“สิงคโปร์ทริปนี้ พี่ไม่ได้มาเล่นๆ”
เมื่อต้องประชันหน้ากับประเทศที่ได้ชื่อว่า “มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุด” ติดอันดับต้นๆ ของเอเชีย
ประเทศที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา ชนิดที่ว่า ถ้าไม่ได้มาสัก 2-3 ปี เราอาจจะตามเทรนด์ที่นี่ไม่ทัน!!
ประเทศที่สร้างความเจริญของชาติ ด้วยการวางฐานรากทางการศึกษาให้แข็งแรง ก่อนจะนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมและตามมาด้วย “การท่องเที่ยว” เป็นแม่เหล็ก
“สิงคโปร์” ดูเหมือนจะเป็นประเทศสร้างใหม่ ที่เริ่มต้นจากติดลบ จากเกาะเทมาเส็กในอดีตหรือ “เมืองทะเล” และ “พู เหลา ซุง” หรือโปวหวัวซาง ซึ่งแปลว่าปลายสุดของคาบสมุทร จากในอดีตที่ไม่เคยมีอะไรเลยกลายมาเป็นจุดแวะพักของเรือเดินสมุทร ทั้ง เรือสำเภาจีน เรืออินเดีย เรือใบอาหรับ และเรือรบของโปรตุเกส ไปจนถึงเรือใบบูจินีส จนกลายเป็นเมืองท่าทางการค้าที่สำคัญ โดยการเล็งเห็นของอังกฤษที่เข้ามายึดพื้นที่ดังกล่าวเพราะเห็นว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการทำการค้าของภูมิภาค โดยส่งผู้บุกเบิกคือเซอร์ โทมัส สแตมฟอร์ด แรฟเฟิลส์ มาเป็นผู้พลิกฟื้นเมืองท่าให้มีการค้าขายมากขึ้น และสร้างเศรษฐกิจของสิงคโปร์ให้มีความแข็งแกร่ง จนมาถึงเมื่อยุคประกาศเอกราช เมื่อ 50 ปีที่แล้ว “ลี กวน ยู” ผู้นำในสมัยนั้นประกาศจะสร้างชาติให้ผงาดขึ้นมาแถวหน้าให้ได้
และก็ทำได้จริงๆ ชาวสิงคโปร์จึงยกย่อง “ลี กวน ยู” เป็นวีรบุรุษผู้สร้างชาติ
หากไปหาบันทึกประวัติศาสตร์ไทยในช่วงสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 มาอ่าน จะพบว่ามีการพูดถึงสิงคโปร์อยู่บ่อยครั้ง
รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสต่างประเทศครั้งแรกก็คือสิงคโปร์ และพระองค์ทรงพระราชทานของขวัญที่สำคัญให้กับชาวสิงคโปร์ไว้หนึ่งอย่าง ซึ่งยังคงปรากฎเป็นโบราณวัตถุคือ รูปปั้นช้างสำริด ยืนอยู่บนแท่นสี่เหลี่ยม มีแผ่นป้ายเป็นภาษาไทยกำกับไว้ว่า “สิงคโปร์เป็นต่างประเทศแรกที่ราชวงศ์ไทยเสด็จพระราชดำเนินมาถึง” เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ.1871 (พ.ศ.2414) เป็นภาพสะท้อนของสัมพันธไมตรีอันดีงามของทั้งสองประเทศที่มีมาช้านานหลายชั่วอายุคน
แต่เดิมรูปปั้นช้างสำริดตั้งอยู่ที่ด้านหน้าของ Victoria Memorial Hall ก่อนที่จะย้ายมายังที่ตั้งปัจจุบันคือบริเวณ The Old Parliament House
สิงคโปร์ 2019 กลายเป็นเมืองเศรษฐกิจและท่องเที่ยวที่หลายคนนึกอยากมา จึงทำให้สิงคโปร์ กลายเป็นจุดหมายปลายทางแรกที่หลายคนคิดถึง อีกทั้งยังเป็นประเทศฟรีวีซ่าสำหรับคนไทย ทำให้เก็บกระเป๋าแล้วมาเที่ยวได้ทันที
สิงคโปร์มักจะมีอะไรให้เราตื่นเต้นได้ตลอดเวลา แม้ว่าจะ (เคย) เป็นประเทศที่ไม่มีอะไรเลยมาก่อนก็ตาม ไม่มีตึก ก็ก่อตึก ไม่มีป่า ก็ปลูกป่า ไม่มีวัฒนธรรม ก็สร้างวัฒนธรรมใหม่ขึ้นมา
Cultural is Dynamic วัฒนธรรมมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ
JEWEL คือตัวอย่างล่าสุดที่เราเห็น เป็นห้างใหม่ ติดกับสนามบินชางงี สิงคโปร์ หรือจะเรียกว่าห้างในสนามบินก็ได้ครับ เพราะเชื่อมต่อกันเลยทีเดียว เที่ยวง่า เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของสิงคโปร์เค้า เป็นห้างใหม่ เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้
เพราะผู้นำสิงคโปรคิดว่า ถ้าเราไม่มีป่า เราไม่มีน้ำตก เราก็ยกมันมาไว้ในเมืองเสียเลย ทำให้ที่นี่มีจุดเด่นคือ “Rain Vortex” เป็นน้ำตกสูง 40 เมตร ถือเป็นน้ำตกในร่มที่สูงที่สุดในโลก บริเวณตรงกลางก็จะเห็นมีรถไฟเชื่อมระหว่าง terminal วิ่งผ่าน เก๋เข้าไปอี๊กกกกก เหมือนสำรวจโลกอนาคต เมืองอวตาร แต่ต้องเป็นคนที่มีไฟล์ทบินเท่านั้น ถึงจะสามารถนั่งรถไฟผ่านใจกลาง JEWEL ได้ แต่คนทั่วไปก็เดินชมด้านล่างเป็นหลักครับ
ใน JEWEL มีหลายอย่างที่น่าสนใจครับ ไม่ว่าจะเป็น เค้าท์เตอร์สนามบินที่สามารถเช็คอินก่อนได้ทันทีที่นี่ สามารถโหลดกระเป๋าเดินทางได้ทันที ไม่ต้องลากกระเป๋าให้กวนใจ มีร้านค้ากว่า 300 ร้านและมีโรงแรมด้วยชื่อ Yotel Air มีร้านเค๊ก Lady M และเป็ดย่างมิชลิน KAM’s ROAST จากฮ่องกงมาเปิด มีร้านอาหารชื่อดังจากนานาประเทศ Pink Fish จากนอร์เวย์, ร้านเบอร์เกอร์ Shake Shack จากนิวยอร์ก, ร้าน TONITO ขายอาหารเปรู, ร้านอาหารจีน Xiao Bin Lou และ Yu’s Kitchen, มีร้านขายทุกสิ่งอย่าง Tokyu Hands จากญี่ปุ่น Nike Shop ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กินพื้นที่ 2 ชั้น มีโรงหนังรวม 11 โรง มีโรง IMAX ด้วย ที่นี่ยังมีสวนสนุกสำหรับครอบครัว Canopy Park ท่ามกลางธรรมชาติ และยังมี Changi Experience Studio คล้ายๆ TeamLab เหมาะสำหรับสายอาร์ตด้วยครับ
คนเนรมิตไอเดียเหล่านี้ให้ออกมาเป็นรูปธรรมและนำหน้าใครในเอเชีย ก็คือ Moshe Safdie คนเดียวกับที่ออกแบบ Marina Bay Sands โรงแรมในฝันของใครหลายคน Moshe Safdie ทำให้ชางงี เป็นมากกว่าสนามบิน เพราะตอนนี้ใครๆ ก็อยากมาเช็คอินที่นี่ ใครที่กำลังแพลนเที่ยวสิงคโปร์อยู่ อาจจะต้องเพิ่มรายการนี้เข้าไปด้วยนะครับ เผื่อเวลามาเดินเล่นถ่ายรูป จะมาก่อนเลยหลังจากรับกระเป๋าที่สนามบิน หรือมาก่อนไปเช็คอินขึ้นเครื่องก็ได้ครับ
กานต์แวะเที่ยวที่นี่ตั้งแต่ตอนลงเครื่องเลยครับ เพราะตื่นเต้นมาก ทนไม่ไหว อยากสัมผัสความอลังการที่สร้างได้เต็มที และก็บอกได้คำเดียวว่า “ไม่ผิดหวัง” จริงๆ
เดินเล่น JEWEL ก็ว่าจะเข้าโรงแรมก่อน เอากระเป๋าไปเก็บและทำเรื่องเช็คอินให้เรียบร้อย กะเวลาดูแล้วประมาณบ่าย 4 กำลังดี ที่เค้าท์เตอร์เช็คอินโรงแรมคนคงเริ่มซาๆ เพราะว่าทริปนี้ กานต์พักที่ โรงแรม Marina Bay Sand อีกหนึ่งไฮไลท์ของสิงคโปร์ที่ต้องมาเก็บครับ
การเดินทางที่สิงคโปร์ก็ง่าย จะใช้รถไฟฟ้า MRT ก็มีโครงข่ายครอบคลุมเกือบทั้งเมือง หรือจะเรียกแท๊กซี่ก็ได้ เนื่องจากเราลงไฟล์ทเช้า ก็จะต้องเข้าโรงแรมเพื่อเอากระเป๋าไปเก็บก่อน จากนั้นก็จะเที่ยวตามเช็คลิสต์ที่มี คาดว่าเวลา 5 วันที่นี่ น่าจะพอ โดยเริ่มจาก
• นั่งกระเช้าไปเกาะ Sentosa
• ไปศึกษาประวัติศาสตร์การค้าที่พิพิธภัณฑ์การเดินสมุทร (The Maritime Experiential Museum)
• โลกใต้ทะเล S.E.A. Aquarium
• พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสิงคโปร์
• National Gallery Singapore พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่
• Henderson Bridge สะพานบิดเกลียว
• Garden by the Bay สวนป่าที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม
• Flower Dome โดมดอกไม้หลากสีสัน
• Cloud Forest น้ำตก 7 ชั้นกลางป่าฝนเขตร้อน
• Marina Barrage พื้นที่สาธารณะเหนือเขื่อนที่วิวสวยสุด
• พิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์ ArtScience Museum
• Red Dot Design ศูนย์รวมความคิดสร้างสรรค์งานออกแบบ
• Fort Canning จุดถ่ายรูปที่ต่อคิวกันนานมาก
• ตึกหลากสีที่อาคารกองบัญชาการตำรวจแห่งสิงคโปร์
สถานที่เที่ยวส่วนหนึ่งอาจจะต้องเสียค่าบัตรเข้าชม ผมจึงตั้งใจว่าจะทำการจองผ่าน Traveloka Xperince ซึ่งเป็นฟีเจอร์บริการใหม่ของทราเวลโลก้าที่เพิ่มเข้ามา นอกเหนือไปจากการจองตั๋วเครื่องบิน และโรงแรม ซึ่งเราก็จองผ่าน app ของ Traveloka ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นครับ ทำให้การเที่ยวสิงคโปร์ของผม สะดวกสบายมากขึ้นไปอีกเมื่อมี Traveloka มาช่วยดูแลทริป จองตั๋วเที่ยวสิงคโปร์ได้ที่ >> www.traveloka.com
ทริปนี้พักที่โรงแรม Marina Bay Sands ครับ โรงแรมสุดหรู อีกหนึ่งแลนด์มาร์กของสิงคโปร์ ที่ทุกคนต้องมา นอกจากจะถ่ายรูปกับเมอร์ไลออน และการ์เด้น บาย เดอะ เบย์แล้ว ก็ต้องให้ติดแบ๊กกราวน์เป็นโรงแรมทรงไพ่ ออนท๊อปด้วยเรือลำใหญ่ชั้นบนสุด ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำด้วย ซึ่งเป็นจุดที่ถ่ายรูปสวยมาก (แต่คนเยอะไปหน่อย) ส่วนใครที่ไม่ได้พักที่นี่ก็สามารถซื้อบัตรขึ้นมายังจุดชมวิวได้ รับรองว่าคุ้มต่าตั๋วแน่นอน สามารถซื้อผ่านฟีเจอร์ Xperience ของ Traveloka ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยัง สามารถจองที่พัก มาริน่า เบย์ แซนด์ กับ Traveloka ได้ >> ที่นี่
อ่านรีวิวโรงแรม Marina Bay Sands ฉบับเต็มได้ที่นี่ >> https://www.kant.co.th/marina-bay-sands-hotel-singapore/
