เชื่อว่าหลายคนเคยดูทวิภพ และอยากเป็น “มณีจันทร์”
หวังว่าเผื่อสักวัน ... จะเจอ “คุณหลวง” ในฝันกับเขาบ้าง
บางทีก็ล้ออารมณ์ไปตามงานวรรณศิลป์ก็ทำให้เรานั่งคิดอะไรไปเพลินๆ ไปตามจินตนาการสรรค์สร้าง ว่าไหมครับ
อย่างการได้พักแรมในเรือนไทยโบราณ นั่งตั่งรับประทารอาหารตำรับชาววัง หรือฟังเพลงไทยเดิมระหว่างนวดไทย ก็ไม่คิดไม่ฝันว่า สถานที่แบบนี้จะมีอยู่จริง
ผมไปเจอกับ “ทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา” โดยบังเอิญ เพราะเพื่อนสนิทมาจัดงานแต่งงานที่นี่ เมื่อปีก่อน เพราะที่นี่รับจัดเวดดิ้ง ให้บริการห้องพักและอาหารไทยในคราวเดียว
อำว่าคนที่มาจัดงานแต่งที่นี่ ต้องเป็นคนที่อยากเป็นแม่มณีกับคุณหลวงแน่ๆ เลย ขอรับ – อิอิ
เพราะ “ทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา” ทำหน้าที่กระจกบานใหญ่ที่สะท้อนชีวิตของคนไทยโบราณได้อย่างน่าอัศจรรย์ เราสามารถเดินทะลุผ่านวันเวลาตั้งแต่วินาทีแรกที่ย่างกรายเข้ามาในรีสอร์ทเรือนไทยโบราณหลังน้อยใหญ่ ที่เจ้าของไปยกย้ายเรือนไม้ไทยแท้เหล่านี้มาจากอยุธยากันเลยทีเดียวครับ
สัมผัสแรกที่ได้รับคือความหอมของพันธ์ุไม้ไทยโบราณ ทั้ง พิกุล บุนนาค และสร้อยระย้า ต่างทำหน้าที่ราวกับนางสนมที่คอยเสนอกลิ่นให้เจ้านายเรียกหาบนเรือนใหญ่
เป็นการต้อนรับที่อบอุ่นใจ คล้ายกับมาบ้านญาติตัวเองยิ่งนัก
ทริป 2 วัน 1 คืนของที่ “ทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา” จึงน่าจะเป็นประสบการณ์ที่แสนประทับใจ ที่หาได้ง่ายๆ เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองกรุงมากนัก วิ่งมาจากรัตนาธิเบศน์ หรือเข้าทางเลี่ยงเมืองนนท์ ก็สะดวกครับ
วันนี้ว่าง เลยเข้ามาไว เพราะตั้งใจจะมาทานกลางวันที่นี่ครับ มีออปชั่นเสริมสำหรับท่านที่อยากจะแต่งตัวย้อนยุค ก่อนรับประทาน ทางร้านก็มีชุดให้ยืมสวมใส่ครับ
ถ้าแม่มณีหลงแตะกระจกมาวันนี้ เห็นทีจะต้องเจอกับ “คุณหลวงกานต์” สักหน่อยแล้ว
ส่วนเมนูตำรับไทยโบราณนั้นต้องยกนิ้วให้ เพราะจัดจ้านไปด้วยรสมือของแม่ครัวรุ่นเก่า มีอยู่ 2 ท่าน อายุเกือบ 80 ปี ที่ปรุงรสมือไม่เคยเปลี่ยนเลย
“มัสมั่นไก่” ก็หอมมัน ไม่เลี่ยน ส่วน “แสร้งว่า” ก็ไม่ต้องแสร้งชมว่าอร่อย “ขนมเบื้องญวณ” นี่ต้องสั่งเลยครับเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของที่นี่ แต่ที่ผมชอบเห็นจะเป็น “ยำเส้นสายทับขวัญ” หรือที่เรียกว่า ยำขนมจีนโบราณ กับ “น้ำพริกลงเรือ” ครับ เพราะผักที่นี่สดมาก แกะสลักมาอย่างวิจิตรงดงาม สมกับความเป็นร้านอาหารเรือนไทยในรีสอร์ทโบราณ
เสร็จกิจจากการรับประทานอาหารก็เช็คอินเข้าห้องหับ หน้าห้องหันไปทางสระบัวครับ คงต้องรอเช้าๆ ถึงจะได้ฤกษ์มาถ่ายรูปดอกบัวสีบานเย็นที่บานฉ่ำจนเต็มสระ
คืนนี้ผมพักที่เรือนพุดจีบครับ ชื่อไพเราะห้องพักตกแต่งภายในเป็นเรือนไทยโบราณครับ คืนนี้ก็หวั่นๆ อยู่เล็กน้อย …
นอกจากเรือนพุดจีบแล้วยังมี ยังมีชื่อเรือนเป็นเสมือนดอกไม้ไทยโบราณแทนความงามของสถานที่ อาทิ เรือนสร้อยระย้า แก้วมุกดา พิกุล บุนนาค พุดน้ำบุศย์ และพุดพิชญา เสมือนว่าได้ย้อนอดีตไปสมัยอยุธยาโน้น
ผมนำจักรยานมาปั่นเล่นด้วย เพราะอยากสัมผัสกับธรรมชาติที่อยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทมากนัก แถมยังอยากหวังผลเรื่องสุขภาพอีกด้วย เพราะที่ผ่านมา เอาแต่กินๆ เที่ยวๆ นอนๆ ต่อนย้อนไปวันๆ จนไขมันมากองที่พุง จึงต้องเบิร์นออกสักนิด กับกิจกรรมชิคๆ ใกล้ “ทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา”
ปั่นจักรยานผ่านตลาดน้ำไทรน้อย ของอร่อยเพียบเลยครับ แล้วจะผอมไหม … จากนั้นก็ปั่นลุยทุ่งบ้าง จอดพักริมทางบ้าง แวะไหว้พระบ้าง ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินกลางทุ่งนา นับเป็นบรรยากาศแบบไทยแท้ๆ ที่หาได้ยากยิ่งในยุคสมัยนี้ครับ
พลบค่ำก็เข้าที่พัก เห็นทีคืนนี้ต้องจัดหนัก เพราะเสียพลังงานไปเยอะมาก บรรยากาศยามค่ำก็เงียบสงบมากครับ ที่ “ทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา” เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากในเมืองหลวง มาพบกับความเงียบสงัดและเสียงหรีดหริ่งเรไร ในยามดึกครับ
แม้จะอยู่เมืองนนท์แต่ผมกลับรู้สึกว่า เงียบสงบจนไม่อยากเชื่อ เราได้ตื่นแต่เช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์ ล้างหน้าล้างตาก็มาชมสระบัว และรับประทานมื้อเช้า ซึ่งที่นี่ก็มีให้เลือกนะครับว่าจะรับแบบข้าวต้มไทยหรืออาหารเช้าสไตล์ฝรั่ง
กิจกรรมยังไม่หมดนะครับ ก่อนกลับยังรู้สึกเมื่อยๆ จากการปั่นจักรยานเมื่อวานนี้ เลยไปจองเวลานวดเอาไว้ เมื่อถึงคิว พนักงานก็จะมาตามที่เรือนไทยครับ หรือใครอยากจะนวดที่ห้องพักเลยก็แจ้งเจ้าหน้าที่ไว้ได้เลยนะครับ
อย่าลืมเลือกด้วยว่าจะนวดแบบไหนดีมีทั้ง “นวดไทยแบบราชสำนัก” และ “แบบเชลยศักดิ์” ครับ หมอนวดที่นี่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี เห็นตัวเล็กๆ แค่นี้ แต่จับเส้นได้ถูกจนแทบไม่ต้องออกแรงเลยครับ
หายเมื่อยดีแท้
เกือบเที่ยงก็ได้เวลาอำลาจาก “ทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา” หมดเวลาแต่เพียงเท่านี้ ถ้ามีโอกาสก็จะมาพักอีกครับ เพราะที่นี่เรียกได้ว่าไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางสะดวกมากครับ
แล้วจะกลับมาเป็น “คุณหลวง” นั่งรอ “แม่มณี” ทะลุกระจกข้ามเวลามาที่ “ทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา” ในครั้งหน้านะครับ
“ทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา” จองห้องพัก รับประทานอาหาร จัดงานแต่งงาน
โทร: +662-969-1200
แฟกซ์: +662-969-1230