเท้าก่อนออกจากบ้านอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งตรงกับศาสตร์ของฮวงจุ้ยที่ให้ความสำคัญกับเรื่องพื้นที่ใส่รองเท้า ที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยก็จะให้ชีวิตเราไม่ติดขัด ทำกิจการงานอะไรก็ลื่นไหลเรียบร้อยดี
Duplex 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำเป็นอีกหนึ่ง Roomtype ที่ผมประทับใจเพราะว่าให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่บ้านจริงๆ และยังมีความ Rare Item เนื่องจากที่เป็นห้องที่มียูนิตจำกัด เพียง 3 ยูนิตภายในอาคารนี้เท่านั้น เราต้องเข้าใจก่อนว่าลักษณะของห้อง Duplex จะกินพื้นที่ทั้ง 2 ชั้น โดยที่ BRIGHT วงเวียนใหญ่ห้องจะเริ่มต้นที่ชั้น 41 อีกทั้งเลย์เอ้าท์ของห้องยังตั้งอยู่ในตำแหน่งที่รับวิวสวยเป็นพิเศษ มองเห็นโค้งน้ำเจ้าพระยา เรียกได้ว่าเป็นห้องที่น่าจับตามองที่สุดครับ
สุดปลายของโถงทางเดินภายในจะมีหน้าต่างสำหรับเป็นช่องแสงธรรมชาติส่องจากภายนอกเข้ามาและมีบานกระทุ้งเปิดออกได้เล็กน้อยเพื่อระบายอากาศ โครงการได้ปูพื้นเป็น Engineering Oak Wood หน้ากว้าง 6 นิ้ว ฟีลลิ่งเหมือนไม้จริง ดูเรียบดีมาก ผนังจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวทั้งห้อง
ด้านในเป็น Living Area ห้องตัวอย่างจัดวางชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลางและติดผนังจะเป็นตู้คาบิเนทสำหรับวางทีวีไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งเพิ่มเติม ติดกับมุมนั่งเล่นจะเป็นประตูกระจกใสเปิดรับแสงจากธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาได้ในพร้อมกับวิวสวยๆ
วิวจากห้อง Duplex จะเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งเอเชียทีค สามารถเปิดประตูออกไปยืนรับลมชมวิวที่ระเบียงได้ซึ่งมีขนาดกว้าง หรืออาจจะหาเก้าอี้สักตัวไว้ในจิบกาแฟยามเช้าด้านนอก ซึ่งวิวที่ได้จะไม่มีอาคารสูงมาบดบังในระยะสายตาเลยครับนับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก
ติดกับมุมนั่งเล่นจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งซึ่งสามารถปรับการจัดวางได้ตามใจเพราะมีพื้นที่ภายใน Living Area ค่อนข้างกว้าง แต่ถ้านำมาชิดกับโซฟาก็จะได้มองวิวไปด้วยระหว่างรับประทานอาหารเป็นการเพิ่มอรรถรสของมื้ออาหารไปในตัว
𝑻𝒓𝒖𝒆 𝒍𝒖𝒙𝒖𝒓𝒚 𝒊𝒔 𝒃𝒆𝒊𝒏𝒈 𝒂𝒃𝒍𝒆 𝒕𝒐 𝒐𝒘𝒏 𝒚𝒐𝒖𝒓 𝒕𝒊𝒎𝒆 – 𝒕𝒐 𝒃𝒆 𝒂𝒃𝒍𝒆 𝒕𝒐 𝒕𝒂𝒌𝒆 𝒂 𝒘𝒂𝒍𝒌, 𝒔𝒊𝒕 𝒐𝒏 𝒚𝒐𝒖𝒓 𝒑𝒐𝒓𝒄𝒉, 𝒓𝒆𝒂𝒅 𝒕𝒉𝒆 𝒑𝒂𝒑𝒆𝒓, 𝒏𝒐𝒕 𝒕𝒂𝒌𝒆 𝒕𝒉𝒆 𝒄𝒂𝒍𝒍, 𝒏𝒐𝒕 𝒃𝒆 𝒄𝒐𝒎𝒑𝒆𝒍𝒍𝒆𝒅 𝒃𝒚 𝒐𝒃𝒍𝒊𝒈𝒂𝒕𝒊𝒐𝒏.
– Ashton Kutcher
ในส่วนของครัวออกแบบให้เป็นรูปตัวแอล (L-Shape) จะได้ตามที่เห็นในรูปเลยครับ พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ ตู้เย็น Hob & Hood ของ Franke พร้อมพื้นที่จัดเตรียมอาหารด้านข้าง ส่วนท็อปครัวเป็นวัสดุหินสังเคราะห์สีขาว ผนังครัวกรุกระจกกันเปื้อนไว้ให้แล้วครับ อ่างล้างจานแบบ 2 หลุมของ Franke เช่นกัน มุมครัวออกแบบให้มีตู้เก็บของบนล่างและลิ้นชักเปิด-ปิดได้แบบ soft-close ทั้งหมด เรียกได้ว่าสามารถจุของได้จุใจ ทำให้บ้านดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดี
พาเดินขึ้นบันไดไปชมห้องนอนหลัก (Master Bedroom) กันก่อนครับจะอยู่บนชั้น 2 ถ้าเทียบกับห้องตัวอย่างของ Duplex ที่เราพามาชมก็คือชั้น 44 เมื่อเข้าไปด้านในจะพบกับ การตกแต่งห้องโทนสีขาว-ฟ้าเทอควอยซ์ดูสว่าง สะอาด สดใสและเรียบหรูดี มีส่วนพักผ่อนอยู่ตรงกลางห้องเป็นเตียงนอนขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยโต๊ะหัวเตียงและโคมไฟทั้งสองข้างซ้าย-ขวาดูเรียบหรู
ปลายเตียงด้านหนึ่งเป็นชั้นวางทีวีที่อยู่ติดกับระเบียงด้านนอก ให้เรามีมุมชมวิวแบบส่วนตัวได้ในทุกเวลา
ส่วนอีกฝั่งเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าประตู ภายในห้องน้ำมีครบทั้งสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า ชาวเวอร์และอ่างอาบน้ำ
เมื่อออกจากห้องน้ำมาจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่ติดตั้งกระจกเงาสูงจากพื้นจรดเพดานให้เราเช็คความสวยหล่อกันจนมั่นใจ
ส่วนด้านในสุดเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet พร้อมประตูบานเลื่อนกั้น เพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัว ติดกันจะมีช่องแสงภายในห้องที่สามารถเปิดบานกระทุ้งออกเพื่อระบายอากาศภายในห้องนอนได้ และจะมีบานประตูห้องที่เปิดจากภายนอกเข้ามาในชั้นนี้ได้โดยตรงด้วยครับ
ชั้นบนของห้องแบบ Duplex ยังมีห้องนอน 2 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน พร้อมห้องน้ำในตัวอยู่ในห้องนอนเลยไม่ต้องเดินออกไปด้านนอก ซึ่งห้องน้ำมีครบทั้งสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า ติดตั้ง Rain Shower & Hand Shower มาให้พร้อมก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็น อุปกรณ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดให้เป็นของ Kohler มาพร้อมฉากกั้นส่วนเปียกแห้ง
ส่วนภายในห้องนอนจะได้แอร์ 1 ตัว ฟังก์ชั่นภายในออกแบบจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ไว้ชิดผนังกระจกอีกด้าน ทำให้สามารถชมวิวสวยๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยาได้จากบนเตียงนอนกันเลยทีเดียวครับ หัวเตียงจัดวางโคมไฟและตู้เก็บของขนาดเล็ก ส่วนตู้เสื้อผ้าจะอยู่ติดผนังอีกด้านของห้องเป็นตู้บานไม้สีน้ำตาลขนาดใหญ่สูงจรดเพดาน ติดกันเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและปรับให้เป็นมุมนั่งทำงานอ่านหนังสือได้ในตัว
จากห้องนอน 2 ที่ชั้นบน เราเดินลงบันไดมายังห้องนอน 3 ซึ่งอยู่ชั้นล่างกันต่อครับ ผมว่าเสน่ห์ของห้องแบบ Duplex อยู่ตรงช่วงบันไดนี่แหละ เพราะให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่บ้านมากกว่าคอนโดจะเรียกว่าบ้านลอยฟ้าก็ไม่ผิด เพราะบริเวณชานพักของบันไดจะเปิดช่องแสงเป็นกระจกบานใหญ่สูงประมาณ 5 เมตร เมื่อเราเปิดผ้าม่านออกจะพบกับวิวกรุงเทพมุมสูงสวยงามมากครับ ห้องแบบ Duplex ซึ่งเป็น Rare Item ของโครงการนี้จึงเป็นห้องที่น่าสนใจมาก
เมื่อเราลงจากบันได เดินมาทางซ้ายจะเป็นห้องนอน 3 ซึ่งเลย์เอ้าท์จะอยู่ตรงกับห้องนอน 2 ของชั้นบน ขนาดห้องเท่ากันและเป็นห้องที่ไม่มีห้องน้ำในตัวแต่สามารถใช้ร่วมกับห้องน้ำด้านนอกได้ ภายในจัดวางผังห้องแบบเดียวกัน ซึ่งก็แน่นอนว่าจะได้รับวิวแบบเดียวกันด้วยครับเพียงแต่มุมมองความสูงต่างกันเล็กน้อย
นอกจากนี้ ชั้น 43 ยังออกแบบให้มีพื้นที่ส่วนกลางให้เป็นมุมพักผ่อนชมวิวอีกหนึ่งจุดซึ่งเปิดประตูออกไปจะพบกับพื้นไม้โล่งๆ พร้อมราวกระจกกันตกมองเห็นวิวกรุงเทพได้ 270 องศา เหมาะเป็นลานสำหรับจัดกิจกรรมหรือยืนชมวิว
ผมลองไปยืนก็เป็นภาพที่แปลกตาดีไม่ค่อยได้เห็นวงเวียนใหญ่ในมุมนี้บ่อยครั้งนัก ยิ่งถ้ามาชมตอนเช้าหรือเย็นก็จะเห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้น-พระอาทิตย์ตก งดงามมากครับ และหากเราเงยหน้าไปชมบนยอดอาคารเราจะพบกับสัญลักษณ์ อู่ตี่เฉียน เพื่อความเป็นศิริมงคลและโชคลาภอีกด้วยครับ
#โดยสรุป BRIGHT วงเวียนใหญ่ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจหากใครที่กำลังมองหาที่พักอาศัยที่มีความหรูหรา เหนือระดับกว่าคอนโดอื่นทั่วไปเพราะสเปคที่จัดมาให้คือยอดเยี่ยมมาก
โครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ได้ในทันที ตั้งอยู่ในทำเลที่เชื่อมต่อสู่ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เดินทางสะดวกทั้งรถไฟฟ้า BTS และเชื่อมต่อกับถนนสายหลักมากมาย รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่สำคัญคือการออกแบบโดยคำนึงถึงหลักความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย และยังได้นำหลักฮวงจุ้ยมาประกอบในการออกแบบด้วย เพื่อให้เกิดพลังชีวิตที่ดีในการพักอาศัยของลูกบ้าน
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 092-870-8811
หรือ http://brightwongwianyai.com