5 Awesome Snow Spots – In Japan winter

☃️คัดมาให้สำหรับใครอยากไปเล่นหิมะที่ญี่ปุ่น❄️

/

หน้าหนาวแบบนี้ สำหรับคนที่อยู่เมืองไทยเมืองร้อนแบบเรา ก็คงมองหาสถานที่หนาวๆ เย็นๆ ให้ได้ไปพักผ่อนกัน เรามีไฮไลท์สำหรับใครที่อยากไปสัมผัสหิมะที่ญี่ปุ่นในช่วงนี้มาฝาก

.

เริ่มจากที่แรก Nyuto Onsen แปลเป็นไทยว่า #ออนเซ็นหัวนม

.

Nyuto Onsen เป็นเหมือนหมู่บ้านออนเซ็นที่อยู่เซ็นได มีด้วยกัน 7 รีสอร์ต เราจองที่ Ganiba Onsen ซึ่งจองยากมาก

.

การเดินทางต้องมาลงที่เซ็นได แล้วเช่ารถขับมาจะสะดวกที่สุด แต่การเดินทางก็ยังไม่ยากเท่าการจอง แนะนำให้จองผ่าน Japan Guesthouse เพื่อให้เค้าไปเช็คว่าวันที่เราต้องการว่างไหม ถ้าไม่ได้ก็เช็คใหม่ ค่อยๆ ทำจองกันไปเรื่อยๆ เพราะเต็มค่อนข้างไว

.

สรุปมาได้ที่ เป็นเรียวกังที่อยู่ไกลสุด ถ้านั่งบัสคือสุดสายไม่มีเลยป้าย ตัวเรียวกังค่อนข้างเก่า ตามสไตล์ที่พักโบราณอายุหลายร้อยปี ที่ทีเด็ดที่เราไม่คิดว่าจะเจอก็คือบ่อออนเซ็นรวมกลางแจ้งที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลนสวยงามมาก ถามเรียวกังว่าตอนนี้ยังไม่มีแขกท่านอื่นมาถึง ขออนุญาตถ่ายรูปได้ไหม พอได้สัญญาณอนุญาตเราก็รีบจ้ำอ้าวออกไป

.

ออนเซ็นอยู่ด้านนอกต้องสวมบูทลุยหิมะออกไปประมาณ 50 เมตรได้ จึงเป็นเหตุให้ไม่มีใครอยากออกมานั่นเอง แต่เชื่อเถอะบรรยากาศมันได้ วิวมันดี ฟินสุดคุ้มค่าตั๋วแล้วทริปนี้ รีบถ่ายรูปแล้วรีบขึ้นมาเพราะว่าหนาวมาก

____________

Ginzan Onsen

.

ยามากาตะ ยอมรับเลยว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เราไม่เคยนึกอยากจะมา เพราะคิดว่าก็คงเหมือน #หมู่บ้านโบราณ ทั่วไปในญี่ปุ่น

.

เช้านั้นที่ เรามีเวลาว่างจึงตัดสินใจไปกินซัน ออนเซ็นดูสักครั้ง เรานั่งรถไฟชิงคันเซ็นจาก YamaGata Station มาลงที่ Oishida Station จากนั้นให้เดินเลี้ยวซ้ายจะเจอป้ายรถบัส Ginzan Hanagasa แนะนำว่ามายืนต่อแถวรอเลย เพราะว่าคนเยอะมาก อาจจะไม่ได้นั่งต้องยืนไป (แบบเรา)

.

มาถึง Ginzan Onsen ช่วงบ่ายฟ้ากำลังสวย หยิบกล้องออกมาเก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆ แปบเดียวแหละ พายุหิมะกระหน่ำ ฟ้าปิดมืดราวกับเวลาใกล้ค่ำ เราแวะจิบชาเขียวร้อนๆ ในคาเฟ่ เพื่อรอเวลา สักพักฟ้าก็กลับมาใสเหมือนเดิม

.

ทริปนี้ ไม่ได้แพลนว่าจะนอนค้างเรียวกัง ซึ่งจองทันทีก็คงไม่มีห้องให้เพราะเต็มไวมาก ครั้งหน้าเราเตรียมจองเรียวกังที่นี่เอาไว้แล้ว อยากจะได้กินซันออนเซ็นในช่วงค่ำๆ ยามเปิดไฟและมีหิมะโปรยปรายกับเขาบ้าง

____________

Hoshino Risonare Tomamu Resort

.

สำหรับใครที่กำลังมองหา #สถานที่เล่นสกีที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น เราแนะนำให้ลองไปพักที่ Hoshino Risonare Tomamu Resort ในฮอกไกโด เป็นรีสอร์ทที่น่าทึ่งที่สุดเลยนะ

.

หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ Hoshino Risonare Tomamu Resort คือทำเลที่ตั้ง ตั้งอยู่ในใจกลางของฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม หิมะตกหนัก จนเหมาะแก่การเล่นสกีและสโนว์บอร์ด

.

ที่นี่เป็น Ski in-Ski Out นั่นหมายความว่าเราสามารถไดรฟ์สกีออกจากรีสอร์ทได้ทันที ไม่ต้องนั่งกระเช้าให้วุ่นวาย หรือหากอยากได้ความตื่นเต้นมากกว่านั้น แนะนำให้ขึ้นไปบนเขาแล้วไล่สกีลงมา เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นเร้าใจมาก แต่หากใครเล่นสกีไม่เป็น ที่นี่มีคอร์สสอนแปบเดียวก็เทิร์นโปรจากอนุบาลไปมหาลัย 555

____________

Ice Village

.

#หมู่บ้านน้ำแข็ง (Ice Village) เป็นหมู่บ้านที่จะพบได้ในช่วงหิมะที่ฮอกไกโดเท่านั้น ภายในหมู่บ้านก็จะมีกระท่อมอิกลูตั้งอยู่เรียงรายหลายหลัง

.

โรงแรมน้ำแข็งหรือว่า Ice Hotel สร้างขึ้นจากน้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นเพดานและผนังของโดมก็ทำจากน้ำแข็งก้อนเดียวแบบไร้รอยต่อ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้ โต๊ะ เตียงทั้งหมดก็ทำจากน้ำแข็ง (ยกเว้นแค่หมอนแหละ) โดมน้ำแข็งถือว่ามีขนาดใหญ่อยู่สบายเลย ต้องจองมาล่วงหน้าเพราะว่ารับแขกได้แค่ 1 คู่/คืน

.

นอกจากนี้ ยังมี ICE BAR บาร์น้ำแข็งจะมีเครื่องดื่มสูตรพิเศษที่จะหาดื่มได้จากที่นี่เท่านั้น และมีกิจกรรมให้เราได้ออกแบบแก้วเหล้า Ice Glass Making ซึ่งต้องสกัดน้ำแข็งออกมาเป็นแก้วของตัวเองเพื่อดื่มในบาร์

.

ICE SWEET SHOP ร้านขนมหวานเก๋ๆ ในโดมน้ำแข็ง มีให้เลือกเยอะมาก แต่ไม่อยากกินหรอก มันน่ารักเกิ้นนนน มี THE CHURCH ON ICE โบสถ์น้ำแข็งที่สวยมาก ดูสีขาวนวลสะอาดตา แท่นบูชาก็ทำจากน้ำแข็งแกะเช่นกัน

.

บางคืนก็จะมีจุดพลุด้วยชมเพลินเลยโรแมนติกมาก แนะนำให้มาตั้งแต่ช่วงหัวค่ำละได้แสงธรรมชาติ บรรยากาศดีน่าประทับใจมาก อยากกลับไปอีก

____________

Zao Snow Monsters

.

Zao เป็น #ดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาว ที่คนญี่ปุ่นนิยมมาเที่ยวกัน มีทั้งลานสกี น้ำพุร้อนออนเซ็น รวมถึงไฮไลท์ปรากฏการณ์หิมะที่ทับถมกันบนยอดไม้ กลายเป็นงานประติมากรรมที่งดงามเหล่านี้ หน้าตาประหลาดสุดอัศจรรย์ เราเรียกกันว่า Snow Monsters!

.

เรานั่งกระเช้าที่ค่อยๆ เลื่อนไปภาพและสีสันจะเริ่มเปลี่ยนไป กลายเป็นความขาวที่ปกคลุมต้นไม้ ทำให้เราคิดถึงการปรับตัวของธรรมชาติที่จะอยู่ร่วมกันให้ได้ เพราะสภาวะบนเขาที่ค่อนข้างรุนแรง หิมะตกหนักและลมพัดแรงแบบน่ากลัวสุด ดังนั้นพวกมันจึงต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อความอยู่รอด Snow Monsters เป็นข้อพิสูจน์ถึงความยืดหยุ่นของธรรมชาติและความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม

.

พอมาถึงเบื้องล่าง พายุค่อยๆ จางไป กลายเป็นแสงแดดสีทองที่ส่องกระทบทิวสนและหิมะสีขาวเป็นเงาสะท้อนที่สวยงามมากเป็นหลายฟีลลิ่งในเวลาเดียวกัน บางครั้งธรรมชาติก็สอนเราว่า

.

“บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอนถ้ามองจากตรงนี้ เดี๋ยวก็มืด … เดี๋ยวก็สว่าง”

Hoshino Risonare Tomamu Resort
Nyuto Onsen
Ginzan Onsen
Hoshino Risonare Tomamu Resort
Nyuto Onsen แปลเป็นไทยว่าออนเซ็นหัวนม
บรรยากาศจะขับรถผ่านออนเซ็นทั้ง 7 แห่ง เราพักด้านในสุดชื่อ Ganiba
ทริปนี้เราเช่ารถขับมาเพราะว่าเผื่อตกรถเมล์ ไม่อยากกังวลมาก แถมยังได้ชมบรรยากาศ 2 ข้างทางเป็นหิมะขาวๆ สวยๆ แต่ก็ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง ถนนหิมะลื่นพอสมควร ซึ่งไม่อยากแนะนำ นั่งรถบัสมาน่าจะปลอดภัยกว่า
ไม่อยากจะเดาเลยว่าอุณหภูมิเท่าไร
วันที่เราไปพักมีแขกอยู่ 6 ห้องเท่านั้น ออนเซ็นกลางแจ้งด้านนอกคือไม่มีใครออกมาแช่เลย ผู้หญิงจะมีบ่อกลางแจ้งเฉพาะให้อีกแห่ง คงไปอยู่ที่นั่นกันหมด บ่อออนเซ็นนี้เลยเป็นของเราแต่โดยดี
อยู่กับวิวแบบนี้ทั้งวัน
Ginzan Onsen ตอนมาถึงฟ้ากำลังสวย
หยิบกล้องออกมาเก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆ แปบเดียวแหละ พายุหิมะกระหน่ำ ฟ้าปิดมืดราวกับเวลาใกล้ค่ำ
เราเดินไปเรื่อยๆ เลาะคลองไปตามทาง จนไปถึงด้านหลังสังเกตว่ามีอุโมงค์ผ้าใบ คล้ายกับทางเดินไปเรียวกังแถวนั้น
ใช้เวลาสักพักเราจะพบกับ “น้ำตก” ราวกับค้นเจอหีบสมบัติที่ซ่อนอัญมณีล้ำค่าไว้ด้านใน เป็นกินซังออนเซ็นในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มองเห็นผู้คนเดินอยู่เบื้องล่าง อีกฝั่งเป็นน้ำตกท่ามกลางหิมะสีขาว ต้นสนที่ถูกหิมะปกคลุมเรียงรายเป็นทางยาว เราเดินไปจนเหนื่อยแล้วจึงกลับ นับเป็นมุมถ่ายรูปที่สวยแต่แอบเดินยากเล็กน้อยโดยเฉพาะขาลง ทางชันค่อนข้างลื่นต้องระวังกันหน่อย แต่วิวบนนี้คือสวยยอมใจ
Hoshino Risonare Tomamu Resort จากสนามบิน Chitose เรานั่งรถไฟมาที่จุดนัดพบใกล้ๆ สถานีซัปโปโร เพื่อรอให้รถของรีสอร์ตมารับ ถือว่าเดินทางสะดวกแต่อาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย
นั่งกระเช้าขึ้นเขาไปเพื่อไดรฟ์สกีลงมา
ถ้ามีตากล้องแบบเราไปด้วย คุณก็จะได้ภาพสวยๆ แบบนี้
ชอบที่นี่มาก มองไปทางไหนก็มีแต่ภูเขาหิมะ
บนยอดเขาจะมีจุดชมวิวที่มองเห็นได้ทั้งเมือง
ที่เราชอบคือ Snowshoe Hiking เป็นการเดินทางไกลกลางหิมะด้วยรองเท้าสโนว์ชู ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาประมาณครึ่งวัน ค่อยๆ เดินศึกษาธรรมชาติกันไป ถ้าเหนื่อยก็แวะจิบกาแฟได้ ส่วนบนเขามีจุดชมวิว Terrace of Frost Tree มองเห็นวิวเทือกเขากว้างสุดลูกหูลูกตาอลังการมาก ยอมรับจริงๆ เลยว่าที่นี่กิจกรรมเยอะมาก
มีออนเซ็นกลางหิมะ ฟินๆให้แช่
ใกล้ๆ กันมีหมู่บ้านน้ำแข็ง เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์
มีโรงแรมให้นอนด้วยนะ เพียง 1 ห้องเท่านั้น
ใครทนหนาวได้ แนะนำให้มานอนที่ Ice Hotel เลยครับ รับรองได้ประสบการณ์ใหม่
ส่วนที่ชอบอีกอย่างคืออ่างน้ำแข็งกลางแจ้งสำหรับอาบน้ำ ท่ามกลางหิมะ ที่รายล้อมไปด้วยป่าต้นเบิร์ช เป็นถานที่ส่วนตัวที่จะให้เราได้แช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนที่ค่อยๆ อบอุ่นร่างกาย ซึ่งน้ำภายในบ่อจะใช้น้ำแร่ธรรมชาติจาก Yunosawa Onsen ในหมู่บ้านชิมุกัปปุ เป็นน้ำพุร้อนที่มีโซเดียม-แคลเซียม-คลอไรด์เย็นซึ่งจะช่วยอบอุ่นร่างกายให้เราได้ผ่อนคลายก่อนเข้านอน บรรยากาศคือดีย์มาก แต่ก็หนาวมากเช่นกัน
ข้างในมี THE CHURCH ON ICE โบสถ์น้ำแข็งที่สวยมาก ดูสีขาวนวลสะอาดตา แท่นบูชาก็ทำจากน้ำแข็งแกะเช่นกัน สร้างจากแนวคิดที่ว่า “The pure feelings of the two people will last without interruption.”
ที่น่าสนใจก็คือมีคู่บ่าวสาวมาทำพิธีแต่งงานกันเก๋ๆกันที่นี่จริงๆ เป็นอีกหนึ่งโมเมนต์สำคัญในชีวิตเลยนะ
Hoshino Risonare Tomamu Resort
นั่งกระเช้าขึ้น Zao
เดินฝ่าหิมะลงไปเพื่อเอารูปที่แสนลำบาก
กระเช้าจะมีด้วยกัน 2 สถานี ช่วงแรกที่นั่งไปจะยังไม่เห็นความชัดเจนนัก 2 ข้างทางเป็นทิวสนและต้นไม้ที่ยังมีความเขียวอยู่บ้าง มีคนเล่นไดร์ฟสกีผ่านไปด้านล่าง เป็นภาพที่สวยดี ระหว่างที่เรานั่งกระเช้าจากสถานีที่ 2 ซึ่งมุ่งหน้าขึ้นสู่ยอดเขา ภาพและสีสันจะเริ่มเปลี่ยนไป กลายเป็นความขาวที่ปกคลุมต้นไม้
บางทีก็ทนไม่ไหวนะ สุดสายของกระเช้าบนเขา เราตื่นเต้นกับหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมาได้สักพัก พากันถ่ายรูปกับ Snow Monsters ได้ไม่นาน ลมเริ่มแรง ฟ้าเริ่มมืดราวกับใกล้ค่ำ ทั้งทีเป็นเวลาบ่ายสามเท่านั้น เราจึงต้องยกธงขาวยอมแพ้เพราะไม่อาจทนทานต่อความเหน็บหนาวได้
KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน