Shawn Wongwaen – Chatuchot

“𝐁𝐞𝐚𝐮𝐭𝐲 𝐛𝐞𝐠𝐢𝐧𝐬 𝐭𝐡𝐞 𝐦𝐨𝐦𝐞𝐧𝐭 𝐲𝐨𝐮 𝐝𝐞𝐜𝐢𝐝𝐞 𝐭𝐨 𝐛𝐞 𝐲𝐨𝐮𝐫𝐬𝐞𝐥𝐟.” – ᴄᴏᴄᴏ ᴄʜᴀɴᴇʟ ดีไซเนอร์ในตำนานพูดวลีนี้เอาไว้น่าสนใจมาก

.

แก่นของ Chanel คือความงามที่แท้จริงจากข้างใน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์ภายนอกหรือแฟชั่นแต่เพียงอย่างเดียว การให้ความสำคัญกับความเป็นตัวเองต่างหากที่จะนำไปสู่การเห็นคุณค่าของตนเองและผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง เพราะความงามและความมหัศจรรย์ที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การเผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของตนออกมา

.

ลองจินตนาการถึง Space ที่ให้เราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ มีบ้านสักหลังที่ออกแบบมาเพื่ออยากให้เราเป็นตัวของตัวเอง

.

“𝐒𝐇𝐀𝐖𝐍” (ฌอน) วงแหวน-จตุโชติ กับคอนเซปต์ 𝐋𝐢𝐯𝐞 𝐒𝐇𝐀𝐖𝐍 𝐖𝐚𝐲. (𝐋𝐢𝐤𝐞 𝐧𝐨 𝐨𝐧𝐞 𝐞𝐥𝐬𝐞) กานต์เห็นภาพเปิดตัวแล้วสะดุดตาทันที ด้วยวิธีคิดที่อยากให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองในบ้านฌอน กับบ้านที่ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันภายในได้ตรงใจ สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ ได้ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร

.

ดังนั้น ทุกรายละเอียดในบ้านที่สร้างขึ้นก็เพื่อสะท้อนถึงความเป็นตัวตนของลูกบ้าน เพื่อโอบรับความเป็นตัวตนของเราได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องเกรงใจใคร

.

อีกหนึ่งแนวคิดสำคัญที่ถูกหยิบยกมาใช้ คือการสื่อความหมาย “Crafted to Last” ของ Singha Estate ทำให้ทุกองค์ประกอบ ทุกห้อง ทุกพื้นที่ในบ้าน SHAWN ล้วนให้คุณค่ากับความสวยงาม คุณภาพดี มีความยั่งยืนคงทน ดูแลรักษาง่าย

.

บ้านทุกหลังของ SHAWN ได้รับการออกแบบบ้านให้พร้อมรับต่อทุกการเปลี่ยนแปลง เราสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัว ด้วยการเตรียมโครงสร้างที่สามารถเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ เช่น อยากจะทำเป็นห้องสมุดใหญ่ๆ เอาไว้อ่านหนังสือ หรือห้องเอนเตอร์เมนต์สำหรับดูหนังเหมือนนั่งอยู่ในโรง มีฟิตเนสส่วนตัวภายในบ้านก็สามารถทำได้ เพื่อให้บ้านสะท้อนตัวตนของคนอยู่อาศัยมากที่สุด

.

ขณะเดียวกันก็รักษาบรรยากาศที่อบอุ่นด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ด้วยแบบบ้านดีไซน์พิเศษ L-Shaped Residence ที่โดดเด่นกว่าทุกโครงการในย่านนี้ ให้พื้นที่ Backyard ขนาดใหญ่ ทุกมุมมองของบ้าน จะมองเห็นวิวสวนได้ ทำให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิม สามารถแทคทีมกับเพื่อนหรือญาติสนิทซื้อบ้าน 2 หลังติดกันได้เลยนะครับ จะได้พื้นที่สวนขนาดใหญ่ จัดปาร์ตี้แบบกันเองได้สบายเลย ทำให้บ้านเป็นสถานที่สำคัญของเราทุกคนอย่างแท้จริง

.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1221

หรือ Click bit.ly/4cix4wE

SHAWN (ฌอน) เป็นบ้านเดี่ยวระดับ LUXURY แบรนด์ใหม่ของ Singha Estate ที่เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ พัฒนาดีไซน์และฟังก์ชันภายในบ้านให้ปรับเปลี่ยนได้ตามใจ เน้นบ้านไซส์ใหญ่ในราคาที่จับต้องง่ายขึ้น บนเนื้อที่ประมาณ 46 ไร่ มีจำนวนทั้งสิ้น 158 ยูนิต ตอนนี้เปิดตัวพร้อมกัน 2 ทำเลครับคือ SHAWN ปัญญาอินทรา และ SHAWN วงแหวน – จตุโชติ ที่เราพามาชมโครงการกันในพาร์ทนี้
ในส่วนของโลเคชั่นโครงการ SHAWN วงแหวน – จตุโชติ ถือว่าเดินทางสะดวกมาก ตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก สามารถเข้าได้ทั้งจากฝั่งถนนคู้บอนตรงถนนรามอินทราช่วงกม.8 ส่วนกานต์ขับรถยนต์มาลงทางด่วนสุดสายจตุโชติจากนั้นเลี้ยวขวามา 3 นาทีก็ถึงโครงการเลยครับ เรียกได้ว่าสะดวกมาก เพราะอยู่ใกล้กับทางด่วน 2 สาย ทั้งทางด่วนรามอินทรา ด่านจตุโชติและทางด่วนวงแหวนฯ อีกทั้งตั้งอยู่ติดถนนคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษก สะดวกสำหรับผู้ที่ใช้เส้นทางบางนา-บางปะอิน ตลอดจนเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้รวดเร็วมาก นอกจากนี้ยังสะดวกในการใช้รถไฟฟ้าเพราะว่าอยู่ห่าง MRT สายสีชมพู สถานีรามอินทรา กม.9 ประมาณ 5 กิโลเมตร สามารถเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้า MRT สายอื่นๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น 
ด้วยความโครงการ SHAWN วงแหวน – จตุโชติ ตั้งอยู่ติดเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนหลายสายได้สะดวก อาทิ ถนนคู้บอน ถนนรามอินทรา ถนนจตุโชติ ถนนเทพรักษ์และถนนสุขาภิบาล 5 เป็นต้น และยังอยู่ใกล้กับถนนสายตัดใหม่เป็นส่วนต่อขยายในอนาคตของถนนเทพรักษ์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอเวนคืนที่ดิน ซึ่งหากถนนสายนี้แล้วเสร็จก็จะสามารถเชื่อมต่อทำเล ตั้งแต่ถนนวิภาวดีรังสิตไปจนถึงถนนนิมิตใหม่ ทำให้การเดินทางสะดวกสบายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น 
ระหว่างที่ขับรถมา กานต์ก็สังเกตดูรอบๆ โครงการพบว่ารายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบและครบทุกไลฟ์สไตล์ทั้งห้างสรรพสินค้า FASHION ISLAND & PROMENADE, CENTRAL EASTVILLE คอมมูนิตี้มอลล์ JAS GREEN VILLAGE, PLEARNARY MALL ร้านอาหารชื่อดัง คาเฟ่เก๋ๆ ให้ได้มานั่งพักผ่อนในวันหยุดสบายๆ ใกล้บ้าน

มีสถานศึกษาชื่อดังที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการเพื่อรองรับอนาคตให้กับลูกหลาน อาทิ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย, โรงเรียนร่วมฤดี (RIS Early Years Campus), โรงเรียนสาธิตพัฒนา, โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์, โรงเรียนเลิศหล้า (เกษตร-นวมินทร์) เป็นต้น

ทำเลนี้ยังมีสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียง ได้แก่ โรงพยาบาลสินแพทย์, โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ และโรงพยาบาลซีจีเอช สายไหม เป๋็นต้น 
ด้านหน้าโครงการมีระยะ Set-Back จากถนนหลักเข้ามาพอประมาณ ทำให้เปิดพื้นที่สีเขียวด้านหน้าได้อย่างโดดเด่นสำหรับผู้ที่สัญจรผ่านไปมาและยังเป็นบัฟเฟอร์ป้องกันเสียงเพื่อให้เกิดบรรยากาศของการพักอาศัยที่เงียบสงบได้เป็นอย่างดี 
Main Gate โครงการมีขนาดใหญ่งานดีไซน์แบบ Modern Classic สีขาวดำหลังคาแบบย่อมุม ล้อไปกับภาพรวมโครงการที่เป็นงานดีไซน์แบบร่วมสมัย ป้ายชื่อด้านหน้าโครงการออกแบบได้อย่างหรูหรา ด้วยการเลือกใช้พื้นสีเข้มตัดกับตัวหนังสือชื่อโครงการสีเหลืองทองมองเห็นได้ชัดเจน ฝั่งขวามีมุมน้ำพุและปลูกต้นไม้ จัดสวนสีเขียวเพื่อเพิ่มความสดชื่น 
โครงการแยกประตูทางเข้า-ออก การเข้าออกของรถยนต์เป็นแบบประตูเลื่อนไฟฟ้า ลูกบ้านจะใช้ระบบ Easy Pass ในการเข้าออก ส่วนแขกที่มาติดต่อลูกบ้านจะต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ในช่องทางขวาก่อนครับ ด้านซ้าย-ขวามีประตูเล็กเป็นเหล็กสีดำสำหรับคนเดินเข้าออก มีป้อมยามอยู่ตรงกลางพร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการรวม 41 จุด รั้วรอบโครงการสูงมากเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย 
จาก Main Gate จะเจอกับวงเวียนต้นไม้ซึ่งกานต์ชอบมากเลยครับ ที่โครงการ SHAWN วงแหวน – จตุโชติ จะแยกส่วนของ Guest Area สําหรับแขกผู้มาเยือนและ Residential Area สำหรับลูกบ้าน เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย 
เมื่อขับรถผ่าน Main Gate เข้ามาจะเป็น Clubhouse สำหรับให้ลูกบ้านพักผ่อนและเป็นพื้นที่สำหรับนัดหมายพบปะเพื่อนหรือญาติก็สามารถนัดมายัง Clubhouse ได้ 
อาคาร Clubhouse มีลักษณะ 2 ชั้นพร้อมพื้นที่จอดรถสำหรับลูกบ้านและแขกอยู่ด้านข้าง ออกแบบในสไตล์ Modern Classic ที่ดูหรูหราในทุกยุคสมัย เน้นดีไซน์ให้มีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ 
Clubhouse ดีไซน์ Modern Classic ที่เน้นดีเทลของงานออกแบบมีทั้งผนังแบบย่อมุม คิ้วบัวสไตล์ยุโรป ฟินบริเวณเหลี่ยมของอาคารที่ช่วยเพิ่มมิติ เมื่อเดินเข้ามาจะเป็นบันไดปูด้วยหินทรายล้างกันลื่น อาคาร Clubhouse ยกพื้นให้สูงขึ้น ราวกับอัครสถานขนาดใหญ่ 
ด้านซ้ายจะเป็นสระว่ายน้ำท่ามกลางสวนสีเขียว ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปชมกัน โครงการยังออกแบบโดยคำนึงถึงหลัก Universal Design เรียกว่า Wheelchair Friendly บนระดับความชันมาตรฐาน 1:10 เพื่อให้ผู้ใช้รถเข็นวีลแชร์สามารถขึ้นมาบน Clubhouse ได้สะดวกและปลอดภัย 
Clubhouse ออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เห็นได้จากการปลูกต้นไม้ไว้โดยรอบทำให้ได้ฟีลลิ่งของ Organic Architecture มากขึ้น ผนังเป็นกระจกใสทำให้เชื่อมต่อมุมมองของธรรมชาติจากภายนอกสู่ภายในอาคาร ทำให้ดูมีความร่วมสมัยอย่างเป็นหนึ่งเดียวกัน 
สระว่ายน้ำดีไซน์สวย เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด Half Olympic 6×25 เมตร ความลึก 1.20 เมตร แบ่งโซนสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก พร้อม Jacuzzi และมีพื้นที่นั่งริมสระ ใกล้ๆ มี Daybed จัดวางสำหรับนั่งพักผ่อนหรือให้ผู้ปกครองมานั่งรอเด็กๆ ว่ายน้ำ 
ขอบสระจะมองเห็นพื้นที่สวนส่วนกลาง มีทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้ดอก ไม้ประดับ ปลูกสลับกันไปเพิ่มความสดชื่นตรงข้ามมีสนามหญ้าให้เด็กๆ มานั่งเล่นพักผ่อนใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ส่วนด้านในสุดเป็น Garden Pavilion ศาลาสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ อ่านหนังสือหรือจิบชากาแฟยามบ่าย ด้านในจัดวางชุดเก้าอี้ที่นั่งเอาไว้ให้แล้ว 
สำหรับโครงการ SHAWN วงแหวน – จตุโชติ มาพร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์การใช้งานของลูกบ้านที่มีความชอบและไลฟ์สไตล์ที่เหมือนหรือต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น Lounge หรือ Co-Working Space สำหรับพักผ่อน ทำงาน อ่านหนังสือ หรือเปลี่ยนบรรยากาศจากการอยู่บ้านมานั่งเล่นที่ Clubhouse 
ฟังก์ชันการใช้งานภายในได้ถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ เร่ิมจากด้านซ้ายจะเป็นห้องโถงสูงแบบ Double Volume มีหน้าต่างทรงสูงทำให้ดูโปร่งสบายเปิดช่องแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาได้ตลอดทั้งวัน เปิดรับวิวสวนและวิวของสระว่ายน้ำ 
มุมนี้ได้รับการออกแบบให้เป็น Leisure Lounge สำหรับต้อนรับแขกเพื่อพบปะพูดคุยธุระ มีการจัดชุดโซฟาดีไซน์และสีสันหลากหลายเอาไว้ให้ 2 ชุด รองรับการพักผ่อนของลูกบ้านเพื่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ ระหว่างนั่งพัก และยังจัดให้มีมุมแบบส่วนตัวที่กระจายออกไปทั่วบริเวณ เราว่าสะดวกดีหากต้องมีการนัดหมายแขกหรือบุคคลภายนอกที่เราไม่อยากให้เข้าบ้านก็เจอกันตรงนี้ ด้านในมีห้องน้ำเอาไว้ให้บริการ ใช้งานร่วมกับผู้ที่มาว่ายน้ำออกกำลังกายซึ่งจะมีประตูเล็กด้านหลังเปิดเข้าไปใช้งานหลังขึ้นมาจากสระว่ายน้ำได้สะดวก 
กานต์ชอบ Clubhouse ของที่นี่มากครับ ได้เข้ามาใช้บริการแล้วรู้สึกสบายใจดี โถงทางเดินมีอาร์ต เก๋ๆ ประดับไว้ให้ความรู้สึกขี้เล่น เป็นกันเอง 
ถัดเข้าไปด้านในมีห้องส่วนตัวเป็น Biz Lounge หรือ Co-Working Space ออกแบบได้เรียบหรูดีเช่นกันครับ จัดวางที่นั่งไว้กระจายไปรอบห้องเพื่อรองรับการใช้งานของลูกบ้านไม่ว่าจะมาพักผ่อน อ่านหนังสือแบบเดี่ยวๆ หรือชวนเพื่อนข้างบ้านมานั่งคุยกันที่นี่ ตลอดจนใช้เป็นพื้นที่จัดประชุมได้ด้วยครับ ภายในห้องติดตั้ง Smart TV มาให้เพื่อรองรับการประชุมออนไลน์ หรือนำเสนอผลงาน แต่ห้องนี้อาจจะต้องจองล่วงหน้ากับนิติบุคคลก่อน 
ภายในตกแต่งราวกับเป็นแกลอรี่ที่มีห้องจัดแสดงงานศิลปะ สามารถปรับเป็นห้องแบบส่วนตัวได้ เราชอบการเลือกใช้สีที่คุมโทนได้ดี เน้นเป็นสีเอิร์ธ น้ำตาล เทา ขาวและดำ สลับกับสีสันจากงานศิลปะที่เลือกมาประดับ ระหว่างที่กานต์เดินชมให้อารมณ์เหมือนกำลังเดินอยู่บนถนนที่เต็มไปด้วยงานศิลปะ ร้านกาแฟ จัดวางเก้าอี้ดีไซน์สวยสีสันสดใสกระจายไปรอบห้อง โดยประยุกต์ให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับพบปะแขก พูดคุยธุระ หรือจะใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงานสำหรับลูกบ้านก็ได้เช่นกัน ด้วยการออกแบบที่ดูมีสไตล์ทำให้สัมผัสได้ถึงรายละเอียดในการออกแบบที่เน้นความหรูหรา และยังคงความอบอุ่น 
Clubhouse ของที่นี่เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย กานต์จะพาไปชมยังส่วนอื่นๆ ภายใน Clubhouse กันต่อครับ รับรองว่าจะต้องชอบใจเหมือนผมแน่นอน� 
เมื่อขึ้นบนมาชั้น 2 จะพบกับโถงทางเดินทอดยาวที่มองลงไปจะเห็นพื้นที่ Leisure Lounge ชั้นล่างที่ประดับโคมไฟแชนเดอร์เลียร์เอาไว้อย่างสวยงาม บรรยากาศชั้นบนก็โปร่งสบายเช่นกัน มีพื้นที่ของ Living Space ที่แยกส่วนออกไป ซึ่งเราจะเดินไปชมกันครับ� 
Living Space เป็นอีกหนึ่งมุมที่ตกแต่งได้อย่างสวยงามโครงการจัดวางชุดโซฟาสีขาวและเก้าอี้ดีไซน์ฟรีฟอร์มเพื่อให้ห้องนี้รู้สึกผ่อนคลายสบายๆ เราชอบการเลือกหมอนอิงที่ดูมีความสดใส ผนังโดยรอบเป็นกระจกเพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติรอบด้าน ให้ความรู้สึกผ่อนคลายในทุกช่วงเวลา

มุมนี้สามารถรองรับการใช้งานทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่มเล็กๆ หรือนัดกันเฉพาะสมาชิกในครอบครัว มาทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อให้เกิดความสงบเป็นส่วนตัว เพราะบางทีเราแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากภายในบ้านแต่ก็ไม่อยากเดินทางไปไหนไกลๆ ตรงนี้ผมว่าน่าจะช่วยตอบโจทย์ได้สบายๆ เลยครับ อีกทั้งยังเหมาะกับวิถีชีวิตแบบ New Normal แบบนี้อีกด้วย 
Clubhouse ของโครงการมีกิจกรรมเยอะมาก เพื่อรองรับลูกบ้านไว้ได้อย่างหลากหลาย มีทั้ง S Gym เป็นฟิตเนสขนาดใหญ่ ภายในจัดวางเครื่องออกกำลังกายไว้ครบครันทั้ง ลู่วิ่ง จักรยานไฟฟ้าและ Elliptical Machine จัดวางไว้ริมกระจกใส หันหน้าออกไปด้านนอก เป็นการคาดิโอท่ามกลางวิวสวนสีเขียว ผ่านผนังกระจกที่เปิดรับธรรมชาติจากภายนอกจะได้เทควิวสีเขียวของต้นไม้ให้ความสดชื่นหายเหนื่อยได้ อุปกรณ์ออกกำลังกายทั้งฟรีเวท หรือแมชชีน ถือว่ามีจำนวนเยอะมากครับ รองรับการใช้งานได้ของลูกบ้านได้อย่างเพียงพอแน่นอน 
ตรงข้ามจะเป็น Joy Chamber (Game Room) มีทั้งโต๊ะพูลขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลางห้องที่ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยการใช้วัสดุไม้เข้ามาประดับตกแต่ง มาพร้อมกับผนังซ่อนที่ใช้เก็บอุปกรณ์เล่นพูล ส่วนผนังอีกด้านประดับด้วยงานศิลปะที่ดูแล้วสนุกสนานเป็นกันเอง ช่วยเพิ่มบรรยากาศเอนจอยปาร์ตี้กับกลุ่มเพื่อนได้ดี จัดวางชุดโซฟาเอาไว้ให้นั่งเล่นทำกิจกรรมด้วยกัน มีทั้งบอร์ดเกม ชุดทีวี มี PlayStation 5 พร้อมจอยเกม สำหรับเล่นเกมกับเพื่อนๆ ได้ สามารถจองเข้าใช้งานแบบส่วนตัวกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนได้เลยครับ 
“𝑺𝒕𝒚𝒍𝒆 𝒊𝒔 𝒔𝒐𝒎𝒆𝒕𝒉𝒊𝒏𝒈 𝒆𝒂𝒄𝒉 𝒐𝒇 𝒖𝒔 𝒂𝒍𝒓𝒆𝒂𝒅𝒚 𝒉𝒂𝒔, 𝒂𝒍𝒍 𝒘𝒆 𝒏𝒆𝒆𝒅 𝒕𝒐 𝒅𝒐 𝒊𝒔 𝒇𝒊𝒏𝒅 𝒊𝒕.”

– Diane von Furstenberg 
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการมีขนาดใหญ่มาก เพราะให้น้ำหนักกับพื้นที่สีเขียวครับ ทั้งไม้พุ่ม ไม้ดอก และต้นไม้ใหญ่ มีสนามหญ้ากว้าง เหมาะสำหรับกิจกรรมนันทนาการภายในครอบครัว อย่างเช่นฝีั่งตรงข้าม Clubhouse ก่อนถึงบ้านตัวอย่างก็ยังมีพื้นที่สวนให้เราได้มาสัมผัสธรรมชาติกัน 
กานต์รู้สึกเหมือนกำลังพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ตที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ไม้ดอกไม้พึุ่มที่ปลูกเอาไว้ดูสวยงามและดูสดชื่นดีครับ เพราะเชื่อมต่อกับสวนส่วนกลาง โครงการออกแบบให้มีเนินหญ้าสำหรับเด็กๆ หรือให้น้องหมาได้มาวิ่งเล่น มีทางเดินภายในสวนสำหรับออกกำลีังกายเบาๆ ยามเช้าหรือตอนเย็นหลังเลิกงาน

นอกจากนี้ยังมี Main Park อีกหนึ่งจุดที่อยู่ด้านในโครงการเป็นสวนสาธารณะเพื่อให้ลูกบ้านได้มานั่งพักผ่อนทำกิจกรรม ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างครับ แต่เชื่อได้เลยว่า เมื่อแล้วเสร็จก็น่าจะทำให้บรรยากาศของโครงการดูร่มรื่น สดชื่นมากขึ้นไปอีกเท่าตัวแน่นอน 
เอาจริงๆ กานต์ต้องยอมรับเลยครับว่า SHAWN วงแหวน-จตุโชติ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ Clubhouse ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมาก มีมุมให้เก็บภาพเยอะไปหมดเลยครับ ด้านหน้าของอาคารจะเป็นสวนสีเขียว แต่หากมองไปทางด้านข้างจะเห็นสระว่ายน้ำสีฟ้าขนาดใหญ่ที่ทอดยาวขนานไปกับตัวอาคาร มีวงเวียนต้นไม้ที่กลายเป็น Signature พร้อมกับสวนกระจายไปในหลายจุด 
แบบบ้านที่กานต์พามาชมกันในครั้งนี้ คือ Residence I (Type L) เป็นบ้าน 2 ชั้น ขนาดที่ดินเริ่มต้น 94 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 369 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 พื้นที่พักผ่อนพร้อม Dining Area ขนาดใหญ่ มองออกเป็นเห็นสวนสีเขียวด้านข้าง หน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 4 คัน แบ่งเป็นจอดในร่มได้ 3 คันและริมด้านขวากึ่งกลางแจ้งจอดได้อีก 1 คัน บ้าน Tpye นี้ออกแบบแปลนบ้านเป็นรูปตัว L ทำให้ได้พื้นที่ Backyard สวนสีเขียวด้านข้าง เชื่อมต่อกับห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างหรือจะปรับฟังก์ชันเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ได้

โครงการ SHAWN วงแหวน – จตุโชติ ออกแบบบ้านในสไตล์ Modern Classic เป็นบ้านที่เป็นการรวมกันของความ Classic ที่เน้นการตกแต่งเพิ่มรายละเอียดให้กับบ้านดูหรูหรา กับสไลต์ Modern ที่เน้นความเรียบง่ายเข้าได้กับทุกไลฟ์สไตล์ โดยมีจุดเด่นได้แก่ การเลือกใช้วัสดุที่เน้นสีขาวตัดกับสีดำ ดูเรียบง่ายแต่ก็มีดีเทลที่ให้ความหรูหรา โดยวัสดุจะเป็นคอนกรีตทาสีขาวกับขอบประตูหน้าต่างที่เป็นอะลูมิเนียมสีดำ ผิว Powder Coated ขอบคิ้วบัวและผนังแบบย่อมุมทำให้บ้านดูหรูหรามีกลิ่นอายบ้านสไตล์ยุโรป 
รอบๆ ตัวบ้านออกแบบให้เป็นบ้านหน้ากว้างที่เปิดรับช่องแสงและลมได้เยอะ ทำให้บ้านค่อนข้างโปร่งโล่งอยู่สบายไม่อึดอัด พื้นที่ใช้สอยภายในกว้างขวาง ยืดหยุ่นและรองรับทุกกิจกรรมการใช้งานของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะครอบครัวใหญ่หลาย Generations ด้วยความที่ที่ดินผืนใหญ่ทำให้มีพื้นที่บริเวณข้างบ้านที่จัดเป็นสวนเพิ่มเติมเหมือนบ้านตัวอย่างได้ ไฮไลท์ก็คือ หากเราซื้อบ้านหลังติดกันกับญาติหรือเพื่อนฝูงก็จะสามารถเชื่อมต่อสวนด้านข้างแบบส่วนตัวให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ หรือหากซื้อบ้าน 4 หลังติดกันเป็น 1 คลัสเตอร์ ก็จะได้สวนตรงกลางขนาดใหญ่ใช้เป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์กับเพื่อนบ้านคนสนิทได้เลยครับ นับว่าเป็นไอเดียการออกแบบที่สร้างสรรค์มากๆ 
หน้าบ้านเป็นลานจอดรถโครงการลงเสาเข็มมาให้แบบ Slab on Beam ใช้โครงสร้างเดียวกับตัวบ้าน โครงการเดินไฟสามเฟสเพื่อรองรับการติดตั้ง EV Charger สำหรับรถไฟฟ้าเอาไว้ให้ ส่วนหลังคาดีไซน์แบบปั้นหยาที่สโลปไม่สูงมาก ช่วยสะท้อนความร้อนออกไปทำให้บ้านเย็นสบาย โครงสร้างหลังคารองรับติดตั้ง Solar Cell System ของลูกบ้านเอาไว้ให้แล้ว บ้านมาตรฐานติดตั้งชุดมอเตอร์รั้วประตูมาให้ นอกจากนี้ยังได้ติดตั้ง Smart Outdoor Camera ที่คอยตรวจความเคลื่อนไหวผิดปกติที่ผ่านเข้ามาใกล้ตัวบ้านและส่งสัญญาณแจ้งเตือนเข้าโทรศัพท์ของเรา เพื่อคอยดูแลความปลอดภัยภายนอกตัวบ้านได้อีกทาง 
ประตูทางเข้าหลักของบ้านทาสีเข้มบานเดี่ยวขนาดใหญ่ เจาะเปิดช่องแสงด้านข้างเอาไว้เล็กน้อยเพื่อเปิดให้เห็นความเคลื่อนไหวด้านหน้าบ้าน ทางโครงการติดตั้ง Digital Door Lock จาก HAFELE มาให้เรียบร้อยแล้ว 
เมื่อเข้ามาภายในจะพบกับ Arrival Hall ขนาดใหญ่ ผนังด้านในประดับด้วยกระจกเงาทำให้บริเวณนี้ดูโล่ง ผนวกกับโถงบันไดทรงสูงทำให้บ้านดูโปร่ง อยู่สบาย เวลากลับมาจากที่ทำงานแล้วเดินเข้าบ้านจะได้รู้สึกผ่อนคลาย หายเหนื่อยทันทีที่มาถึง 
แปลนบ้านมาตรฐานออกแบบชั้นล่างเป็นรูปตัวแอล (L) ให้เราได้ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามใจ อย่างเช่นบ้านตัวอย่างที่ออกแบบให้ฝั่งด้านขวาแยกโซนออกไปเป็น Grand Living Area สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนและต้อนรับแขก แบ่งออกเป็น 2 ช่วงเชื่อมต่อกันรองรับการใช้งานแขกกลุ่มใหญ่ มองเห็นบรรยากาศของด้านหน้าบ้านและสวนสีเขียวด้านข้างบ้าน 
ที่นั่งด้านหน้าจัดวางชุดโซฟาหนังกลับสีส้มอิฐและเก้าอี้สีครีมดีไซน์ฟรีฟอร์มเพื่อให้ห้องนี้รู้สึกผ่อนคลายสบายๆ เราชอบการเลือกหมอนอิงที่ดูมีลวดลายกราฟฟิคและสีสันแตกต่่งกันไป มุมนี้ยังประดับประดาด้วยของตกแต่งสไตล์โมเดิร์น มีไฮไลท์คือ Chandelier ที่แขวนไว้ด้านบนเพดาน เลือกดีไซน์ที่มีความระยิบระยับสวยงามดีครับ เหมาะสำหรับเป็นมุมปาร์ตี้ ดื่มเบาๆ อยู่ที่บ้านกับเพื่อนฝูงหรือคนรู้ใจในบรรยากาศแบบกันเองสบายๆ ชนิดที่ว่า เมาแล้วก็สามารถหลับต่อบนโซฟานี้ได้เลยครับ 
ด้านในติดจะเป็นพื้นที่ของ Family Area มีพื้นที่กว้างขวาง จัดวางชุดโซฟาที่นั่งขนาดใหญ่เอาไว้หลายที่นั่ง พร้อมกับสมาร์ททีวีขนาดใหญ่เพื่อให้ดูโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น มุมนี้ค่อนข้างโปร่งด้วยกระจกใสเปิดช่องแสงในหลายด้าน เป็นการออกแบบที่ใส่ใจเรื่องการมองเห็นและสัมผัสพื้นที่ธรรมชาติภายนอก ด้วยการดีไซน์แบบ Inside out – Outside in เราสามารถเปิดหน้าต่างกระจกเพื่อระบายอากาศเพิ่มการไหลเวียนของลม ขณะเดียวกันภายในบ้านก็ได้ติดตั้งระบบ S-Air System เป็นลักษณะ Active Air Flow ระบบหมุนเวียนอากาศในตัวบ้าน ให้ได้ทั้งอากาศบริสุทธิ์สดใหม่ และช่วยลดความร้อน 
ติดกันจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร เปิดฟังก์ชันการใช้งานครบครันจะกั้นหรือเปิดโล่งก็ได้ เราสามารถนั่งจิบเบาๆ กันที่โซฟาก่อนที่จะย้ายมาทานอาหารร่วมกันในมื้อค่ำที่นี่

บ้านตัวอย่างตั้งใจออกแบบมุม Pantry & Dining Area ให้มีความเป็น Open Space เชื่อมต่อกันระหว่างโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ 6 ที่นั่ง โถงเปิดโล่งจรดฝ้าเพดานแบบ Double Volume สูง 6.5 เมตรทำให้รู้สึกโปร่ง สบายๆ จัดแบ่งพื้นที่การใช้สอยภายในได้อย่างเป็นสัดเป็นส่วนและมีความเป็นส่วนตัว แต่กานต์ว่าจริงๆ แล้วมุมนี้ก็มีพื้นที่เหลือค่อนข้างมาก สามารถจัดเป็นโต๊ะแบบยาวกว่านี้ประมาณ 8-10 ที่นั่งก็ยังพอไหว ถ้าอยากให้ได้ประโยชน์จากการใช้สอยพื้นที่เต็มที่มุมนี้เราก็สามารถปรับฟังก์ชันได้ตามใจ 
ด้านในเป็นส่วนเตรียมอาหารและมุมกาแฟ ติดตั้งอ่างล้างจานและตู้เก็บแก้วด้านบน ด้านล่างเป็นตู้เก็บของบานปิด ติดกันเป็นพื้นที่สำหรับจัดวางตู้เย็น มุมรับประทานอาหารออกแบบให้เชื่อมต่อกับครัวไทยที่อยู่ถัดเข้าไปด้านในสะดวกต่อการใช้งานจริงครับ เรียกได้ว่าบ้านได้รับการออกแบบมาอย่างถูกใจผู้อยู่อาศัย ทำให้มุมนี้กลายเป็นพื้นที่โปรดของสมาชิกในครอบครัว จะได้ใช้เวลาร่วมกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นบนโต๊ะอาหาร 
กานต์มองว่า หัวใจหลักของการออกแบบโครงการ SHAWN วงแหวน – จตุโชติ จะให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวในทุกจุดรับสายตา

โดยเฉพาะใครที่ซื้อบ้านโซนหน้าสวนส่วนกลางยิ่งได้เปรียบเลยครับ เพราะนั่นหมายความว่า เมื่อเรามองหรือกวาดสายตาไปทางไหน เราจะเห็นสีเขียวของต้นไม้เต็มไปหมด ที่สำคัญคือนอกจากจะให้ร่มเงาและความร่มรื่นแล้ว ยังช่วยเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ ดักจับอนุภาคมลพิษ และช่วยลดอุณหภูมิรอบบ้านลงได้อีกด้วย 
เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นครัวปิด มีพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก โครงการติดตั้งเคาน์เตอร์เป็นรูปตัวไอ (I-Shape) ขนานกันไปทั้ง 2 ฝั่ง มีตู้เก็บของด้านล่างพร้อมบานปิดมาให้ ส่วนตู้ลอยติดผนังทำมาให้ดูเป็นไอเดีย มีอ่างล้างจานจาก TEKA มาให้ Top เป็นหินแกรนิต ทนทานทำความสะอาดง่าย และติดตั้งกระเบื้อง Backsplash ป้องกันรอยคราบอาหารติดผนังบ้าน ด้านข้างฝั่งขวาเปิดช่องสำหรับจัดวางตู้เย็นขนาดใหญ่เอาไว้ให้แล้ว พร้อมเคาน์เตอร์ทำครัวติดตั้งเตาไฟเอาไว้ เรียกว่าเป็นการออกแบบพื้นที่ภายในครัวค่อนข้างลงตัว

ในฐานะที่เราเป็นคนชอบเข้าครัวทำอาหาร จะปลื้มกับครัวของบ้านตัวอย่างหลังนี้มาก เพราะขนาดกว้างขวางเข้าครัวพร้อมกัน 2 คนได้ แยกฟังก์ชันการทำงานออกจากกันทั้ง 2 ฝั่งสามารถล้างจานล้างผัก ไปพร้อมกับการทำกับข้าวบนเตาอีกฝั่งได้ อีกทั้งยังมีหน้าต่่างบานกระทุ้งสำหรับเปิดระบายอากาศได้ ช่วยให้เราสามารถทำอาหารต้ม ผัด แกง ทอด ตำน้ำพริกได้เต็มที่ถือว่าสะดวกดีต่อการใช้งานครับ นอกจากนี้ ทางโครงการยังได้ติดตั้ง Heat Detector ภายในห้องครัว และ Smoke Detector ใน Electrical Room มาให้ด้วย

ส่วนด้านหลังจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ Maid Plaza เป็นโซนทำงานของแม่บ้านด้านหลังโดยที่แม่บ้านสามารถเข้าออกพื้นที่ผ่านสวนด้านข้างได้เลยครับ ทำให้ไม่จำเป็นต้องผ่านเข้าทางหน้าบ้านจะได้ไม่เป็นการรบกวนเจ้าของบ้านทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวด้วยครับ 
อีกหนึ่งรายละเอียดของงานออกแบบคือ บริเวณชั้นล่างจะมีห้องน้ำแบบ Powder Room คือเป็นห้องน้ำที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ สำหรับแขกและลูกบ้านใช้งานร่วมกัน แต่ยังคงตกแต่งได้อย่างหรูหรามีระดับพื้นและผนังประดับด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนแผ่นใหญ่ ภายในห้องน้ำติดตั้งอ่างล้างหน้าจาก COTTO พร้อมก๊อกน้ำยี่ห้อเดียวกัน

ด้านหลังติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่ ถัดไปเป็นสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก COTTO แต่ผมกลับชอบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของงานออกแบบที่สอดแทรกมาให้ คือการเปิดช่องแสงเล็กๆ จากด้านหลังบ้านเพื่อให้ห้องน้ำดูสว่างขึ้น และสามารถเปิดบานกระทุ้งออกเพื่อระบายอากาศ ไล่ความชื้นได้เพื่อสุขอนามัยที่ดีในการพักอาศัยครับ 
ที่บริเวณชั้นล่างจะมีห้องนอนอยู่หนึ่งห้อง ออกแบบมาสำหรับผู้สูงอายุ ภายในห้องมีเตียงนอนขนาดใหญ่ที่จัดไว้อยู่ริมประตูกระจกใส มีพื้นที่โดยรอบเหลือให้เดินได้สบายรองรับการใช้งานวีลแชร์ได้สะดวกเลยครับ ปลายเตียงสามารถติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ได้ ถ้าเบื่อดูทีวีก็เพียงมองออกไปจากเตียงจะเห็นสวนข้างบ้าน เติมความสดชื่นตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้ากันเลยครับ 
ด้วยความที่อยู่ชั้นล่างทำให้ค่อนข้างสะดวกต่อการเดินไปที่ครัวข้างในบ้านอีกด้วย เพราะปกติแล้วผู้สูงอายุมักจะตื่นเช้ามาเดินเล่นออกกำลังกายเบาๆจากนั้น ก็อาจจะไปช่วยเตรียมอาหารเช้าให้เด็กๆ ในบ้านได้นั่งรับประทานกันก่อนออกไปโรงเรียน โดยที่การจัดวางฟังก์ชันใช้สอยภายในบ้าน ทำให้ไม่กระทบกับสมาชิกในบ้านที่กำลังพักผ่อนอยู่ชั้นบนเลย

กานต์ชอบฟีลลิ่งของห้องนี้มาก การออกแบบตกแต่งที่ดูเรียบง่าย การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ ด้วยความที่ห้องอยู่ชั้นล่างโซนด้านหน้าบ้านมองออกไปเห็นสวนสีเขียวและดอกไม้สีสันสดใสรอทักทายเราอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ผมไปนั่งอยู่ในห้องแล้วก็พลอยให้นึกไปถึงห้องนอนคุณยายสุดที่รักที่เราชอบไปขอนอนด้วยตอนสมัยยังเป็นเด็กๆ 
เราว่าจริงๆ แล้วห้องนี้สามารถปรับเป็นห้องอเนกประสงค์ได้เช่นกัน จะใช้เป็นห้องทำงาน เป็นออฟฟิศสำหรับใครที่ Work from Home หรือมีกิจการเป็นของตัวเองที่บ้าน หรือจะทำเป็นห้องไลฟ์สดสำหรับขายของออนไลน์ เป็นห้องสำหรับดูหนังฟังเพลงก็ได้ครับ เรียกได้ว่าปรับได้ตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละคนได้เลย

สะดวกสบายด้วยมุมแต่งตัวที่แยกเข้าไปด้านใน ทำให้สามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าแบบเต็มผนังได้เลยครับ มาพร้อมกับโต๊ะเครื่องแป้งที่หันหน้าออกไปทางด้านข้างบ้าน เปิดรับช่องแสงธรรมชาติเข้ามาภายในช่วยให้มุมนี้ดูสว่าง อีกทั้งยังสามารถเปิดออกได้ เพื่อช่วยระบายอากาศเพิ่มการไหลเวียนของลมภายในห้อง 
ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำที่ออกแบบมาเผื่อการใช้งานสำหรับผู้สูงอายุไว้แล้ว อาทิ ประตูเป็นแบบบานเลื่อนที่มีขนาดกว้างกว่าทั่วไป พื้นขอบธรณีประตูเป็นแบบ Stepless ทำให้สะดวกต่อการใช้งานวีลแชร์ได้ง่ายไม่สะดุด ห้องน้ำแยกโซนเปียกแห้งเอาไว้ให้เรียบร้อย ภายในติดตั้งสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าและ Shower มาให้แล้วครับ 
เมื่อมานั่งเล่นที่สวนภายในบ้าน เรารู้สึกได้ถึงความเงียบสงบและเย็นสบาย เป็นการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติแบบเรียบง่ายที่น่าประทับใจมาก เติมเต็มสุนทรียะในการพักผ่อนเข้ามาประกอบราวกับได้ใช้ชีวิตอยู่ในรีสอร์ตหรูที่แมกไม้นานาพันธุ์

ดังนั้น สถาปนิกออกแบบให้มีพื้นที่สวนด้านข้างขนาดใหญ่เพื่อการพักผ่อนรับลมชมวิวสีเขียว ขณะรับประทานอาหารและสามารถเปิดประตูออกไปได้ ทั้งยังช่วยในการเปิดรับแสงจากภายนอกทำให้บ้านดูสว่าง ไม่ต้องเปิดไฟ สามารถประหยัดพลังงานในช่วงเวลากลางวันได้ 
จากนั้นเราเดินขึ้นบันไดไปชมชั้นบนกันบ้างครับ ตัวบันไดจะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวลูกตั้งลูกนอนด้วยไม้ยางประสานลายไม้สีน้ำตาลอ่อน บันไดค่อนข้างมีความแข็งแรง ด้านข้างมีราวจับกันตกเป็นเหล็กซี่สีดำดูเรียบโก้ ส่วนมือจับเป็นไม้สำเร็จรูปสีเดียวกับพื้นบันได บริเวณโถงบันไดถือว่าโปร่งดี ช่วงชานพักมีขนาดใหญ่ด้านข้างมีการเปิดช่องแสงเอาไว้พร้อมกับด้วยบานหน้าต่าง ทำให้บ้านดูสว่างขึ้น ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลย ให้เราสามารถเปิดออกเพื่อระบายอากาศภายในบ้านได้ 
ห้องใต้บันไดออกแบบให้เป็น Shoes Storage หรือห้อง Service ได้เลยครับ บริเวณนี้โถงบันได้ โครงการยังได้ติดตั้ง Emergency Light System ระบบไฟส่องสว่างอัตโนมัติ เมื่อเกิดไฟฟ้าดับ 
ส่วนบริเวณประตูและหน้าต่างทั้งชั้น 1 และ 2 ติดตั้ง Magnetic Sensor เป็นระบบ Wire Sensor และมี Home Panel จาก Inim เป็นจอควบคุมระบบ Smart Home เพื่อให้เราเช็กความปลอดภัยภายในบ้านผ่านมือถือได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ทำให้สะดวกและอุ่นใจมากยิ่งขึ้น 
อีกหนึ่งไฮไลท์ของบ้านคือการออกแบบบริเวณระเบียงทางเดินภายในชั้นบนเชื่อมต่อกับโถงแบบ Double Volume ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบและจัดเตรียมโครงสร้างและคานรองรับน้ำหนักเผื่อไว้ให้แล้ว สำหรับในอนาคตมีบางบ้านที่ต้องการใช้พื้นที่ด้วยการต่อเติมพื้นบริเวณนี้ให้กลายเป็นพื้นที่ปิดทึบ ซึ่งจะแลกมากับการได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาอีกหนึ่งห้องแทน สามารถใช้เป็นห้องพระ ห้องทำงาน ห้องนอน หรือห้องดูหนังฟังเพลงก็ได้ นับว่าเป็นการออกแบบที่เข้าใจในไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านได้อย่างตรงจุดมากๆ เลยครับ 
แต่หากใครยังไม่มีความจำเป็นต้องต่อเติมก็สามารถเปิดเป็นพื้นที่โล่งแบบ Double Volume ตามแบบบ้านมาตรฐานเอาไว้ได้เช่นกัน เนื่องจากชั้นบนนี้ก็มีห้องนอนมากถึง 4 ห้อง พร้อม Family Area ขนาดใหญ่ มุมนี้จะเป็นพื้นที่สำหรับสมาชิกในครอบครัวที่เชื่อมต่อกับทุกห้องนอนภายในชั้นบนของบ้านเข้าไว้ด้วยกัน ออกแบบมาโดยคำนึงถึงการปรับใช้งานมุมนี้ให้ได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของสมาชิกในครอบครัว 
บ้านตัวอย่างจัดวางเป็นโต๊ะทำงาน ทั้งนี้เราสามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีก็ได้ แนะนำให้เลือกสมาร์ททีวีจอใหญ่ๆ ทำเป็นโฮมเธียเตอร์เอาไว้ดูหนังพร้อมกันทั้งครอบครัวได้เลยครับ 
หรือจะเอาไว้ทำเป็นออฟฟิศ ห้องทำงาน อ่านหนังสือหรือ Work From Home ก็ได้ นับเป็นบ้านที่ออกแบบมาให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดี 
ส่วนพื้นที่ครึ่งหนึ่งของบ้านในฝั่งด้านหลัง จะเป็น Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่มาก เพิ่มศาสตร์ฮวงจุ้ยเข้ามาประกอบการออกแบบ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้สอยภายใน เห็นได้จากการที่ตำแหน่ง Master Bedroom อยู่หลังบ้านและไม่อยู่เหนือที่จอดรถ เตียงนอนจัดไว้บริเวณประตูทางเข้าโดยหลบเข้าไปด้านในริมผนังกระจกใส ทำให้ได้ความเป็นส่วนเมื่อเปิด-ปิดประตู สามารถจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ได้เลยครับเพราะมีพื้นที่กว้างเดินได้รอบ 
ภายในห้องนอนหลักตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค ด้วยการเลือกใช้ดีไซน์ของเตียง โต๊ะข้างเตียง โคมไฟและการจับคู่สีที่ทำออกมาได้น่าสนใจ เตียงนอนมีระยะห่างมากพอที่จะติดตั้ง Cabinet สำหรับวางทีวีขนาดใหญ่บริเวณปลายเตียง ให้เรานอนชมซีรีย์เรื่องโปรดจากบนเตียงเลยได้สบายๆ แต่ถ้าจะแนะนำให้แขวนทีวีติดผนังจะดูเรียบกว่าช่วยให้ห้องดูโมเดิร์นขึ้น ส่วนบริเวณมุมห้องด้านในจัดวางอาร์มแชร์เอาไว้สำหรับนั่งพักผ่อน ห้องนอนค่อนข้างโปร่งเพราะได้ช่องแสงเปิดเข้ามาจากด้านข้างแบบเต็มๆ 
ถัดเข้าไปด้านในบ้านตัวอย่างกั้นผนังเบาเอาไว้ให้ดูเป็นไอเดียสำหรับทำเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ทางโครงการจัดให้เป็น Build-in Wardrobe ไอเดียในการติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พร้อมกับกระจกเงาช่วยให้ห้องดูมีมิติมากยิ่งขึ้น 
มี Island กลางห้องสำหรับจัดเก็บเครื่องประดับ อีกด้านเป็นโต๊ะเครื่องแป้งใกล้กับประตูทางเข้าห้องน้ำ 
ข้อดีก็คือเมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วสามารถแต่งตัวและแต่งหน้าจบในโซนได้เลย นับว่าสะดวกมาก 
มุมแต่งตัวที่ว่ามีขนาดใหญ่ยังต้องยอมแพ้ให้กับห้องน้ำที่กว้างขวาง ตกแต่งสวยมากถูกใจผมเลยครับ ภายในห้องน้ำแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้ดีมีครบทั้ง 4 Figures ไม่ว่าจะเป็น อ่างล้างหน้าแบบ His&Her พร้อมกระจกเงา โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก COTTO โซน Shower อยู่ด้านในกระจกฉากกั้นซึ่งแยกโซนเปียกแห้งเอาไว้ให้เรียบร้อย ติดตั้งอ่างอาบน้ำจาก KOHLER เอาไว้ให้แล้ว สามารถเปิดหน้าต่างออกได้เพื่อระบายอากาศและไล่ความชื้น 
“𝐅𝐚𝐦𝐢𝐥𝐲 𝐦𝐚𝐤𝐞𝐬 𝐚 𝐡𝐨𝐮𝐬𝐞 𝐚 𝐡𝐨𝐦𝐞.” 
ถัดจากโถง Family บริเวณกลางบ้านทางฝั่งด่้านหน้าบ้านจะเป็นห้องนอนรอง 2 ห้องติดกัน ขนาดของห้องพอๆ กัน เราเริ่มจากห้องฝั่งด้านซ้ายกันก่อนครับ 
ห้องนอนรองห้องแรกอยู่ทางด้านซ้ายของบ้านหากหันหน้าออกถนน ข้อดีก็คือจะทำให้ได้วิวสองฝั่งรวมถึงสวนด้านข้างด้วย ตกแต่งภายในห้องจัดแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่พักผ่อน สามารถวางเตียงนอนขนาด Queen Size ได้สบายเลยครับ ตกแต่งในสไตล์ศิลปินที่มีความอาร์ต ความเท่ เลือกใช้สีส้มอิฐและเอิร์ธโทนเพื่อให้ภาพรวมดูสบายๆ ด้วยความที่เป็นห้องมุม ทำให้เปิดรับช่องแสงผ่านหน้าต่างได้จากทั้ง 2 ด้านคือหน้าบ้านและด้านข้าง ทำให้บรรยากาศภายในห้องค่อนข้างโฟลว์ครับ 
ส่วนช่วงปลายเตียงจะเป็นมุมทำงาน อ่านหนังสือหรือนั่งเล่น ทำกิจกรรมส่วนตัว ดีไซน์เป็นเคาน์เตอร์ยาวขนานไปกับผนัง ขยับเข้าไปด้านนอกบริเวณทางเข้าห้องจะเป็นมุมแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวได้อย่างพอดีพอเหมาะ 
ห้องน้ำมาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่ครบไม่ว่าจะเป็น อ่างล้างหน้าที่ติดตั้งกระจกเงามาให้ ติดตั้งเป็นโซน Shower ที่กั้นพื้นแบบยกสูงเพื่อแยกส่วนเปียกแห้ง ติดกันจะเป็นสุขภัณฑ์ภายในห้องแบบส่วนตัว 
เช่นเดียวกับห้องนอนรองอีกห้องที่อยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน ก็มีห้องน้ำในตัวเช่นกันครับ แม้เราจะเรียกว่าห้องนอนรองแต่เอาเข้าจริงๆ ห้องนอนทั้ง 2 ห้องที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านมีขนาดใหญ่ใช้ได้เลยนะครับ 
ภายในห้องนอนสามารถแบ่งเป็นโซนพักผ่อน มีมุมนั่งทำงานอยู่ด้านในและโซนแต่งตัว อย่างห้องนอนนี้ที่อยู่ด้านหน้าก็จะวางเลย์เอ้าท์ต่างกันไป โดยให้โซนพักผ่อนวางเตียงนอนชิดผนังฝั่งหน้าบ้านซึ่งเปิดช่องแสงขนาบข้าง สามารถจัดวางเตียงขนาดใหญ่ด้านสบายเลยครับพร้อมกับมีพื้นที่โดยรอบเตียงเหลือๆ ปลายเตียงก็สามารถจัดวางตู้ทรงเตี้ยและทีวีได้ แต่ไฮไลท์ของห้องนี้ก็คือประตูที่สามารถเปิดออกไปสู่ระเบียงเชื่อมห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องได้ ทำให้เราได้มีพื้นที่ส่วนตัวที่เชื่อมต่อกับธรรมชาติภายนอก มองออกไปเห็นสวนสีเขียวด้านหน้าบ้านและความเคลื่อนไหวของผู้คนที่ผ่านไปมา 
ห้องนอนทุกห้องภายในบ้านเป็นแบบมีห้องน้ำในตัว 
จริงๆ แล้วหากบ้านไหนสมาชิกในครอบครัวไม่ได้เยอะมาก เราสามารถปรับเปลี่ยนห้องนอนรอง 3 ที่อยู่ถัดไปให้เป็นห้องออกกำลังกายภายในบ้าน หรือเป็นห้องดูหนังฟังเพลงก็ได้ เพราะอย่างที่บอกไปว่าทุกห้องภายในบ้านล้วนเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถออกแบบได้ตามใจ ซึ่งโดยหลักของการออกแบบที่กานต์เคยเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้คือ Open Plan การออกแบบจึงเปิดให้มีความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่และตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยในบ้าน 
#โดยสรุป หากใครกำลังมองหาบ้านสักหลังที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ โดดเด่นด้วยโลเคชั่นในทำเลจตุโชติเชื่อมต่อถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ขึ้น-ลงทางด่วนสะดวกมาก และยังเชื่อมต่อถนนสำคัญอีกหลายสาย เป็นทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ตัวบ้านและอาคาร Clubhouse มีความสวยงามด้วยงานดีไซน์แบบ Modern Classic ที่เป็นเอกลักษณ์ดูร่วมสมัย ออกแบบให้มีความ Flexible Layout เราสามารถปรับฟังก์ชันภายในบ้านได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองและสมาชิกในครอบครัวได้เลยครับ อาทิ ปรับเปลี่ยนกั้นห้องใหม่ได้ตามใจ ปรับเปลี่ยนพื้นที่ Double Volume ให้เป็นพื้นที่ใช้สอยได้ โดยรอบบ้านให้ความร่มรื่นเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว ด้วย Backyard ขนาดใหญ่ที่เปิดมุมมองได้จากทุกจุดภายในบ้าน เน้นเรื่องความปลอดภัยและให้ความเป็นส่วนตัว เหล่านี้เป็นนิยามคำว่าบ้านที่ดีในแบบของผม ถ้าจะให้แนะนำในทำเลและราคาใกล้เคียงกัน กานต์คิดว่าตัวเดียวจบครบที่โครงการ SHAWN วงแหวน -จตุโชติเลยครับ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1221 หรือลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษได้ที่ /bit.ly/4cix4wE​ 
KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน