FOUR SEASONS TENTED CAMP GOLDEN TRIANGLE

FOUR SEASONS TENTED CAMP GOLDEN TRIANGLE

.

ทริปช่วงส่งท้ายซัมเมอร์ กานต์ไปเชียงรายมาครับ นี่คือหนึ่งใน Bucket List Resort ที่อยากมาพักมากๆ อยากใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ได้ยินเสียงจักจั่น ฟังเสียงน้ำไหล บางจังหวะมีกิ่งไผ่ไหวกระทบกัน ได้อยู่ร่วมกับช้างในป่าใหญ่ เป็นการรีชาร์จพลังใจที่ดีมากเลยครับ

.

FOUR SEASONS TENTED CAMP GOLDEN TRIANGLE นั่งเครื่องบินมาลงเชียงราย จากนั้นให้รถของทางรีสอร์ตมารับหรือจะเช่ารถขับมาเองก็ได้ รถจะมาส่งเราที่ท่าเรือที่เป็นจุดชมวิวสามเหลี่ยมทองคำ มีพระพุทธนวล้านตื้อสีทองขนาดใหญ่ พี่คนขับเรือรอรับเราอยู่แล้วครับ จากตรงนี้จะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการล่องเรือจากแม่น้ำโขง มองเห็นฝั่งตรงข้ามเป็นลาว จากนั้นก็เปลี่ยนเส้นทางเลาะไปตามแม่น้ำรวกซึ่งฝั่งตรงข้ามด้านขวามือจะเป็นพม่า เป็นอันว่าครบ 3 ประเทศตามคอนเซปต์ 3 เหลี่ยมทองคำพอดีครับ

.

พนักงานรอต้อนรับเราอยู่ที่ท่าเรือ เริ่มต้นด้วยการตีฆ้องคำเอาฤกษ์เอาชัย จากนั้นก็เดินขึ้นไปตามบันไดดินที่คั่นลูกตั้งด้วยไม้ไผ่ เดินเอาเหนื่อยพอใช้ได้ เวลคัม ดริงก์ เป็นน้ำสมุนไพรหวานเย็นชื่นใจดี อ่อ!! มาพักที่นี่ต้องกำลังขาดีนิดนึงนะครับ เพราะเดินค่อนข้างเยอะ มีรถรับส่งเหมือนกัน แต่รถจะมาส่งแค่ที่สะพานให้เราเดินขึ้นบันไดต่อไปยังเต็นท์เองครับ

.

เราได้เต็นท์หมายเลข 7 ชื่อเต็นท์ว่า Opium ที่แปลว่าฝิ่น เพราะจะประดับด้วยภาพวาดงานศิลปะที่เกี่ยวกับดอกฝิ่น ดูสวยดีครับ สังเกตจากป้ายหน้าเต็นท์ก็จะมีชื่อแตกต่างกันไป

.

ด้านในตกแต่งสวยและหรูหรามาก ตามสไตล์ของดีไซเนอร์คนโปรดของเรา บิลล์ เบนสลีย์ ที่ออกแบบโรงแรมนี้มาสิบกว่าปีแล้วครับ เป็นหนึ่งในงาน Iconic ของเค้าเลย ภายในเต็นท์มีข้าวของเครื่องใช้ครบครัน พนักงานเปิดแอร์ไว้รอฉ่ำๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะร้อนเลยครับ

.

เดินเข้าประตูไปด้านซ้ายเป็นส่วนพักผ่อน มีเตียงนอนขนาดใหญ่ ฟูกค่อนข้างหนาตามแบบฉบับของโฟร์ซีซั่น หมอนปักโลโก้เป็นอะไรที่ชอบมากดูคราฟท์สุดๆ มีมุ้งทรงกลมแขวนไว้ แต่เราไม่ได้ใช้เลยครับ หัวนอนเป็นโต๊ะทำงาน มีอุปกรณ์จัดวางไว้ให้ครบครัน พร้อมกับ เวลคัมการ์ด ด้านข้างเตียงมีกล้องส่องทางไกลวางไว้ใกล้ๆ เผื่อว่าจะได้นอนมองช้างที่เพนนินซูล่าจากบนเตียงได้เลย ส่วนปลายเตียงเป็นทางออกเต็นท์ไปยังระเบียงด้านนอกมีที่นั่งให้เราพักผ่อน จิบกาแฟ อ่านหนังสือตอนเช้าๆ ได้

.

อีกด้านเป็นฝั่งของอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่จัดไว้เกือบกลางห้อง อ่างสวยคลาสสิคมาก ชอบการแกะสลักขอบอ่างดูลงดีเทลสุดๆ Element ทุกอย่างมีลวดลายเป็นช้างทั้งหมดครับ ริมเต็นท์ด้านนอกมีอ่างล้างหน้าแบบ His&Her พร้อมชาวเวอร์แบบเอ้าท์ดอร์ ส่วนห้องสุขาจะอยู่อีกฝั่งแยกออกเป็นสัดส่วนดี แต่ตอนใช้งานจะต้องรูดม่านออกไป และไม่มีแอร์นะครับ อาศัยเปิดรับลมจากภายนอก เป็นวิถีชีวิตที่เข้ากันดีกับธรรมชาติสุดๆ เราชอบคันชักตอนจะฟลัดชักโครกเป็นแบบสายดึงลงดูครีเอทดีครับ

.

ตอนเย็นเราไปนั่งบาร์ที่ Burma Bar ตกแต่งสวยงาม มองเห็นวิวไกลไปจนถึงประเทศเพื่อนบ้าน สั่งเครื่องดื่ม Signature Drink มาชิมก่อนเลยครับ จากนั้นก็ยาวเลยมีอีกหลายแก้ว จริงๆ แล้วอยากแนะนำให้เดินลงบันไดด้านข้างเพื่อไปนั่งทานของว่างพร้อมกับประสบการณ์สั่งและเสิร์ฟเครื่องดื่มผ่านชักรอก ดูแปลกและสนุกดี ที่สำคัญวิวพระอาทิตย์ตกตอนเย็นที่นี่สวยจริงๆ ครับ

.

จากนั้น มื้อค่ำไปทานที่ห้องอาหารนงเยาว์ จะอยู่อีกฝั่งของรีสอร์ตอารมณ์ประมาณหัวกับท้ายหากมาจาก Burma Bar ซึ่งจะได้วิวแม่น้ำรวกและแม่น้ำสาขา มองเห็นวิถึชีวิตของคนพม่า คนไทยขับเรือผ่านไปมา

.

เราทานอาหารค่ำกันที่นี่ มีทั้งเมนูที่เป็น Western และอาหารไทย ลาว พม่า สามารถสอบถามจากพนักงานได้เลยครับ การบริการถือว่าดีมาก พนักงานคอยดูจังหวะเข้าที่ไม่รบกวนแขกจนเสียอรรถรส เรียกได้ว่าเทรนมาดีครับ

.

มื้อเช้าเราก็ทานที่นี่เช่นกัน ไฮไลท์คือการนำช้างออกมาทานข้าวกับเรา ให้เราได้ป้อนกล้วย มะพร้าว มาเป็นตะกร้าเลยครับ ทางรีสอร์ตรับซื้อมาจากชาวสวนเป็นกล้วยใหม่เพิ่งตัดจากเครือไม่ใช่ของใกล้เน่านะครับ เราว่าที่นี่ดูแลช้างดีมาก

.

ที่ FOUR SEASONS TENTED CAMP GOLDEN TRIANGLE ถือว่ามีกิจกรรมให้แขกทำเยอะมากครับ เราอยู่กัน 3 วันยังเก็บไม่หมด คงต้องไปใหม่ ตอนสายๆ พี่เรน เจ้าหน้าที่ขาลุย ชวนเราไปปั่นจักรยานชมวิวสามเหลี่ยมทองคำ เรียกได้ว่า กำลังน่องดีสุดๆ มองเห็นบรรยากาศของชาวบ้านที่มาเที่ยว มาค้าขาย ไปถ่ายรูปที่ป้ายสัญลักษณ์มองเห็นครบทั้ง 3 ประเทศ จากนั้นก็ไปที่วัดสบรวก เพื่อชมโบสถ์สีขาวมุกลวดลายตามจินตนาการของคนทางเหนือ ประดับด้วยเศียรพญานาค วิจิตรมากๆ ครับ ด้านข้างมีพระอุปคุตสวยมากมากเช่นกัน ดีใจที่ได้มาชมครับ

.

อีกวันพี่เรนก็ชวนขึ้นรถลงเรือเที่ยวไปตามเมืองเชียงแสน ไปเดินตลาดเช้า ชมวิถีชีวิต พ่อค้าแม่ขาย ชาวบ้านมาจ่ายตลาด จากนั้นก็ไปเที่ยววัดเก่าของเมืองเชียงแสน พี่เรนเล่าประวัติศาสตร์เก่งมากครับ ทำให้เรารู้เรื่องของเมืองเชียงแสนจบได้ภายใน 2 ชั่วโมง

.

มื้อกลางวันเรานั่งรถ RANGE ROVER ปี 1985 ลัดเลาะเข้าไปในป่า มีศาลาไม้ไผ่จัดไว้ให้เราได้นั่งพักผ่อนชมวิวฝั่งพม่าที่อยู่ห่างออกไปเพียงสายน้ำคั่นกลาง ระหว่างทางจะมองเห็นช้างที่เดินเล่นไปมาอย่างอิสระในป่า สามารถแจ้งให้คนขับรถจอดให้เก็บภาพอยู่ห่างๆ ได้ครับ

.

ตอนบ่ายๆ เราไปนวดกันที่สปา เป็นเอ้าท์ดอร์นะครับ วิวเปิดโล่งด้วยธรรมชาติ เราลองนวดไม้ไผ่ซึ่งเป็น Signature ของที่นี่ เทอราพิสใช้ไม้ไผ่กดและคลึงไปตามตัว ดีมากเลยครับ จากนั้นก็ไปนั่งแช่ในน้ำนมในอ่างไม้หลังนวดเสร็จ ผ่อนคลายดีมาก ได้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ

.

มื้อค่ำ คืนสุดท้ายพิเศษหน่อย เพราะรีเควสเป็นแบบขันโตก อยากกินอาหารเหนือขอรสชาติแบบออริจินัลเลยครับ มีเมนูเยอะมาก ตกแต่งสถานที่สวยดี ได้ฟีลแบบล้านนาล้านใจสุดๆ ท่ามกลางวิวป่าและแม่น้ำ ทำให้มื้อนี้พิเศษขึ้นไปอีก

.

FOUR SEASONS TENTED CAMP GOLDEN TRIANGLE เชียงราย เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ตที่กานต์ชอบมาก อยากกลับไปอีก ไปสัมผัสชาติที่เรียบง่าย ทว่าหรูหรา สะดวกสบายตามคอนเซปต์ของโฟร์ซีซั่น ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์จากทางรีสอร์ต และเที่ยวได้ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน กับที่เชียงราย ก็เพียงพอครับ

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน