VALA Hua Hin- Nu Chapter Hotels เป็นรีสอร์ตน้องใหม่ดีไซน์เก๋แห่งชะอำ-หัวหิน เปิด Beachfront Pool Villa มาให้ชมเป็นที่แรก กานต์พักที่ Beachfront Pool Villa ติดหน้าหาดบรรยากาศดีมากครับ
ถ้าเปรียบเป็นผู้หญิง ผมว่าที่นี่เค้าสวยแบบเรียบๆ แต่หน้าเก๋อารมณ์เหมือนน้องออกแบบประมาณนี้ คือถ่ายรูปมุมไหนก็ดูดี ผมชอบที่เค้าตั้งชื่อ VALA ที่แปลว่าพลังของธรรมชาติการตกแต่งของที่นี่จึงเน้นดึงเสน่ห์ต้นไม้ ท้องฟ้า สายน้ำออกแบบให้มีความ Minimalist นิดๆ ชิคๆ คลูๆ อยู่แล้วสบายใจเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวจากภูเขาสู่ทะเลผ่านงานดีไซน์ในบริบทใหม่ผลงานของ The Office of Bangkok Architects เขาแหละครับ
VALA รีสอร์ตที่มาพร้อมงานภูมิสถาปัตย์เก๋ๆ
เริ่มจาก Drop Off เป็นกำแพงทรงกลมสูงสีน้ำตาลแดงลองไปตะโกนเบาๆ ตรงจุดนี้ จะมีเอฟเฟคซ่อนอยู่ (ไม่บอกหรอก อิอิ) เดินเข้าสู่ Lobby เน้นสีเขียว น้ำตาลของไม้เหมือนเป็นสวนป่าแบบเทอร์ราเรียมในโหลแก้วขนาดใหญ่มองออกไปจะเห็นต้นไม้พันธุ์แปลกๆ ที่รีสอร์ตหามาปลูกประดับไว้ ผมเพิ่งเคยได้ยินชื่อต้นยีราฟ ก็จากนี่แหละครับ ถึงกับถ่ายรูปไว้แล้วไปค้น Google ดูต้องชมว่า Landscape Tectonix Limited ออกแบบออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม ได้แปลกตาดีครับ น่าค้นหามาก ผมชอบการจัดวางต้นไม้ที่ดีไซน์สูงต่ำโปร่งทึบสลับกันไป เน้นไม้ที่เราไม่ค่อยได้เห็นตามรีสอร์ตปกติทั่วไป อย่างต้นยีราฟนี่ก็เก๋ดีและยังมีไม้พุ่มทรงสวยๆ อีกเยอะมาก ใครชอบถ่ายรูปกับธรรมชาติก็ไม่ควรพลาดครับ
สัมผัสแรกของผมที่มาทักทาย VALA อยากใช้คำว่า “ตกหลุมรักในทันที” ผมชอบดีไซน์ของเทอร์ราเรียม ที่มีต้นไม้ใหญ่ตั้งตระหง่านเอาไว้ ภายในเป็น Lobby ดีไซน์โปร่ง เสริมความเก๋ด้วยที่นั่งแบบชิงช้าแขวนเพดาน น่ารักมากครับ ให้ความรู้สึกพริ้วไหวตลอดเวลา ประดับประดาด้วยสีเขียวของต้นไม้แปลกตารายล้อม เราจะเช็คอินกันที่นี่ครับ พร้อมกับบัทเลอร์ส่วนตัวมาแนะนำตัวและจะเป็นผู้ดูแลผมตลอดการเข้าพัก
Pool Villas หมายเลข 2 หน้าหาดกว้าง
Pool Villas จะแยกตัวออกมาจากที่พักโซนอาคารครับ จะเดินอ้อมไปทางหาด เพราะว่าอยู่ติดเลย ที่นี่มีรถบัคกี้รับส่งนะครับ สามารถเรียกได้เลย วิลล่าฝั่งบีชฟอรนท์จะแบ่งออกเป็น 2 โซนครับ ของผมจะอยู่ด้วยกัน 3 หลังคือ No.1-3 ห้องผมจะอยู่ตรงกลาง ซึ่งการวางผังของวิลล่าจะแตกต่างกันออกไป มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนกัน ใครชอบส่วนตัวหน่อย แนะนำวิลล่า 1 ส่วนวิลล่า 2 จะหน้ากว้าง เทควิวทะเลได้เต็มตา มองเห็นสระว่ายน้ำส่วนกลางด้วยครับ ส่วนวิลล่า 3 ก็จะอยู่มุมถัดไปด้านในของตัวเอง ก็สวยไปอีกแบบ
เข้ามาโซนห้องพักจะมีด้วยกันทั้งแบบอาคารและวิลล่า หันหน้าเข้าหาสระว่ายน้ำและชายหาดผมพัก Beachfront Pool Villa No. 2 จากทั้งหมด 5 หลังวิลล่าจะขยับออกไปอีกนิดเพื่อความเป็นส่วนตัวของแขกแต่ละหลังจะเลย์เอ้าท์จัดวางแตกต่างกันไป ดีไซน์แบบเต้นท์แคมป์ Glamping หรูหราสุดๆถ้าเป็นวิลล่า 2 ของผม หน้าบ้านจะกว้างกว่าใคร มองไปด้านขวาเห็นสระว่ายน้ำส่วนกลาง เดินไปได้เลยครับ
Beachfront Pool Villa หมายเลข 2 ตั้งอยู่ด้านหน้าสุดของชายหาด เราสามารถชมวิวทะเลได้จากภายในห้องพักกันเลยทีเดียว ด้านนอกยังมีสระว่ายน้ำระบบเกลือส่วนตัว ขนาด 2.8 X 1.8 เมตร ด้านข้างมีพื้นที่สวนและศาลา เป็นมุมที่ผมชอบมา outdoor นั่งอ่านหนังสือ จิบชากาแฟ ที่นี่มีบัตเลอร์เซอร์วิส ตลอดระยะเวลาที่เข้าพักด้วยนะครับ เรียกว่า V-Verse ของผมเป็นน้องแตงครับ ดูแลดีมาก ที่นี่แทบไม่ตัดต้นไม้เลยครับ จะใช้วิธีปรับ ย้าย ปลูก ทำให้มีพื้นที่สีเขียวมากถึงเกือบครึ่งนึงของรีสอร์ต
เปิดประตูเข้าไปในวิลล่า ผมว่าดีไซน์เหมือนเต้นท์แคมป์สไตล์ Glamping หรูๆ ดูโปร่งสบายดีครับ ชอบการตกแต่งของที่นี่มาก ทุกอย่างจัดวางเป็นสัดส่วน แบ่งฟังก์ชันด้านในตามการใช้งานได้ชัดเจนดี จากรูปด้านซ้ายเป็นโซนห้องน้ำ แต่งตัว เชื่อมด้วยอ่างอาบน้ำตรงกลางระหว่างมุมพักผ่อน มีโต๊ะทำงาน มุมรับประทานอาหาร มีความเบย์วินโดว์รอบทิศทาง ตรงกลางเป็นเตียงนอนขนาดใหญ่ หัวเตียงประดับโคมไฟ พร้อมทีวีแบบตั้งขา เพื่อจะได้ไม่บังวิวทะเลเวลามองจากเตียงนอน ด้านขวาเป็นโซฟาเบดขนาดใหญ่พร้อมกับมุมมินิบาร์ที่จะเสิร์ฟชา กาแฟ ขนมให้เราได้ทาน
มุมเตียงนอนถ่ายจากหน้าประตูเข้าไป จะเห็นว่ามีเสาขนาดใหญ่ตรงกลางห้อง คล้ายกับเสาแกนของเต้นท์โดมเพิ่มกิมมิคในการออกแบบด้วยเชือกพันรอบ เท่มากครับ ด้านหลังหัวเตียงจะเป็นทางเดิน ถัดไปด้านในถึงจะเป็นอ่างล้างหน้าที่เจาะช่องกระจกไว้ แอบเห็นคอสตูมของผมด้านในที่เตรียมคุมโทนสีมาเต็มที่
VALA หัวหิน Installation Art ริมทะเล
ผมเตรียมคอสตูมโทนน้ำตาล ขาวเอามาใส่ถ่ายรูปเพราะกะแล้วว่าทริปนี้ต้องคุมสี คุมโทนชุดให้เข้ากันจะสังเกตว่าคาแรกเตอร์ของรีสอร์ตจะเป็นสีเอิร์ธ น้ำตาลแซมด้วยสีเขียวจากต้นไม้และตัดฟ้าน้ำทะเลแต่ละมุมจะดีไซน์ให้แตกต่าง สร้างแสงและเงารูปแบบใหม่ๆ เป็น Installation Art ที่มีชีวิตชิ้นใหญ่มาก บนเนื้อที่ 20 ไร่ทำให้ชะอำทริปนี้ดูแปลกไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา
ถ่ายรูปในวิลล่ามาหลายๆ มุมให้ได้ชมกัน ผมชอบงานออกแบบของที่นี่มาก รู้เลยว่าผ่านกระบวนการคิดมามาก เฟอร์นิเจอร์ พรอพแต่ละชิ้น บรรจงเลือกกันสุดๆ
VALA ราวกับเป็นบทบันทึกการเดินทาง Journey of Transition ที่เปลี่ยนผ่านไปตามกาลเวลา แต่ว่ายังสื่อสารความเป็นภูเขาและทะเลเมืองเพชรบุรีได้ดีมาก ผมชอบมานั่งทำงานที่โต๊ะนี้ มองออกไปจะเห็นวิวทะเลดี๊ดี อยากจะหนีมา Work From Villa ที่นี่สักเดือนนึง
ผมว่า ภาพนี้บอกตัวตนของ VALA ได้ดี คือมีเอิร์ธโทนอยู่สูงมาก เน้นธรรมชาติจากภายนอกสู่ภายใน ออกแบบให้เข้ากันดีทั้งสีน้ำตาลจากไม้ สีเขียวและสีฟ้าจากทะเล สอดรับการงานดีไซน์ของกระจกที่ฟรีฟอร์ม ดูเก๋มาก
ห้องน้ำแยกเป็นสุขากับห้องอาบน้ำแบบชาวเวอร์ที่เจาะช่องกระจกเอาไว้ มองเห็นสวนขนาดเล็กด้านนอก ส่วน Amenities ที่ใช้เป็นของ PANPURI กลิ่นเป็น Lemongrass & Mandarin หอมสดชื่นเป็นธรรมชาติดีครับ
แต่ถ้าจะให้สดชื่นกว่านี้ต้องมีทั้งเลม่อน ส้มวาเลนเซียและมะนาวครับ แช่อ่างในอโรม่าคือดี มีความหอมจากผิวส้ม สดชื่นมาก เดินทางมาไกลๆ แล้วหายเหนื่อยเลยครับ ชอบภาพนี้ รู้สึกผ่อนคลายดี ให้สมกับที่มาพักผ่อน ขออนุญาตรับพลังธรรมชาติจาก 3 ประสาน คือส้ม เลม่อน มะนาว ทำเอาฟินมากครับ
มุมที่นั่งด้านนอกกว้างมากครับ พร้อมกับหลังคาแบบโปร่ง เปิดรับแสงธรรมชาติได้ดี มีรั้วกำแพงสีน้ำตาลแดงกั้นระหว่างวิลล่า แต่ว่าที่นั่งของแต่ละหลังจะไม่ติดกันนะครับ ทำให้เราได้มีความเป็นส่วนตัวอยู่พอสมควร ภายในปลูกต้นไม้ประดับไว้เยอะเลยครับ ฟีลเหมือนเราไปนอนเต้นท์แคมป์อยู่กลางทุ่งหญ้า
มุมนี้ สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลาย ผมสั่งอาฟเตอร์นูนทียามบ่ายมาจิบเบาๆ เลือกเครื่องน้ำเป็นน้ำตาลสดเมืองเพชรมาชิม เสิร์ฟมาในกระบอกไม้ไผ่ หอมชื่นใจแต่หวานไปนิดนึงครับ
SLH : Small Luxury Hotels of the World
ที่นี่เป็นสมาชิกของ SLH : Small Luxury Hotels of the World แน่นอนว่า ต้องยืนหนึ่งเรื่องงานดีไซน์ และเสริมด้วยแนวคิดการใส่ใจสิ่งแวดล้อมครับ
นอกจากชื่อ VALA แล้ว ผมชอบการตั้งนามสกุล (ขอเรียกแบบนี้ละกัน) Nu Chapter จริงๆ แล้วเป็นชื่อย่อของคุณตาและคุณยายผู้ก่อตั้งโรงแรมเครือรีเจนท์ จึงนำมารวมกัน ที่สำคัญยังพ้องเสียงเป็น “นิว” แปลว่าสิ่งใหม่ๆ แต่ที่เก๋สุดคืออ่านว่า “นู่” ก็ได้ ซึ่งเป็นชื่อเล่นของนูนู่-วศุมา เจ้าของและเป็นคนที่ดูแลโปรเจ็คนี้มาตั้งแต่แรก
Nu Chapter จึงเป็นบันทึกเหมือนบท(บาท)ใหม่ของคุณนูนู่ที่จะมาดูแลโรงแรมในเครือรีเจนท์ โดยเฉพาะการปั้นแบรนด์ที่ Independent ไม่พึ่งพาเชนโรงแรมขนาดใหญ่ เป็นการคิดที่สวนกับอีกหลายรายที่เน้นใช้เชนมาสวมชื่อ นอกจาก คุณนูนู่จะสวยแล้ว ความคิดยังครีเอทและเก๋มากด้วยครับ
มื้อค่ำไปทานที่ห้องอาหารของรีสอร์ต ชื่อว่า “WOODS Kitchen & Bar” ให้บริการอาหารเช้า – กลางวัน – เย็น แบบ All Day Dining ผมไม่ได้สั่งอะไรมาทานมาก วานให้เชฟแนะนำและเลือกให้เบาๆ เพราะว่าอยากจะลดมื้อเย็นอยู่ บริกรเสิร์ฟขนมปังมาก่อนเลยครับ ทานกับโอลีฟ ออยล์และบัคซามิก ขนมปังกรอบนอก นุ่มใน ทานเปล่าๆ อร่อยดี
ส่วนอาหาร เชฟ Nelson Amorim จัดมาให้ตามที่ร้องขอบอกว่าเอาเบาๆ ก็พอ มีทั้งสลัด และ Tapus Board ซึ่งเราจะเลือก 2 อย่าง เชฟจะเลือกให้ 3 อย่าง รวมเป็น 5 จาน พอชั่นพอดีทานเลยครับ มีทั้ง หมึกสายยัดไส้กุ้ง ราดซอสหมึกดํา / เคียวแฮมรวมมิตร / มันฝรั่งทอด เบคอนกรอบ ไข่นกกระทา ซอสพริกมะเขือเทศ สไตล์สเปน / กุ้งลายเสือคั่วพริกกระเทียม / OSSOBUCO CROQUETTES เป็นเนื้อน่องวัวตุ๋นชุบเกล็ดขนมปังทอด เสิร์ฟกับซอสมายองเนสกระเทียมดํา
ส่วนของหวานว่าจะลดแต่ก็อดใจไม่ได้ เมื่อน้องพนักงานแนะนำว่าต้องสั่ง QUINDIM อารมณ์เหมือนขนมหม้อแกงแบบแยกองค์ประกอบมา และอีกจานเป็น สับปะรดคาร์ปาชโช จานนี้อร่อยมาก ถ้ามาผมแนะนำว่าต้องสั่ง พร้อมกับขอเบิ้ลไอศกรีม
เดินดูบรรยากาศใกล้ค่ำ ยิ่งเปิดไฟยิ่งสวย น่าเสียดายที่ผมไม่ค่อยได้ออกมานั่งเล่นด้านนอกวิลล่าตัวเองเท่าไร ไหนๆ ก็เสียตังมาแล้ว ต้องอยู่ในวิลล่าให้คุ้ม 555
แต่มุมนั่งส่วนกลางภายนอกก็สวยครับ มานั่งถ่ายรูปได้เยอะเลยแหละ
“Design is a human ritual of understanding.”
แต่ผมว่าเหนือสิ่งอื่นใด ธรรมชาติต่างหากที่เป็นผู้ออกแบบสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ มนุษย์เพียงแต่มีหน้าที่ทำความเข้าใจในความเป็นไปเท่านั้นเอง
รูปนี้สวยดีครับ ถ่ายมาจากโถงทางเดินในรีสอร์ต
VALA คุณค่าของคนตื่นเช้า
ตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมาเก็บแสงตะวัน อย่างที่บอกไปถ้าใครนอนรีสอร์ตแถบชะอำหัวหิน อย่ารอที่จะเห็นตะวันตกดินนะครับ เพราะฝั่งนี้จะเป็นตะวันออก มองเห็นพระอาทิตย์ตอกบัตรตั้งแต่ตีห้าครึ่ง
ภาพมุมสูงของชะอำยามเช้า เราไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก เป็นชายหาดยอดนิยมของคนกรุงที่เดินทางมาง่าย ใช้เวลาไม่นานครับ
ภาพนี้เป็นบทพิสูจน์ว่าทะเลอ่าวไทยของเรา ก็ยังคงสวยงามตลอดกาล ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใดก็ตาม
หน้าหาดริมสระว่ายน้ำ จะมีซันเบดตั้งเรียงราย พร้อมกับทรายละเอียดนุ่มๆ ให้เราได้พักผ่อน หน้าหาดริมสระว่ายน้ำ จะมีซันเบดตั้งเรียงราย พร้อมกับทรายละเอียดนุ่มๆ ให้เราได้พักผ่อน
ชายหาดที่นี่เดินลงไปได้นะครับ เช้าๆ สวยมาก ผมเพิ่งเคยเห็นชะอำในมุมนี้ภายสวยดีเลย มองเห็นสีฟ้าเทอควอยซ์ของน้ำทะเลที่ลึกลงไปถึงก้นบึ้ง สวยดีครับ ไล่เฉดดีเลยทีเดียว
เช้าวันนี้น้ำลด ลงไปเดินเล่นจะเห็นเป็นทะเลแหวกสันทรายโผล่ขึ้นมาครับ
ห้องพักฝั่งอาคารหันหน้าเข้าหาสระว่ายน้ำและมีอีกอาคารที่หันหน้าเข้าหาทะเล
เสร็จภารกิจถ่ายรูปเพื่อมวลมนุษยชาติแล้ว ก็กลับเข้ามาในวิลล่า กินกาแฟ ชมบรรยากาศยามเช้ากันต่อเบาๆเราจะได้เห็นวิลล่าในมุมมองด้านหน้าที่แปลกตาออกไปครับ
ตอนแรกก็น่าแปลกใจที่ผมเป็นคนชอบมาทะเลแต่ไม่ชอบเล่นน้ำทะเล แต่ตอนนี้ดีใจที่มีหลายคนคิดและเป็นเหมือนกัน คือชอบไปนั่งๆ นอนๆ ฟังเสียงคลื่น ให้ลมพัดหน้าเบาๆ แล้วเราก็หลับไปกับทะเลหน้าวิลล่า
แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วสำหรับทะเลชะอำทริปนี้
Floating Breakfast in Villa
สายๆ มีบัทเลอร์พร้อมกับพนักงานในห้องอาหารมาเสิร์ฟอาหารเช้าแบบลอยน้ำ หรือว่า Floating Breakfast ซึ่งเราได้เลือกเมนูเอาไว้ตั้งแต่ก่อนนอนเมื่อคืนครับ
ลากถาดเอง ถ่ายรูปเอง นักเลงพอ 555
สระว่ายน้ำของที่วิลล่าก็สามารถว่ายได้จริงจังนะครับ เป็นสระระบบเกลือส่วนตัว ขนาด 2.8 X 1.8 เมตร แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ค่อยได้ว่ายหรอก เน้นแช่น้ำแล้วนั่งพักผ่อนใจถ่ายรูป ชมบรรยากาศมากกว่า
ถ้าอยากว่ายน้ำจริงจัง มาที่สระส่วนกลางดีกว่าครับ เดินมานิดหน่อย แต่สระกว้างใหญ่กว่าเยอะ ว่ายน้ำได้สบาย หรือใครอยากจะถ่ายรูปก็ถ่ายไป มุมเยอะมาก มีพูลบาร์ด้วยครับ
ดูจากดีไซน์ของแลนด์สเคปและสระว่ายน้ำส่วนกลางต้องบอกว่าสะท้อนคาแรกเตอร์ของ VALA ได้ดีคือมีความ Feminine นิดๆ มีความนิ่ง สงบ มีลายเส้นชัดเจน เป็นสาวเก๋ที่ไม่ได้รักแค่ตัวเอง แต่รักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
สระว่ายน้ำหน้าหาดที่เชื่อมต่อกัน รายล้อมด้วยอาคารซึ่งเปรียบเป็นภูเขา เหล่านี้สะท้อนอัตลักษณ์ของเพชรบุรีผ่านงานดีไซน์ที่สวยมาก
สรุป VALA หัวหิน ถือว่าดีงาม
VALA เป็นทริปที่ประทับใจมาก เป็นภาพจำการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนที่ผมชอบ ทั้งงานดีไซน์ แนวคิดและงานบริการ พนักงานที่นี่น่ารัก เป็นกันเอง
ว่าแล้วก็คิดถึง VALA ครั้งหน้าว่าจะจอง Deluxe Beach Front ดูบ้าง ได้ข่าวว่าห้องนี้ก็สวยไม่แพ้กัน
แต่ยังไงก็ยกให้ Beachfront Pool Villa มาเป็นอันดับหนึ่งในใจ
ที่สนใจสามารถตามรอยมาได้นะครับ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.valahuahin.com หรือ www.facebook.com/valahuahinTH