THE RITZ PARIS HOTEL

เปิดห้องนอนก่อนตายของ COCO Chanel

THE RITZ PARIS HOTEL

/

“The Ritz is my home” – COCO Chanel ดีไซน์เนอร์และเจ้าของแบรนด์ดังชื่อเดียวกับเจ้าตัว เคยพูดเอาไว้แบบนั้นครับ แม้ว่าชาแนลจะมีอพาร์ตเมนต์สุดหรูที่ 31 Rue Cambon ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่เธอก็ยังชอบที่จะพักที่ Ritz ห้องหมายเลข 302 เป็นเวลานาน 34 ปี จนบอกใครๆ อยู่เสมอว่า “ที่นี่คือบ้านของฉัน” จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อปี 1971

.

เพื่อเป็นเกียรติแก่ชาแนล ห้องนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น The Coco Chanel Suite และเปิดให้จองเพื่อเอาใจแฟนๆ ชาแนลทั่วโลก

.

โรงแรมปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ในปี 2012-2016 ใช้เวลา 4 ปี โดยมี Karl Lagerfeld ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Chanel ผู้ล่วงลับไปแล้ว ร่วมมือกับทีมออกแบบของ Ritz เพื่อสร้างโลกของชาแนลขึ้นมาใหม่

.

ห้อง Chanel Suite ถูกย้ายลงมาชั้นล่าง (Suite หมายเลข 202) เพื่อให้มองเห็น Place Vendome (ปลาส ว็องโดม) จัตุรัสที่โรงแรมตั้งอยู่ อันเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบขวดและฝารูปทรงแปดเหลี่ยมของน้ำหอม Chanel No. 5 น้ำหอมตัวแรกของ Chanel ซึ่งเป็นตัวแม่ของวงการน้ำหอมโลก

.

ชาแนล เคยกล่าวไว้ว่า “a girl should be two things: classy and fabulous” และดูเหมือนว่า Lagerfeld จะใช้แนวทางนี้ในการออกแบบตกแต่งภายในห้อง Suite ของชาแนล คือดูแล้วมีระดับและยอดเยี่ยมไร้ที่ติจริงๆ ครับ

.

ภายในห้องที่ปรับปรุงใหม่ ตั้งแต่ผ้ากำมะหยี่ ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงดีไซน์ สะท้อนตัวตนของชาแนลได้เป็นอย่างดี โทนสีที่เลือกใช้จะเป็นสีเบจ ตัดด้วยขาวและดำ ทำให้เกิดความรู้สึกหรูหราแบบชาแนล ห้องมีขนาด 188 ตร.ม. เป็นห้องชุดที่มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีขนาดใหญ่กว่าบ้านผมอี๊กกกกกก

.

ภายในห้องนั่งเล่น ตกแต่งอย่างหรูหรา สะดวกสบาย เหมาะที่จะเป็นจุดพักผ่อน นั่งจิบไวน์หรือดื่มกาแฟ และดื่มด่ำกับบรรยากาศ โดดเด่นด้วยโคมระย้าระยิบระยับขนาดมหึมาที่ประดับประดาอยู่บนเพดานสูง เส้นสายที่สะอาดตา ตามสไตล์ที่มีระดับเหนือกาลเวลา มีเตาผิงหินอ่อนขนาดใหญ่ เหมือนในโฆษณา Chanel No. 5 เมื่อปี 1937 มาพร้อมกับโซฟาที่ออกแบบใหม่โดยมีต้นฉบับมาจากโซฟาของ Chanel จากอพาร์ตเมนต์ที่ Rue Cambon ของเธอ ตกแต่งด้วยสิงโตทองคำซึ่งเป็นสัญลักษณ์ดาวราศีสิงห์ของชาแนล ฉากกั้น Coromandel สุดโปรด กระจกกรอบทองของ Robert Goossens ช่างฝีมือที่ชาแนลประทับใจ โคมไฟตั้งโต๊ะและเชิงเทียนในห้องนอนและทั่วทั้งห้องสวีทได้รับแรงบันดาลใจจาก Alberto Giacometti และ Jean-Michel Frank ศิลปินในยุคเดียวกัน

.

แม้ว่าการออกแบบจะเป็นแบบวินเทจ แต่ก็มีความทันสมัยในทุกแง่มุม เหมือนกับงานของชาแนล

.

บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งสบายด้วยหน้าต่างบานใหญ่ที่ให้แสงจากภายนอกและวิวที่สวยงาม ผมชอบตู้หนังสือที่มีหนังสือของ Chanel เต็มไปหมด สะท้อนว่าเธอเป็นคนชอบอ่าน เป็นผู้หญิงหัวสมัยใหม่ในยุคนั้น มีงานศิลปะ ภาพถ่าย ที่เราไม่เคยได้เห็นมาก่อนของ Chanel ราวกับเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม

.

ใครที่เป็นแฟนตัวยงของชาแนลจะต้องร้องกรี๊ด เมื่อเข้าไปในห้องน้ำ มีอ่างล้างหน้าที่ประดับด้วยมือจับก๊อกสลักชื่อของเธอ อ่างอาบน้ำที่ดีไซน์ให้เหมาะสำหรับการผ่อนคลาย มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ มีโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมสำหรับเก็บคอลเลกชั่นผลิตภัณฑ์ Chanel ที่เป็น amenities วางไว้คู่กับผ้าขนหนูเนื้อเป็นลูกพีชนุ่มๆ ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของ Ritz Paris

.

ความหรูหรานี้มาพร้อมกับบริการพิเศษ เพราะจะมีพนักงานต้อนรับที่ประตูเครื่องบินของเรา Fast track ที่ตรวจคนเข้าเมือง บริการรับส่งสนามบินด้วยลีมูซีน และเช็คอิน-เช็คเอาต์ที่ยืดหยุ่นเวลาได้ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าใช้ Ritz Club ได้ไม่จำกัด อย่าลืมไปใช้บริการ Chanel Spa ด้วย ทั้งหมดนี้ในราคาคืนละ 25,000 ยูโร หรือประมาณ 980,000 บาท เท่านั้นเอง!!

.

ชาแนลเคยกล่าวไว้ว่า “Luxury must be comfortable, otherwise it is not luxury.” -ความหรูหราต้องสบาย ไม่เช่นนั้นจะไม่ใช่ความหรูหรา

.

Chanel เธอพูดถูกนะ … ว่ามั้ยครับ

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน