1.
เวลาพักผ่อนที่โรงแรมเกร๋ๆ หลายคนคงใจตรงกันว่า “กินข้าวเย็นที่โรงแรมนี่แหละ” สะดวกดี
วันพักผ่อน อารมณ์นอนแช่ ก็คงไม่อยากจะออกไปไหน อย่างที่ยูพัทยา ทำให้ผมรู้สึกว่า
“ขี้เกี๊ยจจจ ขี้เกียจ (เสียงสูง)
พัทยาก็ไปมาทะลุปรุโปร่ง ก่อนเข้าโรงแรมก็แวะเจ๊จุกมาแล้ว (สาขา 4 ใกล้โรงแรมยูพัทยาเลยครับ)
กลางคืน ผมจึงเลือกมาทานดินเนอร์ที่ห้องอาหาร “PAPILLON” by U Pattaya
กว่าผมจะเล่นน้ำเสร็จ กลับไปอาบน้ำอาบท่า เสด็จออกมาจากห้องพัก ก็ราวๆ 2 ทุ่มครึ่ง
แขกเริ่มซาละ … ก็ดีเหมือนกันครับ จะได้ตั้งท่าถ่ายรูปได้ถนัดๆ หน่อย (จริงๆ ก็เขิลนะ)
หิวละ ไม่พูดพล่ามทำเพลง ขอสั่งอาหารก่อนเลยครับ
เมนูที่นี่มีทั้งอาหารอิตาเลี่ยน อาหารฝรั่งเศส และครัวอาหารไทยครับ
เอาเข้าจริง ผมเป็นคนติดในรสชาตของความแซ่บนะ แต่ถึงกระนั้น ก็ลองสั่งมาทั้ง 2 แบบละกัน
2.
จานแรกของเซตฝรั่ง ผมสั่ง Crispy Fried Calamari (ปลาหมึกชุบแป้งทอดสไตล์ฝรั่งเศส) มาเป็น Appetizers (290 บาท) มาพร้อมกับดิป 3 แบบ บีบเลม่อนใส่ไปหน่อย อร่อยดี แต่ไม่มีอะไรว๊าววววววว
ซุปผมไม่สั่ง ไม่ชอบ (จริงๆ เล็งซุปแบบไทยๆ เอาไว้เดี๋ยวเฉลยให้ฟัง) จานต่อมาเป็น Main Course สั่ง Pan-Fried Sea Bass (ปลากระพงย่างเสิร์ฟกับหอยแมลงภู่ กุ้งและข้าวริซอสโต้ – 450 บาท)
ขอออกตัวเอี๊ยดด ว่าอาหารฝรั่งอาจจะไม่สันทัดในการรีวิวสักเท่าไร แต่เท่าที่ทานมาในหลายๆ ร้าน ก็พอทำให้ทราบความแตกต่างบ้าง อย่างริซอสโต้ของที่นี่ มาแบบเนื้อเนียนนุ่มดี ข้าวไม่เละจนเกินไป มันควรจะมีไตนิดๆ แบบ al dente ในสปาเกตตี้น่ะครับ
เทคนิคที่ผมพอทราบก็คือ ต้องค่อยๆ ใส่น้ำซุปลงไป ทีละนิดๆ ค่อยๆ ให้ข้าวดูดซึมเอาความหอมหวานมันของซุปเข้าไป เติมซุปและหมั่นคน สักพักข้าวจะพองตัวขึ้นมาสวยงาม
และอีกจานสั่ง Duck Confit (น่องเป็ดตุ๋น) มาด้วย (450 บาท) ถ้าผมจำไม่ผิด เพราะไม่ค่อยแม่นฝรั่งเศสเท่าไร แต่ Confit จะอ่านว่า กงฟีต์ เป็นวิธีการปรุงของอาหารฝรั่งเศสครับ คือการตุ๋นด้วยน้ำมัน ความร้อนต่ำ ต้องคอยควบคุมอุณหภูมิของน้ำมันไม่ให้ถึงจุดเดือด ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครับ
ข้อดีก็คือจะทำให้เนื้อสัมผัสของอาหารและ texture ไม่สูญเสียไป จากนั้นค่อยเอาไปทอดให้หนังกรอบ … ซึ่งกรอบมว๊ากกกกก กินกับมันฝรั่งทอด อร๊อยยยยย อร่อย (เสียงสูงอีกละ)
3.
แต่อย่างที่บอก (โผมช๊อบทันอาหันทายยยย-ทำเสียงเลียนแบบฝรั่ง) จึงสั่งอาหารไทยมาสบทบครับ
ข้ามอาหารเรียกน้ำย่อยไปเลยละกัน เพราะน้ำย่อยทำงานอย่างหนักหน่วงมากตอนนี้
ตัดภาพมาที่ฝั่งอาหารไทย ที่ลองสั่งนี่ไม่ใช่อะไรนะครับ อยากจะเทสว่า เชฟทำอาหารไทยได้ตรงตามขนบไหม (ไม่ได้มาโปรโมทหนังเรื่อง “พริกแกง” นะ)
แต่อยากรู้ว่า ทำให้ฝรั่งกิน หรือใครกิน สั่งอาหารมาตามนี้
Grilled Beef Salad (ยำเนื้อย่าง – 290 บาท) มาจานอย่างใหญ่ รสชาตดีเลยนะครับ ผมชอบยำแบบนี้ แบบที่มะนาว น้ำปลา น้ำตาลและรสเผ็ดของพริก แย่งกันทำหน้าที่ พลุ่งพล่านอยู่ในปากเมื่อตักเข้าไป เสียดายนิดเดียวตรงที่เนื้อชิ้นหนาไปนิด แต่ปรุงรสออกมาได้ดีมากครับ
มาถึงซุปแบบไทยที่เกริ่นไปข้างต้น ผมสั่ง Tom Kha Maprow On (โท้มคาม้าพ้าวววออน – 290 บาท) ในเมนูเขียนแบบนี้จริงๆ ครับ ที่สั่งเพราะวันก่อนดูสารคดีญี่ปุ่น เค้าแข่งกันทำอาหารไทยโดยใช้มะพร้าว แล้วมีการทำต้มยำโดยใช้น้ำมะพร้าว เลยคิดว่าน่าสนใจ เห็นมีในเมนูจึงลองสั่ง
เครื่องเครางานดีมาก ซีฟู๊ดจัดเต็ม ข่าตะไคร้ดาหน้ามาเพียบ ซดน้ำไปคำแรก อร่อยมากครับ รสไม่จัดจ้าน มันมีความกลมกล่อมอยู่ข้างในแบบนุ่มๆ ด้วยรสมะพร้าว ติดใจมาก อยากขอซื้อกลับบ้านไปสักหม้อ
ปิดท้าย ความเป็นไทย ด้วย “ผัดไทกุ้ง” (Phad Thai Goong – 250 บาท) เมนูเขียนทับศัพท์มาแบบนี้เลย นัยว่าเอาไว้ให้ฝรั่งสั่งได้เข้าใจง่าย จัดจานมาอย่างสวยครับ ไข่งี้มาเป็นแผ่นลายเส้นสวยงามตามท้องเรื่อง แต่ติดนิดเดียว เส้นแข็งไปหน่อย หรือผมมัวแต่แอ๊กท่าถ่ายรูปนานไปนิด เลยออกเซ็งๆ จานนี้ไม่ผ่านครับ
“รับของหวานด้วยมั้ยครับ” บริกรถาม “แนะนำเป็น ช็อตโกแลตลาวาครับ” (220 บาท)
รอภูเขาระเบิดไป 3 ลูกยังไม่มา ถามได้ความว่า “ลูกแรกมันแตกครับ” เชฟเลยทำให้ใหม่ รับรองไหลไส้ทะลักแน่ๆ
จริงๆ อิ่มมาก แต่ก็อยากทานของหวานปิดท้าย อ๊ะ รอได้ จัดมา
แหวกมาครั้งแรก ลาวาสีดำพุ่งเลยครับ รสชาตดีพอใช้ ไม่ถึงกับติดใจ (หรืออิ่มเกินไปแล้วก็ไม่ทราบได้) จริงๆ ผมชอบน้ำผลไม้มากกว่านะ แต่ไม่เอาละ สั่งไปเยอะมากวันนี้ ทาน 2 คน สั่งเหมือนมากันทั้งตำบล!!
อ่อ!! ไม่ต้องแปลกใจที่ผมจำราคาได้แม่นนะครับ ผมแอบถ่ายเมนูมาด้วย จะได้เล่าไม่ผิด 555+
4.
สรุปมื้อค่ำวันนี้ อาหารรสชาตโดยรวมถือว่างานดีเลย ถามว่าอิ่มมั้ย … ก็แน่นท้องเลยล่ะครับ แต่บรรยากาศมันดี๊ดี นั่งชิลล์ เพลินๆ ได้จนดึก
แต่สิ่งที่ประทับใจกลับไม่ใช่เรื่องอาหารเป็นหลักครับ นอกจากบรรยากาศริมทะเลสบายๆ แล้ว ก็เห็นจะเป็น “การบริการจากบริกร” นี่แหละครับที่เป็นปัจจัยเสริมทำให้เราทานข้าวได้อย่างสบายอารมณ์ ไม่หงุดหงิด
พนักงานที่ U Pattaya ถือว่าเฟรนด์ลี่มีความเป็นกันเองสูงมากครับ เหมือนเรามาทานข้าวบ้านเพื่อน แล้วพ่อเพื่อนเดินมาถามตลอด ว่าเป็นอย่างไรบ้าง อาหารพอทานได้ไหม แล้วก็เทคแคร์ดูแลอย่างดี … ผมว่าสิ่งเหล่านี้ก็สำคัญไม่แพ้กันนะครับ
ทำให้เราสามารถจ่าย Service Charge 10% ได้โดยไม่มีข้อกังขา
แถมบิลคิดเงินออกมาผมยังติดทิปให้อีก 100 นึง!!