“𝐆𝐨𝐝 𝐢𝐬 𝐢𝐧 𝐭𝐡𝐞 𝐝𝐞𝐭𝐚𝐢𝐥𝐬.” -อมตะวลีของ Mies van der Rohe สถาปนิกชื่อดังชาวอเมริกัน ผู้ปฏิวัติวงการออกแบบตั้งแต่ในศตวรรษที่ 19 สื่อความหมายได้ว่า เมื่อเราให้ความสนใจกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจได้รับรางวัลใหญ่ที่สุด เพราะทุกรายละเอียดล้วนมีความสำคัญ
.
ชีวิตเราก็เหมือนกันครับ ทั้งนี้เราต้องเรียนรู้จะที่ลด-เพิ่มบางอย่างเข้ามาเพื่อให้เข้ากับความเป็นตัวเองมากที่สุด เป็น Craftmanship ในการดำเนินชีวิต
.
CoCo Chanel เคยบอกว่า ความสง่างามที่แท้จริงอยู่ที่แก่นแท้ของการออกแบบ ไม่ใช่การเพิ่มรายละเอียดหรือการตกแต่งที่ไม่จำเป็น แฟชั่นของเธอจึงเน้นเส้นสายที่สะอาดตาและรูปทรงที่เรียบง่าย ช่วยให้เห็นถึงความสวยงามของเนื้อผ้าและการตัดเย็บที่ส่องประกายออกมา
.
เช่นเดียวกับ นิยาม บรมราชชนนี (Niyham Boromratchachonnani) โครงการบ้านหรูที่ตั้งอยู่ในใจกลางอันพลุกพล่านของมหานครที่มีชีวิตชีวา กานต์อยากเรียกว่าเป็น A Sanctuary in the City ที่ซึ่งความเงียบสงบและความหรูหรามาบรรจบกัน
.
จนกลายเป็น “คำจำกัดความของความสมบูรณ์แบบที่มีอยู่จริง”
.
ที่นิยาม บรมราชชนนี กานต์เข้าใจได้ในทันทีถึงแนวคิดเรื่องชีวิตที่สมบูรณ์แบบ เมื่อได้เข้าไปในโครงการเราจะพบกับสถานที่ซึ่งเน้นความเป็นส่วนตัว ให้ความเงียบสงบมาบรรจบกับความมีชีวิตชีวาของการใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างไม่มีที่ติ เป็นบ้านที่นำเอาความประณีตทางสถาปัตยกรรมมาผสานกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่พิถีพิถัน เป็นข้อพิสูจน์ถึงการแสวงหาสถานที่พักอาศัยอันยอดเยี่ยม
.
นิยาม บรมราชชนนี มีความโดดเด่นด้วยที่อยู่อาศัยที่ได้รับการออกแบบอย่างละเมียดละไม สถาปัตยกรรมผสมผสานการออกแบบร่วมสมัยเข้ากับความสง่างามคลาสสิกได้อย่างกลมกลืน สร้างสุนทรียศาสตร์ที่ทั้งเหนือกาลเวลาและทันสมัย ทุกเส้นโค้ง เหลี่ยมและมุมได้รับการออกแบบอย่างประณีตไม่เพียงแต่ดึงดูดสายตาเท่านั้น แต่ยังมอบพื้นที่ใช้สอยที่สะดวกสบายใช้งานได้จริง ซึ่งตอบทุกโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัย
.
โครงการเน้นบ้านขนาดใหญ่ ได้รับอิทธิพลจากความงามคลาสสิกสมัยใหม่ ภายในบ้านเผยให้เห็นความงามราวกับความฝัน แต่ละห้องบอกเล่าเรื่องราวความหรูหราและความสะดวกสบายของตัวเอง โดยเน้นที่วัสดุและการตกแต่งอันประณีต ภายในพื้นที่กว้างขวาง เพดานสูงและหน้าต่างบานใหญ่ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ มีพื้นที่นั่งเล่นในหลายมุมของบ้าน ห้องนอนตกแต่งหรูหรา ห้องน้ำตกแต่งอย่างดี มีห้องครัวที่ทันสมัย
.
กานต์อยากพาทุกคนไปชมความหรูหราที่คลาสสิคในแบบฉบับของ โครงการนิยาม บรมราชชนนี ผ่านภาพถ่ายและเรื่องราวในแคปชั่นที่นำมาฝากกัน
.