ถ้ามาสิงคโปร์แล้วอยากเข้าใจประวัติศาสตร์ อยากให้เริ่มจาก ไปเที่ยว “พิพิธภัณฑ์เดินสมุทร” ที่เกาะ Sentosa ก่อน จากนั้นค่อยไปดูเพิ่มเติมที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสิงคโปร์ แล้วจบที่ National Gallery Singapore พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ ก็จะทำให้เข้าใจประเทศสิงคโปร์ได้ครบในทุกมิติครับ
• เกาะ Sentosa
เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินชื่อเกาะนี้ และปกติจะนิยมนั่งรถไฟใต้ดินกันมา แต่ว่าคราวนี้อยากเปลี่ยนบรรยากาศ เพราะเชื่อว่าหลายคนก็ไม่รู้ว่าในการเดินทางมาเซ็นโตซ่านั้น สามารถนั่งกระเช้ามาได้ด้วย (หรือใครจะเดินเท้ามาก็ได้นะครับระยะทางไม่ไกลมาก)
วิธีการนั่งกระเช้ามาก็แสนง่าย เริ่มจากไปนั่ง MRT มาลงที่ Vivo City จากนั้นเดินตามป้ายบอกทางไป Cable Cars จัดการจองตั๋วมาแล้วจาก Traveloka พอมาถึงหน้าเค้าทเตอร์ก็แลกรับตั๋วจริงอีกที เพราะเจ้าหน้าที่จะต้องเช็คตลอดว่าเรานั่งจากไหนไปไหน
เดิมเกาะ Sentosa เป็นที่อยู่ของชาวประมงแต่หลังจากเกิดโรคระบาดบนเกาะ มีผู้คนเสียชีวิตเสียชีวิตกันเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการอพยพไปยังที่อื่น และมีการตั้งชื่อเกาะนี้ว่า “Belakang Mati” ซึ่งแปลว่า เกาะแห่งความตายตามความหมายในภาษามลายู จนกระทั้งรัฐบาลสิงคโปร์ได้มีการเปลี่ยนชื่อในภายหลังว่า เกาะ Sentosa ซึ่งแปลว่า “เกาะแห่งความสุข” ในภาษามลายู และได้พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวจนกลายมาเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งของสิงคโปร์
ที่กระเช้าลอยฟ้า จะมีทั้งเส้นทางข้ามเกาะ 3 สถานี และเส้นทางภายในเกาะอีก 3 สถานี วิวมุมสูงก็สวยดีครับ ใช้เวลาไม่นานนัก ระหว่างนั่งก็จะผ่านทะเลและ
ใครมาถึงแล้วก็อย่าลืมเช็คอ
เกาะเซ็นโตซ่า นอกเหนือจะมีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่น่าสนใจอย่าง Resorts World Sentosa แล้ว พื้นที่ส่วนที่เหลือบนเกาะ แบ่งออกเป็น
• พิพิธภัณฑ์การเดินสมุทร (The Maritime Experiential Museum)
เราเริ่มต้นศึกษาเรื่องราวของสิงคโปร์กันที่ พิพิธภัณฑ์การเดินสมุทร (The Marritime Experiential Museum) อยู่อาคารเดียวกับอความเรีย
ภายในจะเป็นเรื่องราวการล่าอาณานิคม การค้าขายทางเรือระหว่างประเทศ ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับการเดินเรือที่ส่งให้สิงคโปร์มีความก้าวหน้าและมีชื่อเสียงในด้านการเป็นท่าเรือที่สำคัญของภูมิภาคนี้ เมื่อเข้าไปด้านในจะเจอเรือจำลองขนาดใหญ่ ที่ด้านในจะจัดฉายเรื่องราวของนายพลเจิ้งเหอ (Zheng He) แม่ทัพชาวจีนที่เดินทางข้ามน้ำข้ามมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งถือเป็นการเดินเรือที่ระยะทางไกลที่สุดครั้งหนึ่งของโลก
ภายในยังแบ่งเป็นโซนต่างๆ เช่น The Souk เป็นการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ที่เก็บรักษาและค้นพบขณะเดินเรือไปในเส้นทางสายไหน Jewel of Muscat เป็นซากเรือโบราณที่ถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ.1998 เคยเครื่องบรรณาการที่สิงคโปร์มอบให้กับโอมาน ในช่วงศตวรรษที่ 9 หรือประมาณ 1,200 ปีที่ผ่านมา ทว่าเรือได้ถูกพายุพัดจนดำดิ่งสู่ท้องมหาสมุทรในที่สุด ต่อมาประเทศโอมานได้กู้ซากและมอบซากเรือดังกล่าวให้กับรัฐบาลสิงคโปร์ และได้นำมาปรับปรุงจนเป็นเรือที่สมบูรณ์และนำมาจัดแสดงให้ได้ชมกัน
นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์ที่เหมาะกับคนที่ชอบอ่านตำนานการผจญภ
ที่นี่ออกแบบโดย Ralph Appelbaum Associates ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบพิพิธภ
• โลกใต้ทะเล S.E.A. Aquarium
ติดกันกับ พิพิธภัณฑ์การเดินสมุทร เป็นพิพิธภัณฑ์โล
แน่นอนว่า ผมจองตั๋วผ่าน Traveloka ควบกันเพราะได้ราคาดี และไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิว
S.E.A. Aquarium เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์แสดงสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยปริมาณน้ำกว่า 60 ล้านลิตร มีการจัดแสดงสัตว์น้ำนานาพันธุ์นับแสนตัว จาก 800 สายพันธุ์ ที่นี่มีสัตว์ทะเลหลายชนิดเ
ไฮไลท์ก็จะเป็นจุดชมฉลาม พร้อมกับนิทรรศการถาวรช่วยก
อีกจุดคือ Touch zone ที่เราจะได้สัมผัสปลาดาวและ
• พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสิงคโปร์
ผมต้องซื้อบัตรออนไลน์จาก app Traveloka มาชมที่นี่ถึง 2 วัน เพราะตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะม
ตัวอาคารขลังมากครับ ออกแบบโดย Sir Henry Edword McCallum ส
พิพิธภัณ
นิทรรศการที่น่าสนใจ เช่น VOICE OF SINGAPORE ที่บอกเล่าเรื่องราวของสิงคโปร์ในอดีตได้อย่างน่าสนใจ นิทรรศการ Seen & Heard in Singapore : Island Ecologies Today and in the Time of Wiliam Farquhar บอกเล่าลักษณะของระบบนิเวศวิทยาและสัตววิทยาทั้งพืชพรรณและสัตว์ต่างๆ ในภูมิภาคนี้
ประวัติศาสตร์ สังคม ศิลปะและวัฒนธรรมของสิงคโปร์ถูกบอกเล่าผ่านแง่มุมที่หลากหลายในพิพิธภัณ
แต่ที่ผมชอบคือโซนฉายหนังในอดีต นั่งดูบนรถเก๋ๆ มีโปสเตอร์หนังเก่าๆ จัดแสดงให้ดู สะท้อนถึงเรื่องราวอุตสาหกรรมการผลิตและบริโภคภาพยนตร์ของคนสิงคโปร์
ต้องขนานนามว่าเป็นพิพิธภัณ
• National Gallery Singapore พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่
มาต่อกันที่การศึกษาเรื่องราวของสิงคโปร์ผ่านงานศิลปะกันบ้างครับ ต้องไปกันที่ National Gallery Singapore เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ และเนื่องจากกานต์จองตั๋วผ่าน Traveloka เมื่อได้ e-ticket มาก็ติดต่อที่เค้าท์เตอร์อี
ใครสายอาร์ตต้องไม่พลาดพิพิ
ที่นี่มีการจัดแสดงผลงานของ
นอกจากนิทรรศการศิลปะแล้ว อย่าลืมขึ้นไปดูวิวที่ชั้นบ
หอศิลป์ที่มีระบบการจัดการที่ได้มาตรฐานสากล ทำให้มีนิทรรศการของศิลปินร
• ตึกหลากสีที่อาคารกองบัญชาก
อยู่ไม่ไกลจาก National Gallery Singapore พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ แต่ก่อนเคยเป็น กองบัญชาการตำรวจแห่งสิงคโป
• Red Dot Design ศูนย์รวมความคิดสร้างสรรค์ง
สิงคโปร์เป็นสวรรค์ของคนชอบ
ผมซื้อตั๋วออนไลน์จาก Traveloka เช่นเคย เมื่อไปถึงก็สามารถแสกนโค๊ด
เข้ามาก็ตื่นตาตื่นใจ ผมเป็นคนชอบเรื่องดีไซน์อยู
พิพิธภัณฑ์เรด ดอท ดีไซน์ ย้ายมาอยู่ตรง Marina Boulevard ใกล้กับห้าง The Shoppes แล้วนะครับ
• พิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์ ArtScience Museum
อยู่โซนเดียวกับมารีน่า ติดกับห้าง The Shoppes ครับ เดินมาจาก Red Dot ได้ ไม่ไกลนัก
เราคงเคยเห็นอาคารที่เป็นเห
เช่นเคยผมซื้อตั๋วจาก Traveloka ซึ่งต้องดูให้ดี เพราะมีตั๋วขายแบบคอมโบกับส
ArtScience Museum มีพื้นที่รวมกว่า 6,000 ตารางเมตร เป็นสถานที่จัดงานนิทรรศการ
ส่วนตัวผมชอบนิทรรศการ Future World : Where Art Meets Science เป็นนิทรรศการจาก Teamlab ที่เคยไปชมที่ญี่ปุ่นมาแล้ว
• Henderson Bridge สะพานบิดเกลียว
เรื่องงานออกแบบดีไซน์ก็คงต
• Fort Canning อุโมงค์ต้นไม้จุดถ่ายรูปที่
เพราะรู้ว่าคนเยอะเลยต้องมา
• Marina Bay
กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ที่ทั่วโลกคุ้นเคยไปเสียแล้ว เป็นลักษณะท้องน้ำตามหลักฮวงจุ้ยคือจุดรับทรัพย์ จะเห็นว่าตึก อาคารใหญ่โต โดยเฉพาะบริษัทเกี่ยวกับหลักทรัพย์และเงินทอง ธนาคาร ดีไซน์ล้ำยุค ทำให้กลายเป็น CBD Central Bussiness District ไปโดยปริยาย
• Garden by the Bay สวนป่าที่โดดเด่นด้วยสถาปัต
สวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ริมอ่าวมารีน่า ใจกลางสิงคโปร์ ที่นี่เกิดจากการถมทะเลสร้างขึ้นมา กินพื้นที่มากถึง 600 กว่าไร่ (ถือว่าใหญ่มาก) Garden by the Bay สวนป่าที่โดดเด่นด้วยสถาปัต
การเดินจากห้าง The Shoppes ทะลุเข้ามายังตัวโรงแรม Marina Bay Sands เพื่อจะผ่านไปยัง Garden by the Bay ไปชม Super Tree ที่สูงเท่าอาคาร 9 -16 ชั้น หรือประมาณ 25-50 เมตร ส่วนปลายด้านบนบานออกเหมือนปากแจกันที่มีโครงสานไขว้กันไปมา ดูงดงามล้ำสมัยมาก โซนนี้ดูฟรี แต่หากใครจะขึ้นไปด้านบนทาง
• Cloud Forest น้ำตก 7 ชั้นกลางป่าฝนเขตร้อน
หนีร้อนมาเข้าโดมกันดีกว่า ที่ Cloud Forest อากาศเย็นสบายดีมาก ชุ่มฉ่ำด้วย (อดีต) น้ำตกในร่วมที่สูงที่สุดในโ
ซื้อตั๋วออนไลน์ผ่าน Traveloka เช่นเคย ดีหน่อยไม่ต้องไปต่อคิว ไม่ต้องไปแลกบัตร โชว์บาร์โค๊ดก็สแกนได้เลยง่
ในส่วนของ Cloud Forest ใช้จัดแสดงพรรณไม้ที่มีต้นกำเนิดเติบโตอยู่บนพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,000 เมตรขึ้นไป อากาศด้านในโดมจึงจะเย็นกว่าปกติ เข้ามาก็เจอการจำลองภูเขา และน้ำตกสูงเท่ากับตึก 7 ชั้น ที่ปกคลุมไปด้วยพรรณไม้นานาพันธุ์ เข้าไปก็เจอแต่ดอกไม้ พันธุ์ไม้ เน้นไม้ป่า เป็นหลัก เราสามารถขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุด แล้วเดินทางมาตามทางลาดลงมาแต่ละชั้น มีเขียนคำอธิบายให้ความรู้ไ
• Flower Dome โดมดอกไม้หลากสีสัน
อยู่ติดกันกับ Cloud Forest ตอนซื้อตั๋วจาก app Traveloka ก็ให้เลือกเป็นแบบแพ็กเกจคู
เช่นเคยก็แค่สแกนบาร์โค๊ดแล
ภายในโดมประกอบด้วยสวนย่อยๆ จากทั่วทุกมุมโลก ที่ต่างพากันอวดชูช่อ รอให้เราไปทักทาย ถ่ายรูปด้วย ก็จะมีดอกไม้หลายสายพันธุ์ แบ่งเป็นโซนต่างๆ ตามทวีป สายเอเชียก็คุ้นตาหน่อยแต่ก
• Marina Barrage พื้นที่สาธารณะเหนือเขื่อนท
มารีน่า บาร์ราจ (Marina Barrage) เป็นเขื่อนกั้นน้ำที่ต่อขยา
ช่วงค่ำนี่คือไฮไลท์เลยครับ
การเดินทางสามารถเดินเท้าจา
• Wonder Full-Light & Water การแสดงแสงสีสุดอลังการ
เรียกได้ว่า ถูกบรรจุไว้ในลิสต์เที่ยวสิ
หลายคนบอกว่า เป็นการแสดงน้ำพุประกอบแสง สี เสียงที่มีชีวิตชีวา และสวยงามตระการตามาก คนเลยเยอะเป็นพิเศษในช่วงค่ำ จะใช้เวลาแสดงประมาณ 15 นาที บริเวณที่สามารถชมการแสดงได
แต่มาสิงคโปร์คราวนี้ ผมได้เพิ่มความพิเศษด้วยการ
ใครสายมู แถมโปรแกรมเช็คอินไหว้พระวั
เป็นวัดจีนในศาสนาพุทธ นิกายมหายาน ที่มีสถาปัตยกรรมของอาคารที
โถงชั้นล่างของวัดมีชื่อว่า Hundred Dragon Hall เป็นโถงที่ใหญ่ที่สุดของวัด ตรงกลางเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์พระศรีอาริยเมตไตรยความสูง 27 เมตร และยังมีพระพุทธรูปองค์น้อยใหญ่ตั้งอยู่ร่วมกว่าอีกพันองค์ นอกจากนี้ยังมีองค์ประทับเจ้าแม่กวนอิม มีพระพุทธรูปองค์เล็กติดอยู่รอบกำแพง ถือว่าเป็นวัดที่อลังการสวย
ส่วนใครชอบเรื่องกิน คงไม่พลาดข้าวมันไก่ Tian Tian ในฟู๊ดคอร์ด MAXWELL ตรงข้ามวัดพระเขี้ยวแก้ว ถ้ามาสิงคโปร์แล้วไม่ได้ทานข้าวมันไก่ไหหลำร้านนี้ ก็เหมือนมาไม่ถึงสิงคโปร์ ด้วยเอกลักษณ์ความหอมของข้าวมัน และเนื้อไก่ที่แน่น จากไก่สายพันธ์ุดีทานกับน้ำจิ้มเผ็ดที่ปรุงพิเศษสังเกตเอาว่าร้านไหนแถวยาวส
ใกล้กันคือร้านข้าวมันไก่ Ah Tai ก็อร่อยไม่แพ้กัน เพราะพ่อครัวเคยทำงานที่ร้าน Tian Tian มาก่อน
อีกเจ้าคือบ๊ะกุ๊ดเต๋ (กระดูกหมูและน้ำชา) ชื่อร้าน SONG FA ราคาสูงพอสมควร แต่ข้อดีคือเติมซุปได้ไม่อั
ส่วนอีกอย่างที่ผมชอบและเจอ
แต่ลองสั่งแบบฮาฟๆ เนื้อปูมาด้วย ไม่ค่อยชอบเท่าไร แนะนำว่าสั่งเป็นลอปสเตอร์เ
กานต์พาเช็คอินถิ่นสิงคโปร์
Singapore Signature
จองตั๋วเข้าชม และบัตรเที่ยวสิงคโปร์ได้ที่ app Traveloka
และที่ www.traveloka.com