Amanoi, Vietnam

AMANOI #รีสอร์ตหรูที่สุดในเวียดนาม

จุดขายคือความ Authentic แบบ AMAN

(English Scroll Below)

อมันนอย (คนเวียดนามออกเสียง อมันเหนย) แปลว่า “สถานที่แห่งความสันติ” ซึ่งก็สงบจริง เพราะอยู่ห่างออกไปจากตัวเมือง นั่งเครื่องไปลงสนามบินเนีย เทรียง แคม รานห์ (ญาจาง) จากนั้น นั่งรถรีสอร์ตต่อไปอีกราวชั่วโมงนึงก็ถึงครับ

เป็นทริปที่กานต์ได้หนีไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติขุนเขาและอ่าว Vinh Hy สีน้ำเงินเข้มของทะเลจีนใต้ในจังหวัด Ninh Thuan

งานดีไซน์โดย Jean-michel Gathy สถาปนิกคู่ใจของ Aman ซึ่งงานนี้ก็ทำได้ดีเช่นเคยครับ ถ่ายทอดความเป็นเวียดนามแบบลักซ์ชูว์ ดึงความหรูหราออกมาและลดทอนรายละเอียดบางอย่างลงไป ทำให้ Pavillion มีความโดดเด่นและการตกแต่งที่มีกลิ่นอายโอเรียลทัล โดยมีฉากหลังเป็นหินภูเขากึ่งทะเลทราย ต้นไม้เขียวผลัดใบ ส่วนภาพเบื้องหน้าที่เราได้เห็นตลอดเวลาก็คือทะเลสีน้ำเงินเข้ม โดยมีเสียงนกร้องและเรือประมงของชาวบ้านเป็น Extra

วิลล่าของเราเป็นแบบ Ocean Pool Villa ที่แรงบันดาลใจมาจากบ้านของคนเวียดนาม มาพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว วิวมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากกลางทะเลในช่วงเช้า เป็นทริปที่เราได้ตื่นมาออกกำลังกาย สูดอากาศบริสุทธิ์ และพักผ่อนอย่างเต็มที่ สายๆ ไปแล่นเรือใบที่บีชคลับ ตอนเย็นไปนั่งเรือชมธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวประมงที่ยังใช้เรือกระด้งเป็นพาหนะหาเลี้ยงชีพแบบดั้งเดิม

อีกจุดที่เราชอบและเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่คือการดึงเอาวัฒนธรรมของชาวจาม (Cham) ซึ่งเป็นคนพื้นถิ่นของที่นี่มาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นพิธีสู่ขวัญเพื่อให้เทวดาฟ้าดินช่วยปกปักรักษาคุ้มครองเราระหว่างเข้าพักและตลอดไป จากนั้นก็ได้ทานดินเนอร์แบบเชฟเทเบิลที่ Rock Studio นำเสนอเมนูของชาวจามที่มีความฟิวชั่น ชูความสดหวานของวัตถุดิบอาหารทะเล

การบริการคือเป๊ะ เมื่อเราอินฟอร์มไปว่าชอบทานกาแฟเย็น ในห้องจะมีน้ำแข็งมาเติมให้ตลอดเวลา แม่บ้านก็คือทำวิลล่าทุกครั้งที่สบโอกาสราวกับเฝ้าอยู่ด้านหน้า กลับเข้าวิลล่ามาก็คือเก็บเรียบร้อยตลอด เรื่องรายละเอียดเล็กๆ น้อย สำคัญมากสำหรับคนเรื่องเยอะแบบเรา แอบสังเกตว่าพนักงานจะเอามือแตะเบาะรถบัคกี้ให้ก่อนเพื่อจะเทสต์ดูว่าเบาะร้อน แขกจะนั่งได้ไหม และเอามือยกขึ้นป้องขอบหลังคาเวลาที่เราก้าวขึ้นรถทุกครั้ง