ส่วนใครที่สนใจอยากจะชมบ้านตัวอย่างและสถานที่จริง สามารถนัดหมายได้ที่ โทร 063-216-3974, 02-119-4646
นิยาม บรมราชชนนี (Niyham Boromratchachonnani) โครงการแนวราบระดับ Luxury แห่งแรกจาก CPN Residence ตั้งอยู่บนถนนใหญ่สายหลักอย่างถนนบรมราชชนนี ฝั่งขาเข้าเมือง ขนาดที่ดินอยู่ที่ 43-3-72 ไร่ จำนวน 71 ยูนิต เป็นอีกหนึ่งโครงการที่กานต์คิดว่ามีความน่าสนใจ เพราะเป็นทำเลที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี ด้วยความที่เราพักอาศัยอยู่ย่านนี้มานานเกินสิบปี ปัจจุบันโลเคชั่นนี้มีโครงการที่อยู่อาศัย ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อมากมาย โครงการนี้มีข้อได้เปรียบคือ สามารถมุ่งหน้าไปทางปิ่นเกล้า ถนนราชดำเนิน หรือถนนสิรินธร อนุสาวรีย์ชัยฯ หรือจะแยกไปถนนกาญจนาภิเษกซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 2.5 กิโลเมตร สามารถไปบางแค, ราชพฤกษ์, บางบัวทองหรือไปทางพุทธมลฑล ศาลายาได้ เพราะว่าโครงการเชื่อมต่อไปยังถนนหลายสาย หรือใช้ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ซึ่งทางขึ้นอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4 กิโลเมตรเท่านั้น สามารถวิ่งเข้าสู่ถนนราชวิถี ยิงยาวไปยังอนุสาวรีย์ชัยฯ เชื่อมต่อไปยังพหลโยธิน, พญาไท และสยามได้เลยครับ ตลอดจนมีทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ด่านผ่านทางฉิมพลี อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 5.5 กิโลเมตร ทำให้เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวกรวดเร็ว ทำเลนี้ยังใกล้กับระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) สถานีตลิ่งชัน ที่เป็นระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หากเส้นทางรถไฟสายสีแดงทั้ง 2 ช่วงเปิดให้ใช้งานเต็มรูปแบบก็จะทำให้ผู้คนในทำเลในย่านนี้เดินทางได้สะดวก มีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้น ระหว่างที่ขับรถมา กานต์ก็สังเกตดูรอบโครงการพบว่ารายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบและครบทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวสต์วิลล์, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลศาลายา, โรงภาพยนตร์เมเจอร์ปิ่นเกล้า Community Mall อย่าง The Circle ราชพฤกษ์, Design Village พุทธมณฑล, The Sense ปิ่นเกล้า, เดอะ พาซิโอ พาร์ค เป็นต้น ตลอดจนตลาดสดขนาดใหญ่อย่าง ตลาดธนบุรี ที่ขับรถออกจากโครงมาก็เจอเลยครับ ที่กานต์ว่าน่าสนใจก็คือมีสวนสาธารณะและพุทธมณฑลที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ ทำให้เราสามารถเปลี่ยนบรรยากาศไปพักผ่อน นั่งเล่น หรือไปออกกำลังกายรับอากาศบริสุทธิ์ได้ครับ ด้านหน้าโครงการมีระยะ Set-Back จากถนนหลักเข้ามาพอประมาณ ทำให้เปิดพื้นที่สีเขียวด้านหน้าได้อย่างโดดเด่นสำหรับผู้ที่ผ่านไปมาและยังเป็นบัฟเฟอร์ป้องกันเสียงเพื่อให้เกิดบรรยากาศของการพักอาศัยที่เงียบสงบได้เป็นอย่างดี ที่โครงการจะเป็นระบบ Double Main Gate แยกส่วนของ Guest Area สําหรับแขกผู้มาเยือนและ Residential Area สำหรับลูกบ้าน เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย เมื่อขับรถผ่าน Main Gate แรกเข้ามาจะเป็น Clubhouse สำหรับให้ลูกบ้านพักผ่อนและเป็นพื้นที่สำหรับนัดหมายพบปะแขกคนที่เราอาจจะไม่สนิทใจให้เข้าไปยังด้านในบ้าน ก็สามารถนัดหมายมายัง Clubhouse แทนได้ เมื่อเดินเข้ามาผ่านซุ้มประตูเข้ามาจะเป็นบันไดปูด้วยหินทรายล้างกันลื่น เป็นการยกอาคารให้อยู่สูงราวกับอัครสถานขนาดใหญ่ วิวด้านขวาจะเป็นสระว่ายน้ำท่ามกลางสวนสีเขียว ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปชมกัน ด้านในออกแบบให้เป็น Lobby Lounge สำหรับต้อนรับแขกเพื่อพบปะพูดคุยธุระ จัดวางชุดโซฟาดีไซน์หลากหลายเพื่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ ระหว่างนั่งพัก และยังจัดให้มีมุมแบบส่วนตัวที่กระจายออกไปทั่วบริเวณ บรรยากาศค่อนข้างโปร่งด้วยผนังกระจกเปิดรับแสงสว่างจากธรรมชาติภายนอก ถัดเข้าไปด้านในจะมีห้องแยกไว้ 2 ห้อง ใช้เป็นห้องพักผ่อนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ปัจจุบันพื้นที่นี้ใช้เป็นสำนักงานขายควบคู่กันไปด้วยครับ และพร้อมส่งมอบหากปิดโครงการแล้ว Clubhouse ของโครงการมีกิจกรรมเยอะมาก เพื่อรองรับลูกบ้านไว้ได้อย่างหลากหลาย มีทั้งฟิตเนส ภายในจัดวางเครื่องออกกำลังกายไว้ครบครันทั้ง ลู่วิ่ง จักรยานไฟฟ้าและ Elliptical Machine จัดวางไว้ริมกระจกใส หันหน้าออกไปด้านนอก จะได้เทควิวสีเขียวของต้นไม้ให้ความสดชื่นหายเหนื่อยได้ ด้านข้างเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด Half Olympic ความยาว 25 เมตรแยกพื้นที่สำหรับเด็กผู้ใหญ่และโซนจากุซชี่ สระว่ายน้ำถือว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่ สำหรับว่ายออกกำลังกาย หรือพักผ่อนในวันสบายๆ บริเวณขอบสระด้านนอกจะปลูกไม้พุ่มเอาไว้เป็นแนวยาวเพื่อความร่มรื่นและช่วยบังสายตา เพิ่มความเป็นส่วนตัวขณะออกกำลังกาย บริเวณโดยรอบสระว่ายน้ำ มี Pool Terrace สำหรับจัดวาง Sundeck สีดำ จัดวางกระจายออกไปในบรรยากาศแบบ Semi-Outdoor Terrace ให้เราพักผ่อนริมสระราวกับพักอยู่ในรีสอร์ตหรูสระว่ายน้ำที่นี่ คือเราสามารถมาใช้งานได้ตลอดทั้งวัน แต่หากมาว่ายน้ำช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ก็ถือว่าเป็นเวลาดีในการออกกำลังกาย บริเวณสระว่ายน้ำจะร่มรื่น เพราะมีอาคารสโมสรและแนวต้นไม้ช่วยบังแดดเอาไว้ โครงการจัดวางผังให้มีสวนส่วนกลางขนาดใหญ่เป็นแนวยาวต่อเนื่องไปจาก Clubhouse มี Roundabout วงเวียนต้นไม้ขนาดใหญ่ เราจะเดินออกไปชมพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ ด้านในกันต่อนะครับ โครงการ นิยาม บรมราชชนนี ให้ความสำคัญกับสุนทรียภาพของการใช้ชีวิตภายในบ้านและพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อสร้างดุลยภาพการอยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ คํานึงถึงการใช้งานจริงในแต่ละวัน ใส่ใจในทุกรายละเอียดเล็กๆ เพื่อให้การใช้งานจริงเป็นไปได้อย่าง สะดวกสบาย มีความเป็นส่วนตัว และปลอดภัยที่สุดของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ด้านในเป็นสวนที่เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้ดอก