เที่ยวง่ายขึ้นรถไฟ Yamanote Line
.
นี่เป็นสายที่กานต์ชอบมากเลยครับ แต่ถ้าใครยังมูฟออนไม่ได้ ไม่แนะนำนะ เพราะว่ารถไฟสายนี้วิ่งจะวนเป็นวงกลม (ผ่าม!!)
.
รถไฟสายสีเขียว Yamanote แล่นผ่านสถานที่เที่ยวไฮไลท์มากมาย จะไปต่อรถต่อเครื่องก็สะดวกดี มีทั้งสถานที่สำหรับถ่ายรูป ช้อปปิ้ง กิน ดื่ม นอน มีหมดทุกสิ่ง เหมาะมากหากใครกำลังวางแผนโปรแกรม หรืออยากลอง explore โตเกียวในอีกมุม กานต์ว่ามันเป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าสนใจดีครับ
• คลองเมกุโระ
• วัดโซโจจิ
• โตเกียวทาวเวอร์
• ตลาดนัดวินเทจ Oedo Kottoichi
• Ginza Six
• สถานีโตเกียว
• สวนสาธารณะ Ueno
• ตลาด Ameyoko
• ราเมงแชมเปี้ยน Ikebukuro
• Art Centre
• ศาลเจ้าเมจิ
• ฮาราจูกุ
• โอโมเตะซันโดะ
• ชินจูกุ
• โมโมพาราไดซ์
• ห้าแยกชิบูย่า
• โรงแรมพูลแมน โตเกียว ทามาจิ
ถ้าพร้อมแล้วแตะบัตร Suica แล้วมาขึ้นรถไฟเที่ยวโตเกียวไปด้วยกันเลย
—
Yamanote Line เป็นรถไฟสายคลาสสิคของโตเกียวครับ เราเรียกกันติดปากว่าสายสีเขียว เป็นรถไฟที่วิ่งผ่านสถานที่สำคัญในโตเกียวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สถานีโตเกียว อากิฮาบาระ อุเอโนะ อิเคะบุคุโระ ชินจูกุ ชิบูยา และชินากาวา รวมทั้งหมด 29 สถานี
โดยที่รถไฟจะวิ่งวนเป็นวงกลมทั้งแบบทวนเข็มและตามเข็มนาฬิกา โดยมีจุดตั้งต้นที่สถานีโตเกียว
Pix : Unsplash
ทริปนี้กานต์จะพาไปเปิดประสบการณ์ใหม่ในการเที่ยวโตเกียวแบบ 1 Day Trip โดยใช้รถไฟสายสีเขียว Yamanote Line ไปครบทั้งสายอาร์ต สายถ่ายรูป สายกิน ดื่ม ช้อปปิ้ง หรือเอาจริงๆ เป็นรถไฟที่สามารถต่อรถไปยังสถานที่อื่นได้อีก สะดวกมากครับ
อย่างที่รู้กันว่าโตเกียว เที่ยววันเดียวไม่จบแน่ เพราะสถานที่เที่ยวเยอะ เที่ยวตั้งแต่เช้ายันดึก ตี 5 มาต่อคิวเข้าคาเฟ่ ดึกสุดตีสอง เคยไปต่อคิวกินราเมงข้อสอบก็ทำมาแล้ว
Tokyo Tower
สวนสาธารณะอุเอโนะ
เช็คอินที่โรงแรม Pullman Tokyo Tamachi แห่งแรกและแห่งเดียวในญี่ปุ่นอยู่ติดสถานี Tamachi
ลากกระเป๋าจากสนามบิน ขึ้นรถไฟ มาลงที่สถานี Tamachi เดินต่ออีก 30 วิก็เข้ามาเช็คอินได้เลยครับ สะดวกดีเหมือนกัน
ตรงนี้จะเป็นส่วนชั้น 2 เพราะว่าขึ้นบันไดเลื่อนมาเล็กน้อย Lobbby กว้างขวางดีครับ ต่างกับโรงแรมในโตเกียวทั่วๆ ไป
ย่านนี้จะเป็นออฟฟิศ และมีร้านอาหาร คาเฟ่ ซุปเปอร์อยู่ใกล้ๆ นับว่าสะดวกมาก
สไตล์ของ Pullman ก็อาจจะเหมาะสำหรับใครที่มาเที่ยวและติดงานมาทำด้วยนิดหน่อย มีที่นั่งพักผ่อนสบายๆ ไวไฟแรงจัด ส่งงานเสร็จแล้วก็เตรียมตัวออกไปเที่ยวได้
ห้องที่จองมาเป็น Deluxe Suite ทำให้เราสามารถใช้ Executive Lounge ที่ชั้นบนได้ด้วยครับ สามารถมานั่งพักผ่อนได้ ตอนบ่ายมี Afternoon Tea เสิร์ฟ และมีเครื่องดื่มบริการ ตอนเย็นมี Cocktail Time ฉ่ำว๊าวมาก
Deluxe Suite ห้องกว้างมาก เป็น Type เกือบจะสูงสุดของที่นี่แล้วครับ ขนาด 81 ตร.ม. เป็นแบบอพาร์ทเม้นท์ เพราะแยกส่วนการใช้งานได้ครบทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องแต่งตัว ห้องน้ำ มี 2 จุด อลังการสุดๆ
ด้านนอกเป็นห้องนั่งเล่น ตามสไตล์ญี่ปุ่นก็คือตกแต่งเรียบๆ เปิดโล่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่ มีชุดโฟซาจัดวางไว้พร้อมชั้นวางทีวีและมีมินิบาร์อยู่ใกล้ๆ เหมาะสำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว สามารถนัดแขกมาคุยที่ห้องได้ มีห้องน้ำแบบ Powder Room ไว้รองรับ
มองออกไปเห็นทางรถไฟและสายที่ผ่านเป็นหลักคือ Yamanote Line
อ่อ!! หลายคนที่กังวลว่าเสียงรถไฟจะดังรบกวนการนอน ต้องบอกว่า ไม่ได้ยินนะครับ เพราะกระจกหนา 2 ชั้น
วันนี้เราลองเดินทางโดยใช้รถไฟสาย Yamanote เป็นหลัก เริ่มจากมาชมซากุระที่คลองเมกุโระ แนะนำให้มาเช้าๆ เพราะแสงสวยและคนไม่เยอะมากครับ
จากนั้น ย้อนไปทางสถานี Hamamuysucho เพื่อจะไปไหว้พระขอพรที่วัดโซโจจิ วัดเก่าแก่และสวยงามอีกแห่งหนึ่งของโตเกียว
ใกล้ๆ จะเป็นโตเกียวทาวเวอร์ สามารถขึ้นไปด้านบนเพื่อชมวิวโตเกียวจากมุมสูงได้ครับ
จากนั้น นั่งรถไฟต่อมาอีก 2 สถานี เพื่อมาลงที่ Yurakucho เป็นสถานีที่มาบ่อย เพราะใกล้กับกินซ่า แต่ว่าวันนี้เราจะมาเที่ยวตลาดนัดโออิโด โคตโตอิชิ (Oedo Kottoichi Flea Market ) เป็นตลาดนัดของโบราณกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของโตเกียว ของเก่าคือเก่ามาก อย่างชุดดับเพลิงโบราณที่เห็นคืออายุ 350 ปี ตลาดมีทุกวันอาทิตย์ที่ 1 และ 3 ของเดือนครับ
ติดกับตลาดนัดมี Shake Shack เบอร์เกอร์ชื่อดังให้นั่งกินด้วยนะครับ
เบื่อของเก่า อยากอัพเดทเทรนด์ ก็สามารถเดินต่อไปชมคอลเลคชั่นใหม่ที่กินซ่าได้ ถ้ามาตรงกับวันอาทิตย์ตอนบ่ายจะปิดถนนทำเป็นถนนคนเดินเก๋ๆ
ถัดมาอีก 1 สถานีคือโตเกียวครับ เป็นสถานีใหญ่และเก่าแก่มาก ใกล้ๆ จะเป็นพระราชวังอิมพิเรียล และเป็นย่านการเงิน ย่านธุรกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีตึกสูงๆ สวยๆ ให้เดินเล่นถ่ายรูปกัน ถ้ามาวันอาทิตย์ก็จะเงียบหน่อยเพราะเป็นวันหยุด
นั่งรถไฟสาย Yamanote กันต่อ จะไปที่ Ueno
Ueno เป็นย่านยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ดังนั้นคนจะเยอะมาก แต่หากใครต้องการความเงียบสงบแนะนำให้มาเดินเล่นที่สวนสาธารณะอุเอโนะที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟ ช่วงซากุระก็สวย ยิ่งถ้ามาตอนใบไม้เปลี่ยนสียิ่งสวย
ด้านในจะมีพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ให้เดินชมกันมากถึง 6 แห่ง
จากนั้น ก็ไปเดินเล่นหาอะไรกินที่ตลาด Ameyoko
รถไฟสาย Yamanote
อยากแนะนำร้านราเมงที่ผมชอบมาก ชื่อร้าน Taishoken ก่อตั้งโดย คุณ Kazuo Yamagishi ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการราเมงโตเกียว
เอาจริงแทบไม่เคยบอกใครเลยนะว่ามันคือของดีที่ซ่อนอยู่ เดินไกลเล็กน้อยจากสถานี Ikebukuro เป็นร้านราเมงที่ต้องมากินทุกครั้งเมื่อมาโตเกียว ชอบ Tsukemen ที่สุด เรียกว่าเป็นต้นดำรับเลยก็ว่าได้ น้ำซุปเข้มข้น เพิ่มเมมม่าด้วยนะ อร่อยแน่
พิกัด https://goo.gl/maps/DvkGNK897jC4TiCz9
มาเดินเล่นต่อที่ Art Space ย่าน Roppongi ถ้าใช้ Yamanote สามารถลงที่ Ebisu แล้วเดินเที่ยวมาเรื่อยๆ เลยครับ มีแกลอรี่ พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ให้เดินชมเยอะมาก
ยอมรับว่า ญี่ปุ่นเปิดพื้นที่ให้กับงานศิลปะค่อนข้างเยอะทั้งในส่วนของรัฐสนับสนุนและเอกชนเอง เวลามาเที่ยวโตเกียวก็มักจะให้เวลากับการเดินดูอาร์ตใหม่ๆ เยอะมาก
สถานีฮาราจูกุ ชอบเวลาเค้าประกาศเสียงเรียกสถานีจะลากยาวๆ ก่อนจะไปช้อปปิ้ง แนะนำให้มาเดินเล่นที่ศาลเจ้าเมจิกันก่อนครับ อยู่ฝั่งตรงข้าม
เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ สร้างเพื่ออุทิศถวายแด่ สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ ราชวงศ์เมจิ ด้านในเป็นเหมือนป่ากลางเมือง ร่มรื่นและเงียบสงบมาก ใครมาก็อย่าลืมเขียนแผ่นไม้ขอพรกันนะครับ
เดินมาอีกฝั่งของถนนจะเป็นฮาราจูกุ ย่านแฟชั่นของคนญี่ปุ่น มีจุดถ่ายรูปสวยคือที่บันไดเลื่อนของห้าง Tokyu Plaza Omotesando Harajuku ดีไซน์เก๋ใช้กระจกสามเหลี่ยมวางมุมสะท้อนดูแปลกตาดี
ที่นี่ติดกับ Omotesanso ย่านคนรวยญี่ปุ่น อารมณ์พร้อมพงษ์บ้านเรา มีร้านรวงเก๋ๆ แบรนด์เนมต่างๆ มากมาย
นั่งรถไฟต่อไปอีกนิด ไปลงที่ชินจูกุ มุมนี้ก็เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตเหมือนกัน
เราจะไปกินโมโมพาราไดซ์ สไตล์ต้นตำรับ เนื้อวัวคือดีย์ ซุปดี ขาดอย่างเดียว พริกกระเทียม!!!
จากนั้น ก็มาเดินย่อย ชมจุดถ่ายรูปใหม่ใจกลางชินจูกุ เป็นจอน้องแมวแบบทะลุมิติ
อีกสถานีที่อยู่ติดกันเป็นชิบูย่า มาเดินเล่นผ่าน 5 แยกกัน ถ่ายรูปเช็คอินสักหน่อย
เดินจนเมื่อยก็ได้เวลากลับเข้าโรงแรม ตอนกลางคืนเปิดไฟถ่ายในเป็นเงาสะท้อนห้องสวยดีนะ
นอนสบาย เตียงนอนใหญ่จริง สงสัยเดินเยอะ เช้ามาคือเมื่อยขามาก 55
จิบกาแฟ แต่เช้า ในห้องมีมินิบาร์ให้ เป็นกาแฟแคปซูล ชมบรรยากาศของเช้าวันจันทร์คนโตเกียวเริ่มไปทำงาน อาศัยรถไฟสาย Yamanote นี่แหละ
ส่วนเราก็อาบน้ำแต่งตัว ก่อนไปทานข้าวก็เตรียมข้อมูล ส่งเมลล์เล็กน้อย ทำงานไปด้วย สมัยนี้ดี สามารถทำงานได้ทุกที่จริงๆ
เติมพลังกับอาหารเช้าที่โรงแรม Pullman Tokyo Tamachi ไลน์อาหารแน่นอยู่นะ สังเกตแขกจะเป็นยุโรปเป็นหลัก คนไทยยังไม่ค่อยมาก อาจจะไม่รู้ว่ามี เป็นอีกโรงแรมที่โลเคชั่นดี ราคาไม่สูงมาก หากเทียบกับ 5 ดาวด้วยกัน แนะนำเลยครับ