บิน First Class ไปญี่ปุ่นกับ Japan Airlines
จ่ายไปเกือบ 2 แสน เป็นยังไงนะ สรุปให้ละ มาดูกัน
_________________
1. First Class บินไปลงฮาเนดะ (HND) ไฟล์ท 4 ทุ่ม ถึงญี่ปุ่นเช้าพอดีเที่ยวต่อได้เลย
2. ลากกระเป๋ามาเองนะ ถ้าเป็น กบท จะมีพนักงานชุดเหลืองรอรับช่วยเข็นกระเป๋าให้
3. เช็คอินช่องP17-P18 First Class มีเก้าอี้ให้นั่งรอแต่ไม่มีคนหรอก น้ำหนักกระเป๋าได้ 32 โล 3 ใบ
4. พนักงานให้บอร์ดดิ้งพาสมา พร้อมใบแทรกบอกทางไปซากุระเล้าจน์ เหมือนบิสฯ แต่จะไม่มี Fast Track แนบให้ เพียงโชว์บอร์ดดิ้งพาสก็เข้าช่องพิเศษได้เลย
5. เล้าจน์อยู่ชั้น 3 ใช้ซากุระที่เดียวกับบิสสิเนส ไม่มีจัดที่นั่งแยก คนเยอะมาก เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา หาที่นั่งให้ได้ก่อน
6. ผู้โดยสารเฟิร์สขึ้นเครื่องเป็นกรุ๊ปแรก (ต่อจากผู้โดยสารพิเศษ) ก่อนถึงเวลาเล็กน้อย คนญี่ปุ่นก็มาต่อแถวรอกันแบบเป็นระเบียบมาก
7. เลือกที่นั่งเป็น 1A ริมหน้าต่างทางซ้ายจะได้เห็นฟูจิตอนเช้า ไฟล์ทนี้มีผู้โดยสารเฟิร์ส 3 คนถ้วน
8. ที่นั่ง JAL Suite กว้าง 58 เซน ยืดพักขาได้สบาย ถ้าขาสั้นแบบเรา สามารถเลื่อนเข้ามาใกล้ที่พักขาได้
9. ถ้ากางเป็นเตียงออกจะได้ความประมาณ 2 เมตร นอนราบได้สบาย ไม่เหมือนบิสไหลในไฟล์ทที่แล้ว ทรมานสุด
10. ตกแต่งลายไม้หรูหราแบบ Traditional สไตล์ญี่ปุ่น มีที่เก็บของด้านข้าง ใต้ที่พักขาเก็บกระเป๋าได้
11. Amenities มาเป็นกระเป๋าผ้าแปะโลโก้ ZERO ข้างในมีของจุกจิกแบบบิส ที่ชอบคือมี Kit ของ Shisedo แยกมาให้
12. รีโมทจออยู่ข้างที่นั่ง หูฟังของ BOSE (ไม่ได้ใช้) จอใหญ่ 23 นิ้ว (ไม่ได้ดู) เพราะโหลดซีรีย์มาตอนนี้ติด Lawless
13. ลูกเรือมาแนะนำตัว 2 ท่านเป็นคนญี่ปุ่น ส่วนลูกเรือคนไทยเที่ยวบินนี้มี 3 ท่านแต่ไม่มาทักทายสักคน อาจจะประจำอยู่อีกชั้นโดยสารนึง
14. ลูกเรือเอาเสื้อสูทไปแขวนถามว่าจะเปลี่ยนชุดนอนเลยไหม … ทีแรกว่าจะไม่ แต่เปลี่ยนใส่ถ่ายเอาคอนเทนต์นิดนึงก็ดีนะ เอากลับบ้านได้
15. ชุดนอนใส่สบายเป็นผ้าฝ้ายออร์แกนิค 100% ยี่ห้อ Nendo ของญี่ปุ่น ติดโลโก้ Tsurumaru JAL
16. ห้องน้ำแคบแบบเดียวกับห้องน้ำทั่วไป ของในห้องน้ำหรูหรากว่าใช้ Clé de Peau หอมมาก
17. เสิร์ฟแชมเปญ ไม่ได้ฟังถนัดเพราะมัวแต่ถ่ายรูปอยู่ แต่ที่รู้คือ Salon ไม่เสิร์ฟจ้า (เสิร์ฟเฉพาะขาออกจากญี่ปุ่นเท่านั้น)
18. ส่วนตัวเป็นสายดื่มโค้ก อาจจะไม่คุ้ม จริงๆ มีแอลให้เลือกเยอะอยู่นะ สาเก โซจู ไวน์ ฯลฯ
19. อาหารว่างมื้อแรกเป็นคานาเป้ ไก่สะเต๊ะคือหวานปานน้ำเชื่อม ถ้าหิวขอบะหมี่ได้ตลอดเวลา
20. ลูกเรือคงเห็นไม่หลับสักที ก็บริการดี ถามตลอดต้องการอะไรเพิ่มไหม
21. จากนั้น ลูกเรือมาขายของเป็นโซจู MORI IZO ทำจากมันหวาน บอกว่าตัวนี้ต้องซื้อเลยนะ เพราะขายเฉพาะผู้โดยสารเฟิร์สเท่านั้นนะ (จริงๆ บิสก็มีให้ซื้อ)
22. ปูทีนอนตรงที่นั่งติดกัน ประมาณว่าง่วงก็มานอนได้นะลูก ที่นอนมี 2 ด้านคือนุ่มกับแข็งเลือกได้เลย หมอนแบนไปนิด
23. ย้ายไปนอนดูซีรีย์บนเตียงต่อ ชาร์จแบตไปด้วยได้ หลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ เหมือนนานแหละแต่แปบเดียว
24. ราวตีสี่นิดๆ (เวลาญี่ปุ่น) ก็คือขึ้นเครื่องมาเกือบสี่ชั่วโมงละ ลูกเรือปลุกกินอาหารเช้า (สั่งไว้ได้ว่าจะให้ปลุก/ไม่ปลุก)
25. เริ่มต้นด้วยผ้าร้อนและน้ำส้ม (กล่อง) เพิ่มความสดชื่น
26. อาหารเลือกไว้เป็นชุดญี่ปุ่น (อีกแบบเป็นอาหารฝรั่ง) JAL จะมีเมนูให้ดูในเวปไซต์อยู่แล้วแต่ละเดือนจะเสิร์ฟไม่เหมือนกัน
27. มาเป็นชุดไคเซกิเล็กๆ ไข่ม้วน เนื้อตุ๋นซีอิ้ว มะเขือเทศ ปลาย่าง ผัก ข้าว ซุป จากนั้นเสิร์ฟของหวานกับกาแฟ
28. พอใกล้แลนด์ จะมีการประกาศให้ชมวิวฟูจิทางด้านซ้ายมือด้วยความภาคภูมิใจของชาวญี่ปุ่น เสียดายไม่ได้เอาเลนส์เทเลมา ฟ้าไม่ค่อยเปิดมองเห็นฟูจิแบบลิบๆ
29. แลนด์ก่อนเวลาเล็กน้อย ได้ลงก่อนก็ได้เข้าตม.ก่อน แปบเดียวผ่าน
30. ราคาประมาณ 2 แสนบาท แพงกว่าบิส ประมาณ 3 เท่า เอาเป็นว่าทริปหน้าจะนั่งบิสแบบเดิม นี่เป็นการรีวิวเฉพาะเที่ยวบินขาไป กทม.-ฮาเนดะ อาจจะไม่ค่อยมีอะไรเร้าใจเดี๋ยวรอดูขากลับอีกที ไฟล์ทออกจากบ้านน่าจะดีครับ