Healthy talk with Sarah Hoey by Pullman LuangPrabang Hotel

“Change your attitude and you change your life. You cannot control what happens to you in your life, but you can always control how you respond to it. The way you choose to respond is a reflection of your attitude. By changing your attitude, you also change your perspective and change your life. A positive attitude from you tends to produce a positive attitude toward you.”

ชีวิตและจิตใจที่ดี สร้างได้ ด้วยตัวเราเองครับ

หลังจากที่เขียนเรื่อง “ เรียนรู้จัก รักตัวเอง” ไปเมื่อหลายวันก่อน อ่านได้จากที่นี่ครับ >>> http://bit.ly/2IyA9ij
1 ข้อในนั้นคือการหันกลับมาดูแลสุขภาพกายและใจไปพร้อมกัน

เราเดินทางเพื่อไปเจอความแตกต่างของโลก
เราเดินทางเพื่อไปเสพสัมผัสโรงแรมดีไซน์สวยๆ
เราเดินทางเพื่อไปรู้จักกับผู้คนใหม่ๆ ที่เข้ามา
เราเดินทางเพื่อไปหาความรื่นรมย์ให้กับชีวิต
เราเดินทางเพื่อไปสร้างความแข็งแกร่งให้กับจิตใจ

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Accor ซึ่งเป็นเชนโรงแรมรายใหญ่ระดับโลก ชวนผมไปเที่ยว “หลวงพระบาง” เป็นการเดินทางไปหลวงพระบาง 4 เดือนติดกัน

ถามว่าเบื่อไหม … ไม่เลยครับ

ชอบในความสโลว์ไลฟ์ ประทับใจในความเรียบง่าย คราวนี้ไปพักที่ โรงแรมพูลแมน หลวงพระบาง Pullman Luang Prabang ท่ามกลางบรรยากาศทุ่งนา ป่าเขา ของเมืองลาว เราไปนั่งจับเข่าคุยกับ Sarah Hoey ซึ่งเป็น Wellness Ambassador ของ AccorHotels ที่มารอให้ความรู้เรื่องการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ

Sarah Hoey ในวัย มีความไม่ธรรมดาครับ ก่อนหน้านี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เธอเคยเป็นมะเร็งครับ แต่กลับหันหน้าสู้และเอาชนะมะเร็งได้ “ด้วยการออกกำลังกาย”

Sarah Hoey ได้รับกำลังใจและคำชื่นชมมากมาย โดยเฉพาะจากผู้หญิงด้วยกัน จนกลายเป็นทั้ง Personal Coach, Fitness Model และเชี่ยวชาญด้านอาหารและโภชนาการ ได้รับรางวัลมาแล้วนับไม่ถ้วน เธอจึงเดินทางสาย Healthy ไปยังทั่วโลกเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คนในเรื่องของการออกกำลังกายพิชิตโรค … รวมทั้งผมด้วย

เป็นเรื่องดีๆ ของผมที่ได้คุยกับ Sarah ได้ร่วมออกกำลังกายในบรรยากาศดี Sunset Yoga ช่วงพระอาทิตย์ตกงี้ สุขกายสุขใจดีมากครับ แถมได้ความรู้และเทคนิคในการดูแลตัวเองมาเยอะมาก โดยเฉพาะสิ่งที่ Sarah ย้ำอยู่เสมอ

live with attitude

อย่างที่บอก ผมมีนัดคุยกับ Sarah Hoey ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และเป็นนักโภชนาการที่มีประสบการณ์มามากกว่า 10 ปี อีกทั้งยังได้รับรางวัล Fitness Bikini Hawaii ในปี 2553 และ Fitness Model California ในปี 2554 ตอนนี้ซาร่ามุ่งมั่นที่จะส่งมอบแนวทางใหม่ในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม อีกทั้งมอบประสบการณ์ที่มีชีวิตชีวาและสร้างการมีส่วนร่วมด้วยการเดินทางไปตามโรงแรมพูลแมนทั่วโลก เพื่อส่งเสริมให้นักเดินทางดูแลตัวเองใส่ใจด้านสุขภาพเป็นกิจวัตรในระหว่างการเข้าพัก ซึ่งก่อนหน้านี้ ซาร่าก็เพิ่งจะมาเทรนให้ที่ Pullman Bangkok King Power ครับ นับเป็นคอนเซปต์ที่เท่มากของ PULLMAN HOTEL ทั่วโลก

ทริปเริ่มต้น การเดินทางครั้งแรกกับสายการบิน Lao Airlines เป็นเครื่องแบบ AT ใบพัด ผมนั่งริมหน้าต่างเลยเก็บภาพมาฝากกัน

เนื่องจากเครื่องเล็ก จะบินนานกว่าไอพ่น ใช้เวลาบินราวๆ 2 ชั่วโมงครับ พอตอนเครื่องใกล้แลนด์ มองเห็นเมืองหลวงพระบางในมุมสูง สัมผัสถึงชีวิตที่เรียบง่าย ริมสายน้ำ ท่ามกลางภูเขา เป็น “วิถีชีวิตเรียบง่ายและยั่งยืน” คอนเซปต์เดียวกับพูลแมน หลวงพระบาง

เมื่อถึงสนามบิน ทำเรื่องตรวจคนเข้าเมืองให้เรียบร้อย รถโรงแรมก็มารับพอดี มี macaron น้ำดื่มและผ้าเย็นมามอบให้เป็นของขวัญก่อนเลยครับ รสชาติหอมหวานดี

จากสนามบิน นั่งรถมาราวๆ 20 นาที ก็จะถึงที่โรงแรมพูลแมนหลวงพระบาง โรงแรมอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเก่า ห่างจากพระราชวังหลวงพระบางประมาณ 5 กิโลเมตร ทางไปน้ำตกตาดกวางสี ล้อบบี้มีความโปร่งโล่ง ตกแต่งแบบเรียบง่าย ล้อบบี้ได้แรงบันดาลใจมาจากกี่ทอผ้าของชาวบ้าน ใช้ลายเส้นแบบผ้าทอมาเป็นไอเดียในการออกแบบ พร้อมลวดลายผ้าทอที่งดงาม ชอบบรรรยากาศแบบนี้ มีความโอเพ่นแอร์ เพราะบางทีเราก็อยากสัมผัสธรรมชาติบ้างอะไรบ้าง

โรงแรมพูลแมน หลวงพระบาง

ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ อาคารด้านขวาคือล้อบบี้ และมีลานกว้างริมสระเป็นบาร์ไว้แฮงค์เอ้าท์ตอนเย็นถึงกลางคืนครับ อาคารหลังคาสีอิฐ คือห้องพักที่กระจายกันไปทั่วทั้งโรงแรม ที่นี่มีห้องพักให้เลือกหลากหลายรูปแบบ จำนวน 123 ห้อง

โรงแรมตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติแม่น้ำและภูเขาที่โอบล้อม ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์อันสวยงามของทุ่งนาขั้นบันได ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย เช่น ห้องอาหาร ฟิตเนสเซ็นเตอร์ สปา คิดส์คลับสำหรับเด็กที่เข้าพัก สระว่ายน้ำพร้อมสไลเดอร์ และห้องประชุม จำนวน 8 ห้อง รองรับคนได้ถึง 300 คน

เข้าห้องพักกันดีกว่าครับ ผมพักห้องดีลักซ์ ปิดทองมาให้เรียบร้อย 555 ไอเดียเก๋ดีครับ ชอบลายหมอนอิง สีสันสดใสดี ทีวีภายในห้องเราสามารถเช็คตาราง Pullman FIT ได้ครับ

ห้อง type นี้จะกว้าง 42 ตารางเมตร กลิ่นที่นอนหอมมากและแตกต่างจากโรงแรมอื่น การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เน้นไม้จริง เพราะที่นี่ไม้เยอะ วัสดุใช้แบบผ้า ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติ มองทะลุไปเป็นห้องน้ำ

ผมส่งภาพกว้างๆ มาให้ชมกัน

ในห้องมีการ์ดต้อนรับจาก GM มีขนมนมเนยใส่กระติ๊บมาให้ พร้อมผลไม้ตามฤดูกาล ที่สำคัญมีซูชิมะม่วง อร่อยมากกกกกก เสียดายได้กินคำเดียว 555 ส่วนถ้วยเล็กๆ สีขาว เป็นน้ำแช่มะนาว เอาไว้ล้างมือครับ

ทุกห้องจะเป็นวิวสวนหมด จริงๆ คือ วิวนาขั้นบันได เสียดายว่าถ้ามาหน้านา คงจะเขียวสวยกว่านี้มาก ด้านนอกห้องที่ผมพักจะมีระเบียงพร้อมที่นั่ง เอาไว้รับลมเย็นๆ ภายใต้ธรรมชาติ บรรยากาศของแม่น้ำและภูเขาที่โอบล้อม ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์อันสวยงามของทุ่งนาขั้นบันไดที่มองเห็นได้จากในห้องพักทุกห้องครับ

ตู้เสื้อผ้ามีสองด้าน ผมถ่ายมาตู้หนึ่ง แขวนอุปกรณ์ข้าวของที่จำเป็นต้องใช้ไว้ครบครัน ส่วนห้องน้ำก็แยกพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างชัด ทั้งอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ห้องอาบน้ำและห้องสุขา

Amenities ภายในห้องใช้ผลิตภัณฑ์ของ C.O. Bigelow แบรนด์ดังจากสหรัฐ ส่วนตัวชอบโลชั่นของชอบแบรนด์นี้ กลิ่นดี หอมมาก ติดตัวทั้งวัน ทำเอา BLUE DE CHANEL ล้มตึงไปเลย

ส่วนอุปกรณ์ดูแลผิวของผมที่พกพามาด้วยก็ประมาณนี้ครับ ส่วนตัวตอนนี้กำลังเห่อ Clarins Double Serum มากกกกกก

เอาเข้าจริง ผมสามารถนั่งๆ นอนๆ เล่นในโรงแรมได้หลายๆ วันโดยไม่รู้สึกเบื่อเลยนะ เพราะแค่การนั่งตรวจดูลมหายใจในบรรยากาศของธรรมชาติเท่านี้ก็ฟินละ

นอกจากจะได้เพลิดเพลินกับการพักผ่อนแล้ว แขกของโรงแรมยังสามารถเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในหลวงพระบาง กับโปรแกรมท่องเที่ยว 2 วันสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ประกอบด้วย การเดินป่าแบบเต็มวัน ผ่านป่าสักที่อุดมสมบูรณ์และเงียบสงบ พร้อมดื่มด่ำกับอาหารว่างแบบโฮมเมดริมฝั่งแม่น้ำ เยี่ยมชมฟาร์มนมควายลาว (Laos Buffalo Dairy) ของขึ้นชื่อ สนุกกับสัตว์น่ารัก ๆ ในฟาร์มเปิดอย่างใกล้ชิด ชิมผลิตภัณฑ์จากนมควายลาวสดใหม่ เยือนถิ่นเมืองล้านช้าง อนุรักษ์ช้างที่ MandaLao Elephant Camp ต่อด้วยการชมสุนทรีย์ศิลป์แห่งลาวที่ Ock Pop Tok (ออกพบตก) ศูนย์ทอผ้าและหัตถกรรมลาวแบบดั้งเดิม และกิจกรรมอื่นๆ ที่ทางโรงแรมจัดให้อย่างเต็มอิ่ม อาทิ คอร์สเรียนเกี่ยวข้าว การเก็บพืชผลในสวน ซึ่งเมื่อเก็บได้แล้ว ก็จะนำไปบริจาคให้กับค่ายอนุรักษ์ช้างมันดาลาวอีกด้วย

ส่วนผมชอบถ่ายรูป เห็นแดดกำลังสวย เลยชวนคนสวย น้องดาวสาวสวยหุ่นดีจากเพจ Fit Kab Dao และน้องลูกไม้สาวชุดแดง เจ้าแม่โยคะ มาถ่ายรูปในคอนเซปต์ทวิสต์ ใส่ชุดว่ายน้ำกลางทุ่งนาเสียเลย

เก๋ๆ แปลกตาไปอีกแบบครับ

สระว่ายน้ำของที่พูลแมนหลวงพระบางจะมี 3 สระ ที่เห็นนี้คือสระใหญ่ เป็นอินฟินิตพูล สามารถมองเห็นวิวโรงแรมได้รอบทิศทาง ต้องอาศัยนางแบบมาโพสต์โชว์บอดี้ฟิตหน่อย ให้สมกับเป็นสาวสุขภาพ

ส่วนอาแปะพุงพลุ้ยอย่างเรา ก็ไปเดินเล่นที่สระเล็กด้านหลังแทน

ชอบโทนสีของรูปนี้ครับ ดูแปลกตาดี

ได้เวลาคุยกับ Sarah Hoey เธออายุเยอะแล้วเหมือนกัน แต่ก็ยังถือว่าฟิตมากครับ สามารถออกกำลังกายได้ทั้งวัน แถมยังได้เดินทางไปทั่วโลก เพื่อส่งมอบประสบการณ์ดีๆ ให้กับแขกของพูลแมน จะว่าไปนักเดินทางอย่างเราก็จำเป็นที่ต้องแบ่งเวลาไปให้กับการออกกำลังกายด้วยในระหว่างเข้าพัก เพื่อเติมเต็มความสดชื่นอย่างสมบูรณ์แบบตลอดทริป

ผมว่าไอเดียของ Pullman Hotels & Resorts ครั้งนี้ดีมาก เพราะเห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นแก่นักเดินทางอย่างเราๆ เพราะเอาเข้าจริงๆ ถ้ายิ่งลูกค้ารู้สึกดีขึ้นและมีพลังมากขึ้นในระหว่างที่เข้าพักมากเท่าไร ยิ่งทำให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่คุ้มค่ามากขึ้นเท่านั้น มันเป็นอีกประสบการณ์ที่ได้รับจากโรงแรม

ผมว่าดี

โปรแกรมนี้ ซาร่า เป็นคนออกแบบ โดยอาศัยแนวทางอ้างอิงจาก 4 ปัจจัยหลักด้านสุขภาพ คือ การนอนหลับพักผ่อน อาหาร กีฬา และสปา ซึ่งแต่ละปัจจัยสามารถปรับแต่งตามหลักพื้นฐาน 4 ประการ คือ การชะลอความแก่ การเสริมสร้างพลังงาน การปรับสมดุลของร่างกาย และการดีท็อกซ์

Sunset Yoga Class ถือเป็นโปรแกรมที่เก๋มาก เป็นการออกกำลังกายภายใต้แสงพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน ซาร่าบอกว่า หัวใจสำคัญของโปรแกรมเพื่อสุขภาพนี้คือการเข้าถึงคนในวงกว้าง ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด เวลาใด ไม่ว่าจะมีชีวิตประจำวันหรือวิธีการดูแลตัวเองอย่างไร แม้แต่จะเที่ยวก็ต้องไม่ลืมที่จะดูแลสุขภาพด้วย

เมื่อสุขภาพกายดี หุ่นดีแบบน้องลูกไม้ แถมยังเป็นคนสุขภาพจิตดีด้วย นางแฮปปี้ทั้งวัน

ทางไปห้องอาหาร L’Atelier ซึ่งเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม แยกตัวอาคารออกมาต่างหาก กับการออกแบบที่อิงอาคารเก่าของสถาปัตยกรรมแบบหลวงพระบางมาใส่ ในบรรยากาศแบบธรรมชาติ

ตลอดระยะเวลาของการเข้าแคมป์ เอ๊ยย เข้าพัก ผมจะได้ร่วมโต๊ะทานข้าวกับซาร่า ทุกมื้อ และ “เป็นอาหารเพื่อสุขภาพทุกมื้อ” ที่มีการปรุงรสที่แปลกและแตกต่างกันไปในแต่ละมื้อ โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่าง Sarah Hoey กับ Marc Comparot หัวหน้าพ่อครัวของที่นี่ จะเป็นคนคิดค้นสูตรและปรุงมาให้ ท่ามกลางบรรยากาศของห้องอาหาร L’Atelier ของโรงแรม ที่จัดวางได้อย่างงดงาม น่าประทับใจ

ชอบการออกแบบห้องอาหาร L’Atelier มากครับ ดูโมเดิร์น แต่เรียบง่าย สามารถสื่อสารความเป็นครัวนอกบ้านแบบบ้านของชาวลาว มีการแขวนกะทะ อุปกรณ์เครื่องครัวโชว์ เน้นสีสันสดใส ส่วนการตกแต่งภายใน ใช้โมเสคต่อเป็นลายคล้ายผ้าถุงของคนลาว งดงามมากครับ

Marc Comparot หัวหน้าพ่อครัว อัธยาศัยไมตรีดีมาก อยู่มาแล้วหลายประเทศ ภูเก็ตก็เคยมาอยู่ มีภรรยาเป็นคนชัยภูมิ มาร์ค ตลกดีครับ คุยด้วยแล้วรู้เลยว่าเป็นคนที่มีแพชชั่นในการทำอาหารมาก

มาร์คเป็นผู้รังสรรเมนูที่หลากหลายจากผลิตผลของสวนครัวภายในโรงแรมพูลแมนหลวงพระบางแห่งนี้ โดยนำมาปรุงเป็นเมนูเฮลตี้ ผมเลือกมาให้ดู 4 จานครับ คือ
สลัดบีทรูท รสธรรมชาติมากๆ เน้นความสดของวัตถุดิบ
ผัดไท ใช้ผักต่างๆ แทนเส้น เน้นรสชาติที่จัดจ้าน สลับกับจานแรก
สลัดแตงโม จานนี้ชอบมากครับ ให้ความรู้สึกสดชื่น นุ่มนวล
ส่วนซูชินี่ ชามสุดท้าย ใช้แตงกวา แครอท และมะเขือเทศเข้ามาเป็นวัตถุดิบหลัก รสชาติแปลกดี แต่ผมไม่ค่อยชอบทานมะเขือเทศเท่าไร

“ส้มตำคลีน”

เมนูสุขภาพก็มีของหวาน ตามสไตล์ เป็นมูสช็อคโกแลตผสมอะโวคาโด ท๊อปด้วยครีมมะพร้าว และพีนัทบัตเตอร์ โรยด้วยถั่ว อร่อยมากกกกกก

ห้องอาหาร L’Atelier ของโรงแรมพูลแมน มีความโดดเด่นคือการเนรมิต “สวน” ขึ้นภายในโรงแรม เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร ซึ่งมีเมนูที่หลากหลายจากผลิตผลของสวนครัวแห่งนี้ รวมถึงวัตถุดิบอื่น ๆ ที่ได้มาจากตลาดเช้าของลาว และ “นมควายลาว” ที่ได้จากฟาร์มสด ๆ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของลาว เพื่อเสิร์ฟความอร่อยตลอดทั้งวัน

สำหรับใครที่ดูแลสุขภาพ ที่นี่จะมีมุมอาหารเช้าเพื่อสุขภาพแยกสเตชั่นออกไป เป็นไลน์อาหารเช้าเพื่อเสริมสร้างพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของแต่ละบุคคล อาทิ อาหารที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล และอาหารที่ไม่มีส่วนผสมของโปรตีนจากข้าว นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ช่วยชะลอความแก่ เสริมสร้างพลังงาน ปรับสมดุลของร่างกาย และดีท็อกซ์

เสร็จจากห้องอาหารก็มืดพอดี มีบรรยากาศยามค่ำคืนมาฝากกัน จะมีไฟส่องสว่างตามทางเดิน เนื่องจากห้องพักจะอยู่กระจายกันออกไป แปลกที่ไม่เจอยุงระหว่างเดินเล่น แต่อากาศตอนกลางคืน เย็นพอสมควรครับ แตกต่างจากกลางวันที่ร้อนมาก

กลับเข้าห้องมาก็เจอกระเป๋าผ้าและผ้าพาดไหล่ ที่ระลึกจากทางโรงแรม เอามาวางไว้ที่เตียง เป็นของโครงการ Ock Pop Tok (ออกพบตก) ซึ่งผมเคยไปเที่ยวมาแล้วเมื่อเดือนก่อน

ออกพบตก คือ คำแปลที่มากจาก “East meet West” เป็นการเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากันผ่านสิ่งทอ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวคิด วัฒนธรรม ก่อตั้งโดย “แวว” สาวชาวลาว ร่วมกับ “โจ แอน” ช่างภาพสาวชาวอังกฤษ เพื่อเน้นงานสิ่งทอซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พื้นบ้านของลาวที่ก่อให้เกิดการจ้างงานที่ยั่งยืนต่อคนในท้องถิ่น ผ่านการผลิตและการตลาดสิ่งทอที่มีคุณภาพสูง

ดูเรื่องออกพบตก เพิ่มเติมได้ที่นี่ http://bit.ly/2Eyb5nx

ในตอนเช้าเรามีกิจกรรม บูสแคมป์ เป็นการออกกำลังกายในฟิตเนสของทางโรงแรม โดยอาศัยอุปกรณ์และแมชชีนต่างๆ ของทางโรงแรมที่เปิดให้บริการแขกอยู่แล้ว โดยมีซาร่า เป็นคนคอยแนะเทคนิคในการออกกำลังกายและสร้างแรงบันดาลใจ

เอาล่ะ เราเริ่มจากการวอร์มอัพบนลู่วิ่งก่อนเลย

แขกของโรงแรมสามารถมาใช้บริการฟิตเนสได้ตลอดทั้งวันครับ นอกจากซาร่าแล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์การกีฬา คอยประจำเพื่ออำนวยความสะดวก แนะนำการใช้เครื่องมือและการออกกำลังกายให้กับแขก ซึ่งอุปกรณ์ก็ถือว่าครบครัน ทั้งฟรีเวท บาร์และแมชชีนครับ

ผมในฐานะในไม่สายฟิตเนส ก็ไม่รู้ว่าเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้เรียกว่าอะไร แต่รู้ว่ามันเอนกประสงค์มากครับ มีหลายเครื่องเล่นอยู่ในเครื่องเดียวกัน เหมือนเวียนฐาน ถ้าเล่นหลายคนก็สนุกดี

ซาร่าลองให้แต่ละคนใช้อุปกรณ์คนละอย่าง โดยจับเวลา 3 นาที ก่อนเวียนฐาน

TRX หรือ Total body Resistance eXercise เป็นอุปกรณ์การฝึกการออกกำลังกายซึ่งค่อนข้างใหม่ มีคุณสมบัติน่าทึ่ง จุดเด่นคือ “Core all the times” เรียกว่าเป็นการใช้และฝึกกล้ามเนื้อ เเกนกลางลำตัว และในทุกๆท่าการเคลื่อนไหว สามารถประยุกต์ฝึกได้หลากหลายรูปแบบ

เห็นกล้ามน้องลูกไม้ แล้ววววววว แน่นมาก

จากนั้น ขึ้นไปต่อกันที่ด้านบนของฟิตเนสครับ เป็นการเล่นโยคะพร้อมดัมเบลล์ รับอรุณ ฟังที่ซาร่าอธิบาย จับใจความได้ว่า ฟรีเวท เป็นอุปกรณ์ฝึกที่เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ จะต้องใช้กล้ามเนื้อหลายส่วน เพื่อพยุงให้อุปกรณ์บาลานซ์ไม่เอียงไปทางใดทางหนึ่ง ทำให้กล้ามเนื้อหลายๆส่วนต้องทำงานพร้อมกัน

แต่ในการยก ต้องถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะทำให้โฟกัสผิดส่วน ไม่โดนกล้ามเนื้อที่ตั้งใจจะเล่น จึงต้องมีการศึกษาและฝึกฝน จะสอบถามเทรนเนอร์หรือผู้รู้เพิ่มเติมก็ได้ครับ

หลายคนสงสัยว่าออกกำลังกายตอนไหนดี?

ผมก็ถามซาร่า ได้ความว่า ออกกำลังกายตอนไหนก็ดีทั้งนั้น จะออกกำลังกายตอนเช้า เป็นเวลาที่ดี เพราะ ช่วงเราตื่นใหม่ๆ ยังไม่มีอาหารลงท้อง ช่วงที่เราออกกำลังกาย ร่างกายจะดึงเอา น้ำตาล ไขมัน ที่สะสมจากเมื่อวาน มาใช้ และตอนเช้า เรายังไม่ได้ทานอะไรลงไป จึงทำให้มีผลต่อการลดน้ำหนักด้วยเหมือนกัน แถมบางท่าก็ทำได้ง่ายๆ ในบ้านหลังตื่นนอนได้ทันที

สายๆ เราก็ไปสปากันครับ ที่ Pullman Spa จริงๆ โรงแรมมีห้องสปาด้วย แต่ถ้าแขกรีเควส ก็มาสามารถมาใช้ศาลากลางนา เพื่อทำสปาได้ มีหลายคอร์สให้เลือกครับ

เป็นการทำสปาที่สบายใจมากๆ

สรุป การเดินทางมาคุยกับ. Sarah Hoey ซึ่งเป็น Wellness Ambassador ของ Pullman ก็ทำให้ได้ความรู้เรื่องสุขภาพและการออกกำลังกายมากเลยครับ แถมโรงแรมพูลแมน หลวงพระบาง ก็บรรยากาศดี ชอบไอเดียที่ทำให้แขกที่เข้าพักได้สัมผัสแก่นแท้ของอดีตนครหลวงที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตกาล ตามคอนเซปต์ “วิถีชีวิตเรียบง่ายและยั่งยืน”