เรื่องเหล่านี้ดูเหมือนเล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่ในความคิดเรา โดยเฉพาะรีสอร์ตระดับ Ultra Luxury เบอร์ต้นๆ ของโลกเช่นนี้ AMANOI เป็นประสบการณ์ดีๆ ที่อยากชวนทุกคนมาลองสัมผัสกันสักครั้ง

ดูรายละเอียดและจองได้ที่ >> https://www.aman.com/resorts/amanoi

_____________________

AMANOI: The Ultimate Luxury Resort in Vietnam

AMANOI, meaning “place of peace,” lives up to its name as a tranquil retreat located away from the city’s hustle and bustle. Accessible by plane to Nha Trang Cam Ranh Airport and a one-hour drive thereafter, the resort is situated amidst the natural beauty of the Ninh Thuan province, with stunning views of the deep blue waters of Vinh Hy Bay in the South China Sea.

Designed by the renowned architect Jean-Michel Gathy, known for his work with Aman, AMANOI showcases the essence of Vietnam with a touch of opulence while maintaining a sense of simplicity. The Pavilions stand out with their distinctive design, featuring a backdrop of rocky hills by the sandy seashore and lush green foliage. The main highlight is the vibrant, deep blue sea, complemented by the soothing sounds of singing birds and local fishermen’s boats, providing an extraordinary experience.

The Ocean Pool Villas, inspired by Vietnamese homes, offers a private pool and a breathtaking view of the sunrise over the sea in the morning. We can indulge in a range of activities, from exercising and breathing in the pure air to sailing in a beach club sailboat during the day and exploring the traditional lifestyle of local fishermen using basket boats in the evening.

One unique aspect of the experience is the opportunity to immerse in the culture of the Cham people, the indigenous inhabitants of the area. Tourists can participate in traditional ceremonies to seek protection from heavenly deities during their stay. Additionally, they can savor the fusion of flavors from local Cham cuisine prepared by the Rock Studio chef, presenting the freshness and sweetness of seafood ingredients.

The service at AMANOI is excellent. From offering refreshing iced coffee to keeping the villa tidy and well-prepared, every detail is meticulously attended to. The staff’s attention to small gestures, like touching the buggy seats to check if they are hot before guests sit down and raising hands to shield them from the sun while boarding, shows the level of care and consideration provided.

In summary, AMANOI is an exceptional resort experience, representing the epitome of ultra-luxury retreats worldwide. Its blend of tranquility, refined design, cultural encounters, and impeccable service is an enticing invitation for all to come and experience this remarkable destination.

Reservation >> https://www.aman.com/resorts/amanoi

#aman#amanoi

Amanoi ตั้งอยู่ริมอ่าว Vinh Hy มีลักษณะเหมือนแหลมที่ยื่นออกมาทำให้มีความเป็นส่วนตัว เทควิวได้โดยรอบ

โดดเด่นด้วยพาวิลเลียนดีไซน์แบบตะวันออก

.

วิวตอนเช้ายามพระอาทิตย์ขึ้นคือสวยมาก รีสอร์ตมีกิจกรรมปีนเขาชมพระอาทิตย์ด้วยนะ ทางไม่ชันเดินไม่สูงมาก แต่ได้บรรยากาศดี

พักผ่อนบนชายหาดแบบส่วนตัวที่บีชคลับ

หนึ่งในมุมที่ Photogenic ที่สุดคือสระว่ายน้ำส่วนกลาง อยู่ใกล้กับ Pavillion

วิลล่าออกแบบได้หรูหรามีกลิ่นอายของบ้านโบราณเวียดนาม ผสมผสานความโมเดิร์นเข้าไป

วิลล่าเรียงรายไปตามซอกเขา ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวกว่า ท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติเวียดนาม

ไฮไลท์คือ Pavillion ดีไซน์แบบโอเรียลทัล ตั้งอยู่กึ่
กลาง มาพร้อมกับห้องอาหารขนาดใหญ่และสระว่ายน้ำที่มองเห็นวิวทะเลสวยได้ตลอดทั้งวัน

จากสนามบิน รถรีสอร์ตพาเรามาจอดที่ทางขึ้น Pavillion เป็นบันไดในโถงสูงต้องเดินขึ้นไป ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่อลังการมาก

ระหว่างนั่งรอเช็คอิน ดูไดเรคทอรี่ที่พักของ AMAN ตั้งใจจะไปพักให้ได้ทุกที่ ค่อยๆ เก็บสะสมแทคห้อยกระเป๋าเป็นที่ระลึก

ด้านบนเป็นส่วนของห้องอาหาร มองไปจะเห็นรายละเอียดของงานดีไซน์ ที่ Jean-michel Gathy สถาปนิกชาวเบลเยียม ตั้งใจออกแบบให้มีความเป็นเวียดนามคลาสสิค เน้นสีนำ้ตาลของไม้ เข้ากันได้ดีกับสีเขียวของต้นไม้

โถงทางเดินยกระดับขึ้นมาอีกชั้นจากล็อบบี้ สู่ห้องอาหารด้านบน งานตกแต่งภายในดูเรียบหรูดีมาก

ส่วนตัวประทับใจในการหาพร็อพสำหรับมาประดับตกแต่ง ซึ่งมีรากฐานของชิ้นงานมาจากศิลปะแบบตะวันออก ทำให้เข้ากับงานดีไซน์ในภาพรวมมาก

ไฮไลท์ของ Pavillion คือเฉลียงกว้างที่ยื่นออกไปจัดวางเบาะที่นั่งเอาไว้โดยรอบพร้อมโต๊ะรับประทานอาหาร มองเห็นบรรยากาศของอ่าว Vinh Hy

พื้นที่มีความเป็นหินปูน พืชพันธุ์เป็นไม้โปร่ง รายรอบด้วยทะเลจีนใต้ซึ่งเราไม่ค่อยได้สัมผัสบ่อยเท่าอันดามันหรืออ่าวไทย

ตอนบ่ายหลังเช็คอิน เจ้าหน้าที่แนะนำว่าตอนนี้ที่พาวิลเลียน มีอาฟเตอร์นูนที พอดี เลยแนะนำให้ขึ้นมาชิมเป็นของว่างทานเล่น เหมือนขนมครก นึกไปถึงที่ Amanpuri ที่มีกิจกรรมแบบนี้ในช่วงบ่ายของทุกวันสำหรับแขก ฟรีนะครับ

เราเลือกนั่งด้านในของ Pavillion ซึ่งจัดที่นั่งขนาดใหญ่แบบเข้ามุมเอาไว้ มีผนังเป็นไม้ซี่กั้นเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวกว่า ที่นั่งกว้างขวางมีมุมให้เลือกเยอะมากครับ

เดินไปมุมไหนในรีสอร์ตก็จะมีชุดโต๊ะเก้าอี้จัดวางไว้ให้เราได้หยุดพักเสมอ ท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติ

วิลล่าของเรา แบบ Ocean Pool Villa เป็นบ้านไม้โบราณสไตล์เวียดนามหลังใหญ่ หมายเลข 5

หน้าบ้านมีเฉลียงพร้อมกับเก้าอี้ที่นั่งจัดไว้ทั้ง 2 ฝั่งสำหรับนั่งอ่านหนังสือแบบเงียบๆ หรือเวลารอรถบัคกี้มารับก็นั่งตรงนี้ได้ เมื่อรถมาถึง พนักงานจะเดินเข้ามารับถึงด้านในวิลล่า

ห้องพักกว้างขวาง ใหญ่โตมาก จัดวางฟังก์ชันไว้อย่างเป็นสัดส่วน ด้านหน้าเป็นมุมนั่งเล่นขนาดใหญ่ที่มองออกไปเห็นทะเลชัดเจน

ด้านในเป็นฝั่งเตียงนอน มาพร้อมกับคาบิเนททีวีตรงกลางแบบหมุนได้รอบ 360 องศา สามารถนอนดูทีวีจากมุมไหนก็ได้ในห้อง

หัวเตียงด้านในมีมินิบาร์ สามารถชงชา กาแฟแคปซูลได้ ในตู้เย็นมีนมเตรียมให้ แต่เครื่องดื่มอื่นๆ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

อีกด้านของมุมหัวเตียงจะเป็นโต๊ะทำงานที่มองเห็นวิวทะเลจากด้านใน ให้ความเป็นส่วนตัว เป็นมุมที่ชอบมาก เพราะได้มองเห็นธรรมชาติระหว่างที่คิดงานไปด้วย

ด้านนอกมีเก้าอี้นอนอาบแดด จัดเตรียมเอาไว้ให้ริมสระ ด้านนอกเป็นโต๊ะไม้สำหรับทานข้าว

มองย้อนกลับไปจากสระว่ายน้ำสู่ในวิลล่า เป็นมุมที่ออกแบบมาได้เรียบหรูจริงๆ ครับ มีโต๊ะกลางสำหรับนั่งพักผ่อนบริเวณเฉลียงริมสระ บรรยากาศคือดีมาก ให้ความเป็นส่วนตัว

ที่นี่ให้อารมณ์เหมือนบ้านต่างจังหวัด พอถึงกลางคืนก็เงียบสงัด รีบเข้านอน ตื่นตอนเช้ามาว่ายน้ำชมพระอาทิตย์ขึ้น เป็นบรรยากาศที่สวยงามน่าประทับใจ

ด้านในเป็นห้องน้ำ มีขนาดใหญ่มากกกกกกกก แยกทุกอย่างออกเป็น 2 ฝั่งแบบ His & Her เป็นสัดส่วนดี สามารถเดินออกไปยังสระว่ายน้ำจากด้านในห้องน้ำได้เลย วิลล่าจะได้ไม่เปียกเวลาเดินกลับ

หยิบนิยายเล่มโปรดติดมือมาด้วยนั่งแช่อ่าง ดีฟองสบายๆ

มุมนี้เป็น Hidden Place จาก Rock Studio สำหรับดินเนอร์ เป็นจุดที่หนีมาปลีกวิเวกได้แบบไม่ค่อยมีแขกคนอื่นๆ

มื้อเย็นเราทานที่ Rock Studio เป็น Exclusive Dinner แบบส่วนตัวครับ

มื้อนี้จะมีเชฟมาปรุงอาหารให้ โดยคอร์สจะเป็นอาหารสไตล์ชาวจาม ซึ่งเป็นคนพื้นถิ่น นำมาปรุงให้เข้ากับลิ้นแบบสากล

จานแรกเป็นสลัดแตงกวาปลาหมึกครับ สิ่งที่ชอบคือวัตถุดิบอย่างซีฟู๊ด สดยอมใจจริงๆ

จานนี้ก็ชอบครับเป็นเนื้อย่างสไตล์ชาวจาม ที่กลิ่นเครื่องเทศเบาๆ ถ้าเอามาจับคู่กับแจ่วบ้านเราจะอร่อยขึ้นอี๊กกกกก

เมนูทุกจาน ทานง่าย มีความคล้ายอาหารไทยอยู่ประมาณนึง

กุ้งผัดพริกเกลือ – จานนี้กุ้งสดรสหวานดีมาก ผัดพริกเกลือมาออกแนวจืดเล็กน้อย

ต้มยำไก่ใบมะขามอ่อน – รสคล้ายกับที่ทานในเมืองไทย อร่อยถูกใจ

ปลาทอดราดซอสตะไคร้ – มาพร้อมกับข้าวเหนียว ปั้นใหญ่มาก ทานไม่หมดจริงๆ

ของหวานเป็นสังขยาฟักทอง

อีกมุมที่ชอบสำหรับนั่งทานอาหารคือ Pavilion ที่ซ่อนอยู่ในโซนสปา มาพร้อมกับทะเลสาบแบบส่วนตัว สำหรับจัด Private Dinner ด้วยเช่นกัน

หลังมื้ออาหาร พนักงานพาเราเดินลัดเลาะเข้าไปในป่า ประดับประดาด้วยโคมไฟส่องทาง ทีแรกก็แปลกใจอยู่

ข้างในมีอาจารย์ เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวจาม นั่งรออยู่ เพื่อทำพิธีสู่ขวัญ อัญเชิญเทวดาฟ้าดินมาคอยดูแลเรา ระหว่างเข้าพัก มีการถวายเหล้า พิธีบริกรรม และบรรเลงดนตรีขับกล่อม

ชาวจามเป็นกลุ่มชนกลุ่มน้อยในท้องถิ่นในภูมิภาคนี้ ปัจจุบันมีประชากรราว 70,000 คนอาศัยอยู่ในพื้นที่

บรรยากาศของอ่าว Vinh Hy ยามเช้า วิลล่าของเราวิวดีมาก หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเล็กน้อย

เราเดินไปกดช็อตกาแฟจากเครื่องแคปซูล นั่งพักผ่อนเบาๆ ยามเช้าหลังตื่นนอน

มุมด้านหน้าวิลล่าที่หันออกไปทางทะเลยามเช้าตรู่คือสีสันดีมาก ได้มองเห็นธรรมชาติที่กว้างใหญ่แบบเต็มๆ ตา

ใกล้ๆ วิลล่าของเราจะเป็นสระว่ายน้ำใหญ่ Central Pavilion The Cliff Pool ยาวประมาณ 20 เมตร พนักงานมาเซ็ตอัพแต่เช้า เพราะเป็นไฮไลท์ที่แขกทุกคนจะต้องมา

บรรยากาศคือดีสุดๆ มีความธรรมชาติแบบเรียบง่าย สามารถมานั่งพักผ่อนหย่อนใจได้ที่นี่ตลอดทั้งวัน

ภาพมุมสูงจากสระว่ายน้ำ ที่วางขนานไปกับแนวต้นไม้และวิวเบื้องหน้าที่เชื่อมต่อกับทะเลเป็นหนึ่งเดียวกัน

จากนั้น สายๆ ช่วงเวลาประมาณ 8 โมง เราไปเล่นโยคะรับอรุณกัน

บรรยากาศดีมาก มีความออกกำลังกายได้วิวทะเลสาบทะเลใจ แต่เหนื่อยเอาเรื่องอยู่นะ

กลับไปอาบน้ำที่วิลล่าแล้วมาทานอาหารเช้ากัน ต้องเดินขึ้นบันไดหลายขั้นหน่อย

ห้องอาหารหลักของทางรีสอร์ต เป็น All Day Dining มีขนาดใหญ่มาก เกินคำว่าเพียงพอ สามารถเลือกนั่งทั้งแบบ Out Door และในห้องปรับอากาศ

อาหารเช้าเป็นแบบสั่งกับพนักงาน วันแรกลองออมเล็ตปู มาลองทานดู เนื้อไข่นุ่มเนียนดี แต่ด้านในยังไม่ค่อยสุก ทำให้ค่อนข้างคาว

แต่ที่อยากแนะนำเลยคือเมนูขนมปัง โดยเฉพาะ Croque Madam แฮมชีสแซนวิชในแบบฝรั่งเศส มีความกรอบนอก นุ่มในแบบของจริง ชีสเยิ้มๆ ซอสก็คือหอมอร่อย สั่งทานทุกวัน วันละ 2 รอบ

ส่วนเฝอก็คืออร่อย แต่ต้องบอกไปว่าเอาเส้นน้อยๆ หน่อย วันนี้โหลดคาร์ปมาเยอะแล้ว

อาหารค่ำก็ทานที่ห้องอาหารนี้เช่นกัน บรรยากาศเหมือนร้านอาหารฝรั่งเศสที่หรูหรา เริ่มจากการเสิร์ฟขนมปังและเนยก่อนเลย

อาหารมีความผสมสานหลายเมนูเข้าด้วยกันทั้งเวียดนามและอาหารฝรั่ง เราลองสั่งสลับไปในแต่ละมื้อ ผมคัดจานที่ชอบมาให้แล้วครับ หอยเชลล์ผัดซอสคือห้ามพลาดเด็ดขาด ส่วนไอศกรีมมะพร้าวใส่เหล้ามะพร้าวก็เข้ากันดีแบบเมาๆ

ใกล้ๆ กันมีบาร์ สามารถมานั่งปล่อยจอยได้ที่นี่หากยังไม่อยากที่จะกลับวิลล่าในทันที

Beach Club เป็นอีกมุมหนึ่งที่ชอบมาก ด้วยความที่รีสอร์ตกว้างใหญ่แต่มีจำนวนวิลล่าไม่มาก ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ในบรรยากาศของธรรมชาติสบายๆ

กำลังจะนั่ง พนักงานก็รีบนำน้ำกับผ้าเย็นมาว่าง ด้านล่างที่ Beach Club ก็มีสระว่ายน้ำใหญ่อีกจุด ขนาดประมาณสระโอลิมปิค

มีโต๊ะสำหรับนั่งทานอาหารกลางวันได้ หากใครมาเล่นสนุกเพลินอยู่ที่ชายหาดทั้งวัน

บรรยากาศของอ่าว Vinh Hy ทะเลสีสวยมาก คลื่นตรงฝั่งไม่แรงมาก แต่กลางทะเลก็คือแรงเอาเรื่อง

เรารอเวลาให้สายกว่านี้อีกนิด พอให้มีลม เราจะไปล่องเรือใบกัน

ได้เวลาออกเดินทางไปสำรวจอ่าว Vinh Hy กันแล้ว

อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่า จุดขายคือความ Authentic แบบ AMAN เราจึงได้เห็นธรรมชาติในแบบเรียบง่ายตามที่เป็น ท่ามกลางบรรยากาศของรีสอร์ตที่หรูหราในแบบฉบับของ AMAN

กลางวันอากาศร้อนเอาเรื่องเหมือนกัน พนักงานนำน้ำดื่มมาให้ เป็นน้ำที่ผลิตเองจากในรีสอร์ต ใส่ขวดแก้วใส สามารถนำมารียูสได้

บริเวณชายหาดเป็นจุดที่เราสามารถนั่งนอนเล่นได้ทั้งวันเลยครับ ชอบตรงที่ค่อนข้างเงียบ มีความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมารบกวนจากภายนอก

กิจกรรมที่ทำมีเยอะมาก นอกจากแล่นเรือใบแล้วยังพายเรือคายัค ซัพบอร์ด ยิงธนูก็มีนะ อยู่ถัดออกไป

ตอนเย็นนัดกับพนักงานว่าจะไปล่องเรือเล่น ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านย่านนี้กัน

มีความจัดวางกระชังปลา ที่อยู่กลางทะเล กระจายไปหลายจุด

เรือกระด้งแบบโบราณก็ยังมี ทำจากไม้ไผ่เคลือบด้วยยางไม้กันรั่ว ถ้าเป็นเรือรุ่นใหม่จะเป็นกาละมังพลาสติกแล้ว

จองสปาไว้ตอนค่ำหน่อย เพราะเหนื่อยมาทั้งวัน AMAN SPA คืออยากแนะนำสำหรับใครที่มาพักเพราะขึ้นชื่อมาก

ห้องนวดมีหลากหลาย ทั้งแบบเดี่ยวและแบบคู่ ชอบกลิ่นอโรม่าที่มาให้เลือกมาก ดูหอมละมุนมีกลิ่นซับซ้อนกว่าไม่เหมือนที่อื่นๆ

มีห้อง Relax สำหรับนั่งพักหลังนวดเสร็จ ได้รีชาร์จพลังอีกครั้ง ก่อนกลับบ้านในเช้าวันรุ่งขึ้น

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน