ถ้าให้นึกถึงชื่อ SMYTH มีหลายคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของงานออกแบบ ดีไซน์และไลฟ์สไตล์ แต่หนึ่งคนที่กานต์คิดว่าน่าสนใจคือ Matthew Patrick Smyth นักออกแบบตกแต่งภายในชื่อดังจากนิวยอร์ก ที่มีรากฐานมาจากงานดีไซน์คลาสสิก โดยมีความชื่นชมอย่างลึกซึ้งทางประวัติศาสตร์ผสานเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ตามยุคสมัย
.
จะว่าไป SMYTH ยังเป็นคำพ้องเสียงที่สื่อถึงความเป็นช่างฝีมือ แบบ Craftmanship ที่สั่งสมประสบการณ์มาจากรุ่นสู่รุ่น และคำว่า Myth ยังมีความหมายถึง “ตำนาน” หรือ “เรื่องเล่าขาน” ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น เมื่อมาเติม S ด้านหน้า ซึ่งหมายถึง Singha จึงเป็นการตั้งชื่อที่กานต์คิดว่ามีความครีเอทมากๆ เลยครับ
.
เมื่อ SINGHA ESTATE เปิดตัวโครงการ Private Estate หรูแห่งใหม่ย่านเกษตร-นวมินทร์ ใช้ชื่อว่า SMYTH’S ทำให้เราเห็นภาพทันทีว่าเป็นโครงการเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ของการใช้ชีวิต เป็นภาพสะท้อนไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น น่าสนใจ มีความแตกต่างไม่เหมือนใคร สมกับวลีที่ว่า CRAFT YOUR TALE
.
ทำให้เราไปนึกถึง Loro Piana แบรนด์ผ้าชั้นนำจากอิตาลี ที่ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตสิ่งทอด้วยการเลือกสรรวัตถุดิบชั้นเลิศและหายากที่สุดในโลกมาใช้ในการทักทอเป็นผ้าสักผืน เน้นเรื่องความยั่งยืนจากธรรมชาติ จนได้รับการยอมรับและสร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนานถึงหกชั่วอายุคน สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกและสัมผัสได้คือการดีไซน์ให้บ้านมีความเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย เพราะทุกรายละเอียดได้รับการออกแบบมาจากความเข้าใจในตัวตน สะท้อนไลฟ์สไตล์ของคนที่จะมาเป็นลูกบ้านแบบ SMYTH’S ซึ่งแน่นอนว่าตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ในกลุ่ม Young Successor ได้เป็นอย่างดี
.
SMYTH’S Kaset-Nawamin เป็น Private Estate ขนาด 3 ชั้น สุดหรูหราที่มาพร้อมกับ Pool Villa ภายในบ้านให้ความสำคัญกับ Lifestyle ที่มีความ Unique เฉพาะตัว แตกต่างกับโครงการบ้านเดี่ยวอื่นๆ กับการออกแบบแปลนที่ผนวกการออกแบบฟังก์ชันร่วมกับการสร้างความเป็นส่วนตัวในแต่ละพื้นที่ ทั้ง 3 ชั้นจึงถูกออกแบบให้มีการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
.
งานดีไซน์คอนเซ็ปต์ของโครงการเป็นแบบ Urban Twist ที่ได้แรงบันดาลใจในเสน่ห์ของดีไซน์คลาสสิกของยุโรป อย่าง Federal Architecture ผสานเข้ากับองค์ประกอบของงานศิลปะสมัยใหม่ที่ลดทอนรายละเอียดอันวิจิตรชดช้อยบางอย่างออกไป นำมาตีความใหม่ในแบบร่วมสมัยเพื่อสร้างสถาปัตยกรรมดีไซน์ใหม่ล่าสุดให้สามารถตอบสนองต่อวิถีชีวิตและความต้องการของเจ้าของได้อย่างโดดเด่นและแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์
.
จุดเด่นที่เราชอบนอกจากจะเป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่แล้ว ยังเน้นให้ความสำคัญกับการใช้งานในชีวิตจริง ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในแต่ละครอบครัวซึ่งอาจจะมีความชอบและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป เราจึงได้เห็นทุกๆ ห้องในบ้านของ SMYTH’S Kaset-Nawamin ว่ามีขนาดใหญ่ สามารถพักผ่อนได้อย่างสบายไม่อึดอัด ไม่จำเป็นต้องมีจำนวนห้องฟังก์ชันเยอะมากมายจนเกินไปหากแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จริง สามารถปรับพื้นที่ให้ตอบสนองความต้องการของสมาชิกทุกคนในบ้านได้อย่างลงตัว
.
กานต์จะพาไปสัมผัสที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ SMYTH’S Kaset-Nawamin ติดตามต่อด้านในได้เลยครับ
.
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร 1221
“SMYTH’S” จาก “SINGHA ESTATE” ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ ระดับ Ultra & Super Luxury มาแล้วหลายโครงการบนมาตรฐาน Best in Class ที่ใส่ใจความเป็นส่วนตัวระดับสูงสุด ด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย รายล้อมด้วยบรรยากาศหรูหรา มีความร่มรื่น ตอบสนองกลุ่มผู้อาศัยที่เป็น Young Successor ที่มีไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว และ SINGHA ESTATE ก็มีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มตลาดบนอยู่แล้ว ทำให้สามารถรังสรรค์วิลล่าหลังใหญ่ที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวออกมาได้อย่างน่าสนใจ SMYTH’S Kaset-Nawamin (สมิทธ์ เกษตร-นวมินทร์) โครงการบ้านเดี่ยวหรู Pool Villa ระดับ Super Luxury ที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูง มีเพียง 10 ยูนิต เป็นบ้านที่ดินใหญ่กว่า 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 806-816 ตร.ม. รองรับ 4-5 ห้องนอน จอดรถได้สูงสุด 6 คัน อีกทั้งติดตั้งลิฟต์โดยสารภายในบ้านมาให้เรียบร้อย ราคาเริ่มต้น 120 ล้านบาท* ในรูปแบบ Private Estate ที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูงสุด ออกแบบโครงการด้วยแนวคิด “CRAFT YOUR TALE” เพื่อให้บ้านสะท้อนเรื่องราวและตัวตนของผู้อยู่อาศัยผ่านรายละเอียดต่างๆ ในการออกแบบ โครงการตั้งอยู่บนเนื้อที่ดินขนาดประมาณ 5 ไร่ ด้วยจำนวนเพียง 10 หลัง ออกแบบเป็นบ้านแปลงมุมทุกยูนิตเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว จัดผังบ้านตัวรูปตัวแอล (L-Shape) ช่วยให้เกิด Private Court ป้องกันการรบกวนจากภายนอกบ้านและให้เกิดความเป็นส่วนตัวระหว่างพักอาศัย สถาปนิกออกแบบให้หน้าบ้าน 2 ฝั่งหันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งเป็นไปตามแนวทิศทางลมของไทย อีกทั้งยังหลีกเลี่ยงการปะทะแดดโดยตรงจากทิศตะวันตก ทำให้บ้านอยู่แล้วเย็นสบายไม่รู้สึกร้อน โครงการ SMYTH’S ตั้งอยู่บนถนนประเสริฐมนูกิจหรือที่เราเรียกกันว่าถนนเกษตร-นวมินทร์ นับเป็นทำเลที่มีศักยภาพมูลค่าของที่ดินเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งยังเป็นทำเลที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก แหล่งไลฟ์สไตล์และสาธารณูปโภคครบครัน อาทิ The Walk, Crystal design center (CDC), Central EastVille, The Crystal เป็นต้น สถานพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อสร้างความอุ่นใจ ได้แก่ โรงพยาบาลนวเวช, โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์, โรงพยาบาลวิภาวดี, โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทราและโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นต้น ส่วนโรงเรียนนานาชาติและสถานศึกษาชั้นนำที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเด็กๆ ที่จะเดินทางไปโรงเรียนที่อยู่ไม่ไกลบ้านมากนัก ได้แก่ โรงเรียนเลิศหล้าเกษตร-นวมินทร์, Keerapat international School, NIVA American International School, Regent’s International School และ Singapore International School ฯลฯ ทำเลนี้เดินทางสะดวก เนื่องจากใกล้ทางพิเศษฉลองรัชและวงแหวนกาญจนาภิเษก สามารถเดินทางไปโซนเลียบทางด่วนรามอินทรา รัชดาภิเษก ลาดพร้าว พระราม 9 ทองหล่อและเอกมัยได้อย่างสะดวกรวดเร็วและง่ายดาย ประกอบกับเส้นแนวรถไฟฟ้าทั้งสายสีเหลืองและสายสีชมพูที่อยู่ไม่ไกล ก็ยิ่งทำให้ SMYTH’S Kaset-Nawamin มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น Main Gate ได้รับการออกแบบมาอย่างเรียบหรูสไตล์ Quiet Luxury ด้านหน้าประดับด้วยหิน Limestone นำเข้าจากโปรตุเกสสลักชื่อโครงการ SMYTH’S เอาไว้อย่างเรียบโก้ด้านหน้า เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะสังเกตเห็นถนนที่ถูกดีไซน์ให้มีแพทเทิร์นของพื้นผิวที่ช่วยดึงดูดความสนใจมากขึ้น ด้วยความที่โครงการเน้นบ้านหลังใหญ่เกือบเต็มพื้นที่ แต่ก็ยังมีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Leisure Park ให้มานั่งพักผ่อนภายในสวนกันได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัยภายในโครงการครบครัน ระบบ CCTV รั้วทึบและต่อระแนงสูงขึ้นไปโดยรอบโครงการ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ติดสัญญาณกันขโมยให้ทั้งหลัง อีกทั้งยังเดินสายไฟร้อยท่อลงดินทั้งโครงการ ทำให้ได้ทัศนียภาพภายในที่สวยงาม ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย Urban Twist เป็นงานดีไซน์คอนเซ็ปต์ใหม่ โดยผสมผสานเสน่ห์ของดีไซน์คลาสสิกเข้ากับองค์ประกอบแบบโมเดิร์นในรูปแบบที่ดูสร้างสรรค์ทันสมัย สร้างสถาปัตยกรรมดีไซน์ใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ของ SINGHA ESTATE เพิื่อสะท้อนภาพลักษณ์ผู้นำด้านที่พักอาศัยที่หรูหรามีระดับ ตอบสนองต่อวิถีชีวิตและความต้องการของเจ้าของได้อย่างโดดเด่นและแตกต่าง SMYTH’S Kaset-Nawamin ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากงานดีไซน์คลาสสิกที่เรียกว่า Federal Architecture จากทางอเมริกันและยุโรป ซึ่งจะมีความงดงามในรายละเอียด มีความพิถีพิถันจากการจัดวางองค์ประกอบงานดีไซน์ ความสมมาตรและสัดส่วนที่ลงตัว มีดีเทลในงานออกแบบ เช่น ลักษณะของเสา คิ้วบัว อิฐแดง กรอบหน้าต่างหรือราวระเบียงที่ตกแต่งอย่างประณีตเพื่อแสดงออกถึงความสง่างาม โครงการได้มีการปรับแนวคิดของ Federal Architecture ให้ร่วมสมัยขึ้นคือลดทอนรายละเอียดที่มากเกินไปเพื่อให้ได้เส้นสายที่สะอาดตาและเรียบง่าย ปรับ Elements ให้มีความ Simplify ใช้เส้นสายที่เรียบง่ายดูโมเดิร์นขึ้น เลือกใช้วัสดุที่มีพื้นผิวเป็นธรรมชาติ เช่น หิน ไม้ หรือโลหะอย่างอลูมิเนียมกันสนิมเข้ามา เพราะว่าเหมาะกับงานใช้ภายนอกเพื่อสร้างความรู้สึกสง่างามแต่ไม่ซับซ้อน นอกจากนี้ แทนที่จะใช้กรอบหน้าต่างขนาดเล็กที่ประดับลวดลายซับซ้อน ปรับเป็นการใช้กระจกบานใหญ่ขึ้นเพื่อนำแสงธรรมชาติเข้ามาได้มากขึ้น สร้างความรู้สึกโปร่งโล่งภายในบ้านและยังออกแบบโดยใช้สัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) เข้ามามีส่วนสำคัญ โทนสีของตัวบ้าน เลือกใช้เฉดสีที่สื่อถึงอบอุ่นสะท้อนถึงความหรูหราแต่ยังคงความอบอุ่นเหมาะกับการอยู่อาศัย งานดีไซน์ลงรายละเอียดไปถึงการติดตั้งกระเบื้อง Kenzai ทีละแผ่นแทนการปาดเซาะร่องทั่วไป เพื่อสร้างดีเทลที่แตกต่างให้กับดีไซน์ ตอนที่แดดส่องแสงในช่วงเวลาเช้าและยามเย็นทำให้เกิดเป็นลวดลาย หรือสาดแสงเงาเข้าไปภายในบ้านทำให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น สำหรับบ้านของโครงการจะเป็นบ้านแปลงมุมทุกยูนิต มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน -Residence I บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดิน 111-133 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 816 ตร.ม. – ฟังก์ชัน 4-5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / 1 Hideaway Chamber (Mancave) / 1 Safe Room / สระว่ายน้ำ / ลิฟต์โดยสาร -Residence II บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดิน 102-106 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 806 ตร.ม. – ฟังก์ชัน 4-5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / 1 Hideaway Chamber (Mancave) / 1 Safe Room / สระว่ายน้ำ / ลิฟต์โดยสาร บ้านทั้ง 2 แบบจะมีการจัดวางฟังก์ชันภายในที่มีความใกล้เคียงกัน ที่สำคัญ ยังมีเทคโนโลยีภายในบ้านอย่าง Solar Cell 5 kW., S-AIR System และ Junction Box รองรับ EV chargers ขนาด 22 kW. จำนวน 2 จุดพร้อมลิฟต์โดยสารภายในบ้านติดตั้งมาให้แล้วเรียบร้อย ชั้น 1 Space Planning เปิดประตูเข้าสู่ภายในบ้าน เป็นพื้นที่สำหรับต้อนรับสมาชิกของครอบครัวและแขกคนสำคัญ บานประตูได้รับการดีไซน์ใหม่จาก Modern Glass ให้ความรู้สึกราวกับประตูไม้จริงให้สัมผัสธรรมชาติและยังช่วยลดความร้อนและกันเสียงสะท้อนเข้าสู่ภายในบ้าน มือจับติดตั้ง Digital Door Lock จาก Idenmatic มาให้เรียบร้อยแล้ว ด้านหน้าทางเข้าปูพื้นด้วยหินอ่อน Rosso Luana นำเข้าจากอิตาลี ทางเข้าเป็นออกแบบให้เป็นโถงสูง Foyer ดูอลังการที่ให้ความโอ่อ่าและความเป็นส่วนตัว โถงทางเดินแบบ Juction ออกแบบเป็นแนวกว้างเชื่อมต่อกับฟังก์ชันการใช้งานชั้นล่างเข้าไว้ด้วยกัน พื้นที่เป็นสัดส่วนด้วยฟังก์ชัน โดยมีจุดเด่น คือ Guest Lounge ฟังก์ชันนี้ถูกเตรียมให้เป็นส่วนรับแขกของครอบครัวหรือแขกที่มาพูดคุยทางธุรกิจ ภายในบ้าน 3 ชั้น ได้รับการออกแบบให้มีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนเพื่อตอบโจทย์ความเป็น Life Master ของเจ้าของบ้าน เน้นการสร้างความเป็นส่วนตัวสูงสุดให้กับสมาชิกทุกคนในครอบครัว เห็นได้จากการวางฟังก์ชันของบ้านที่ตกแต่งให้ดูเป็นตัวอย่าง การออกแบบพื้นที่ใช้สอยต่างๆ สามารถบอกเล่าตัวตนและยังใช้เป็นพื้นที่รับรองสำหรับเจรจาธุรกิจ สังสรรค์กับเพื่อนสนิท มิตรสหายภายในบ้านได้ ภายในบ้าน 3 ชั้น ได้รับการออกแบบให้มีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนเพื่อตอบโจทย์ความเป็น Life Master ของเจ้าของบ้าน เน้นการสร้างความเป็นส่วนตัวสูงสุดให้กับสมาชิกทุกคนในครอบครัว เห็นได้จากการวางฟังก์ชันของบ้านที่ตกแต่งให้ดูเป็นตัวอย่าง การออกแบบพื้นที่ใช้สอยต่างๆ สามารถบอกเล่าตัวตนและยังใช้เป็นพื้นที่รับรองสำหรับเจรจาธุรกิจ สังสรรค์กับเพื่อนสนิท มิตรสหายภายในบ้านได้ เราสามารถเชิญ Celebrity Chef มาจัด Private Dinner แบบส่วนตัวได้ภายในบ้าน เนื่องจากโครงการจัดเตรียมพื้นที่เอาไว้ให้แล้ว ด้านในสุดเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับแขกและสมาชิกในบ้านใช้งานร่วมกัน การตกแต่งภายในได้ฟีลของ Mid Century ที่ออกแบบบรรยากาศให้มีความผ่อนคลาย แต่สามารถใช้เป็นพื้นที่จัดปาร์ตี้สังสรรค์และ Business Function เจรจาธุรกิจแบบ Casual หรือแบบ Informal ได้ อีกทั้งยังใช้เป็นพื้นที่สำหรับ Living & Dinning Area โดยเราสามารถเพิ่มฟังก์ชันของเคานต์เตอร์บาร์เหมือนบ้านตัวอย่าง ด้านข้างออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับติดตั้ง Wine Cellar ได้ จาก Guest Lounge เรามองออกไปจะเห็นสวนส่วนตัวภายในบ้าน (Private Inner Court) ช้่วยเปิดพื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติให้บ้านดูสดชื่นมากยิ่งขึ้น พื้นที่ภายในสวนของบ้านตัวอย่าง โครงการได้ติดตั้ง Sculpture เป็นเสือดำ Black Panter เอาไว้ วัสดุทำจากทองเหลืองรมดำที่เพิ่มความหรูหรา สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง อำนาจของผู้อยู่อาศัย เติมเต็มพลังด้านบวกให้กับผู้อยู่อาศัย และยังสะท้อนถึงภาพของความปลอดภัยระดับสูง อีกฝั่งจะเป็นพื้นที่ของห้อง “Hideaway Chamber” (Man Cave) พื้นที่ Secret Room เป็นห้องลับสำหรับสุภาพบุรุษผู้เป็นเจ้าของบ้าน สะท้อนภาพลักษณ์และไลฟ์สไตล์ที่บ่งบอกความเป็นตัวตน เป็นมุมโปรดเฉพาะบุคคลที่เตรียมพื้นที่ขนาดใหญ่ให้เป็นหลุมหลบภัยไว้แสดงออกถึงความชอบและรสนิยมส่วนตัว จึงทำให้ชั้น 1 สามารถแยกเรื่องราวของธุรกิจและความส่วนตัวได้อย่างลงตัว บ้านตัวอย่างได้สะท้อนคาแรคเตอร์ของกลุ่มเป้าหมายที่มีความเป็นครอบครัวรุ่นใหม่มีไลฟ์สไตล์ที่สนุกสนานและมีรสนิยมที่โดดเด่น จึงแต่งออกมาให้มีความคลาสสิก มีพื้นที่สำหรับจอดรถยนต์คันโปรด Classic Car หรือ Super Car เราสามารถติดตั้งลิฟต์จอดรถ เพิ่มเติมได้ ด้านในมีชุดโซฟาที่นั่งและเฟอร์นิเจอร์จากแบรนด์ Gallotti&Radice โดย Euro Creations ผู้นำเข้าเฟอร์นิเจอร์หรูจากแบรนด์ Luxury ชั้นนำของยุโรป ครั้งนี้ทางแบรนด์ SMYTH’S ได้มี Spokeperson อย่างคุณ เนม ปราการ ไรวา ที่ให้ไอเดียห้องนี้ไว้ว่า จะดีไซน์ให้เป็นมุมสำหรับดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม จิบเครื่องดื่มแก้วโปรดเบาๆ เป็นการพักผ่อนหลังจาก ทำงานแล้วกลับเข้ามาภายในบ้านโดยไม่เป็นการรบกวนสมาชิกท่านอื่นที่่กำลังพักผ่อนอยู่ชั้นบน บริเวณทางเข้าบ้านด้านขวาออกแบบให้มี Shoe Storage ขนาดใหญ่ที่แยกไว้อย่างเป็นสัดส่วน มาพร้อมกับตู้เก็บรองเท้าทรงสูงที่สามารถใช้เป็นห้องเก็บของได้ด้วย ภายในจัดวางเก้าอี้สำหรับนั่งสวมใส่รองเท้าสบายๆ บ้านทุกหลังเป็นบ้านขนาดใหญ่ ทางโครงการจึงได้ติดตั้งลิฟต์โดยสารภายในบ้านมาให้พร้อมกันนี้แล้ว ทำให้สะดวกมากสำหรับการขึ้นลง ลิฟต์มีขนาดใหญ่รองรับการใช้งานรถเข็นวีลแชร์ได้ โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุก็ไม่จำเป็นต้องจัดห้องนอนชั้นล่างเสมอไป สามารถโดยสารลิฟต์ขึ้นลงได้สะดวก หลังคาบ้านเป็นเมทัลชีทเคลือบด้วยสีจาก COLORBOND® steel ช่วยลดการยึดเกาะของสิ่งสกปรกและสะท้อนความร้อนได้ดี ส่วนออกแบบให้ผนังมีความหนาพิเศษ ช่วยกันเสียงจากภายนอก ลดเสียงรบกวนสมาชิกในบ้าน การออกแบบวางแปลนภายในจะคำนึงถึง Cross Ventilation เป็นการวางตำแหน่งของประตูหน้าต่างบนผนังห้อง ช่วยให้อากาศถ่ายเทสะดวกและช่วยลดความอบอ้าว ซึ่งทุกห้องภายในบ้านจะใช้หลักการไหลเวียนของลมภายในทำให้ทุกห้องมีลมผ่าน ช่วยให้บ้านอยู่แล้วเย็นสบายในทุกห้อง เมื่อเปิดประตูและหน้าต่างพร้อมกันช่วยในเรื่องการไหลเวียนของอากาศภายในห้องให้เย็นสบาย ทุกห้องภายในบ้านยังติดตั้งระบบกรองอากาศ S-Air System โดยใช้หลักการ Positive Air Pressure หรือระบบแรงดันอากาศบวก โดยการดึงอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกผ่านตัวกรองประสิทธิภาพสูง เช่น HEPA Filter และเพิ่มแรงดันในตัวบ้านเพื่อผลักดันอากาศเสีย ฝุ่น และเชื้อโรคออกไปทางช่องระบายอากาศ กรองอากาศบริสุทธิ์เข้าบ้าน กันฝุ่นละอองและ PM2.5 ด้วย อีกทั้งยังมีระบบ Water Purifier กรองน้ำประปาให้สะอาดก่อนเข้าตัวบ้าน ช่วยเรื่องสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้อีกทางหนึ่ง พื้นที่ชั้น 2 เป็นพื้นที่ Grand Living สำหรับครอบครัวเป็นเซ็นเตอร์ของบ้านที่มีสระว่ายน้ำเป็นไฮไลท์ให้ชั้นบนเป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับสมาชิกในครอบครัว ดังนั้นทุกๆ ห้องภายในบ้านจะได้รับแสงจากธรรมชาติภายนอก สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำและได้รับประสบการณ์จากมุมมองที่แตกต่างกันออกไป Grand Living ออกแบบให้เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีคอนเซ็ปต์การทำแปลนแบบ Connecting Here & There การออกแบบพื้นที่เน้นการเชื่อมต่อฟังก์ชัน เข้าด้วยกันอย่างลงตัว สร้างประสบการณ์ของพื้นที่ที่กว้างขวางและเชื่อมฟังก์ชันด้วยกัน ด้วยการวางแปลนที่พิถีพิถัน ทำให้พื้นที่ชั้น 2 ของบ้านมีความต่อเนื่องและเชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์แบบ ขณะเดียวกันก็ยังคงเอกลักษณ์และการใช้งานที่ชัดเจนของแต่ละพื้นที่ภายใน พื้นชั้นบนปูด้วย Engineering Wood ให้สัมผัสธรรมชาติ ทั้งยังได้ความสูงโปร่งของ Double Volume ภายในเชื่อมต่อกับ Dining Area เปิดรับวิวสู่สระว่ายน้ำ กอปรกับหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับวิวสวนสีเขียวรอบบ้านดูสดชื่นดีดูงดงามราวกับเป็นภาพจิตรกรรมที่มีชีวิต ติดตั้งผ้าม่าน 2 ชั้นสูงจากพื้นจรดเพดาน ส่งผลทำให้มุมนี้ดูกว้างขวางและโปร่งสบาย เราชอบเวลาที่มีแสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาภายใน กระทบกับโซฟาขนาดใหญ่ซึ่งเป็นแบรนด์นำเข้าจากเนเธอร์แลนด์ อีกชิ้นที่น่าสนใจคือเก้าอี้ดีไซน์วินเทจสีดำ Cross Check Chair จากดีไซเนอร์คนโปรดของเรา Franck Gehry ที่กลายเป็น Rare Item ไปเสียแล้วในเวลานี้ กานต์ชอบบรรยากาศของชั้น 2 มาก นอกจากจะดูโปร่งโล่งสบายให้ความรู้สึกที่เรียบง่ายทว่าหรูหราแล้ว เรายังได้เทควิวสระว่ายน้ำจากทุกมุมของบ้าน เป็นการเติมเต็มความสัมพันธ์ของทุกคนในครอบครัวด้วยฟีลลิ่งที่เป็นกันเอง ทุกคนสามารถสวมชุดอยู่บ้านสบายๆ แล้วมาใช้พื้นที่กลางภายในบ้านร่วมกันได้ ชั้น 2 ยังมีห้องนอนอีก 2 ห้อง ที่มากับพร้อมห้องน้ำในตัว เป็นห้องเอนกประสงค์ที่ทาง SINGHA ESTSTE มองว่า ไม่จำเป็นต้องจัดวางฟังก์ชันไว้เป็นห้องนอนเสมอไป แต่หากต้องการใช้งานก็สามารถปรับแบบได้ทันที “People usually are the happiest at home.” ~ William Shakespeare วิลเลี่ยม เชคสเปียร์เคยบอกว่า “คนมักจะมีความสุขที่สุดเมื่ออยู่บ้าน” กานต์เองก็คิดเช่นนั้น เชื่อมั่นเหลือเกินว่า หากใครได้พักอาศัยในบ้านหลังใหญ่ดีไซน์สวยที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ โอบกอดเราด้วยท้องฟ้า ให้ธรรมชาติสีเขียวเยียวยาจิตใจ ฟังเสียงน้ำไหลเป็นเครื่องดนตรีคอยขับกล่อม เราว่าความสุขที่แท้จริงเกิดขึ้นได้ง่าย ใกล้ๆ ตัวภายในบ้านของเราเอง โครงการวางผังบ้านโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของบ้านแต่ละหลังเรียกว่า “Sanctuary of Seclusion” โดยวางแปลนให้แต่ละบ้านมี Private Court ซึ่งได้ถูกออกแบบให้เป็นจุดนำสายตาของทุกพื้นที่ในส่วนหลักๆ ของบ้าน สร้างความเป็นส่วนตัวสูง โดยเฉพาะในช่วงเวลาของการพักผ่อนทั้งในสวนและสระว่ายน้ำบนชั้น 2 จะสังเกตว่างานดีไซน์จะเป็นรูปตัวแอล (L-Shape) เพื่อให้ตัวบ้านมีพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำที่มีความเป็นส่วนตัว ต่างจากบ้านทั่วไปที่นิยมนำสระว่ายน้ำไว้บริเวณชั้นล่าง ทั้งนี้เพื่อให้เราสามารถเปิดรับมุมมองสระว่ายน้ำได้จากทุกจุดภายในบ้าน โครงการยังได้นำเอาพุ่มไม้สีเขียวทรงสูงมาปลูกไว้บริเวณขอบสระว่ายน้ำ เพื่อช่วยบังสายตาจากภายนอกบ้านและให้เกิดความเป็นส่วนตัวขณะพักผ่อน สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือที่ให้มุมมองจากสระว่ายน้ำเชื่อมต่อกับสมาชิกทุกคนในครอบครัวได้ในแทบทุกจุด นอกจากจะต่อเนื่องกับ Living Area ที่เป็น Double Volume เชื่อมต่อกับ Dining Area แล้ว ยังได้รับการออกแบบให้เปิดประตูออกไปสู่สระว่ายน้ำภายนอกได้ ชั้น 2 ยังมี ห้องนอนอีก 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัว สามารถใช้เป็นห้องนอนหรือห้องพักผ่อนทำกิจกรรมสำหรับสมาชิกในครอบครัว กลุ่มเพื่อนและแขกที่มาเยี่ยมเยียนได้ บนชั้น 2 ของบ้านตัวอย่าง จะมี Junior Master Bedroom 2 ห้อง ซึ่งออกแบบให้สามารถใช้เป็นฟังก์ชันของห้องนอนตามแนวทางของบ้านทั่วไปได้เช่นกัน แต่สำหรับที่ SMYTH’S Kaset-Nawamin ได้มีการปรับฟังก์ชันใหม่ให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายหรือคนแบบ SMYTH’S โดยห้องแรกจะเป็น Music Room ห้องซ้อมดนตรีที่มีอุปกรณ์ครบครัน เพื่อการพักผ่อน การออกแบบระบบต่างๆ ทำได้ดีมากครับ ทั้งซัปวูฟเฟอร์ดูดซับเสียงต่างๆ ติดตั้งระบบเสียงที่ทันสมัยมาพร้อมกับห้องน้ำในตัว สามารถชวนเพื่อนๆ มาซ้อมดนตรีกันที่บ้านเราได้เลยครับ ส่วนอีกห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีแนวคิดในการออกแบบมาจากความต้องการพื้นที่เล่นสนุกให้กับเด็กๆ และเพื่อนของลูกที่มาเล่นที่บ้าน เพราะเมื่อสมาชิกผู้ใหญ่กำลังสังสรรค์กันอยู่ที่ Living Area ด้านนอก เด็กๆ ก็ควรมีพื้นที่ของตัวเองในการเอนจอยโมเมนต์กับเพื่อนๆ เช่นกัน SMYTH’S Kaset-Nawamin จึงสร้างสรรค์บ้านตัวอย่างออกมาเป็น Play Room พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสนุกครบครัน มีฟังก์ชันของบ่อบอลขนาดใหญ่รับรองว่าถูกใจเด็กๆ อย่างแน่นอนครับ ชั้น 3 เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ของครอบครัว มีความส่วนตัวสูงสุด ในคอนเซ็ปต์ “Penthouse Suite On Ground” พร้อม Master Bedroom ขนาดใหญ่และ Junior Master Bedroom และ พื้นที่ส่วนกลางของครอบครัว ดังนั้นจึงเป็นพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงสุด เมื่อขึ้นมาถึงจะพบกับโถงกลางบ้านเป็น Multi-purpose Area ที่มีขนาดใหญ่ จัดวางโต๊ะทำงาน มุมอ่านหนังสือและมีเครื่องปั่นจักรยานสุดหรูจาก NOHRD Bike ติดตั้งเอาไว้ให้ได้ออกกำลังกายเบาๆ นอกจากจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางภายในบ้านที่เชื่อมต่อห้องนอนทั้ง 2 ฝั่งแล้ว โครงการยังออกแบบให้เชื่อมต่อกันของพื้นที่ระหว่างชั้น 2 และชั้น 3 ทำให้บ้านดูสูงโปร่งด้วยโถงสูงแบบ Double Volume ซึ่งต่างจากบ้าน 3 ชั้นในโครงการอื่นที่นิยมปิดทึบระหว่างชั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ประทับใจกานต์มากที่สุดก็คือ การนำเอาหลักคิด Adaptability of Design คือทำให้กลายเป็นบ้านที่พร้อมปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย เปิดกว้างให้เราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันและดีไซน์ภายในบ้าน ให้ตรงกับความต้องการของแต่ละครอบครัวได้ เห็นได้จากการออกแบบที่เผื่ออนาคตเอาไว้ของบ้านในโครงการ อย่างเช่นมุม Multi-purpose Area ตรงกลางของชั้น 3 ที่เชื่อมต่อกับโถงชั้น 2 หากเราอยากจะต่อเติมเพื่อทำเป็นห้องเพิ่มได้ในอนาคตก็สามารถทำได้ เนื่องจากทางโครงการออกแบบคานเพื่อรองรับน้ำหนักเพิ่มเอาไว้ให้แล้วครับ จึงทำให้บ้านทั้ง 10 ยูนิตต่างมีความโดดเด่นและสร้างออกมาได้ตรงใจ ตอบทุกโจทย์ความต้องการของสมาชิกทุกคนภายในเป็นหลัก เรามาชม Master Bedroom กันบ้าง จะเห็นว่าภายในห้องแบ่งฟังก์ชันการใช้สอยได้หลากหลายและลงตัวดีครับ ราวกับเป็นบ้านอีกหนึ่งหลัง เมื่อเดินเข้าประตูไปจะไม่สามารถมองเห็นพื้นที่พักผ่อนได้ในทันที จะเป็นพื้นที่ของ Living Area สำหรับเจ้าของห้องได้พักผ่อนในฟีลลิ่งส่วนตัว That’s ITH ตกแต่งห้องนี้ในสไตล์คลาสสิค ด้วยการเลือกเฟอร์นิเจอร์โทนน้ำตาลเข้ม ขาว เทา ดำ พร้อมจัดวาง Nestle Lounge Chair สีเหลืองมัสตาร์ดเอาไว้ให้เราได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ มีมุมบาร์เอาไว้รินเครื่องเดิมแก้วโปรดแล้วเปิดเพลงคลาสสิคจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงคลอไปเบาๆ เพื่อเสริมบรรยากาศให้ดูผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น หรือจะเพลิดเพลินไปกับหนังสือเล่มโปรดที่อ่านค้างไว้จากคืนก่อน เป็นพื้นที่สำหรับพักกายพักใจให้หายเหนื่อยจากการทำงาน เพื่อให้บ้านได้ทำหน้าที่โอบกอดเราอย่างละมุนใจ ถัดเข้าไปด้านในมีพาร์ติชั่นกั้นไว้สำหรับเป็นพื้นที่ของการพักผ่อน เตียงนอนถูกจัดเหลื่อมไว้บริเวณทางเข้าโดยหลบเข้าไปด้านใน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว เราสามารถจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ได้เลยครับเพราะมีพื้นที่กว้างเดินได้รอบเลย ห่้องนอนมีระยะห่างมากพอที่จะติดตั้งทีวีจอใหญ่บริเวณปลายเตียง สามารถติดตั้ง Cabinet สำหรับวางทีวีขนาดใหญ่ แต่ถ้าจะแนะนำให้แขวนทีวีติดผนังจะดูเรียบกว่าช่วยให้ห้องดูโมเดิร์นขึ้น ให้เรานอนชมซีรีย์เรื่องโปรดจากบนเตียงเลยได้สบายๆ ส่วนด้านข้างเปิดช่องแสงขนาดใหญ่ด้วยผนังกระจกแบบเข้ามุมทำให้ห้องนอนดูกว้างและโปร่งโล่ง ติดตั้งที่นั่งแบบ Bay Window เพื่อเปิดรับวิวสระว่ายน้ำที่ชั้น 2 หรือรับแสงแดดอ่อนๆ ยามตื่นนอนตอนเช้า มองเห็นวิวของตัวบ้านจากอีกฝั่ง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านในนิวยอร์กเลยครับ สถาปนิกออกแบบให้ห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ด้วยการ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ติดตั้งไว้ทั้ง 2 ฝั่ง ตรงกลางเป็น Island จัดเก็บนาฬิกา เนคไท เครื่องประดับต่างๆ ช่วงปลายห้องเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ที่แน่ๆ เราว่าเป็นห้องแต่งตัวที่ออกแบบได้สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน มีหน้าต่างกระจกใสเพื่อเปิดรับวิวและแสงจากภายนอก ติดกันกับห้องแต่งตัวจะเป็น Master Bathroom เป็นห้องน้ำในตัวที่มีขนาดใหญ่มาก ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียกแห้งเอาไว้ให้แล้วเรียบร้อย มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวดูโมเดิร์น ติดกันเป็นห้อง Shower มีอ่างล้างหน้าแบบ His & Her และติดตั้งสุขภัณฑ์จากแบรนด์ GESSI เป็นคอลเลคชั่นพิเศษ VENTI20 ซึ่งมีราคาสูง เป็นงานที่มีดีเทล สไตล์คลาสสิก เข้ากับบ้านมาให้แล้ว มีหน้าต่างสามารถเปิดออกเพื่อระบายอากาศและไล่ความชื้นภายในห้องน้ำได้ ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องนอนรองซึ่งมีขนาดใหญ่ไม่แพ้กัน ทุกห้องนอนภายในบ้านจะเป็นแบบ En Suite คือเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว เมื่อเราเดินเข้าไปด้านใน จะแบ่งเป็นโซนพักผ่อนและมุมส่วนตัว ภายในห้องจัดวางฟังก์ชันไว้ลงตัว โดยมีเตียงนอนแบบคู่จัดวางเอาไว้ด้านในสุด หัวเตียงกรุด้วยงานดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย ใช้สีชมพูพาสเทลเป็นผ้าคาดเตียง ช่วยทำให้ห้องนี้ดูสดใสขึ้น ส่วนปลายเตียงจัดวางเป็นโต๊ะทำการบ้านแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคั่นกลางด้วยชั้นหนังสือ เพื่อความเป็นส่วนตัวของเด็กๆ การจัดวางตำแหน่งเตียงจะไม่ตรงกับตำแหน่งประตู ข้อดีก็คือทำให้เกิดความเป็นส่วนตัว และยังเปิดรับช่องแสงจากผนังกระจกด้านหน้าบ้านบรรยากาศดีมากทั้งกลางวันและช่วงเวลาก่อนนอน ส่วนมุมแต่งตัว และห้องน้ำจะอยู่ด้านในสุด พื้นที่ภายในโครงการจะเปิดรับมุมมองของต้นไม้ใหญ่สีเขียวในทุกจุดรับสายตา เราสังเกตว่าฟุตบาททางเดินจะมีขนาดใหญ่กว่าโครงการอื่นเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ตามแนวทางเดินออกแบบให้มีความเป็น Green Boulevard เพื่อเติมเต็มความสดชื่นระหว่างพักอาศัย อีกทั้งยังจัดให้มี Leisure Park เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน เดินเล่น จัดให้อยู่ในพื้นที่ที่ได้ความสงบ ส่วนตัวกระจายไปทั่วทั้งโครงการ เน้นการปลูกต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งไม้โปร่ง ต้นสน พุ่มไม้ ไม้ดอก ไม้ยืนต้นฟอร์มเด่นสลับกันไปเพื่อให้เกิดร่มเงาและร่มรื่น ปลูกเอาไว้จนเต็มพื้นที่ดูแล้วได้ฟีลเหมือนอยู่เมืองนอก เป็นการนำเอาศิลปะจากธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานสถาปัตยกรรม ยิ่งช่วงนี้หน้าหนาวจะมีลมเย็นพัดมาสัมผัสเบาๆ ทำให้เรารู้สึกเย็นกายสบายใจ เป็นฟีลลิ่งดีๆ ที่ได้ใช้ชีวิตใจกลางกรุงท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวของต้นไม้ สีฟ้าจากสายน้ำและสีสันของธรรมชาตินานา #สรุป SMYTH’S Kaset-Nawamin เป็น Private Estate หรูแบบ Pool Villa ขนาด 3 ชั้น เป็นโครงการระดับหรูบนมาตรฐานระดับสูงจาก SINGHA ESTATE มีดีไซน์โดดเด่น เน้นฟังก์ชันการใช้งานได้จริง เป็นการออกแบบที่เน้น Quality not Quantity คือออกแบบให้มีการใช้งานที่หลากหลาย ในทุกห้องของบ้าน สามารถปรับฟังก์ชันให้ตรงตามไลฟ์สไตล์ของสมาชิกทุกคนในครอบครัวได้ ภาพรวมของโครงการออกแบบโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวสูงสุดเป็นสำคัญ ทุกยูนิตจะเป็นแปลงมุม เพื่อความเป็นส่วนตัวและได้รับพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น รวมถึงเตรียมระบบรองรับนวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้การใช้ชีวิตสมบูรณ์แบบ โครงการตั้งอยู่บนถนนประเสริฐมนูกิจ ใกล้กับทางพิเศษฉลองรัชและวงแหวนกาญจนาภิเษก สะดวกต่อการเดินทางไปยังพื้นที่สำคัญต่างๆ ของกรุงเทพฯ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร 1221