33 จุด #เช็กลิสต์เที่ยวโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก
เหมาะสำหรับคนเกร๋ที่ชอบ #อาร์ตและงานดีไซน์
Copenhagen คือเมืองหลวงแห่งสถาปัตยกรรมโลกที่ผสมผสานประวัติศาสตร์ ศิลปะ และดีไซน์ ทุกๆ มุมของเมืองนี้ เป็นการเชิญชวนให้เราเดินทางไปสัมผัสกับความงามที่ล้ำลึกและแปลกใหม่
ทริปนี้กานต์อยากพาเดิน ปั่นจักรยาน นั่งรถเมล์ ขึ้นรถไฟ ไปสัมผัสกับสถานที่แห่งงานดีไซน์ ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักในด้านศิลปะ ดีไซน์ หรือแค่ต้องการสัมผัสบรรยากาศเก๋ๆ ในเมืองนี้ แน่นอนว่านี่คือ 33 จุดเช็คอิน ที่จะไม่ทำให้ผิดหวัง
Frederik’s Church: คริสต์ศาสนสถานแบบบาโรกโก้ที่มีความยิ่งใหญ่และอลังการ
Designmuseum Danmark: พิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอศิลปะการออกแบบของเดนมาร์ก โดยเฉพาะเรื่องเก้าอี้ มีแทบทุกรุ่น
Louisiana Museum of Modern Art: แกลอรี่ที่ตั้งอยู่ริมทะเล รวมศิลปะสมัยใหม่จากทั่วโลก
Axel Towers: ตึกทรงกลม ออกแบบเท่ดี
Tivoli Gardens: สวนสนุกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของเดนมาร์ก
Audo House: โรงแรมที่ผสมผสานระหว่างการทำงานและพักผ่อนในบรรยากาศที่เต็มด้วยความงาม
Paper Island: เกาะที่เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมและอาหารที่เป็นเอกลักษณ์
Copenhagen Contemporary: เอาโกดังร้างมาสร้างเป็นศูนย์ศิลปะ
CopenHill: โรงงานที่แปลงขยะเป็นพลังงาน ฟังก์ชันดี หน้าหนาวจะกลายเป็นลานสกี
Copenhagen Central Station: สถานีรถไฟกลางใจเมือง นั่งรถไฟเล่น แต่ละสถานีออกแบบสวย
The Bicycle Snake: สะพานจักรยานที่แสดงถึงวัฒนธรรมการปั่นจักรยานของเดนมาร์ก
The Circle Bridge: สะพานทรงกลมที่ออกแบบมาอย่างเก๋ไก๋ ผสมผสานศิลปะกับประโยชน์ใช้สอย
BLOX: ศูนย์วัฒนธรรมที่นำเสนอศิลปะ การออกแบบ และสถาปัตยกรรมในที่เดียวกัน
DAC – Danish Architecture Center: ศูนย์รวมความรู้และนวัตกรรมทางสถาปัตยกรรม
Black Diamond: ห้องสมุดใหม่ริมแม่น้ำที่บรรยากาศดีมาก แหล่งรวมวัยรุ่นโคเปนฯ
Royal Library: ห้องสมุดเก่าที่อยู่ตรงข้าม อันนี้จะฟีลคลาสสิคกว่า
Christiansborg Palace: วังเก่าที่ตั้งของสภานิติบัญญัติ แสดงถึงความยิ่งใหญ่และอำนาจของชาวไวกิ้ง
National Museum of Denmark: พิพิธภัณฑ์ที่เป็นแหล่งรวมของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเดนมาร์ก
Rosenborg Castle: วังที่สร้างขึ้นในยุคเรเนซองส์ เก็บรวบรวมมรดกวัฒนธรรมและสมบัติของกษัตริย์ ไฮไลท์คือมงกุฏทอง
The Round Tower: ป้อมกลมที่สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 ใช้เป็นหอดูดาว เดินเหนื่อยหน่อยแต่ด้านบนวิวสวย
Strøget Shopping Mile: ถนนคนเดินที่ช้อปปิ้งได้ทั้งวัน อารมณ์เหมือนสยามถึงราชประสงค์
ILLUM: ห้างสรรพสินค้าหรูใจกลางเมือง เจ้าของคือเซ็นทรัลของไทย
Torvehallerne: ตลาดสุดชิค นั่งกินดื่มและซื้อกลับบ้านได้
Slurp Ramen Joint: ต่อคิวดินร้านราเมงลูกครึ่งเดนมาร์ก-ญี่ปุ่น เมนูเด็ดคือราเมงแกงกะหรี่
Sushi Anaba: ร้านซูชิระดับมิชลินที่เน้นจิตวิญญาณญี่ปุ่น ร้านสวยมาก
RONDO : คาเฟ่ที่มีบรรยากาศทันสมัยและอบอวลด้วยศิลปะและดนตรี
Holmen Church: คริสต์ศาสนสถานที่มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ แค่เดินผ่านก็เดาว่าสวยแล้ว
Grundtvig Church: โบสถ์นี้สวยจริง ผสมผสานงานโกธิกและโมเดิร์น เป็นสัญลักษณ์ของการออกแบบที่ยิ่งใหญ่ อันนี้ไกลแค่ไหนก็ต้องไป
Superkilen: กรณีศึกษาพื้นที่สาธารณะที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางวัฒนธรรม
Nyhavn Harbor: ท่าเรือที่มีความคึกคักและสวยงาม ด้วยบ้านสีสันริมคลอง
Palads Cinema: โรงหนังเก่ามีสีสันสดใส ได้ฟีล Wes Anderson
Islands Brygge: อันนี้เท่สุด สระว่ายน้ำในแม่น้ำ ต้องมาช่วงซัมเมอร์จะคึกคักมาก
The Opera House: ไปดูการแสดงเหรอ เปล่าหรอก ไปถ่ายรูปตึก มันสวยมาก
ใครมีที่ไหนเก๋ๆ แนวอาร์ตในโคเปนเฮเกน เม้นท์เพิ่มเติมได้นะครับ เดี๋ยวทริปหน้าจะไปตามเก็บเพิ่ม
#Copenhagen#Denmark#Design#Art#Architecture
—
NYHAVN ใครมาโคเปนเฮเกน จะต้องเช็คอินที่นี่เป็นที่แรก
.
จริงๆ โคเปนเฮเกน มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก โดยเฉพาะใครที่ชอบงานอาร์ต ดีไซน์ สถาปัตยกรรม ไม่อยากให้พลาดเลยครับ
ทุกสถานที่มีประวัติศาสตร์ ที่ผสานการออกแบบเข้ากับฟังก์ชันการใช้งาน ซึ่งถือเป็นขั้นสุดของงานดีไซน์จริงๆ
บรรยากาศของเมืองโคเปนเฮเกนก็ชิลล์สบายๆ ผู้คนนั่งพักผ่อนริมน้ำ มีพื้นที่สาธารณะให้ได้ใช้งานทั่วเมืองฟรีๆ
Frederik’s Church ถ่ายจากภายนอก สวยมาก นักท่องเที่ยวเยอะทั้งวัน
คนทั่วไปมักเรียกว่า The Marble Church เป็นคริสต์ศาสนสถานสไตล์บาโรกโก้ที่มีหลังคาครอบที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคสแกนดิเนเวียน
ได้รับการแรงบันดาลจากคริสต์ศาสนสถาน St. Peter’s Basilica ที่โรม ซึ่งมีโดมที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม รวมถึงภายในของคริสต์ศาสนสถานยังมีการตกแต่งด้วยศิลปะและตกแต่งที่หลากหลายและวิจิตร
Designmuseum Danmark: พิพิธภัณฑ์ที่เน้นเรื่องการออกแบบและศิลปะของเดนมาร์ก อยากมาที่นี่มาก
ส่วนตัวเป็นคนชอบเก้าอี้ อยากเปิดร้านขายเก้าอี้ดีไซน์สวยจากทั่วโลก และแน่นอนว่า เดนมาร์กเป็นเจ้าพ่อแห่งงานออกแบบเก้าอี้
พิพิธภัณฑ์นี้รวบรวมการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ การออกแบบกราฟิก การออกแบบอุตสาหกรรม และศิลปะประยุกต์จากเดนมาร์กและทั่วโลก มีการเน้นบนการออกแบบสแกนดิเนเวียน โดยเฉพาะในครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20
Louisiana Museum of Modern Art (พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย Louisiana) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่สำคัญและยอดนิยมของเดนมาร์ก และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด
ด้วยความที่บรรยากาศดี มีวิวสวย อาคารของพิพิธภัณฑ์ถูกออกแบบอย่างมีเสน่ห์ และมีการผสมผสานกับธรรมชาติ ในสวนมีการตั้งตำแหน่งศิลปะกลางแจ้งเป็นจุดเด่น ทำให้เราสามารถเดินเที่ยวสวนและชมศิลปะในเวลาเดียวกัน
Axel Towers อาคารทรงกลมดีไซน์สวย เป็นห้างและอาคารสำนักงานไปในตัว อยู่ใจกลางเมืองตรงข้ามสถานีรถไฟกลาง
Tivoli Gardens: สวนสนุกที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน
Tivoli Gardens เป็นหนึ่งในสวนสนุกเก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1843 บรรยากาศดูย้อนยุคมีเสน่ห์และมหัศจรรย์
Audo House พื้นที่ที่รวมระหว่างการทำงาน การพักผ่อน และความสร้างสรรค์
โรงแรมขนาดไม่ใหญ่แต่ดีไซน์สวย เดินทางง่ายในโคเปนเฮเกน
Paper Island: เกาะที่เป็นศูนย์กลางของอาหารและวัฒนธรรม พัฒนามาจากอู่ต่อเรือ โรงพยาบาลทหาร คลังแสง โกดังเก็บถ่านหินและกระดาษ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่แฮงค์เอ้าท์ที่เกร๋มาก
Copenhagen Contemporary อีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจในการเอาโกดังร้างมาสร้างเป็นพื้นที่สาธารณะ
ด้านในเป็นอาร์ตแกลลอรี่ขนาดใหญ่ที่จัดแสดงงานจากศิลปินชื่อดังทั่วโลก อยู่ไกลหน่อย แต่มีรถเมล์ไปถึง เดินเท้าต่ออีกเล็กน้อย
CopenHill อยู่ไม่ไกลกัน เดินต่อมาได้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจในการออกแบบ ที่พัฒนาโรงเผาขยะเป็นพื้นที่สาธารณะ ลานสกี คาเฟ่ ร้านอาหาร จุดชมวิว
สถานีรถไฟกลางโคเปนเฮเกน หรือ Københavns Hovedbanegård ในภาษาเดนมาร์ก เป็นสถานีรถไฟหลักและใหญ่ที่สุด ดีไซน์คลาสสิคด้วยอิฐแดงและเหล็ก
ติดกันเป็นรถไฟใต้ดิน ซึ่งผมว่าดีไซน์สวยแทบทุกสถารี มีการเล่นไฟแสงสีตลอด
เป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่ชอบมาก ราวกับอยู่ในโลกแห่งอนาคตด้วยสีสัน
รถไฟเป็นแบบไร้คนขับ การซื้อบัตรผมใช้เป็น 96 hr Pass เดินเข้าออกได้เลยไม่ต้องแตะบัตร
คนโคเปนเฮเกนชอบปั่นจักรยาน กว่าสัปดาห์ของการมาอยู่ที่โคเปนเฮเกน เราได้เห็นผู้คนจำนวนมากสัญจรโดยใช้จักรยานเป็นหลัก
วิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ได้รับการออกแบบให้สะดวกต่อการปั่นจักรยาน การเดินเท้า ใช้รถสาธารณะ ชาวโคเปนเฮเกนเกินกว่าครึ่งปั่นจักรยานไปทำงาน ไปโรงเรียน
บ่ายๆ เราได้เห็นพ่อแม่ปั่นจักรยานแบบที่มีล้อเข็นด้านหน้า หรือว่าพ่วงที่นั่งด้านหลังไปรับลูกกลับจากโรงเรียน
ที่นี่จะเรียกจักรยานแบบนี้ว่าคาร์โก้ มี 2 ยี่ห้อที่คนนิยมใช้คือ ‘Nihola’ และ ‘Christiania Bike’ ใช้ขนของแทนรถยนต์ได้เลย เป็นอีกมิติของการปั่นจักรยานที่มากกว่าแค่เรื่องสุขภาพ
The Bicycle Snake: ทางสำหรับปั่นจักรยานแบบลอยฟ้า
The Circle Bridge: สะพานจักรยานและคนเดินออกแบบโดย Olafur Eliasson ศิลปินและนักออกแบบชื่อดัง
เรามองว่าโครงสร้างพื้นฐานคือสิ่งสำคัญนะ การออกแบบเมืองต้องเอื้อต่อการใช้งานเหมือนที่โคเปนเฮเกนทำอยู่ จักรยานมีเลนเป็นของตัวเองแยกออกไปจากถนนและทางเท้า การเชื่อมต่อเลนเข้ากับสะพานลัดเลาะไปเรื่อย ทำให้การปั่นจักรยานช่วยย่นระยะเวลาได้ดีมาก
BLOX: ศูนย์กลางของงานวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม แนะนำให้เผื่อเวลาไว้เยอะๆ เลยครับ
ทางเดินลงไปยัง DAC – Danish Architecture Center: ศูนย์เรียนรู้และแสดงผลงานสถาปัตยกรรม
DAC – Danish Architecture Center เราได้เห็นพัฒนาการทางแนวคิดในการออกแบบและสถาปัตยกรรมของสถาปนิกชาวเดนมาร์ก แนะนำว่าเด็กถาปัตย์ไม่ควรพลาดที่นี่
Black Diamond: ห้องสมุดที่วิวสวยมาก แค่มานั่งพักผ่อน ถ่ายรูปสวยๆ ก็คุ้มเหนื่อยแล้ว
เท่าที่สังเกต โคเปนเฮเกนเป็นเมืองที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตร การใช้ชีวิตกลางแจ้งและพื้นที่สาธารณะที่มีชีวิตชีวา การมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมในเมืองที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้คน
เคยเห็นคนเดินมาแล้วโยนกระเป๋า แล้วล้มตัวนอนฟังเพลงอยู่ริมน้ำได้เลย ชิลล์มาก
แถวนี้เดินเล่นได้เป็นวัน อาคารส่วนใหญ่เชื่อมต่อกัน
ตรงกลางเป็นสะพานเชื่อมที่มองเห็นรถวิ่งผ่านไปด้านล่าง เป็นการออกแบบที่เท่มาก
เรากำลังจะเดินข้ามไปอีกอาคาร เป็นห้องสมุดเหมือนกัน แต่ออกแบบให้มีความคลาสสิคกว่า
Royal Library: ห้องสมุดแห่งชาติของเดนมาร์ก
คนมานั่งอ่านหนังสือกันเยอะ มีคอมให้ใช้เครื่องถ่ายเอกสาร สามารถมานั่งทำงานได้ฟรีทั้งวัน บรรยากาศเงียบดีไม่มีเสียงเจี้ยวจ้าว
เดินออกมาด้านหลังเป็นสวนที่นั่งพร้อมรูปปั้นบุคคลสำคัญมีหลายคนเลย หนึ่งในนั้นคือ Peder Schumacher, (1635–1699) ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่มีอิทธิพลสูงสุดในประวัติศาสตร์เดนมาร์ก
ส่วนตัวชอบ Royal Library มาก ดูสวยคลาสสิค นึกไปถึงหอสมุดท่าวาสุกรีบ้านเรา
เดินต่อมาจาก Royal Library จะเจอ Christiansborg Palace รัฐสภาของเดนมาร์ก
ที่นี่เดินเที่ยวง่ายเพราะเชื่อมต่อกันไปเสียหมด แถมยังได้ภาพสวยระหว่างทางด้วย
Christiansborg Palace มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นจุดเด่นทางการท่องเที่ยวของเมืองใช้เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญหลายแห่งในราชการเดนมาร์ก ทั้งสภาผู้แทนราษฎร ศาลแห่งชาติ และสำนักงานพระราชวัง
เดินเล่นกันจนถึงเย็น แดดสวย อากาศสบายๆ
เดินทะลุฝั่งของศาลออกมา เดี๋ยวจะพาเดินเที่ยวต่อ
Museum of Copenhagen พิพิธภัณฑ์นี้เน้นการเล่าเรื่องราวของโคเปนเฮเกนตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน โดยผ่านเรื่องราว ภาพถ่าย แผนที่ และวัตถุจากอดีต มีการนำเสนอที่หลากหลาย จากวัตถุโบราณ ความทรงจำ ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีในการเล่าเรื่องราว
ช่วงที่ไปมีการจัดแสงผลงานภาพถ่ายด้านข่าวและสารคดี 100 ชิ้นที่ยอดเยี่ยม
อีกห้องจัดแสดงหินในยุคต่างๆ บรรยากาศค่อนข้างคลาสสิคไม่หวือหวา
ใกล้กันมีอาคารเก่าที่อยู่บนเนิน ใครที่ซื้อตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์จะได้รับบัตรเข้าชมบ้านเก่าหลังนี้ได้ฟรี
ซึ่ง … ไม่มีอะไรน่าสนใจ
มองไปฝั่งตรงข้ามดูเร้าใจกว่า คือ Rosenborg Castle เป็นปราสาทในยุคเรเนซองส์
บรรยากาศดีมาก ได้ฟีลสแกนดิเนเวียน มีเรือนหลังเล็กและสวนขนาดใหญ่
พระราชวังถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 โดยกษัตริย์ Christian IV ของเดนมาร์ก เพื่อใช้เป็นเป็นที่พักผ่อนของราชวงศ์
อาคารแบบเรเนซองส์ ภายในมีการตกแต่งที่ละเอียดยิบและอลังการ แสดงถึงความร่ำรวยสมบูรณ์และความหรูหราของพระราชวังในยุคนั้น
Rosenborg เก็บสมบัติแห่งชาติซึ่งประกอบไปด้วยมงกุฎแห่งราชวงศ์ แหวนราชวงศ์ และพื้นที่เก็บของเก่าแก่และมีค่าอื่น ๆ ของราชวงศ์เดนมาร์กเยอะมาก อาจจะต้องใช้เวลาเกือบครึ่งวัน
จากนั้นไปเที่ยวต่อที่ The Round Tower เป็นอีกหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง
หอคอยถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยของกษัตริย์ Christian IV เพื่อเป็นหอดูดาว ลักษณะเป็นทางลาดเดินขึ้นเป็นวงกลม
ติดกันมีห้องลักษณะคล้ายโบสถ์ดูสวยงามแต่ห้ามเข้า ต้องถ่ายผ่านกระจกเข้าไป
เราว่า The Round Tower เป็นจุดถ่ายรูปที่เกร๋มาก
ด้านบนเกือบสุดมีที่นั่งกระจายไปในหลายจุด มองเห็นวิวเมืองโคเปนเฮเกน
ขึ้นไปบนสุดจะเป็นลานกลางแจ้ง ลมแรงใช้ได้ เอาไว้ชมวิวเมืองสวยๆ แต่ไม่สูงมาก ประมาณชั้น 8 ได้
Strøget Shopping Mile สายช้อปห้ามพลาด
แบรนด์เนมแทบทุกร้านจะกระจุกตัวกันอยู่ที่นี่ ราคาก็ไม่แย่ ขอคืนภาษีได้แบบขั้นบันได
ดิสเพลย์ของ Hermes สวยมาก
ห้างสรรพสินค้า ILLUM หรูหราและสวยงามที่สุดในโคเปนเฮเกน ชั้นบนเป็นบาร์และร้านอาหาร
ห้างไม่ใหญ่ให้อารมณ์เหมือนเซ็นทรัลชิดลม เจ้าของคือปัจจุบันคือเซ็นทรัล สรรพสินค้า ประเทศไทย
Torvehallerne ตลาดสดติดแอร์ใจกลางเมือง แต่ความเกร๋ก็คือมีที่นั่งให้ซื้อแล้วมานั่งกินชิลล์ๆ ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย นั่งจิบเครื่องดื่มได้เบาๆ ระหว่างพักเหนื่อย
จากนั้นไปยืนต่อคิวที่ร้าน Slurp Ramen Joint ราเมงลูกครึ่งเดนมาร์ก-ญี่ปุ่นที่คนเยอะมาก โชคดีที่มาคนเดียวเลยรอไม่นาน ประมาณชั่วโมงนึง
ไฮไลท์คือราเมงซุปกระดูกหมูใส่ผงกะหรี่และมีหญ้าฟรั่นเพิ่มสีสันสดใส รสชาติออกไปทางเลี่ยนๆ มันๆ แต่ก็ต้องกินให้หมดเพราะเสียดาย ราคาประมาณ 950 บาทไทยต่อชาม
ส่วนใครชอบบรรยากาศแบบเรียบหรูแนะนำไฟน์ไดนิ่งที่ Sushi Anaba เป็นซูชิแบบโอมากาเสะ โดยเชฟ Mads Battefeld ติด 50 Best Restaurant และ มิชลินไกด์
Sushi Anaba เสิร์ฟชูชิสไตล์เอโดะ เน้นความเรียบหรู วัตถุดิบสดใหม่ จึงได้รับการตอบรับดี มีที่นั่งรับแขกได้เพียง 8 ที่นั่งเท่านั้น
ร้าน Rondo Bakery ร้านนี้ก็ดัง
ขายขนมปัง ขนมอบเยอะมาก เช่นครัวซองก์ พาย คีช และฟอคคาเซีย กินกับกาแฟตอนเช้าๆ
เดินผ่าน Holmen Church คริสต์ศาสนสถานเก่าแก่ตั้งแต่ในปี 1619 จากการปรับปรุงโครงสร้างเดิมที่เคยเป็นอู่ซ่อนเรือของกองทัพเรือ
โบสถ์มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่คงความเป็นดั้งเดิมและมีความเรียบง่าย เป็นสัญลักษณ์ของความศรัทธาและวัฒนธรรมของชาวเดนมาร์ก
โบสถ์แห่งกรุนด์วิค (Grundtvig’s Church)
โบสถ์ที่ผมว่าสวยที่สุดในเดนมาร์ก อยู่ไกลนิดนึงต้องนั่งรถเมล์ออกมา
โบสถ์แห่งกรุนด์วิค (Grundtvig’s Church)
โบสถ์ที่ผมว่าสวยที่สุดในเดนมาร์ก
เคยดูแต่ในหนังสือ ชอบมากจนทำให้อยากมาเห็นด้วยตาตัวเอง
ที่นี่ถือเป็น Iconic ของสถาปัตยกรรมแบบเอ็กซ์เพรสชั่นนิสม์ผสมผสานกับเส้นสายแนวดิ่งแบบโกธิค
จนออกมาเป็นสไตล์เฉพาะตัว ถ่ายรูปออกมาสวยมากจริงๆ
ใครมาเที่ยวโคเปนเฮเกน ไม่อยากให้พลาดเลยที่นี่ครับ
Superkilen: สวนสาธารณะที่เป็นมากกว่าแค่สวน เพราะเป็นโครงการศิลปะและสถาปัตยกรรมที่ได้รับการออกแบบโดย BIG (Bjarke Ingels Group) หนึ่งในสำนักงานสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงทั่วโลก
อีกหนึ่งไฮไลท์ของโคเปนเฮเกนคือ Nyhavn ย่านคนเก๋ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวโคเปนเฮเกน
Nyhavn เป็นท่าเรือการค้าริมน้ำที่มีอายุหลายร้อยปี จากนั้นได้พัฒนามาเป็นลานจอดรถในช่วงที่คนเดนนิชนิยมใช้รถยนต์ก่อนจะเจอกับวิกฤติน้ำมันแพงจนต้องหันมาปั่นจักรยานแทน
ย่านนี้คึกคักด้วยนักท่องเที่ยวเพราะมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เยอะมาก
มีอาคารประวัติศาสตร์หลายแห่งและแหล่งอนุสาวรีย์ในย่านนี้ แปลงร่างเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต บางอาคารเป็นโรงแรมเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ เราว่าอาคารหลายแห่งมีความน่าสนใจและถ่ายรูปสวยมาก
ตึกสีสันสดใสที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ คือสัญลักษณ์ที่บอกว่าเรามาถึงโคเปนแล้วนะ แต่เดิมคือลานจอดรถของคนเมืองโคเปน ก่อนจะพัฒนามาเป็นย่านศูนย์กลางของการค้าและการบริการ ซึ่งมีร้านค้าขนาดเล็กและร้านอาหารที่มีชื่อเสียงต่างๆ อยู่ทั่วไปในย่านนี้มีการตกแต่งและการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมเพื่อเพิ่มความสวยงามและสะดวกสบายในการใช้ชีวิต
เราใช้วิธีเดินลัดเลาะตรอกซอกซอย พบว่ามีร้านเฟอร์นิเจอร์สไตล์สแกนดิเนเวียนเก๋ๆ เต็มไปหมด มีร้านสกินแคร์ออร์แกนิคอย่าง Aesop ด้วย
เราได้เห็นคนเดนมาร์ก และนักท่องเที่ยว มาเดินเล่น ปั่นจักรยาน พักผ่อนกันในสวนและนั่งเล่นริมน้ำ หรือจะข้ามไปนั่งชิลล์ที่ร้านกาแฟตอนสายๆ ก็ได้
เราแวะช้อปน้ำหอมแบบปรุงสดใหม่ (ฟีลเหมือนสั่งอาหาร) ที่ร้าน Le Labo ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในตึกแถวเก่าแถบนี้
บ้านแถวนี้มักถูกนำไปใช้เป็นภาพพื้นหลังของการถ่ายภาพและวาดภาพ
Nyhavn Harbor จึงเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวโคเปนเฮเกน ความเรียบง่ายและบรรยากาศอบอุ่นของท่าเรือนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกยินดี และสามารถสัมผัสถึงเรื่องราวและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งของเมืองนี้ได้
Palads หรือ Palads Teatret เป็นโรงหนังเก่าแก่ในโคเปนเฮเกนที่มีความประวัติศาสตร์ยาวนาน มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่สวยงามและสีสันสดใส ซึ่งทำให้เด่นชัดและเป็นที่รู้จักของทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยว ทำให้นึกไปถึงงานของ Wes Anderson ผู้กำกับชื่อดังของฮอลลีวูดที่มีเอกลักษณ์ในการเล่าเรื่องและการออกแบบฉากที่เน้นสีสันจัดๆ เช่นกัน
Islands Brygge เป็นภาพที่เซฟไว้ว่าอยากจะมาดูฟีลอะไรแบบนี้
แต่ลืมไปว่าช่วงที่ไปไม่ใช่ซัมเมอร์แต่เป็นวินเทอร์ หนาวขนาดนี้จะมีใครเล่นน้ำมั้ยยย
เลยเปลี่ยนบรรยากาศไปนั่งชิลล์ริมแม่น้ำแทน อ่ะ พอได้ อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าสีสวย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่อยากแนะนำสำหรับคนมาเที่ยวโคเปนเฮเกนคือ The Opera House
งานสถาปัตยกรรมสวยๆ ฟังก์ชันดีๆ ที่ออกแบบมาสำหรับการดูโชว์ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาด