Booking.com ผู้นำระดับโลกด้านการเชื่อมโยงผู้เดินทางกับตัวเลือกที่พักน่าทึ่งหลากหลายประเภท เผยผลสำรวจจากรีวิวกว่า 118 ล้านรายการของผู้เดินทางซึ่งจองผ่าน Booking.com พบว่าจุดหมาย 15 อันดับแรกที่โดดเด่นด้านอาหารส่วนใหญ่แล้ว ล้วนอยู่ในโซนเอเชียและอเมริกาใต้ ส่วนประเทศไทยนั้นก็ติด 10 อันดับแรกด้วย
1. ฮ่องกง
จุดหมายยอดนิยมด้านอาหารอันดับ 1 ที่ขึ้นชื่อเรื่องตัวเมืองอันคึกคัก เส้นขอบฟ้าที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้า และสิ่งที่ขาดไม่ได้คืออาหารหลากหลายประเภท ผู้เดินทางจะต้องตื่นตากับเมนูที่มีให้เลือกมากมาย โดยเราขอแนะนำให้คุณลิ้มลองติ่มซำ เนื้อวัวส่วนใต้อกที่ตุ๋นจนเปื่อยของร้าน Kau Kee บะหมี่เกี๊ยว และผู่นชอย (Poon choi) หรือเมนูซึ่งรวมอาหารหลากชนิดไว้ในชามใบใหญ่
2. เซาเปาโล ประเทศบราซิล
นครเซาเปาโลมีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะจุดหมายสำหรับผู้ชื่นชอบการทานอาหาร ที่นี่มีตั้งแต่ร้านบิสโทสสุดฮิป ไปจนถึงร้านอาหารรสเลิศ เรียกได้ว่ามีตัวเลือกสำหรับทุกความชื่นชอบอย่างแน่นอน ลองลิ้มรสเฟโชอาดาสไตล์บราซิล (Brazilian Feijoada) สตูว์เนื้อและถั่วดำซึ่งเป็นเมนูจานเด็ดประจำชาติ
3. โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ผู้คนต่างมองว่าการผสมผสานกันระหว่างความทันสมัยสุดขั้วกับมนต์เสน่ห์แบบดั้งเดิมนั้นเป็นจุดเด่นของโตเกียว เที่ยวชมตึกระฟ้าที่ประดับประดาด้วยแสงไฟนีออนและวัดวาอารามเก่าแก่ ก่อนลิ้มรสอาหารนานาชนิดที่พบได้ในญี่ปุ่น อันที่จริงแล้ว โตเกียวมีร้านอาหารยอดเยี่ยมซึ่งได้ดาวมิชลินมากกว่าที่ปารีสและนิวยอร์กรวมกันเสียอีก
4. เอเธนส์ ประเทศกรีซ
สัมผัสอาหารริมทางแนวใหม่ของเอเธนส์ และแวะเวียนไปยังย่านปลากา (Plaka) ซึ่งผู้เดินทางต่างลงความเห็นว่าเป็นย่านที่ดีที่สุดในด้านอาหารการกินของเอเธนส์ อย่าลืมลิ้มลองอาหารจานเด็ดของกรุงเอเธนส์ ได้แก่ ซูฟลากิ (Souvlaki) ซึ่งเป็นเนื้อและผักย่างเสียบไม้ และคูลูรี (Koulouri) ซึ่งเป็นขนมปังวงแหวนโรยงา
5. กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
กัวลาลัมเปอร์นั้นมีชื่อเสียงเรื่องตึกรามบ้านช่องที่ทันสมัย ตึกระฟ้าที่มีโครงสร้างเป็นกระจกและโลหะ หาดทรายสีขาว ป่าฝนเขียวชอุ่ม และถนนซึ่งมีร้านสตรีทฟู้ดเรียงราย ผู้เดินทางจะต้องหลงรักการผสมผสานกันระหว่างความทันสมัยและความดั้งเดิม รวมถึงการผสมผสานด้านอาหารและวัฒนธรรมกันอย่างลงตัวของชาวมาเลย์ จีน อินเดีย และยุโรป
6. เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ด้วยเมลเบิร์นขึ้นชื่อเรื่องชายหาดสวยงาม ย่านใจกลางเมืองที่อาบไล้ด้วยแสงแดด ตลอดจนบาร์และร้านอาหารสุดคึกคักซึ่งเรียงรายตามฝั่งแม่น้ำยาร์รา (Yarra River) จึงเป็นเมืองที่คุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง สัมผัสวิถีชีวิตในแบบชาวออสซี่แท้ๆ ลิ้มรสบาร์บีคิวแสนอร่อยกับครอบครัวและผองเพื่อน พลางดื่มด่ำกับภาพพระอาทิตย์อัสดงที่งดงามเหนือกาลเวลา
7. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ออกตะลุยกรุงเทพฯ เพื่อลิ้มลองสตรีทฟู้ดอร่อยเหาะ ค้นหาเมนูอร่อยและลิ้มรสอาหารจานเด็ดของนครหลวงแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นไก่สะเต๊ะ สุกี้ ข้าวแกง หรือไก่ย่าง ในระหว่างที่เดินทางท่องเที่ยว อย่าลืมแวะเวียนไปแถวสยามซึ่งผู้เดินทางที่จองผ่าน Booking.com ต่างบอกต่อว่าเป็นย่านที่ดีที่สุดในด้านอาหารการกินของกรุงเทพฯ
8. กรานาดา ประเทศสเปน
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทานอาหารแล้ว กรานาดาเป็นจุดหมายที่ห้ามพลาด ลิ้มรสอาหารจานหลักของเมืองอย่างปิโอโนโน (Pionono) ขนมอบรสหวานชิ้นเล็กซึ่งราดน้ำเชื่อมและสอดไส้ครีม หรือลองชิมโอญา เด ซานอันตน (Olla de san antón) ซึ่งเป็นสตูว์ที่ทำจากถั่ว ข้าว และไส้กรอก หรือฮามอน เด เตรเบเลซ (Jamón de trevelez) หรือขาหมูซึ่งผ่านการถนอมอาหารด้วยกรรมวิธีแบบธรรมชาติ
9. ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
ลาสเวกัสอาจเป็นหนึ่งในเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดสำหรับการปาร์ตี้สุดเหวี่ยง หรือไม่แน่ว่าอาจเป็นเมืองที่โด่งดังที่สุดในด้านนี้เลยด้วยซ้ำ แต่กระนั้นเมืองแห่งนี้กลับมีสิ่งน่าสนใจอื่นๆ อีกมากมายนอกเหนือจากไนท์คลับสุดคึกคัก และคาสิโนซึ่งเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ย่านบูเลอวาร์ด (Boulevard) นั้นเป็นที่ตั้งของสถานที่กินดื่มหลายประเภท ตั้งแต่บาร์รูฟท็อปสุดฮิป ร้านอาหารสุดหรู ไปจนถึงร้านอาหารซึ่งมีบรรยากาศเป็นกันเองในราคาสบายกระเป๋า นครแห่งความบันเทิงนี้มีทุกสิ่งสำหรับคุณ
10. บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา
การเดินทางไปเยือนอาร์เจนตินานั้นถือเป็นโอกาสแสนวิเศษที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์ผ่านประสาทสัมผัสในด้านต่างๆ ตั้งแต่ดื่มด่ำกับทัศนียภาพตระการตาของขุนเขา ไปจนถึงลิ้มรสอาหารที่แค่เห็นก็ชวนให้น้ำลายสอ อิ่มอร่อยกับสเต็กสุดเลื่องชื่อของประเทศ และของหวานต่างๆ ที่ราดด้วยดุลเซ เด เลเช (Dulce de leche)
11. สิงคโปร์
สิงคโปร์เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายด้านภูมิอากาศเขตร้อนและชุมชนหลากวัฒนธรรม เรียกได้ว่ามีทุกอย่างรวมในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นวัดโบราณ หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ป่าฝนเขียวชอุ่ม หาดทรายขาว และเมนูอาหารที่ีรวมวัฒนธรรมหลายแบบไว้อย่างเข้มข้น เนื่องด้วยได้รับแรงบันดาลใจจากทั้งฝั่งจีน อินเดีย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งแม้แต่ผู้ที่พิถีพิถันด้านการกินก็จะต้องพึงพอใจ
12. วอร์ซอ ประเทศโปแลนด์
บริเวณเมืองที่กำลังแผ่ขยายออกไปของวอร์ซอนั้นโด่งดังที่สุดด้านสถาปัตยกรรมหลากหลายซึ่งสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ของเมือง เรียกได้ว่ามีทั้งโบสถ์โกธิกไปจนถึงตึกระฟ้าทันสมัย ที่ใจกลางเมืองเป็นที่ตั้งของ Market Square ซึ่งมีคาเฟ่กลางแจ้งและแผงขายอาหารบรรยกาศคึกคัก
13. ปอร์โต ประเทศโปรตุเกส
เมืองชายฝั่งแห่งนี้มีชื่อเสียงด้านการผลิตพอร์ตไวน์ รวมถึงย่านยุคกลางริเบรา (Ribeira) ไปจนถึงถนนปูก้อนอิฐ บ้านพักเก่าแก่ของพ่อค้าแม่ค้า และคาเฟ่ นอกจากนี้ปอร์โตยังมีความหลากหลายด้านอาหารการกินเช่นกัน เพราะมีไร่องุ่น Douro อยู่ทางตะวันออก รวมถึงบริเวณ Trás-os-Montes ซึ่งผลิตเนื้อรมควันและชีสเปรี้ยวที่ดีที่สุด
14. บาเลนเซีย ประเทศสเปน
บาเลนเซียนั้นมีอะไรหลากหลาย ทั้งภูมิอากาศมีแดดอบอุ่น ชายหาดแสนสวยที่ได้รับใบรับรอง Blue Flag รวมถึงแผนผังล้ำสมัย นั่งจิบไวน์ผลไม้แซงเกรียที่บาร์ซึ่งตั้งเรียงรายตามทางเดินริมชายหาด และทานเมนูทาปาสจานเด็ดรสเลิศให้เต็มที่
15. ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
จานเด็ดในฟลอเรนซ์ที่เราขอแนะนำคือ สเกียชชาตา (Schiacciata) ซึ่งเป็นขนมปังแผ่นแบบโรยเกลือและน้ำมันมะกอก อีกทั้งปัปปาร์แดลเล (Pappardelle) กับชิงเกียเล (cinghiale) ซึ่งเป็นพาสต้าซอสเนื้อหมูป่า และสำหรับผู้ที่อยากลิ้มลองอาหารรสชาติแปลกใหม่ จะต้องไม่พลาดลัมเปรโดตโต (Lampredotto) กระเพาะวัวต้มซุปเสิร์ฟยัดไส้ในขนมปังก้อน