ช่วยให้บริเวณนี้ดู ร่มรื่น สดชื่น สบายตา สบายใจ มี บ่อน้ำพุที่อยู่ในสวนให้บรรยากาศการพักผ่อน พร้อมด้วย Pavillion ขนาดใหญ่ เหมาะแก่การเปลี่ยนบรรยากาศจากการพักผ่อนภายในบ้านมานั่งเล่นที่ส่วนกลางดูบ้างครับ เป็นมุมที่ถ่ายรูปสวยเหมือนนั่งอยู่ในสวนที่ยุโรป ยอมรับเลยว่าพื้นที่สีเขียวมีขนาดใหญ่ เพื่อให้ลูกบ้านทุกคนได้ใช้งาน ตั้งแต่หน้าโครงการยาวเข้าไปถึงท้ายโครงการ บ้านทุกหลังจึงสามารถเข้าถึงสวนได้อย่างง่ายดาย ออกแบบให้มี Natural Fence เป็นแนวรั้วต้นไม้เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว ภายในสวนก็จะมีกิจกรรมต่างๆให้ได้ออกกำลังและใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว บรรยากาศช่วงเย็น แดดร่มลมตกถือว่าดีมาก เพราะการได้ใช้ชีวิตกลางแจ้งสัมผัสธรรมชาติสีเขียวเราว่าก็สามารถช่วยเยียวยาจิตใจของเราได้นะครับ Main Park มีขนาดใหญ่มาก ภูมิสถาปนิกออกแบบจัดวางสวนและ Luxury Privacy Clubhouse ให้เชื่อมต่อกันตามความสนใจของสมาชิกแต่ละคนในครอบครัว เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ในบรรยากาศที่ร่มรื่น โครงการออกแบบบ้านในสไตล์ Modern Classic เป็นบ้านที่เป็นการรวมกันของความ Classic ที่เน้นการตกแต่งเพิ่มรายละเอียดให้กับบ้านดูหรูหรา กับสไลต์ Modern ที่เน้นความเรียบง่ายเข้าได้กับทุกไลฟ์สไตล์ โดยมีจุดเด่นได้แก่ การเลือกใช้วัสดุที่เน้นสีขาวตัดกับสีดำ ดูเรียบง่ายแต่ก็มีดีเทลที่ให้ความหรูหรา โดยวัสดุจะเป็นคอนกรีตทาสีขาว กับ ขอบประตูหน้าตาที่เป็นอะลูมิเนียมสีดำ การทำซุ้มประตูทางเข้าให้โดดเด่นด้วยเสาขนาดใหญ่ เป็นการบอกถึงว่าตรงไหนคือทางเข้า และทำให้บ้านดูมั่นคงและแข็งแกร่ง มีการเน้นกรอบของช่องเปิดของบ้านให้ดูโดดเด่น เห็นเส้นตั้งเส้นนอนที่ชัดเจน แบบบ้านที่กานต์พามาชมกันในครั้งนี้ คือ New Treasure เป็นบ้าน 2 ชั้น พื้นที่ 661 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 176 ตร.ว. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ห้องนั่งเล่นพร้อม Dining Area หน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 4 คัน รองรับ EV Charger โดยโซนจอดรถที่แยกออกไปจากฝั่งที่อยู่อาศัย พื้นลานจอดรถเป็นโครงสร้าง Slab on Beam ไอเดียที่กานต์มองว่าน่าสนใจในการออกแบบก็คือ เราสามารถต่อเติมให้เป็น Car Gallery สำหรับโชว์ Super Car คันโปรดสุดหรูของเราได้เลยครับเพราะออกแบบโครงสร้างไว้รองรับแล้ว ส่วนด้านหลังเป็นพื้นที่ทำงานของแม่บ้านและห้องนอนแม่บ้าน 2 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว ประตูทางเข้าหลักด้านหน้าบ้านเป็นบานไม้สีน้ำตาลเข้มแบบ Oversize เมื่อเปิดประตูเดินเข้ามาด้านในจะพบกับความใหญ่โตโอ่โถงของ Arrival Hall แบบ Double Volume สูง 6.4 เมตร ภายในบ้านส่วนหน้าประกอบด้วย Living Area จัดชุดที่นั่งพักคอยสำหรับแขกอยู่บริเวณทางเข้า สัมผัสแรกที่ได้เห็นการตกแต่งภายในบ้านตัวอย่างของแบบบ้าน New Treasure กานต์ประทับใจมากครับเพราะดีไซน์ออกมาให้มีความหรูหราเป็นบ้านสไตล์คฤหาสน์ที่มีความร่วมสมัย เป็นงานสถาปัตยกรรมที่ไร้กาลเวลาแบบ คลาสสิค เลือกใช้โทนสีแบบอบอุ่น พื้นชั้นล่างปูกระเบื้องหินอ่อนอัดผิวมัน Verona ตกแต่งด้วยความละเอียดอ่อนที่คงความวิจิตรงดงามไว้ตลอดเวลา โครงการติดตั้ง Wallpaper ให้ทั้งหลังพร้อมติดตั้งระบบปรับอากาศภายในบ้าน ผมชอบ Chandelier ขนาดใหญ่ที่แขวนไว้ด้านบนเพดาน ซึ่งเพิ่มรายละเอียดของบ้านด้วยการเปิดช่องแสงผ่านกระจกหน้าต่างบานเล็กสไตล์บ้านยุโรป ให้เราได้นำเอาธรรมชาติ ต้นไม้ แสงสว่าง ท้องฟ้า เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการประดับตกแต่งบ้านอย่างกลมกลืน บริเวณทางเข้าบ้านทางด้านซ่้ายออกแบบให้เป็น Living Room สำหรับนั่งพักผ่อนแยกตัวออกไปเพื่อให้ได้ใช้เวลาส่วนตัวนั่งอ่านหนังสือ หรือมีไว้เพื่อรองรับแขกกรณีที่เราไม่ได้ต้องการให้ขึ้นไปชั้นบนของบ้านด้วยครับ ห้องนี้เป็นห้องที่ผมชอบมากครับ เพราะสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในบ้าน จะใช้เป็นห้องสำหรับปาร์ตี้ พรีดินเนอร์ ห้องดูหนังฟังเพลง จิบน้ำชาหรือว่าเป็นห้องทำงานก็ได้ ซึ่งให้ความเป็นส่วนตัว ไม่รบกวนสมาชิกท่านอื่นที่พักผ่อนอยู่ชั้นบน ด้านในจะเป็นห้องรับแขก (Great Room) ขนาดใหญ่ ตกแต่งได้หรูหรามีระดับจัดวางชุดโซฟาที่นั่งไว้กระจายกันไป ซึ่งการที่ Great Room อยู่ถัดเข้ามาด้านในทำให้ได้ประโยชน์เรื่องความเงียบเผื่อต้องต้อนรับแขก VIP หรือคุยงานสำคัญที่ต้องการความเป็นส่วนตั ห้องนี้มาพร้อมกับช่องแสงขนาดใหญ่ด้านหน้าและด้านข้างซึ่งจะสัมผัสกับต้นไม้ที่ปลูกไว้ให้พื้นที่สีเขียวดูสดชื่นสบายตา บรรยากาศโดยรวมถือว่ายอดเยี่ยมน่าประทับใจมากครับ บ้านตัวอย่างออกแบบให้ชั้นล่างด้านในฝั่งติดสวนเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ สำหรับครอบครัวที่อยู่ด้วยกันหลาย Generations ข้อดีข้อแรกเลยก็คือไม่ต้องเดินขึ้นลงบันได ทำให่้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ด้วยการเปิดพื้นที่โล่งโดยรอบห้อง บานกระจกเชื่อมต่อหน้าบ้านและข้างบ้านเข้าด้วยกัน เราจึงสามารถเปิดรับวิวสวนสีเขียว ดอกไม้นานาพันธุ์สีสันสดใสในช่วงเวลาเช้าหลังตื่นนอน และยังสามารถเปิดประตูออกมาขยับร่างกายแกว่งแขวนเบาๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ตอนเช้าได้อย่างสะดวกสบาย ด้านข้างต่อเนื่องจากเตียงนอนจะเป็นมุมนั่งจิบน้ำชาหรือว่าอ่านหนังสือที่จัดโซฟาเอาไว้ เราสามารถเปิดประตูออกไปสัมผัสกับบรรยากาศภายนอกห้องได้ กานต์สังเกตว่าองค์ประกอบของห้องน้ำภายในห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างได้ออกแบบให้รองรับการใช้งานอย่างพร้อมสรรพ ประตูห้องนอนและห้องน้ำมีขนาดกว้างกว่าปกติเพื่อรองรับการใช้วีลแชร์และไม่มีธรณีประตู ห้องน้ำมีขนาดค่อนข้างกว้างออกแบบให้มีที่นั่งอาบบริเวณ Shower มีอ่างล้างมือตรงกลางจาก Cotto พร้อมกระจกเงาบานใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน และยังออกแบบให้มีหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดออกไปเพื่อระบายอากาศและความชื้นภายในห้องน้ำให้ด้วยครับ เรียกได้ว่าเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงหลักสุขอนามัยไปพร้อมๆ กันครับ ด้วยความที่ Common Area ชั้นล่างค่อนข้างกว้าง เรา สามารถใช้พื้นที่ทั้งหมดได้ในคราวเดียวกันหรือจะจัดแบ่งฟังก์ชันตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัวก็ได้เช่นกัน เป็นไปตามไอเดียคอนเซปต์ของการจัดวางผังภายในบ้านแบบ Open Plan ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ง่าย อย่างเช่นบ้านตัวอย่างออกแบบให้มุมที่อยู่ติดกันกับห้องรับแขกกลายให้เป็นเคาน์เตอร์บาร์ มาพร้อมกับเก้าอี้ทรงสูงสำหรับเสริมบรรยากาศในการพูดคุยหรือเป็นพรีดินเนอร์ก่อนเริ่มมื้ออาหารก็ได้เช่นกัน ถัดเข้าไปด้านในเป็น Dining Area ที่บ้านตัวอย่างจะเป็นห้องโถงยาวเชื่อมต่อกับ Island ของครัวยุโรปด้านใน พื้้นที่รับประทานอาหารจัดวางโต๊ะและเก้าอี้ขนาด 10 ที่นั่งเอาไว้ แน่นอนว่าเราสามารถปรับเพิ่มขนาดได้ครับ เพราะว่ายังมีพื้นที่ว่างเหลืออีกมาก อยากจะจัดเป็น Long Table ก็ยังได้ พร้อมเปิดรับวิวสวนสีเขียวด้านข้างเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหาร บ้านตัวอย่างติดตั้ง Island เอาไว้ให้ดูเป็นไอเดียเผื่อใครอยากติดตีั้งเพิ่มก็สามารถทำได้สบายเลยครับ มุมนี้เราสามารถเชิญ Celebrity Chef มาเปิด Chef Table ทำอาหารให้กินแบบส่วนตัวได้ในบรรยากาศสบายๆ ของเพื่อนฝูงหรือคนในครอบครัว ส่วนตัวกานต์ชอบมุมนี้มาก ดูสวยงามคลาสสิค เราได้นั่งรับประทานอาหารทุกมื้อในบรรยากาศที่โปร่ง โล่ง มีแสงแดดอ่อนๆ ลอดเข้ามา มองออกไปเห็นวิวสวน ต้นไม้สีเขียวด้านนอก ดูสดชื่นสบายตา ถ้าใครสังเกตให้ดีโครงการนี้เน้นผนังกระจกใสเยอะมาก ทำให้เราได้สัมผัสกับบริบทของธรรมชาติแวดล้อมได้อย่างเต็มที่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของบ้าน เนื่องจากออกแบบให้มีระยะถอยร่นเพื่อเปิดพื้นที่สวนสีเขียวรอบบ้าน ทำให้บรรยากาศดูสดชื่นสบายตา สบายใจ ช่วยเติมอรรถรสให้กับมื้ออาหารได้เป็นอย่างดี ด้านในมีห้องครัวไทย โครงการติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวยู (U-Shape) มาให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีขนาดใหญ่พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง สามารถแยกฟังก์ชันการทำงานของแม่บ้านในเวลาเดียวกัน เช่น ทำกับข้าวไว้บนเตาและใช้งานบริเวณอ่างล้างจานได้โดยที่ไม่กระทบซึ่งกันและกัน ออกแบบให้มีตู้เก็บของบน-ล่างเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย โครงการนี้เป็นตัวแทนของนิยามของงานดีไซน์ที่มีความงามอยู่เหนือกาลเวลา ผสมผสานระหว่างสไตล์โมเดิร์นที่ดูโก้หรูทันสมัย เข้ากับความคลาสสิกที่เป็นกลิ่นอายดั้งเดิม เน้นสีขาวแบบโคโลเนียลนิดๆ ผนวกเข้ากับการเลือกใช้วัสดุที่หรูหรา ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรปเพราะว่าเป็นสไตล์ที่ทั้งหรูหรา ทว่าเรียบง่าย แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไปก็ไม่ได้ทำให้ความสวยงามคลาสสิคลดน้อยลงเลยครับ เอาล่ะ เราขึ้นบันไดไปชมชั้น 2 กันบ้างดีกว่าครับ ออกแบบให้บันไดวนตามเข็มนาฬิกา บันไดของที่นี่จะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทำให้ได้เรื่องความแข็งแรงทนทาน ลูกตั้งลูกนอนเป็นพื้นไม้มะค่า ชานพักแบบสี่เหลี่ยมมีด้วยกัน 2 จุด ทำให้เดินได้สบายสามารถเดินสวนกันตอนขึ้น-ลงได้สะดวกปลอดภัย ราวกันตกมือจับราวกันตกเป็นไม้มะค่าพร้อมซี่เหล็กฉลุสีดำให้บ้านดูคลาสสิคมากยิ่งขึ้น ส่วนพื้นชั้นบนและพื้นห้องนอนทุกห้องปูด้วยไม้สัก แต่ที่ผมชอบคือดีเทลของการออกแบบโดยเว้นที่ว่างเป็นช่องตรงกลางโถงบันไดเพื่อรองรับการติดตั้งลิฟต์ภายในบ้านได้ในอนาคตตได้ หรือหากยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ก็สามารถติดตั้ง Chandelier เพิ่มความหรูหราสวยงามให้กับบ้านกันก่อนได้เช่นกันครับ ขึ้นมาชั้นบนจะพบกับ Family Area ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อทุกห้องนอนเข้าไว้ด้วยกัน แต่ตอนนี้เราจะไปชมห้องนอนหลักกันก่อนครับ ในส่วนของห้องนอนจะเริ่มจาก Master Bedroom กันก่อนอยู่ทางปีกซ้าย กินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของตัวบ้านชั้นบน ด้วยความเป็นมุมบ้านทำให้เปิดช่องแสงได้จาก 2 ฝั่งคือด้านหน้าและด้านข้าง มองออกไปเห็นสวนสีเขียวของบ้าน ทำให้เป็นห้องนอนที่ได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบและพื้นที่สีเขียวจากต้นไม้สูงด้านข้าง ห้องนอนหลักมีขนาดกว้างมาก โถงทางเข้าออกแบบได้เก๋ดีครับ จัดเป็นมุม Master Retreat หรือเรียกว่าพื้นที่นั่งเล่นภายในห้องนอน สำหรับพักผ่อนก่อนจะเข้าถึงเตียงนอนที่อยู่ด้านใน เผื่อว่าคุณพ่อคุณแม่อยากจะนั่งดูทีวี นั่งเคลียร์งานเซ็นต์เอกสารหรือว่าอ่านหนังสือ เดินเข้าไปด้านในจะเป็นห้องแต่งตัวขนาดใหญ่แบบ Walk-in closet ลึกเข้าไปเป็นรูปตัวยู (U-Shape) ตรงกลางเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่มีรสนิยมในเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว แต่งหน้า ภายในออกแบบให้มีตู้และชั้นวางที่สามารถจัดเก็บเสื้อผ้า กระเป๋า แอคเซสเซอรี่ได้จุใจ ติดกันจะถัดเป็นห้องน้ำในตัว แบบ Full Function ครับ ถือว่ามีขนาดค่อนข้างกว้างเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของบ้านหลังนี้ที่อยากจะเน้นคือการให้ Space ขนาดใหญ่กับห้องน้ำภายในห้องนอนเพราะถือเป็นพื้นที่ส่วนตัว พร้อมกับแยกส่วนเปียก-แห้งให้เรียบร้อย พื้นและผนังประดับด้วยกระเบื้อง Porcelain จาก Cotto Italia ทั้งยังถือว่าครบครันด้วยสุขภัณฑ์ จาก Cotto อ่างล้างหน้าแบบ His & Her และห้องอาบน้ำที่ติดตั้ง Shower Box เป็นกระจกนิรภัย พร้อมกับอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ริมหน้าต่างกระจกเพื่อเปิดรับแสง ได้ฟีลแบบบ้านสไตล์ยุโรปที่ไม่ปิดทึบจนเกินไป และสามารถเลื่อนสไลด์เปิดออกได้เพื่อไล่ความชื้นและระบายอากาศครับ มาดูในส่วนของห้องนอนรองห้องแรกกันบ้างครับ อยู่โซนด้านหลังบ้านใกล้กับห้องนอนหลัก ภายในมีขนาดใหญ่เช่นกันเพราะขนานไปกับความกว้างของบ้านด้านหลัง เป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวครับ เมื่อเราเดินเข้าไปด้านในสุดจะเป็นโซนพักผ่อนมีเตียงนอนอยู่ตรงกลางเป็นเตียงสีน้ำตาลขลิปเข้มด้วยหมอนอิงสีเทาและผ้าคาดเตียงสีส้มทำให้ห้องนี้ดูสดใสขึ้น หัวเตียงจัดวางโคมไฟและประดับผนังด้วยงานอาร์ตแบบ Abstract ส่วนปลายเตียงจัดวางโต๊ะแบบลอยตัวเอาไว้แต่ถ้าใครอยากวางทีวี ส่วนมุมห้องริมหน้าต่างเป็นมุมที่ผมว่าอาร์ตดีครับ แนะนำให้หาอาร์มแชร์มานั่งเล่นมาวางไว้สักตัวครับ ส่วนห้องนอนรองอีกห้องจะอยู่ค่อนไปทางทางด้านหลังบ้านเช่นกันทำให้ได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบ ตกแต่งภายในห้อง โดยจัดแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่พักผ่อน สามารถวางเตียงนอนขนาด King Size ได้สบายเลยครับ ด้านหน้าเป็นโซนพักผ่อนมีเตียงนอนขนาดใหญ่จัดวางไว้ชิดผนัง ผมค่อนข้างชอบห้องนี้เพราะผนังด้านหลังบ้านเป็นกระจกที่เปิดช่องแสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาสู่เตียงนอนได้ทันที ห้องนี้จึงดูโปร่งโล่งอยู่สบายไม่รู้สึกอึดอัด ทั้งยังเปิดออกเพื่อระบายอากาศ ส่วนช่วงปลายเตียงจะเป็นมุมทำงาน อ่านหนังสือหรือนั่งเล่น ทำกิจกรรมส่วนตัว ดีไซน์เป็นเคาน์เตอร์ยาวขนานไปกับผนัง ถัดเข้าไปด้านในเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและมุมแต่งตัวที่มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน Family Area ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ผมประทับใจ อย่างแรกเลยคือการตกแต่งภายในที่สวยงามหรูหราคลาสสิค อีกทั้งยังออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวาง เพื่อรองรับการใช้งานของสมาชิกภายในบ้าน สถาปนิกออกแบบมุมนี้มาโดยคำนึงถึงการปรับใช้งานมุมนี้ให้ได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของสมาชิกในครอบครัว นับเป็นบ้านที่ออกแบบมาให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดีมาก ติดกันมีห้องเล็กๆ ฝั่งด้านหน้าบ้าน กั้นสำหรับแยกไว้ทำเป็นห้องพระให้แล้วด้วยครับ บ้านตัวอย่างตกแต่ง Family Area ด้วยชุดโซฟาแบบฟรีฟอร์มเพื่อให้เรารู้สึกสบายๆ ผ่อนคลาย สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีก็ได้ แนะนำให้เลือกสมาร์ททีวีจอใหญ่ๆ ทำเป็นโฮมเธียเตอร์เอาไว้ดูหนังพร้อมกันทั้งครอบครัวได้เลยครับ หรือจะเอาไว้ทำเป็นออฟฟิศ ห้องทำงาน อ่านหนังสือหรือ Work From Home ก็ได้ ห้องนอนรองอีกห้องจะอยู่โซนด้านข้างบ้าน ออกแบบเป็นเหมือน Private Wing ที่แยกออกไปจะต้องเดินผ่าน Walk way ทำให้ห้องนอนนี้ค่อนข้างได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบปราศจากการรบกวน เหมาะสำหรับทำเป็นห้องนอนวัยรุ่นชายที่ต้องการได้ความเป็นส่วนตัว ภายในห้องจัดวางฟังก์ชันไว้ลงตัว โดยมีเตียงนอนขนาดใหญ่จัดวางเอาไว้ด้านในสุด ซึ่งจะไม่ตรงกับตำแหน่งประตู ข้อดีก็คือทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวมากขึ้นไปอีก เมื่อเดินเข้าไปภายในห้องเราจะเจอพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำก่อนครับ ส่วนโซนพักผ่อนจะอยู่ด้านในสุด ห้องนี้ยังเปิดรับช่องแสงจากผนังกระจกด้านหน้าและด้านข้างทั้ง 3 ด้านเลยครับ เป็นห้องที่กานต์ชอบมากและอยากได้ ดูปลีกวิเวกดี มีความเป็นส่วนตัวสุดๆ ด้านข้างเตียงออกแบบให้เป็นมุมทำงาน นั่งอ่านหนังสือหรือวาดรูปสบายๆ ในห้องนอนตัวเอง และยังได้วิวสวยเพราะเชื่อมต่อกับสวนภายนอกด้วย “The home should be the treasure chest of living.” 
