Setthasiri -Maha Chesadabodin Bridge

ครั้งหนึ่ง John F. Kennedy เคยพูดว่า “You can’t live a normal life in Berlin. That’s the best thing about it.”

.

กานต์เคยไปเบอร์ลินมาแล้วครั้งหนึ่งซึ่งก็พบว่าเป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร เต็มไปด้วยเอกลักษณ์และพลังสร้างสรรค์ที่ทำให้ชีวิตผู้คนในเมืองนี้แตกต่างจากที่อื่น ทั้งในเรื่องของศิลปะ ดนตรี อาหารและไลฟ์สไตล์ เป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพ ความกล้าหาญ การเริ่มต้นใหม่ เราชอบตรงที่ทุกคนสามารถแสดงออกถึงตัวตนได้อย่างเต็มที่

.

ชีวิตในเบอร์ลินผู้คนจะให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตในแบบที่สร้างแรงบันดาลใจและมีความหมายต่อพวกเขา ให้คุณค่ากับการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย แต่มีความสุขจากการสร้างสรรค์และได้เป็นตัวของตัวเอง

.

ถ้าใครอยากมี Living Lifestyle ในแบบ Berlin กานต์อยากแนะนำให้ไปสัมผัสกับโครงการบ้านเดี่ยวที่บอกเล่าความเป็น Berlin Architecture ได้ดีที่สุด นั่นคือ SETTHASIRI MAHA CHESADABODIN BRIDGE (เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ) โครงการบ้านหรูที่บอกเล่าตัวตนของคนเบอร์ลินได้เรียบและเท่มากๆ เลยครับ

.

สิ่งแรกที่ชอบคืองานดีไซน์ Clubhouse ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวิลล่า Haus Fromberg ผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมยุคนั้น

.

เราจึงได้เห็นงานดีไซน์ที่ Elegance Aesthetic เรียบหรู คลาสสิคและไร้กาลเวลาใช้การออกแบบโดยใช้หลักคิด Bauhaus ปรัชญาแห่งงานศิลปะต้นแบบของงาน Modern Style ที่ดูเรียบง่าย ชัดเจน ทว่ามีความตรงไปตรงมาด้วยการลดทอนองค์ประกอบต่าง ๆ ออกไป เหลือไว้แต่ส่วนสำคัญของงานสื่อสารออกมาอย่างเรียบหรูโก้ เน้นฟังก์ชันในการพักอาศัยจริง

.

กานต์ชอบการเลือกใช้สีแบบ Monochrome ที่ช่วยขับเน้นให้สวนสีเขียวขนาดใหญ่ที่โอบล้อม Clubhouse อยู่ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

.

เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ เป็นบ้านเดี่ยวที่มีไฮไลท์คือโถงสูงแบบ Double Volume ทำให้บ้านดูโปร่งอยู่สบาย มีที่ดินขนาดใหญ่มาพร้อมกับ Pocket Garden รอบบ้านทำให้เราใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้ ตามไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละครอบครัว

.

🏡 เปิด Presale 25-26 ม.ค.นี้

ราคา 18-30 ล้าน

สนใจนัดเข้าชมโครงการและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

คลิก https://siri.ly/vYdE7T1

หรือโทร 1685

เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดินโครงการประมาณ 34 ไร่ จำนวน 86 ยูนิต ทำเลดีมากติดถนนใหญ่ ราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 ใกล้ทางลงสะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ เชื่อมกับถนนเส้นหลักอย่างถนนราชพฤกษ์และสนามบินน้ำ สามารถเชื่อมต่อจตุจักร-บางซื่อ เพียง 10 นาที*
ภาพรวมโครงการได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนามาจากสถาปัตยกรรมในกรุงเบอร์ลิน ซึ่งเต็มไปด้วยความ Elegance Aesthetic ความเรียบนิ่งของเส้นสายและงานดีไซน์ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด
โครงการมีแบบบ้านให้เลือก 4 Type เน้นการออกแบบที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ฟังก์ชันการใช้สอยที่ให้มากกว่า ซึ่งเราจะได้พาไปชมรายละเอียดกันครับ
นอกจากบรรยากาศแวดล้อมที่สวยงาม ร่มรื่นแล้ว ทำเลของโครงการยังถือว่ายอดเยี่ยม เนื่องจากแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า Community Mall อาทิ The Walk ราชพฤกษ์, Central เวสต์วิลล์, Central รัตนาธิเบศร์และ The Crystal SB ราชพฤกษ์ เป็นต้น
ส่วนสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ ทำให้อุ่นใจในการดูแล ได้แก่ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า, โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ อินเตอร์, โรงพยาบาลนนทเวช และโรงพยาบาลศรีสวรรค์ ราชพฤกษ์

ทำเลนี้ยังแวดล้อมด้วยสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง อาทิ โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ราชพฤกษ์, โรงเรียนเด่นหล้า พระราม 5, โรงเรียนนานาชาติสาธิตคริสเตียนนนทบุรี, โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้าบริติช ฯลฯ
โครงการได้ออกแบบให้มีระยะถอยร่นจากถนนหลักมากพอสมควร จัดทำเป็นสวนและมีป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าถนน ตลอดแนวจะมีต้นไม้น้อยใหญ่คอยทำหน้าที่เป็น Buffer ช่วยป้องกันเสียงได้ดีทีเดียวครับ เมื่อขับรถเข้ามาในโครงการเราจึงแทบจะไม่ได้ยินเสียงรถราที่วิ่งอยู่ข้างนอกเลยครับ
ยังไม่ทันถึง Main Gate ทางเข้า เราก็ประทับใจกับวงเวียนน้ำพุขนาดใหญ่พร้อมรูปปั้นสไตล์โรมันอยู่ตรงกลางที่ทำหน้าที่ต้อนรับเรากลับบ้าน ดูอลังการงานสร้างตามแบบฉบับเยอรมันมากๆ
Main Gate มาพร้อมกับการรักษาความปลอดภัยที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูงที่เรียกว่า LIV-24 ซึ่งเป็นมาตรฐานของแสนสิริ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง มีระบบกล้อง CCTV โดยรอบ บันทึกประวัติการเข้าออกของผู้มาเยือน รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรเสริมด้วยระแนงที่สูงไปอีกเท่าตัว มี Digital Fence ตรวจจับความคลื่นไหวอัจฉริยะ

ประตูรั้วโครงการแบบ Gated Community มีระบบ RFID Sensor เปิดซุ้มประตูให้ลูกบ้านแบบอัตโนมัติ ส่วนการเข้า-ออกของผู้มาติดต่อเป็นระบบ VMS System บันทึกภาพผู้มาติดต่อ รวดเร็ว และแม่นยำเพื่อสร้างความอุ่นใจ
จากภาพมุมสูงจะเห็นว่า โครงการวางผังให้ Clubhouse อยู่ฝั่งด้านหน้าโครงการ เรียกได้ว่าเมื่อขับรถเข้ามาก็จะเจออาคารหลังใหญ่สไตล์เบอร์ลินตั้งเด่นเป็นสง่าช่วยเพิ่มความประทับใจให้กับแขกที่มารอพบได้ทันที ข้อดีก็คือทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้พักอาศัย หากมีแขกมาพบเราก็สามารถนัดหมายที่ Clubhouse ได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปภายในตัวบ้าน
ภาพรวมงานดีไซน์ของ Clubhouse ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรม Baroque และ Neo-Classical นั่นก็คือ วิลล่า Haus Fromberg สร้างขึ้นในปี 1985 ตั้งอยู่ในย่าน Kurfrstenstraße Haus Fromberg ได้รับการบูรณะอย่างพิถีพิถัน เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจว่า สถาปัตยกรรมสามารถยืนอยู่ได้เหนือกาลเวลา และสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบทั่วโลก
โครงการได้นำแบบมาปรับให้เน้นความเรียบง่ายคลาสสิค ดูร่วมสมัยทว่ายังคงความแข็งแรงสไตล์เบอร์ลินเอาไว้ เห็นได้จากการเลือกใช้โทนสี Monochrome ที่ดูเรียบเท่
เมื่อเข้ามาภายในเราจะพบกับ โถงนั่งเล่นขนาดใหญ่ ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสไตล์ Modern การเลือกเฟอร์นิเจอร์และวัสดุตกแต่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ ผนังประดับประดาด้วยงานศิลปะ เพื่อให้สะท้อนสไตล์ได้ชัดเจนที่สุดและแสนสิริยังคงทำได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย

ชั้นล่างจัดวางชุดโซฟาสีเบจขนาดใหญ่เอาไว้ เพื่อให้นั่งเล่นผ่อนคลายได้อย่างสบายใจ เลือกใช้โทนสีที่เรียบนิ่งอบอุ่น เช่น เบจ ครีม และม่วงอมเทา ตัดกับโทนสีสดใสของหมอนอิงที่เพิ่มชีวิตชีวาให้กับพื้นที่ เพื่อสะท้อนคาแรกเตอร์ของเบอร์ลินออกมาได้อย่างน่าสนใจที่สุด ทั้งยังช่วยสร้างความรู้สึกเป็นกันเองและรองรับกิจกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่การพักผ่อนส่วนตัวไปจนถึงการพูดคุยแบบสบายๆ
ด้วยความที่เป็นโถงสูง Double Volume ทำให้เมื่อเดินเข้ามานั่งภายในห้องรับแขกของ Clubhouse เราจะรู้สึกได้ถึงความโปร่งสบาย นั่งพักผ่อนพร้อมกันหลายคนได้ไม่อึดอัด จัดวางที่นั่งกระจายกันออกไปรอบพื้นที่ชั้นล่าง ทำให้ต่างคนก็ต่างมีมุมโปรดของตัวเอง
บริเวณบันไดหินอ่อนที่นำไปสู่พื้นที่ชั้นบนได้รับการออกแบบให้ดูสง่างามด้วยราวบันไดเหล็กดัดสีดำตัดกับโครงสร้างสีขาว ช่วยเพิ่มความลึกซึ้งให้กับพื้นที่ ขณะเดียวกันยังมีการตกแต่งด้วยต้นไม้ในกระถางสูงเพื่อเพิ่มความสดชื่นและเชื่อมโยงกับธรรมชาติ

ก่อนขึ้นบันไดไปชั้นบน จัดวางที่นั่งอีกหนึ่งจุด สำหรับรองรับการใช้งานของลูกบ้านและแขกที่เรานัดมาพบปะกันที่นี่กรณีที่เราไม่ต้องการให้แขกเข้าไปภายในโซน Residential เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวของการพักอาศัย ถือเป็นข้อดีของการที่จัดให้มี Clubhouse อยู่โซนด้านหน้าทางเข้าโครงการ
บริเวณนี้ยังมีประตูเชื่อมออกไปยังห้องทำงานนิติบุคคล Kids’ Room ด้านในและประตูเปิดไปสู่สระว่ายน้ำ
ส่วนชั้นบนจัดวางเก้าอี้บริเวณโถงกลางให้เรานั่งพักเหนื่อยหลังออกกำลังกายเสร็จเพราะมีฟิตเนสอยู่ติดกันบรรยากาศโล่งๆ ดีมาก
ภายใน Gym มีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน ทั้งแบบ Cardio และ Weight Training Machine แต่ที่เราชอบคือการจัดวางลู่วิ่งไฟฟ้าให้หันหน้าออกไปทางสวนต้นไม้มองผ่านกระจกใสมีแสงลอดผ่านรับวิตามินดีเบาๆ ยามเช้า บรรยากาศดูแล้วสดชื่นดีเวลาที่เห็นต้นไม้สีเขียวๆ ระหว่างที่เรากำลังวิ่งออกกำลังกาย ช่วยให้หายเหนื่อยได้ครับ
นอกจากนี้ ชั้นบนยังจัดให้มี Meeting Room ให้สามารถจองใช้งาน เพื่อประชุมหรือพรีเซนต์งานได้ โครงการจัดไว้รองรับการใช้งานของลูกบ้านแล้วครับ
การออกแบบตกแต่งภายใน Clubhouse เรียกได้ว่าผ่านกระบวนการคิดมาแล้วในทุกมิติ โดยเฉพาะการรังสรรค์วัสดุชั้นเยี่ยมนำมาใช้ ผสานเข้ากับอัตลักษณ์ของศิลปะ และการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาอำนวยความสะดวก
ด้านหลังเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ข้อดีก็คือทำให้เกิดความเป็นส่วนตัว หากเทียบกับอยู่ฝั่งด้านหน้า Clubhouse เราสามารถใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัวหรือทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านใหม่ๆ ได้ในระหว่างทำกิจกรรม นั่งปิคนิค หรือว่านอนฟังเสียงนกร้อง ใบไม้ไหว รู้สึกสบายใจดีมาก
สระว่ายน้ำมีขนาดใหญ่ เราชอบการปูกระเบื้องพื้นสระที่ทำเป็นลายตัดทำให้รู้สึกงานดีไซน์สไตล์ยุโรปที่คลาสสิคคุมโทนสีน้ำเงิน ฟ้า ให้ความสดชื่นสบายตา สระว่ายน้ำระบบเกลือแบ่งเป็น 2 สระแบบเล่นระดับ มาพร้อมกับสระเด็กและจากกุซชี่ให้เราได้แช่น้ำได้อย่างเพลินใจ มองเห็นสวนสีเขียวที่อยู่รายรอบ
โดยรอบจัดพื้นที่สำหรับพักผ่อนแบบ Outdoor เอาไว้โดยรอบ วางเก้าอี้นั่งพักผ่อนและ Sunbed สำหรับนอนเล่นในช่วงเย็นๆ ตอนที่ตะวันใกล้ลับขอบฟ้า ฝั่งตรงข้ามมี Pavilion จัดไว้สำหรับให้เหล่าคุณแม่จับกลุ่มพูดคุยกันระหว่างที่รอเด็กๆ กำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน หรือใช้เป็นมุมนั่งอ่านหนังสือได้ ด้านล่างมีสนามหญ้าให้เด็กๆ ได้มาวิ่งเล่นกัน
“Luxury is not about the things that you own. It is about something that reflects your personal values, something that shows the choices that you have made in your life.”

-Marcel Wanders
การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางยังได้คำนึงถึงการอยู่อาศัยที่หลากหลาย ทั้งเพศ วัยและความจำเป็นในการใช้ชีวิต
มีสนามเด็กเล่นที่ออกแบบให้เป็นพื้นยางรองรับแรงกระแทกได้ดี มีมุมมุมนั่งเล่น อ่านหนังสือแบบ Semi-Outdoor สำหรับผู้ใหญ่ ถนนทางลาดมีขนาดกว้างสำหรับผู้ที่ต้องใช้วีลแชร์ มีสวนครัวเล็กๆ จาก Sansiri Backyard
ตอนเย็นๆ สามารถมาวิ่งออกกำลังกายในทางเดินรอบๆ Clubhouse ได้ บรรยากาศดีมาก ได้ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติทำให้เราสดชื่นและหายเหนื่อยไวมาก
ส่วนมุมน้ำพุที่เรียงรายดูจะเป็นจุดขายให้กับสวนส่วนกลางเลยนะครับ ช่วยเสริมให้ส่วนมีความอลังการงานสร้างมากขึ้น และครบองค์ประกอบ ทั้งต้นไม้ ท้องฟ้าและสายน้ำไหลเย็น
โครงการเศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบบ้าน ขนาดพื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 260 – 428 ตารางเมตร ได้แก่ Gottfried พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก พร้อมห้องแม่บ้าน สามารถจอดรถได้ 3 คัน

แบบบ้าน Behrens พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ห้องอเนกประสงค์ ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 3 คัน

แบบบ้าน Gropius จะใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย พื้นที่ใช้สอย 340 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ห้องอเนกประสงค์ พร้อมห้องแม่บ้าน สามารถจอดรถได้ 3 คัน
ส่วนแบบบ้านที่กานต์พามาชมคือ Neufert ซึ่งเป็นบ้านขนาดใหญ่ที่สุด มีพื้นที่ใช้สอย 428 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ห้องอเนกประสงค์ พร้อมห้องนอนแม่บ้านด้านหลังและหน้าบ้านสามารถจอดรถได้มากถึง 4 คัน บางแปลงเป็นที่ดินผืนใหญ่ ทำให้มีพื้นที่รอบบ้านสามารถจัดวาง Pavillion แบบส่วนตัวหรือทำเป็นมุมพักผ่อนนอกบ้านได้สบายเลยครับ
กานต์อยากพาไปทำความรู้จักลักษณะเฉพาะของสถาปัตยกรรมแบบเบอร์ลิน (Berlin Architecture) กันสักหน่อย เอกลักษณ์คือการเน้นเส้นสายที่คมชัดและสี Monochrome โดดเด่นด้วยเส้นตรงและรูปทรงเรขาคณิตนั้นสะท้อนถึงแนวคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังของเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเปลี่ยนแปลง สีที่เรียบง่ายเหล่านี้ช่วยขับเน้นเส้นสายและรูปทรงของอาคารให้โดดเด่น โดยลดความซับซ้อนที่ไม่จำเป็น อีกทั้งโทนสี Monochrome ยังสะท้อนถึงแนวคิดของความมินิมอล (minimalism) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Bauhaus และสถาปัตยกรรมโมเดิร์น
บ้านทุกหลังภายในโครงการเศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ มีการออกแบบพื้นที่อย่างลงตัว เพื่อตอบสนองทุกเจนเนอเรชั่น ทำให้ทุกคนในครอบครัวได้ใช้เวลาคุณภาพร่วมกัน โดยแต่ละคนสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ไม่ว่าเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ เช่น โถงกลางที่สูงจากพื้นจรดเพดาน งานดีไซน์ทางลาด การติดตั้งพื้นกันกระแทก และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้เราได้ค้นพบว่างานดีไซน์ที่ดีช่วยให้คุณภาพชีวิตเราดีขึ้นตามได้ ดังนั้น เมื่อเปิดประตูเข้ามาในบ้าน เราจึงสัมผัสได้ทันทีถึงความหรูหรา โอ่โถง โปร่ง โล่งสบาย ด้วยการจัดวางฟังก์ชันที่ดี

พื้นที่และฟังก์ชันที่ไม่เพียงแค่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกทุกเจนเนอเรชันในครอบครัว แต่ยังคิดไปไกลกว่านั้นด้วยการออกแบบพื้นที่การใช้งานให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ไปจนถึงการรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นการคำนึงถึงปริมาณแสงธรรมชาติ ลม ความร้อน รวมถึงการระบายอากาศ ที่นับเป็นการออกแบบโดยใส่ใจในทุกดีเทลอย่างแท้จริง

ถัดจากส่วน Arrival Hall ด้านหน้าริมบันไดซึ่งโครงการได้จัดวางโซฟาเบดสำหรับนั่งสวม-ถอดรองเท้า นั่งรอสมาชิกท่านอื่นที่กำลังแต่งตัวเสร็จแล้วเดินลงมา
นอกจากจะโดดเด่นเรื่องการออกแบบที่เรียบหรูแล้ว โครงการเศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ด้วยแนวคิด Green Living Designed Home โครงการออกแบบโดยใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ บ้านทุกหลังมาพร้อมกับนวัตกรรมที่รองรับพลังงานสะอาด เช่น ระบบที่จัดเตรียมให้เพื่อรองรับ EV Charger สำหรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า สะท้อนถึงความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ในโครงการยังติดตั้ง Solar Panels ที่ช่วยลดการใช้พลังงานและเพิ่มความประหยัดในระยะยาว

หนึ่งในจุดเด่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของโครงการคือระบบบ้านปลอดฝุ่น Dust-Free House ที่มีการติดตั้งเครื่องกรองอากาศในบ้าน Type Neufert ซึ่งเป็นบ้านขนาดใหญ่ที่สุด ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้บริสุทธิ์และสดชื่นอยู่เสมอ โดยสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้มากกว่า 90% และฝุ่นที่เล็กกว่า PM 1 ได้ไม่น้อยกว่า 75% นอกจากนี้ยังช่วยลดสารก่อภูมิแพ้และกลิ่นอับ รวมถึงสามารถฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตอบโจทย์ปัญหาฝุ่นที่เป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบันได้อย่างครบถ้วน ทำให้บ้านในโครงการนี้ไม่เพียงแค่น่าอยู่ แต่ยังปลอดภัยสำหรับสุขภาพของทุกคนในครอบครัว
ก่อนเข้าไปด้านในซึ่งเป็นพื้นที่รับแขกของบ้าน จะมีห้องนอนชั้นล่างที่ออกแบบมาสำหรับผู้สูงอายุสำหรับครอบครัวใหญ่ที่อยู่กันหลายเจนเนอเรชั่น หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ก็สามารถปรับเป็นห้องเอนกประสงค์ที่ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน ห้องดูหนังฟังเพลง หรือจะทำเป็นโฮม ออฟฟิศก็ได้
เนื่องจากภายในบ้านตัวอย่างเป็น Sale Gallery เราจึงไปเก็บภาพจากบ้านตัวอย่างอีกหลังมาให้ดูเป็นไอเดียว่าสามารถปรับเป็นห้องนอนขนาดใหญ่สำหรับผู้สูงอายุได้ ภายในห้องมีขนาดใหญ่สามารถวางเตียงควีนไซซ์ได้สบายๆ มาพร้อมกับพื้นที่แต่งตัวแบบ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว นับว่าสะดวกมากเลยครับ
พื้นที่ชั้นล่างภายในบ้านแสดงถึงการเชื่อมต่อกันของฟังก์ชันในโซนด้านในที่เป็นมุมรับประทานอาหารและสังสรรค์ บริเวณ Living Area สำหรับต้อนรับแขก
โครงการจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ ผนังด้านในจัดวางตู้คาบิเนทและสมาร์ททีวีขนาดใหญ่ได้สบายเลยครับเพราะมีระยะห่างที่กว้างเพียงพอต่อการรับชม ฟีลลิ่งค่อนข้างสบายๆ ไม่อึดอัด กอปรกับผนังกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับวิวสวนสีเขียวด้านข้างบ้านดูสดชื่นดีมาก
เราชอบเวลาที่มีแสงแดดส่องเข้ามาภายใน ส่งผลทำให้มุมนี้ดูอบอุ่น กว้างขวางและโปร่งสบายให้เราใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านได้ทั้งวันไม่รู้สึกเบื่อเลยครับ
ถัดมาเป็นพื้นที่ของ Dining Area จัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ ขนานไปกับความกว้างของตัวบ้านรองรับการใช้งานได้มากถึง 10-12 คนหรือจะทำเป็น Long Table ก็ยังไหว ติดกันด้านในสุดเป็นครัวไทย
ด้านหน้ามีพื้นที่สำหรับจัดเตรียมอาหารลักษณะเป็น Pantry พร้อมเก้าอี้สตูลสำหรับนั่งทานอาหารเช้าเบาๆ สำหรับเด็กๆ ก่อนไปโรงเรียน ส่วนเราขอเป็นกาแฟกับขนมปังสักชิ้นก็พร้อมลุยกันต่อแล้วครับ
ครัวไทยอยู่ถัดเข้าไปด้านใน แยกสัดส่วนเป็นห้องปิดจะได้หมดปัญหาเรื่องกลิ่นรบกวน
พื้นที่นอกบ้านเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ชอบมากและอยากแนะนำ ด้วยความที่แปลงที่ดินของบ้านตัวอย่างและบ้านอีกหลายหลังภายในโครงการจะมีพื้นที่ว่างด้านข้างบ้าน ให้เราสามารถออกมานั่งเล่นที่ลานด้านข้างบ้านได้ครับ

บ้านตัวอย่างจัดเป็น Pavillion พร้อมโต๊ะสำหรับนั่งจิบกาแฟยามเช้า หรือเราจะใช้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ก็ได้ตามใจ ด้วยความที่บ้านที่ดินขนาดใหญ่และออกแบบให้วางตัวบ้านไว้ชิดรั้วฝั่งหนึ่ง จึงทำให้เราได้พื้นที่สวนด้านข้างบ้านที่มีขนาดใหญ่ เอาไว้ทำกิจกรรมที่ชอบได้สบายเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นวาดรูป ทำ Glass House ปลูกผักสวนครัวหรือต่อเติมทำโฮมฟิตเนสก็ได้เช่นกันครับ 
โถงบันไดจะอยู่กลางบ้าน ด้านล่างเป็นห้องเก็บของใต้บันไดมีการติดตั้ง Smoke Detector ไว้ให้เพื่อความปลอดภัย ใช้เป็นพื้นที่ของห้องควบคุมระบบและเป็นห้องเก็บข้าวของที่มีขนาดใหญ่และนานๆ จะใช้งานสักทีนึง ส่วนโครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยลายไม้ให้ความแข็งแรงและเรียบหรู มาพร้อมราวกันตกและมือจับลายไม้สีอ่อนกว่า วางยาวไปตลอดแนวบันได ชานพักเป็นรูปสี่เหลี่ยมก็มีขนาดใหญ่เช่นกีัน โถงบันไดมีช่องแสงขนาดใหญ่ที่สามารถเปิดออกเพื่อระบายอากาศได้ แนะนำให้ติดตั้ง Chandelier ขนาดใหญ่บริเวณโถงบันไดเพื่อทำให้บ้านดูมีมิติที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น 
ชั้นบนจะมี 4 ห้องนอนพร้อมกับพื้นที่อเนกประสงค์เป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับสมาชิกในบ้าน ที่เชื่อมต่อกับโถงบันไดและทางเดินร่วมชั้นบน เปิดโล่งด้วยโถงสูงและหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ที่รายรอบ มองออกไปเห็นบรรยากาศเปิดโล่งของวิวสวนขนาดใหญ่ นับเป็นอีกจุดที่กานต์ชอบคือจะได้เรื่องแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามา 
ชั้นบนเราว่าฟีลลิ่งค่อนข้างโปร่งโล่งสบาย เพราะมีประตูกระจกเปิดออกไปด้านนอก ซึ่งเป็นระเบียงขนาดใหญ่ เราสามารถปลูกไม้กระถางเพิ่มได้ หรืออยากจะแนะนำให้หาเก้าอี้โยกเป็นไม้ดีไซน์วินเทจเก๋ๆ สักตัวมาวาง เพื่อจะได้นั่งเล่นรับลมชมวิว อ่านหนังสือหรือว่าจิบกาแฟยามเช้าหลังตื่นนอน 
มาดูในส่วนของห้องนอนกันบ้างครับ เริ่มจากส่วนพื้นที่ครึ่งหนึ่งของบ้านในปีกขวาด้านหน้าบ้านจะเป็น Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่มาก ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้สอยภายในเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว ที่สำคัญออกแบบโดยคำนึงถึงหลักการไหลเวียนของอากาศภายในเป็นสำคัญด้วยครับ 
เมื่อเปิดประตูเข้าไป จะพบว่าเตียงนอนจะถูกจัดไว้หลบเอาเข้าไปด้านใน ทำให้ได้ความเป็นส่วนเมื่อมีคนเปิด-ปิดประตูเข้ามา ดังนั้น ด้านหน้าจึงเป็นพื้นที่สำหรับจัดวางเก้าอี้ที่นั่งพักผ่อนสบายๆ รู้สึกถึงความโปร่งด้วยช่องแสงจากด้านรอบบ้านทั้งหมด ตกแต่งด้วยสีเบจทำให้ดูเรียบหรูมาก 
ถัดจากเตียงนอน แบ่งฟังก์ชันเป็น Walk-in Closet Space ด้วยความที่ห้องนอนหลักมีพื้นที่เยอะมาก ทำให้มุมแต่งตัวปรับให้มีขนาดใหญ่และพื้นที่ใช้สอยภายในเยอะตามไปด้วย ตรงกลางมี Island สำหรับจัดเก็บเครื่องประดับ โดยมีโต๊ะเครื่องแป้งเป็นตัวแบ่งกึ่งกลางพื้นที่ห้อง สามารถแต่งหน้าแต่งตัวพร้อมกับเปิดรับแสงจากภายนอกด้วย ทำให้ Total Look เราก่อนออกจากบ้านพลอยดูดีแบบมีความเป็น Natural Look ตามไปด้วย 
Master Bathroom จะอยู่ถัดเข้าไปด้านใน ภายในห้องน้ำมีพื้นที่กว้างขวาง แยกส่วนการใช้งานแบบเปียกแห้งมาให้เรียบร้อยแล้ว ภายในห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าที่มาพร้อมกับเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่และกระจกเงา ใกล้กันเป็นสุขภัณฑ์ ตรงข้ามเป็นพื้นที่ของชาวเวอร์ที่กั้นกระจกเรียบร้อยแล้ว และโครงการยังได้ติดตั้งอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่มาให้แล้ว ภายในมีหน้าต่างบานเลื่อนที่สามารถเปิดออกเพื่อระบายอากาศและไล่ความชื้นได้ 
ไปชมห้องนอนถัดมากันบ้าง พื้นที่ด้านในห้องนอนกว้างขวางมากเช่นกันครับ เราสามารถจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ได้เลย เพราะมีพื้นที่กว้างเดินได้รอบ ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นคุมโทนสีน้ำตาล และการเลือกใช้ดีไซน์ของเตียง โต๊ะหัวเตียง โคมไฟและการจับคู่สีที่ทำออกมาได้น่าสนใจ 
เตียงนอนมีระยะห่างมากพอที่จะติดตั้งทีวีจอใหญ่บริเวณปลายเตียง สามารถติดตั้งตู้คาบิเนทสำหรับวางทีวีขนาดใหญ่ให้เรานอนชมซีรีย์เรื่องโปรดจาก Netflix บนเตียงเลยได้สบายๆ เลยครับ แต่ถ้าจะแนะนำให้แขวนทีวีติดผนังจะดูเรียบกว่าช่วยให้ห้องดูโมเดิร์นขึ้น ด้านในเป็นมุมแต่งตัว ส่วนห้องนอนทุกห้องของบ้านจะเป็นแบบ En Suite คือมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง 
ห้องนอนห้องต่อมา บ้านตัวอย่างปรับฟังก์ชันใหม่เอาไว้ให้ดูเป็นไอเดีย แต่กลับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของบ้านที่กานต์ประทับใจ ออกแบบมาให้เป็นพื้นที่สำหรับสมาชิกในครอบครัวให้ได้พักผ่อนในบรรยากาศสบายๆ และทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว สามารถใช้เป็นห้องทำงานของคุณพ่อพร้อมกับมุมเครื่องดื่มสุดโปรด 
อีกทั้งยังใช้เป็นพื้นที่สังสรรค์แบบส่วนตัวกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจได้อีกด้วย อย่างที่บอกไปว่า ฟังก์ชันภายในบ้านทุกหลัง เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจและทำให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัวมากที่สุดนั่นเองครับ 
ส่วนห้องนอนอีกห้องจะอยู่ปีกซ้ายของบ้าน สามารถปรับให้เป็นมุมนั่งเล่น อ่านหนังสือหรือดูทีวีสำหรับสมาชิกในครอบครัวได้เช่นกัน ไฮไลท์ของห้องนี้คือสามุารถเปิดประตูออกไปสู่ระเบียงได้ 
#โดยสรุป เศรษฐสิริ สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาบ้านในทำเลที่ผสมผสานความสะดวกและความสงบอย่างลงตัว เชื่อมต่อการเดินทางทั้งถนนสายหลัก ทางด่วนและรถไฟฟ้าได้ง่าย ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ในขณะเดียวกันยังคงบรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่น โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ Belin ที่เน้นความสมดุลระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัย เส้นสายที่เรียบง่ายแฝงความหรูหรา พร้อมพื้นที่ใช้สอยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต บ้านในโครงการนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความสวยงามของงานดีไซน์ ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน และความสมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัย

โครงการเปิด Presale 25-26 ม.ค.นี้
ราคา 18-30 ล้าน
สนใจนัดเข้าชมโครงการและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
คลิก https://siri.ly/vYdE7T1
หรือโทร 1685 
KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน