“อรุณสวัสดิ์” (ARUNSAWAD)
คำกล่าวทักทายแบบไทย ได้ฟังทีไรก็รู้สึกถึงการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยเรื่องดีๆ
.
เช้านี้ของกานต์กับวีถีชีวิตริมสายน้ำ ณ คอนโดมิเนียมระดับ Ultimate Luxury บนโค้งน้ำเจ้าพระยา Banyan Tree Residences Riverside Bangkok by Nirvana Development PLC.
.
พระอาทิตย์ส่องแสงแรกผ่านกระจกมาทักทายเรา ตั้งแต่ตีห้ากว่าแสงสีทองระยิบวิบวาวที่ตกกระทบผืนน้ำสะท้อนกลับมาบนห้องของเราดูงดงามราวกับศิลปินกำลังสะบัดพู่กัน วาดฝีแปรงแต่งแต้มสีสัน
.
กานต์ขยับตัวบิดขี้เกียจเล็กน้อย พลางมองออกไปเห็นผู้คนมากมายกำลังเริ่มต้นวันใหม่
.
เรือโดยสารเข้าออกท่าทำหน้าที่วิ่งรับส่งผู้คน มองไปบนสะพานรถราเริ่มติดนิดๆ แต่กลับเป็นเช้าที่เราไม่มีความรู้สึกว่าต้องเร่งรีบแต่อย่างใด มีเวลาชงกาแฟ จิบเบาๆ อัพเดทข่าวสารความเคลื่อนไหว
.
มองเห็นลงไปเห็นกัปตันเรือ Le Boat by Banyan Tree Residences มารอทำหน้าที่ประจำการ คอยรับส่งลูกบ้านของที่นี่
.
“𝐁𝐞𝐠𝐢𝐧 𝐞𝐚𝐜𝐡 𝐝𝐚𝐲 𝐚𝐬 𝐢𝐟 𝐢𝐭 𝐰𝐞𝐫𝐞 𝐨𝐧 𝐩𝐮𝐫𝐩𝐨𝐬𝐞”
Will Smith เคยพูดประโยคนี้ไว้ในภาพยนตร์เรื่อง Hitch เป็นคำพูดเชิงบวกที่กานต์ว่าช่วยสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นให้เราใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยความตั้งใจ เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายที่ตั้งได้เป้าไว้
.
เหมือนเช้านี้ที่ผมตั้งใจจะพาเดินชมคอนโดมิเนียมสุดหรูหรา รังสรรค์ออกมาได้อย่างปราณีตราวกับงานศิลปะระดับ Masterpiece ตั้งอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา มาพร้อมกับ Concierge Service เสมือนเราได้ใช้ชีวิตอยู่ในโรงแรม 5 ดาว ที่เน้นความเป็นส่วนตัวในทุกวัน
.
ไปชมภาพถ่ายในคอลเลคชั่น Banyan Tree Residences Riverside Bangkok พร้อมกับอ่านเรื่องราวกันต่อที่ด้านในได้เลยครับ
#BanyanTreeResidences#TheSanctuaryforYourSoul#Bangkok#Nirvanadaii#NirvanaHome#MySanctuaryHome#EverydayRiverfrontHome
—
วิถีชีวิตของคนไทยผูกพันกับสายน้ำมาตั้งแต่อดีต เป็นเส้นทางสายหลักในการสัญจร การทำมาค้าขาย เราจะเห็นว่าบ้านเรือนไทยของบรรดาเศรษฐี คหบดีจึงนิยมปลูกกันอยู่ริมน้ำ นำมาซึ่งฉายา “เวนิสตะวันออก” ปัจจุบัน แม่น้ำเจ้าพระยายังคงเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่โดดเด่น
.
Banyan Tree Residences Riverside Bangkok เป็นคอนโดมิเนียมหรูระดับ Ultimate Luxury ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The sanctuary of your soul” ที่เน้นความเป็นส่วนตัวบนทำเลศักยภาพ ตั้งอยู่บนที่ดินแปลงใหญ่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
กานต์คิดว่าทำเลแบบนี้ไม่น่าจะหาได้อีกแล้วครับ เป็นคอนโดมิเนียมหน้ากว้าง ทุกยูนิตหันหน้าออกสู่วิวแม่น้ำทั้งหมด โดยเฉพาะมุมที่คอนโดตั้งอยู่จะเป็นช่วงโค้งน้ำเจ้าพระยา ถือว่าวิวสวยมาก
คอนโดมิเนียมสูง 45 ชั้น มีจำนวนเพียง 133 ยูนิตเท่านั้น ที่สำคัญอยู่ห่างจากแม่น้ำเพียง 16 เมตร บนเนื้อที่ 5 ไร่กว่าตั้งอยู่ในซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 เขตคลองสาน ใกล้ห้างสรรพสินค้า IconSiam
ทั้งนี้ เราสามารถใช้บริการ Shuttle Boat Service เรียกไปยังท่าเรือ IconSiam ทั้งยังเชื่อมต่อกับท่าเรือของโรงแรมหรูริมแม่น้ำและท่าเรืออื่นๆ ได้อย่างรวดเร็วทันใจครับ
นับว่าสะดวกมาก ทำให้เราไม่ต้องกังวลกับปัญหารถติดแต่อย่างใด
อีกหนึ่งตัวเลือกการเดินทางที่น่าสนใจ คือใช้บริการรถไฟฟ้า เพราะว่าอยู่ห่างจากสายสีทอง สถานีคลองสานประมาณ 350 เมตรเท่านั้น สามารถเชื่อมเข้ากับ BTS สายสีลมได้ทันที หรือจะให้ Shuttle Boat Service ไปส่งที่สถานีสะพานตากสินก็ได้เช่นกัน
ส่วนรถยนต์เองก็มีที่จอดรถรองรับได้มากถึง 200% เลยครับรวมถึงเตรียมที่จอดรถ Super Car และจุด EV Charger
เช้านี้ อยู่กับกานต์ ท่ามกลางบรรยากาศและวิวสวยๆ ของ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok
“𝐓𝐡𝐞 𝐂𝐡𝐚𝐨 𝐏𝐡𝐫𝐚𝐲𝐚 𝐑𝐢𝐯𝐞𝐫 𝐢𝐬 𝐭𝐡𝐞 𝐭𝐡𝐫𝐞𝐚𝐝 𝐭𝐡𝐚𝐭 𝐰𝐞𝐚𝐯𝐞𝐬 𝐭𝐡𝐞 𝐭𝐚𝐩𝐞𝐬𝐭𝐫𝐲 𝐨𝐟 𝐁𝐚𝐧𝐠𝐤𝐨𝐤, 𝐜𝐨𝐧𝐧𝐞𝐜𝐭𝐢𝐧𝐠 𝐢𝐭𝐬 𝐝𝐢𝐯𝐞𝐫𝐬𝐞 𝐧𝐞𝐢𝐠𝐡𝐛𝐨𝐫𝐡𝐨𝐨𝐝𝐬 𝐚𝐧𝐝 𝐜𝐨𝐦𝐦𝐮𝐧𝐢𝐭𝐢𝐞𝐬.”
Joe Cummings นักเขียนและช่างภาพชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงานคู่มือท่องเที่ยวและหนังสือมากมายเกี่ยวกับประเทศไทย ได้เปรียบเปรยแม่น้ำเจ้าพระยาว่าเป็นเหมือน “เส้นด้าย” ที่ถักทอ “พรม” ไปทั่วเมือง
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าแม่น้ำเจ้าพระยามีบทบาทเป็นหนึ่งเดียวในการรวบรวมเรื่องราวของย่านและชุมชนที่หลากหลายของกรุงเทพฯ โดยเน้นให้เห็นถึงการที่แม่น้ำทำหน้าที่เป็นเส้นชีวิตทั้งกายภาพและวัฒนธรรม ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงถึงกันโดยรวมและเสริมความมีชีวิตชีวาของเมือง
ห้องตัวอย่างแรกที่จะพามาชมกันเป็นห้องขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 160.85 ตร.ม.
ทางโครงการขายแบบ Fully Fitted คือ ได้ติดตั้งเคาน์เตอร์ครัว ชุดตู้ Built in ของ Poliform แบรนด์หรูจาก Italy อ่างล้างจานเป็นของ Blanco นำเข้าจากเยอรมัน
ส่วนชุดเตาไฟฟ้าและ Hob & Hood ของ Siemens เครื่องปรับอากาศ สุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำครบครัน
ห้องนี้เป็นห้องมุมซึ่งจะมีเพียงชั้นละ 2 ห้องเท่านั้น เมื่อยืนหันหน้าเข้าหาแม่น้ำ บริเวณฝั่งซ้ายจะเป็นวิวเมืองเก่า วังเก่า วัดวาอาราม ชุมชนโบราณ มองผ่านโค้งน้ำเจ้าพระยาออกไปสุดลูกหูลูกตา ให้ความรู้สึกคลาสสิคเป็นอย่างมากในยามเช้า
ส่วนวิวทางด้านขวาจะเป็นศูนย์กลางการค้าและธุรกิจ (CBD) มองเห็นอาคารสูงใหญ่ลดหลั่นกันไป ดูสวยงามเมื่อยามต้องแสงไฟโดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นฉากหน้า
ไฮไลท์ของห้องพักในแต่ละชั้น คือการออกแบบลิฟต์ให้มีความเป็นส่วนตัว (Private Lift & Single Corridor) โดยจะมีเพียงเราซึ่งเป็นเจ้าของห้องเท่านั้น ดังนั้น การโดยสารลิฟต์แทบจะไม่ได้พบกับเพื่อนบ้านท่านอื่นเลยครับ
ห้องตัวอย่างเป็นแบบ 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ตกแต่งอย่างหรูหรา ฟังก์ชั่นภายในมาพร้อมกับ Common Area ที่ประกอบด้วยมุมนั่งเล่น พักผ่อนและเป็นมุมรับแขกไปในตัว เชื่อมต่อกับครัวและส่วนรับประทานอาหาร
โดยบริเวณ Living จะมีห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับแขกและลูกบ้านจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ
ด้านในสุดเป็นห้องนอนแม่บ้าน พื้นที่ Maid มาพร้อมกับห้องน้ำในตัว
บรรยากาศภายในห้องให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง อยู่สบาย ไม่อึดอัด ความสูงของห้องประมาณ 3.25 เมตร รายล้อมด้วยผนังกระจกใสที่สูงตั้งแต่พื้นจรดถึงฝ้า สามารถเปิดเทควิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเต็มตา เป็นบรรยากาศของการพักอาศัยที่ให้ความตระการตาตลอดเวลาเพราะวิวสวยมาก
มุมนั่งเล่นจัดวางชุดโซฟาบุนวมผ้าขนาด 2 ที่นั่งพร้อมเก้าอี้จัดแยกไว้ต่างหาก โต๊ะกลางดีไซน์ทรงกลมวัสดุทำจากไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่นในการพักอาศัย ทว่ายังคงไว้ซึ่งความเรียบหรู
ไฮไลท์ที่กานต์ชอบคือห้องนอนทุกห้องจะเห็นวิวแม่น้ำครับ
อย่าง Room Type นี้ออกแบบให้ทั้ง 2 ห้องนอนติดกัน โดย Master Bedroom จะอยู่ด้านในสุด โดดเด่นด้วยผนังด้านนอกเป็นกระจก Full Height มีความหนาเป็นพิเศษ ป้องกันรังสี UV และป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก ออกแบบเป็นประตูบานเลื่อนเพื่อเปิดช่องแสงธรรมชาติยามเช้าเข้าทางด้านหน้าระเบียงส่องผ่านเข้ามาสู่เตียงนอนได้ทันที
ห้องนี้จึงดูโปร่ง โล่งอยู่สบาย ทั้งยังเปิดออกเพื่อระบายอากาศและเราสามารถเดินออกไปที่ระเบียงด้านนอกได้ หรือหากอยากได้มุมจิบกาแฟแบบส่วนตัวยามเช้า เราแนะนำให้หาเก้าอี้สนามมาวางไว้เพราะพื้นที่ระเบียงค่อนข้างกว้าง
ภายในห้องจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่พร้อมพื้นที่เดินได้โดยรอบ
ปลายเตียงติดตั้งทีวีเป็นแบบแขวนผนังเพื่อให้ดูโมเดิร์นขึ้น ห้องแต่งตัวแบบ Walk-In Closet และห้องน้ำจะอยู่ด้านในซ้ายมือของประตู เป็นห้องน้ำที่ได้ติดตั้งอ่างอาบน้ำเอาไว้ให้แล้ว พร้อมพื้นที่อาบน้ำแบบ Shower Box
ทางโครงการได้ติดตั้งอุปกรณ์ก๊อกน้ำของ Dornbracht แบรนด์ดังจากเยอรมันและสุขภัณฑ์แบบ Washless จาก TOTO
ห้องนอนรองก็เปิดเทควิวแม่น้ำได้จากบนเตียงนอนเช่นกัน มีขนาดกะทัดรัดกว่าเล็กน้อย
ห้องตัวอย่างจัดวางเตียงนอนไว้ตรงกลาง บุนวมดูหรูหรา พร้อมโคมไฟส่องสว่างตั้งไว้ที่บริเวณหัวเตียง
ภายในห้องประดับประดาด้วยภาพงานอาร์ตเท่ๆ เพื่อสะท้อนตัวตนของความเป็นเมืองหลวงของผู้อยู่อาศัย
ปลายเตียงมีโต๊ะเอนกประสงค์สำหรับทำการบ้าน อ่านหนังสือ มาพร้อมกับห้องน้ำในตัวเช่นกัน
ภายในห้องประดับประดาด้วยภาพงานอาร์ตเท่ๆ เพื่อสะท้อนตัวตนของความเป็นเมืองหลวงของผู้อยู่อาศัย
ปลายเตียงมีโต๊ะเอนกประสงค์สำหรับทำการบ้าน อ่านหนังสือ มาพร้อมกับห้องน้ำในตัวเช่นกัน
เช่นเคยครับ เราโดยสาร Private Lift มาถึงห้องพักแบบสุด Exclusive ไม่มีเพื่อนบ้านข้างห้องแต่อย่างใด
เมื่อเปิดประตูเข้าไป ฟังก์ชั่นภายในห้องจะประกอบด้วย Common Area วางเป็นแนวลึก ไล่เรียงกันตั้งแต่บริเวณทางเข้ามี Foyer เล็กๆ เชื่อมต่อกับครัว ถัดเข้าไปจะเป็นส่วนรับประทานอาหารที่จัดวางโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งกันเลยทีเดียว ด้านข้างสามารถ Built-in ตู้หนังสือหรือชั้นโชว์เพิ่มเติมได้
ด้านในสุดจะเป็นมุมรับแขกและพื้นที่พักผ่อน พื้นเป็นไม้สักแท้ปูพรมทับอีกทีเพื่อเพิ่มความ Luxury โดยมีการจัดวางชุดโซฟาที่นั่งขนาดใหญ่เอาไว้
จุดไฮไลท์ที่กานต์ชอบคือการออกแบบให้มีผนังกระจกที่สามารถเปิดประตูไปสู่ระเบียงชมวิวแม่น้ำได้
เหตุที่ชอบมุมนี้เพราะเมื่อมานั่งแล้วสัมผัสได้ทันทีถึงความผ่อนคลาย เปิดมุมมองวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและกรึุงเทพฯ ฝั่งพระนครได้กว้างกว่า รู้สึกได้ถึงความสงบเงียบ จึงเหมาะสำหรับเป็นมุมต้อนรับแขกคนสำคัญ
ทั้งนี้เมื่อมองจากองค์รวมของห้อง จะพบว่าพื้นที่ภายในออกแบบ Open plan ให้เชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัว
ไม่ว่าจะเป็น Common Area ที่มีพื้นที่นั่งเล่น เป็นมุมรับแขกและดูทีวีไปในตัว เชื่อมต่อกับครัวและเคาน์เตอร์ที่อยู่ด้านใน
แยกส่วนพักผ่อนของห้องนอนเอาไว้อีกฝั่ง ทำให้มุมนี้ออกแบบมาให้รองรับการใช้งานได้เต็มที่ในหลากหลายฟังก์ชั่น สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามใจผู้พักอาศัยเลยครับ
ทั้งนี้เมื่อมองจากองค์รวมของห้อง จะพบว่าพื้นที่ภายในออกแบบ Open plan ให้เชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัว
ไม่ว่าจะเป็น Common Area ที่มีพื้นที่นั่งเล่น เป็นมุมรับแขกและดูทีวีไปในตัว เชื่อมต่อกับครัวและเคาน์เตอร์ที่อยู่ด้านใน
แยกส่วนพักผ่อนของห้องนอนเอาไว้อีกฝั่ง ทำให้มุมนี้ออกแบบมาให้รองรับการใช้งานได้เต็มที่ในหลากหลายฟังก์ชั่น สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามใจผู้พักอาศัยเลยครับ
ห้องนอนถูกแยกออกไปด้านในอย่างเป็นสัดส่วน เพื่อให้เราได้พักผ่อนเต็มที่และมีความเป็นส่วนตัว ทั้งนี้ยังเป็นมุมที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างต่อเนื่อง
ภายในห้องดูกว้างขวางและโปร่งสบาย มองผ่านผนังกระจกใสที่สามารถเปิดรับแสงแดดจากภายนอกเข้ามาในห้องได้มากกว่าเพราะวิวมุมมองกว้างกว่า ภายในห้องตัวอย่างตกแต่งอย่างเรียบง่าย ทว่าคงไว้ซึ่งความหรูหรา
ตรงกลางจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ ทั้งยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือมากพอที่จะจัดวางโต๊ะหัวเตียงพร้อมโคมไฟทั้ง 2 ฝั่ง ปลายเตียงติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังเอาไว้
ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน มาพร้อมกับอ่างล้างหน้าแบบฟิตเต็มพื้นที่ มีกระจกเงาบานใหญ่ติดตั้งอยู่ด้านหลังทำหน้าที่เป็นตู้เก็บ Toilet Amenities ไปในตัว ห้องนี้มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ติดตั้งไว้พร้อม Shower Box และสุขภัณฑ์แบบ Washless
“𝐖𝐡𝐞𝐧 𝐰𝐞 𝐜𝐨𝐧𝐧𝐞𝐜𝐭 𝐰𝐢𝐭𝐡 𝐚 𝐫𝐢𝐯𝐞𝐫, 𝐰𝐞 𝐜𝐨𝐧𝐧𝐞𝐜𝐭 𝐰𝐢𝐭𝐡 𝐭𝐡𝐞 𝐡𝐢𝐬𝐭𝐨𝐫𝐲 𝐚𝐧𝐝 𝐬𝐭𝐨𝐫𝐢𝐞𝐬 𝐨𝐟 𝐚𝐥𝐥 𝐰𝐡𝐨 𝐡𝐚𝐯𝐞 𝐬𝐭𝐨𝐨𝐝 𝐛𝐲 𝐢𝐭𝐬 𝐬𝐡𝐨𝐫𝐞𝐬.”
ส่วนตัวกานต์ประทับใจในฟีลลิ่งของแสงแดดอ่อนๆ ตอนเช้าที่ส่องผ่านเข้ามา ดุจสะพานในการเชื่อมต่อความงามของสายน้ำให้เข้ากับวิถีชีวิตของเราได้อย่างกลมกลืน
จากห้องตัวอย่าง กานต์จะพาไปชมบรรยากาศโดยรวมของโครงการ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok กันบ้างครับ
โครงการตั้งอยู่สุดซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากครับ ออกแบบให้รั้วโครงการค่อนข้างสูงเพื่อความอลังการและเป็นส่วนตัว ด้านหน้ารั้วประดับด้วยหินทราเวอร์ทีนลายธรรมชาติ ทำให้ดูหรูหรามาตั้งแต่หน้าทางเข้า
อย่างไรก็ดี ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยในระดับดีเยี่ยมโดยทุกจุดมีเจ้าหน้าที่ดูแลพร้อมกล้อง CCTV รอบโครงการ มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
รถยนต์จะวิ่งผ่านอุโมงค์ต้นไม้ธรรมชาติจากด้านหน้าประตูทางเข้าโครงการไปสู่ด้านใน ด้วยความที่เป็นต้นไม้ใหญ่ทำให้บรรยากาศภายในคือร่มรื่นมาก สามารถเดินออกกำลังกายในตอนเช้าสดชื่นดีเลยครับ กอปรกับมีผนังต้นไม้ด้านข้าง ริมรั้วขนานตามถนน ออกแบบให้เป็น Vertical Garden สูงใหญ่สีเขียวสบายตา ยิ่งตอนเช้ามีแสงแดดสาดส่องเข้ามาจากฝั่งหน้าแม่น้ำที่ทะลุผ่านกรอบสี่เหลี่ยมเข้ามา ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังพักผ่อนอยู่ท่ามกลางรีสอร์ตหรูมากกว่า ทว่าความจริงแล้วกลับอยู่ใจกลางกรุงเทพนี่เอง
Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ออกแบบ Exterior ของอาคารในรูปแบบทรงกระบอกครึ่งวงกลม ที่มีรายละเอียดของ Facade โดยรอบดีไซน์คล้ายโครงถักเป็นฟอร์มแบบสามเหลี่ยม จำลองแสงสะท้อนที่ระยิบระยับของสายน้ำยามต้องพระอาทิตย์ งดงามราวกับเป็นเหลี่ยมมุมของเพชรที่ผ่านการเจียรไน สื่อสารถึงความเป็น Ultimate Luxury ได้เป็นอย่างดี
พื้นที่นี้บริเวณนี้ของทุกชั้นจะเป็นส่วนรองรับงานระบบ ทั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ของห้องพัก และ Service Lift รวมถึงบันไดหนีไฟ ดังนั้น วัสดุที่นำมาใช้จึงต้องสวยงามและได้ประโยชน์ในเรื่องของการระบายความร้อนได้ดีควบคู่กันไป
ขณะที่อีกด้านเมื่อมองจากอีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา เราจะเห็นเป็นส่วนตัดของอาคารครึ่งวงกลมซึ่งผ่าครึ่งเปิดหน้ากว้างในลักษณะ Unobstructed View ผ่านผนังกระจกคุณภาพสูงที่มีความสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน ทำให้มุมมองของทุกยูนิตต่างออกมาเป็นภาพพาโนราม่าแบบส่วนตัว
กอปรกับความที่อาคารตั้งอยู่ห่างแม่น้ำเพียง 16 เมตร ถือว่าระยะใกล้มาก ทำให้ไม่มีเหลี่ยมมุมใดของอาคารหรือแม้แต่อาคารอื่นๆ รอบข้างมาบดบังทรรศนียภาพอันสวยงามของโค้งน้ำเจ้าพระยาได้เลยครับ
ชั้น 1 บริเวณจุด Drop-off จะเป็นโถงทางเข้าเพื่อไปสู่ Lobby และลิฟต์โดยสารไปยังพื้นที่ส่วนพักอาศัยด้านใน บรรยากาศดูหรูหราราวกับพักอาศัยอยู่ในโรงแรมหรู ด้วยประตูทางเข้าที่มีความสูงแบบ Double Volume
มีบริการ Doorman ไว้คอยเปิด-ปิดประตูและมีเคาน์เตอร์ Concierge Service สำหรับคอยให้บริการลูกบ้านหากต้องการความช่วยเหลือเหลือสิ่งใดเป็นพิเศษก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ Concierge ได้เลยครับ
โถงกลางตกแต่งอย่างเรียบหรูด้วยแจกันดอกไม้สดเพิ่มความสดชื่นหลังกลับมาจากนอกบ้าน
เมื่อเดินเข้าประตูมาทางด้านซ้ายออกแบบให้เป็นห้อง Multipurpose Room สำหรับรองรับการทำกิจกรรมของลูกบ้าน ทว่าปัจจุบันยังเป็นพื้นที่ของสำนักงานขายอยู่ครับ
อย่างไรก็ตามเราจะเดินเลี้ยวขวาเข้าไปด้านใน ผ่านวอลล์อาร์ตซึ่งมีลวดลายศิลปะสวยงาม เพื่อนำเราไปสู่ Lobby และพื้นที่พักอาศัย การตกแต่งจะใช้สัจจะวัสดุอย่างไม้เป็นหลัก ขลิบแซมด้วยขอบสีทองเพื่อเพิ่มความหรูหรา
ระหว่างทางมายัง Lobby เราเดินผ่านห้อง Mail Box ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มากเนื่องจากมีลูกบ้านเพียง 133 ยูนิตเท่านั้น ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนและต้อนรับแขก
Lobby จัดวางที่นั่งออกเป็นหลายมุมทั้งในแบบของชุดโซฟา ม้านั่งไม้ขนาดใหญ่ เพื่อเนรมิตให้เป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อน พบปะพูดคุยธุระกับแขกเหรื่อ หรือเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานนอกสถานที่ โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนระดับสูงสุด
Lobby ถือเป็นหัวใจหลักเพราะเป็นทางเข้าโถงลิฟต์ทั้ง 3 จุด มีลิฟต์ทั้งหมด 6 ตัว ทว่าแยกการใช้งานกันตามตำแหน่งของห้องพัก
ลิฟต์จะไม่จอดรับพร้อมกันตามแต่ละชั้น แต่จะเป็นการเรียงลำดับการใช้งานลิฟต์เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวสูงสุด โดยจุดขึ้นลงลิฟต์จะอยู่ที่ชั้น 1,2,3 ซึ่งเป็น Facilities และชั้นห้องพักของเราเท่านั้น
นอกจากพื้นที่นั่งพักผ่อนด้านในแล้ว ทางโครงการยังจัดให้มีพื้นที่นั่งกลางแจ้ง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศและกลิ่นอายวิถีชีวิตริมน้ำสุด Luxury เหมาะที่จะมานั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์ยามเช้า หรือนั่งรอเรือระหว่างที่กำลังรับ-ส่ง
ทางโครงการได้นำเสนอมาตรฐานในการดูแลและคุณภาพในการให้บริการแบบไร้ที่ติจาก Banyan Tree Branded Residences อีกด้วยครับ
โดยผู้ซื้อโครงการนี้จะได้รับบริการสุดพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Banyan Tree คือ สิทธิ์การเป็นสมาชิก The Sanctuary Club เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากแบรนด์ในเครือทั่วโลกได้รับส่วนลดสูงสุด 30% ไม่ว่าจะเป็น บันยันทรี, อังสนา, แคสเซีย, ดาหวา หรือลากูน่า
รวมถึงการเป็นสมาชิกแบบ Banyan Tree Private Collection เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากการเข้าพักในเครือ ไม่ว่าจะเป็นที่ญี่ปุ่น, โมร็อคโค, สก็อตแลนด์, ลอนดอน, คอสตาริก้า และ บาหลี เป็นต้น
อีกหนึ่งจุดเด่นที่กานต์มองว่า Banyan Tree Residences Riverside Bangkok มีความเป็น Rare Item เนื่องจากมีระยะห่างจากแม่น้ำเพียง 16 เมตร เท่านั้น (สิทธิ์ตามใบขออนุญาตการใช้พื้นที่เดิม) ส่งผลให้อาคารใหม่ที่ก่อสร้างในช่วงหลังจะต้องมีระยะถอยร่นที่มากกว่านั้นประมาณ 3 เท่า
ดังนั้น เมื่อเราเปรียบเทียบกับโครงการริมแม่น้ำอื่นๆ จะพบว่าที่นี่มีระยะที่ติดแม่น้ำใกล้ที่สุด
อาคารยังออกแบบให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่หน้ากว้างริมแม่น้ำได้มากที่สุดในทุกจุดอีกด้วย
Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ออกแบบโดยคำนึงถึงไลฟ์สไตล์และการใช้ประโยชน์ของผู้พักอาศัยเป็นสำคัญ ทำให้มีพื้นที่ส่วนกลางมากถึง 6,000 ตร.ม. คิดเป็น 59% จากพื้นที่อาคารรวม ออกแบบให้มี Facility รองรับหลากหลาย
โครงการยังเปิดให้มีพื้นที่นั่งพักผ่อนริมน้ำด้านหน้าอาคาร พร้อม Sunken Seating Area และเป็นทางลงสู่ท่าเรือส่วนตัวของโครงการ (Private Floating Jetty) ที่มีบริการ Shuttle Boat Service เรือรับส่งไปยังท่าเรือราชวงศ์ ท่าเรือสะพานตากสิน ไอคอนสยาม และสถานที่อื่นๆ ด้วยครับ
หากเราขับรถยนต์เข้ามาสามารถจอดที่ Drop-off ด้านหน้าอาคารได้เลย จากนั้นค่อยนำรถไปจอดที่อาคารจอดรถ 5 ชั้นที่เชื่อมต่อกันทางด้านข้าง สามารถจอดรถได้ 260 คัน รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็นประมาณ 200% ของยูนิตโดยรวม ซึ่งถือว่าเป็นคอนโดมิเนียมที่มีที่จอดรถมากที่สุดเท่าที่กานต์เคยไปเยี่ยมชมโครงการมาเลยครับ
ชั้นบนของอาคารจอดรถมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 2 สระและแยกสระสำหรับเด็กเอาไว้ให้เรียบร้อย
มี Cabana สำหรับนั่งพักผ่อนจัดเตรียมไว้ให้ริมสระ พร้อม Sun Deck สำหรับนอนอาบแดดในวันสบายๆ
ฝั่งตรงข้าม มี Sanctuary Spa เราสามารถให้เจ้าหน้าที่ Concierge นัดหมายเทอราพิส มาให้บริการได้ถึงที่คอนโดมิเนียมเลยครับ
ใกล้กันยังมีห้อง Sauna และ Steam Room หรือห้องอบไอน้ำ คอยให้บริการอีกด้วย
Kid’s Room เป็นพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กๆ สำหรับพักผ่อนทำกิจกรรม โดยทางโครงการได้จัดเตรียมของเล่นเสริมพัฒนาการ นิทานสำหรับเด็ก จัดวางกระจายกันไปในหลายมุม ท่ามกลางมาตรฐานการดูแลความปลอดภัยให้กับเด็กๆ ในระดับดีเยี่ยม
บริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาออกแบบให้เป็น Riverfront Jacuzzi Pool ให้เราได้ผ่อนคลายไปกับสระจากุซชี่ ขณะเดียวกันก็สามารถมองเห็นความสวยงามของวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาแบบพาโนรามิค ตลอดจนนั่งมองดูวิถีชีวิตของผู้คนริมแม่น้ำเจ้าพระยาราวกับว่าเรากำลังนั่งชมภาพยนตร์ที่มีชีวิตอีกด้วย
Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ยังบรรจงออกแบบประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้พักอาศัย
โดยเนรมิตบรรยากาศให้เป็นเหมือน Vacation Home ราวกับพักผ่อนอยู่ในโรงแรมระดับ 5 ดาว จึงจัดให้มี River Front Private Dining Room เป็นห้องรับประทานอาหารหรือจัดปาร์ตี้แบบส่วนตัวที่พร้อมให้บริการ Private Chef Table สุดหรูหรา ท่ามกลางบรรยากาศของวิวแม่น้ำเจ้าพระยาบนชั้น 2 ของคอนโดมิเนียมเพื่อยกระดับการพักอาศัยให้เหนือไปอีกขั้น
ติดกันยังออกแบบให้มี Conference และ ห้องประชุม อำนวยความสะดวกสำหรับผู้บริหารหรือลูกบ้านที่จัดการประชุม พร้อมที่นั่งพักระหว่างการประชุม ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพรีะยาที่สวยงาม ผมว่าจะสามารถสร้างความผ่อนคลายในการประชุมได้อีกทางหนึ่งครับ
นอกจากนี้ ยังออกแบบให้มีฟังก์ชั่นภายในโครงการเพื่อการพักผ่อนที่หลากหลาย ตอบโจทย์ผู้พักอาศัยที่มีรสนิยม ความชอบและไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน
เช่นบริเวณชั้น 2 ยังออกแบบให้มี River View Lounge มุมนั่งพักผ่อนที่ยกระดับมุมมองของแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เทควิวได้สวยมากยิ่งขึ้นผ่านผนังกระจกใสบานใหญ่สูงจากพิ้นจรดเพดาน
กานต์ยอมรับเลยว่าโครงการ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ตกแต่งมุมนี้ได้อย่างเรียบหรู จัดวางชุดโซฟาที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางขนาดใหญ่ กระจายกันไป ให้เราได้นั่งพักผ่อน อ่านหนังสือหรือพูดคุยกับเพื่อนสนิทในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ผ่านวิวสวยๆ
กานต์สังเกตเห็นว่า นอกจากทางโครงการจะให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยแล้ว ยังให้น้ำหนักกับการดีไซน์บรรยากาศโดยรอบ เน้นพื้นที่สีเขียวแทบทุกจุดผสานเข้ากับสีฟ้าเทอควอย์ของสายน้ำ และสีเหลืองทองของแดดยามเช้าที่ส่องเข้ามา เพื่อให้เราได้อิ่มเอมกับธรรมชาติใจกลางเมืองได้อย่างเต็มที่ โดยไม่จำเป็นต้องออกไปไหน
พักผ่อนอยู่ริมน้ำมองเห็นผู้คนสัญจรไปมา มุมนี้ผมว่าฟีลลิ่งดีมาก ชอบจนอยากขอเก็บบันทึกภาพไว้
กานต์สังเกตเห็นว่า นอกจากทางโครงการจะให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยแล้ว ยังให้น้ำหนักกับการดีไซน์บรรยากาศโดยรอบ เน้นพื้นที่สีเขียวแทบทุกจุดผสานเข้ากับสีฟ้าเทอควอย์ของสายน้ำ และสีเหลืองทองของแดดยามเช้าที่ส่องเข้ามา เพื่อให้เราได้อิ่มเอมกับธรรมชาติใจกลางเมืองได้อย่างเต็มที่ โดยไม่จำเป็นต้องออกไปไหน
พักผ่อนอยู่ริมน้ำมองเห็นผู้คนสัญจรไปมา มุมนี้ผมว่าฟีลลิ่งดีมาก ชอบจนอยากขอเก็บบันทึกภาพไว้
ในส่วนของ Fitness จะอยู่ที่บริเวณชั้น 3 ปีกขวามาพร้อมกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบพาโนรามิค ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง เอาใจคนรักสุขภาพสายแอคทีฟ มีทั้งโซนฟรีเวทและแมทชีน
ทางโครงการได้ติดตั้งเครื่องออกกำลังกายแบรนด์ระดับโลกของ Technogym รุ่น Kinesis ซึ่งจะเน้นการใช้งานส่วนบุคคลเป็นหลัก วางกระจายกันไปทั่วห้อง
เราสามารถวิ่งออกกำลังกายหรือปั่นจักรยานไปพร้อมกับการดูซีรีย์ที่ค้างเอาไว้ด้วยได้ หรือหากอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็สามารถชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้านนอกผ่านกระจกใส เพื่อให้ธรรมชาติและสายน้ำช่วยปลอบประโลมใจพลอยได้หายเหนื่อยจากการเสียเหงื่อ
#โดยสรุป Banyan Tree Residences Riverside Bangkok เป็นอีกหนึ่งโครงการที่พักอาศัยในระดับ Ultimate Luxury ที่กานต์ไปชมมาแล้วประทับใจมากครับ
ทั้งด้านงานดีไซน์ภายนอกและจัดวางฟังก์ชั่นภายใน เนรมิตให้เกิดประสบการณ์ใหม่ในการพักอาศัยบนทำเลที่เป็น Rare Item ของไทยอย่างโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะน่าจะหาที่ดินผืนใหญ่ริมแม่น้ำทำเลดีมีวิวสวยๆ แบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
ตลอดจนการคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัยและความสะดวกสบายระดับ 5 ดาวตามมาตรฐานของ Banyan Tree Branded Residences จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่อยากชวนให้มาชมและสัมผัสบรรยากาศของจริงกัน
สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 105 6776
ลงทะเบียนเพื่อนัดหมายและเยี่ยมชมโครงการได้ที่ https://bit.ly/3BJWPoD