รีสอร์ตที่ติด 1 ใน 1,000 สถานที่ก่อนตายที่คุณต้องไปให้ได้สักครั้ง
กานต์ไปมาแล้วครับ กับ InterContinental Koh Samui Resort บ้านตลิ่งงาม เกาะสมุย
สิ่งที่โดดเด่นเลยคือวิวครับ แค่ห้องเริ่มต้นก็ Seaview แล้ว แต่กานต์พัก Club Panoramic Ocean Suite จะได้ใช้ Benefits ของ Club Intercon ด้วย คุ้มมาก!!
ที่ชอบห้อง Type นี้คือเป็นห้องหน้ากว้างวิวคือสวยปัง ตั้งแต่ห้องนั่งเล่นจนถึงห้องนอนเลย มาพร้อมกับระเบียงขนาดใหญ่ด้านนอก ให้เรามานั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือตอนเช้าหรือดื่มเบาๆ ช่วงหัวค่ำ บรรยากาศดีมาก ห้องน้ำก็สวย เป็นกระจกใส มองออกไปเห็นทะเลสุดลูกหูลูกตา เกินคำว่าวิวพันล้านไปมากกกก!!!
ชายหาดกว้าง เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อนสบายๆ เป็นรีสอร์ตสไตล์ Leisure แหละ แค่มีหนังสือเล่มโปรดที่ยังอ่านไม่จบ ก็หอบมานั่งริมทะเลใต้ต้นมะพร้าว สั่งพิซซ่ามาสักถาด ก็สามารถนั่งลากยาวไปจนถึงเย็นได้เลยครับ
ถ้าเบื่อก็ลงทะเลเลยละกัน ไปพายัค ชมพระอาทิตย์ตกกัน วิวคือสวยสุดๆ ยิ่งถ้าช่วงเย็นได้ไปนั่งที่ Air Bar ซึ่งเป็นบาร์ที่จองกันแน่น จองกันเก่ง โต๊ะเต็มแทบทุกวัน เพราะวิวมันได้ ใดๆ คือพระอาทิตย์ตกสีทองสวยมาก ลากยาวไปจนถึงแสงช่วง Vanilla Sky ไม่อยากบอกเลยว่า เห็นวิวนี้แล้ว ตายได้!! 555
เสียดายไม่ได้นั่งเรือออกไปเที่ยว รีสอร์ตมีท่าเรือเป็นของตัวเองลากยาวเข้าไปในทะเล ก็เป็นอีกมุมที่สวยจึ้งน่ามาถ่ายรูปไม่แพ้กันครับ
ชอบสมุยตรงที่เดินทางง่าย ไฟล์ทบินเยอะ นั่ง Bangkok Airways 50 นาทีก็ถึงละ ไวมาก จากนั้นก็ให้รถรีสอร์ตมารับ จบปึ้ง!! ไม่เหนื่อย
เอาล่ะครับ!! ไปชมภาพที่กานต์นำมาฝากกัน กับบรรยากาศชิลๆ สบายๆ ริมทะเลบ้านตลิ่งงาม เกาะสมุย กันดีกว่า
ถ้าไม่ได้มาพัก InterContinental Koh Samui ผมแทบไม่จะรู้จักชายหาดบ้านตลิ่งงามเลยครับ ทำให้รู้ว่า ทะเลฝั่งนี้ก็สวยไม่แพ้กัน มุมนี้จะมองจากด้านบนห้องพักลงมา เห็นชายหาดที่ทอดยาว มีต้นมะพร้าวอยู่เป็นฉากหลัง เบื้องหน้าเป็นน้ำทะเลสีครามที่พร้อมเปลี่ยนไปในทุกวินาที
ช่วงนี้เป็นช่วงอากาศดีของสมุยนะครับ เหมาะที่จะมาพักผ่อนสบายๆ ช่วงที่ไปมีฝนลงแทรกเป็นระยะๆ แต่ว่าไม่นานก็หาย อีกสักพักแสงแดดก็มาทักทายแทน ก็เหมือนกับชีวิตเรานะครับ มีทั้งแดด ลม ฝน ปนๆ กันไป อย่าไปซีเรียสมาก
ทริปนี้เราตั้งใจว่าจะเป็น Leisure ตามสไตล์ที่ชอบ ผิดกับทริปก่อนหน้าที่ตะลอนไปทั่วเกาะเลย ทริปนี้เลยคิดว่าจะไม่ออกไปไหนเลยครับ อยากนอนเล่นๆ ดูทะเล ฟังเสียงคลื่นไปเพลินๆ หิวก็หาอะไรกินจากห้องอาหารริมหาด ถ้าอยากดื่มอะไรก็ขึ้นไป Air Bar เลย
ถ้าดูจากภาพรวมจะเห็นว่า InterContinental Koh Samui มีทั้งส่วนของห้องพักที่อยู่บนเนินเขาและวิลล่าติดชายหาด บรรยากาศดีมาก ทุกห้องทุกวิลล่าคือวิวจึ้ง มีไฮไลท์อยู่หลายจุดซึ่งเดี๋ยวเราจะค่อยๆ ไล่เรียงและเที่ยวไปพร้อมๆ กัน
ทริปนี้ใช้บริการบางกอกแอร์เวยส์ บินตรงลงสู่สมุยเลยครับ เค้าเป็นเจ้าถิ่นอยู่แล้ว ใช้เวลาบินประมาณ 50 นาที เมื่อเครื่องลงก็มีรถลีมูซีนจากรีสอร์ตไปรับ นับว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย ไม่เหนื่อยเลยครับ นั่งรถต่อมาอีกประมาณ 35 นาที ก็จะถึงที่บ้านตลิ่งงาม
วิวแรกที่ลงจากรถเดินเข้าประตูรีสอร์ตมาก็จะเห็นภาพนี้เลยครับ อากาศดี แดดดีมาก
เนื่องจากห้องที่เราจองมาเป็น Club Panoramic Ocean View เลยได้สิทธิพิเศษหลายอย่างเลยครับ เริ่มตั้งแต่เช็คอินจะทำที่ Club Intercon วิวทะเลสวยมากจริงๆ
การตกแต่งของ InterContinental Koh Samui จะเป็นสไตล์โมเดิร์นไทยที่ผสมผสานศิลปวัฒนธรรมของทางภาคใต้เข้าไปด้วยครับ Lobby และ Club Intercon จะอยู่ชั้นบนวิวทะเลแบบพาโนรามิคมากๆ แต่จะอยู่เยื้องมาทางฝั่งซ้าย ถ้าหันหน้าเข้าหาชายหาด ส่วนบีชและวิลล่าต่างๆ จะอยู่ทางฝั่งขวา สามารถเดินทางลัดลงไปได้ หรือใช้บริการรถบัคกี้ครับ
มีสะพานท่าเรือของรีสอร์ตเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ ยื่นออกไปในทะเล สำหรับรับแขกที่จะขึ้นเรือไปเที่ยว และเป็น Photo Spot ที่น่าสนใจมากครับ
เช็คอินเสร็จแล้วเราจะเข้าห้องพักกันก่อนนะครับ อยู่อาคารเดียวกับ Lobby เลย เดินลงมาด้านลง 2 ชั้น ทำให้ได้วิวทะเลแบบเต็มๆ เช่นกัน
เลขที่ออก 209 ชื่อห้อง อ่างทองสวีท ครับ อร๊ายยยย ลืมซื้ออ่ะ
ห้องพักกว้างมากกกกกก แบ่งสัดส่วนห้องได้ชัดเจนดี ในส่วนแรกจะเป็น Living Area ครับ จัดวางโซฟาชุดใหญ่สำหรับนั่งดูทีวี มีชุดเครื่องเสียง BOSE ให้บริการ ด้านข้างเป็นวิวทะเลอมองผ่านประตูบานใหญ่มาก เปิดรับวิวได้เต็มตา มาพร้อมกับที่นั่งด้านนอก
มองจากระเบียงเข้าไปจะเห็นมุมนั่งทานข้าวพร้อมกับมินิบาร์ มีเครื่องชงกาแฟให้ด้วยครับ น้ำดื่มขอเติมได้ตลอดเวลา ชอบรูปนี้ตรงที่ประดับด้วยกระจก แต่ไม่ใช่เป็นภาพวาดนะจะเป็นกระจกสะท้อนภาพจากทะเลด้านหน้าเข้ามาในห้อง ดูเก๋มาก ดีเทลดี ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room
เดินเข้าไปด้านในสุดเป็นห้องนอนครับ ซึ่งแยกเป็นอีกห้องหนึ่งไปเลย เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่มาก จัดวางฟังก์ชันได้ดี มีเตียงนอนใหญ่อยู่ตรงกลาง ประดับหัวเตียงด้วยโคมไฟและกระจกเงาดูหรูหรามาก ด้านข้างเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ไม่ได้ถ่ายมาเพราะว่ากระเป๋าสัมภาระเราเต็มห้องเลย ที่นี่เหมาะจะมาพักสักอาทิตย์นึง 5555
ด้านข้างเตียงเป็นประตูกระจกบานใหญ่สามารถเปิดออกและเดินไปได้จะมี Day Bed ขนาดใหญ่จัดวางไว้ให้บริเวณระเบียง วิวจากเตียงนอนคือสวยมากจริงๆ
ห้องน้ำก็เป็นอีกไฮไลท์ที่ผมว่าเด็ดไม่แพ้กัน ซึ่งห้องน้ำจะอยู่กึ่งกลางระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนครับ ทำให้ได้วิวทะเลผ่านระเบียงมองทอดยาวออกไปเช่นกัน ยอมใจในความอลังการนี้มาก
วิวที่ถ่ายมาแทบจะเหมือนที่ตาเห็นเลยครับ เช้าๆ แดดดีมาก สะท้อนสีออกมาได้สวยเกินไปมาก
มุมห้องด้านนอกมีที่นั่งรับลมชมทะเล สามารถนั่งทานอาหารหรือว่าจิบกาแฟที่นี่ได้ในบรรยากาศสบายๆ ของเสียงคลื่น น้ำทะเลสีฟ้าและแดดอ่อนๆ ตอนเช้า ส่วนตอนเย็นจะเป็นจุดชมวิว Sunset ที่สวยมาก
มุมนี้ก็สวย ลองเปลี่ยนมาถ่ายช่วงหัวค่ำ ทำให้ได้แสงฟ้าที่สวยแปลกตาไปอีกแบบ ตัดกับโทนส้มของไฟ เป็นหนึ่งอีกรูปที่ชอบในทริปนี้ครับ
อาบน้ำกันแบบสบายๆ จิบไวน์ ชมวิวไปด้วย เตรียมตัวไปจิบที่บาร์และทานดินเนอร์ครับ
บาร์ของที่ InterContinental Koh Samui ชื่อว่า Air Bar เป็นบาร์กลางแจ้งที่วิวสวยมาก มีนักดนตรีมาเล่นให้ฟังกันสดๆ ที่นั่งจัดวางไว้ริมกระจกเพื่อเห็นวิวทะเลแบบเต็มๆ แต่ก็ถูกจองเต็มต่อเนื่องเช่นกัน เป็นบาร์ที่ฮอตมากและวิวสวยมากในสมุยครับ
พนักงานเสิร์ฟ Tapaz สไตล์ไทย พร้อมกับนำเครื่องดื่มที่เราสั่งไปมาเสิร์ฟให้ แก้วนี้ชื่อว่า Tropical Island
จิบเบาๆ แก้วเดียวพอ เพราะเรามี (ของฟรี) ต่อที่ Club Intercon ครับ อยู่ด้านบนของ Air Bar วิวสวยไม่แพ้กัน
พนักงานเชียร์ให้สั่ง Samui Sunset มาลองดื่ม ผมก็แย้งไปว่าดื่มตัวนี้มาแล้วจากที่ Air Bar แต่เค้าบอกว่าชื่อเหมือนกันแต่สูตรไม่เหมือนกัน อ่ะ ลองดูหน่อยก็ได้ สุดท้ายเลยนั่งยาว ได้มาหลายแก้วเลย ขออภัย จำชื่อไม่ได้จริงๆ
ส่วนห้องอาหารหลักที่เราทานจะอยู่ติดกันกับ Air Bar หันหน้าสู่ทะเลเหมือนกัน ที่นี่จะเสิร์ฟอาหารหลากหลาย มีทั้งอิตาเลี่ยน ซีฟู๊ด กริลล์ อาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น นั่งกินกันในบรรยากาศสบายๆ เปิดให้บริการเช้า กลางวัน เย็น
มื้อเย็นเราสั่งเป็นเซ็ทครับ รีสอร์ตจัดมาให้เรียบร้อย เท่าที่จำได้จะมีซีฟู๊ดแพลทเตอร์ สะเต๊ะลือไก่ ยำวุ้นเส้น ของหวานเป็นทับทิมกรอบ เมนูอาจจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช็คกับห้องอาหารอีกทีนะครับ หรือใครจะสั่งเป็น A la carte ก็ได้นะครับ แนะนำให้ลองข้าวขยำปู อร่อยมากจริงๆ
ชายหาดของที่นี่ยังมีห้องอาหารริมทะเลชื่อ Flames ดูร้อนแรงมากครับ
ห้องอาหารจัดที่นั่งไว้หลายบบ ทั้งแบบกลางแจ้งบนพื้นทราย ละที่นั่งจัดไว้สบายๆ ด้านใน ให้เราได้นั่งดื่ม นั่งกิน เราสั่งเครื่องดื่มมาจิบเบาๆ ฟังเสียงเพลงเคล้าเสียงคลื่นไป พนักงานจุดไฟให้เข้ากับชื่อห้องอาหารด้วย เก๋จัง ให้บริการกลางวันและมื้อเย็น
จากนั้นก็เข้าไปนั่งด้านใน ที่ Flames จะเสิร์ฟอาหารยุโรปเป็นหลัก แซนด์วิช พาสต้า พิซซ่า ซุป มีหลายเมนูน่าสนใจ อยู่หลายวันก็ทานมันหลายอย่าง ไฮไลท์เช่น สเต๊กเนื้อแองกัส ซอสไวน์แดง เฟลมเบ้หอยเชลล์จากฮอกไกโดเสิร์ฟกับซอสเห็ด มีความเด็ดคือจุดไฟเสิร์ฟกันเลยทีเดียว
ตอนเช้า ออกมาทานข้าว แวะเก็บภาพแสงเช้าที่สระว่ายน้ำหลักกันก่อน เป็นมุมที่สวยมาก แต่แทบไม่ได้ว่ายน้ำเลยครับ ที่นี่มีสระว่ายน้ำด้วยกันทั้งหมด 6 สระ!!
อาหารเช้าเราทานกันที่ Amber ไลน์อาหารจะอยู่ด้านในซึ่งถ้ามาทานกลางวันหรือจะมองไม่เห็นเนื่องจากปิดไว้ พอมาถึงตอนเช้าจึงได้สังเกต เป็นห้องอาหารที่วิวดีมาก สดชื่นแต่เช้า
ไลน์อาหารเช้าหลากหลายดีครับ สเตชั่นเยอะดี ทีเด็ดน่าจะเป็นพวกขนมปังและเบเกอรี่ ผมว่าอร่อยดี ที่นี่มีมุมก๋วยเตี๋ยวด้วย อ่อ!! Egg Benedict ก็มีให้สั่งจากที่โต๊ะได้เลยครับ
เป็นหนึ่งในรีสอร์ตที่ผมว่าอาหารเช้าดี วิวดี พนักงานดี สดชื่นทักทายกันแต่เช้า
วิวรีสอร์ตตอนสายๆ หลังทานข้าวเสร็จ วันนี้เราแพลนว่าจะไปนั่งเล่นที่ชายหาดกันทั้งวัน
ความเก๋ของที่นี่ สำหรับใครที่ชอบเดินสำรวจธรรมชาติ สามารถเดินจาก Lobby และห้องพัก ไปยังชายหาดได้ มองออกไปเห็นทะเลอยู่เป็นฉากหลัง เราจะเดินผ่านสะพานแขวนสีแดง ผมว่าเป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปที่น่าสนใจ
ชายหาดของรีสอร์ตถือว่ายาวใช้ได้เลยนะครับ และค่อนข้างเงียบสงบ ไม่มีผู้คนพลุกพล่านเหมือนย่านอื่น รีสอร์ตวาง BeanBag และเก้าอี้ชายหาดไว้ยาวตลอดแนว
บริเวณด้านหน้าหาดจะมีสระว่ายน้ำหลักอีกแห่ง ได้วิวทะเลเช่นกันในบรรยากาศที่ผ่อนคลายกว่า ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวแนะนำให้ไปนั่งเล่นที่คาบาน่า
อ่อ!! อย่าลืมสั่งอะไรมาจิบเพลินๆ นะครับ
ภาพมุมสูงของหน้าชายหาด และสระว่ายน้ำ จุดเดียวที่ไม่ค่อยชอบสำหรับที่นี่คือ หน้าหาดเล่นน้ำทะเลไม่ค่อยได้เพราะลึกลงไปจะมีหินเยอะ
“Time spent at the beach is never time wasted.”
รูปนี้ก็อาร์ตดีนะครับ ผมชอบ ทริปนี้เราถ่ายรูปกันสบายๆ
มื้อกลางวันฝากท้องไว้ที่ห้องอาหาร Flames ซึ่งผมเองติดใจพิซซ่ามาก แป้งบางหอมเตาถ่าน ชีสคือตู๊มๆ
สั่งของหวานมาทานเป็นการปิดท้ายมื้ออาหารกลางวัน พร้อมกับน้ำมะพร้าว เราจะขาดไม่ได้เลยถ้ามาสมุย
แว๊บจากหน้าหาดไปกู้ร่างกันสักหน่อยที่ Baan
Thai Spa by Harnn ตกแต่งสไตล์ไทย มีห้องนวดที่วิวทะเลสวยมากซ่อนอยู่ด้านใน
เลือกโปรแกรมเป็นตัว Signature เลยครับชื่อว่า Tropical Samui Passage สปาของที่นี่จะเน้นการใช้สารสกัดจากพฤกษชาติธรรมชาติ โดยเฉพาะมะพร้าว เทอราพิสนวดน้ำหนักมือดีมาก เบาสบายเลยครับ
นวดเสร็จเรากลับมานั่งพักผ่อนทีชายหาดกันต่อครับ มองออกไปเห็นเรือจอดอยู่เทียบท่า เสียดายเหมือนกันน่าจะแพลนออกไปเที่ยวข้างนอกกันสักหน่อยนะ
แต่ไม่เป็นไร เราสามารถไปเดินเล่นชมวิวพระอาทิตย์ตกได้ที่ปลายท่าเรือ วิวดีมาก
หรือถ้าใครชอบแบบ Adventure หน่อย ก็แนะนำให้พายพายัครับแสงตะวันเลยครับ
ทริปนี้ที่ InterContinental Koh Samui Resort สำหรับกานต์แล้วค่อนข้างประทับใจ เหมาะแก่การมาพักผ่อนสบายๆ ในวันที่ฟ้าใส อากาศดีๆ มีหนังสือติดมือมาสักเล่ม นั่งอ่านใต้ต้นมะพร้าว ฟังเสียงคลื่นเคล้าคลอไปด้วย ช่วยให้ Vibes ดีมาก
ใครสนใจจองห้องได้ที่ 02 656 0440 หรือ icsamui.rsvn@ihg.com
หลังจากหนีไปชาร์จแบตมาก็ได้เวลากลับบ้านแล้วครับ ใช้บริการ Bangkok Airways เช่นเคย เดินทางเข้าออกสมุยสะดวกมาก จองไวเนิ่นๆ ได้ราคาดีอยู่นะ สอบถามได้ที่เบอร์ 1771 หรือจองที่นั่งผ่านทางเวปไซต์ https://www.bangkokair.com