Crystal Solana

“𝐓𝐡𝐞 𝐠𝐫𝐞𝐚𝐭𝐞𝐬𝐭 𝐥𝐮𝐱𝐮𝐫𝐲 𝐢𝐬 𝐭𝐨 𝐛𝐞 𝐚𝐛𝐥𝐞 𝐭𝐨 𝐫𝐞𝐥𝐚𝐱 𝐚𝐧𝐝 𝐛𝐞 𝐲𝐨𝐮𝐫𝐬𝐞𝐥𝐟.” – Tom Ford

.

ปัจจุบัน แนวคิดในความต้องการที่อยู่อาศัยได้เปลี่ยนแปลงไป เราต่างมองหาบ้านที่เป็นได้มากกว่าพื้นที่อยู่อาศัย ต้องการสถานที่ที่สามารถสะท้อนความเป็นตัวตนและให้ประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เต็มไปด้วยความสงบและความสุข

.

𝐐𝐮𝐢𝐞𝐭 𝐋𝐮𝐱𝐮𝐫𝐲 𝐋𝐢𝐯𝐢𝐧𝐠 ไม่เพียงแต่เป็นคำที่สะท้อนถึงความหรูหราและความสงบเงียบเท่านั้น แต่ยังเป็นแนวคิดที่กำลังเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของอสังหาริมทรัพย์และสถาปัตยกรรมยุคสมัยใหม่ ทั้งในแง่ของการออกแบบและสร้างสรรค์ ตลอดจนเป็นการแสดงออกเรื่องรสนิยมและวิถีชีวิตที่โดดเด่น การอยู่อาศัยท่ามกลางสังคมที่มีคุณภาพ สภาพแวดล้อมที่เน้นความสงบ ความเป็นส่วนตัว ความเรียบง่าย โดยไม่ละเลยเรื่องความหรูหรา ประณีตและความสะดวกสบาย

.

ทว่า การออกแบบที่เน้นความสงบไม่ได้หมายถึงการสร้างพื้นที่ที่เงียบสนิทเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงการสร้างพื้นที่ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถผ่อนคลาย รู้สึกว่าตนเองได้ถูกเติมเต็มทางจิตใจ ออกแบบโดยเน้นการใช้แสงธรรมชาติ เพื่อให้มุมมองที่สวยงาม และการจัดวางที่เปิดโล่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างบรรยากาศนี้

.

เห็นได้จากโครงการ 𝐂𝐑𝐘𝐒𝐓𝐀𝐋 𝐒𝐎𝐋𝐀𝐍𝐀 ที่กานต์ได้กลับมาเยือนอีกครั้งและยกให้เป็น Ultra Luxury Residences ที่คู่ควรกับนิยามความหมายของ Quiet Luxury Living ได้เป็นอย่างดี

.

ทันทีที่ขับรถยนต์เข้าไปในโครงการ เราได้สัมผัสถึงความเงียบสงบ ใบไม้ที่พัดไหวในสายลมเอื่อยๆ ผ่านแนวต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่นเพื่อนำเราไปจนถึง Clubhouse สูงใหญ่และบ้านตัวอย่างที่อยู่ถัดเข้าไปด้านใน ดูร่มรื่น เงียบสงบจนเราลืมไปแล้วว่า กำลังอยู่กันที่ทำเลเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา

.

ครั้งนี้เรามาชมแบบบ้าน PEARL กันบ้างครับ เป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เน้นความหรูหราของงานสถาปัตยกรรมยุโรปแบบ Contemporary Timeless Style นำเสนอฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของการพักอาศัย การตกแต่งในสไตล์ Art Deco ที่สะท้อนกลิ่นอายศิลปะแบบตะวันตกได้เป็นอย่างดี

.

ที่สำคัญ CRYSTAL SOLANA เป็นโครงการที่มีทั้งบ้านสั่งสร้างและบ้านที่สร้างเสร็จแล้วให้เลือกหลายแบบ ข้อดีก็คือถ้ามาชมแล้วถูกใจก็สามารถเข้าอยู่ได้ทันที เป็นอีกหนึ่งจุดขายที่กานต์มองว่าน่าสนใจและสะดวกสบายดี สำหรับใครที่กำลังมองหาที่พักอาศัยในแบบ Quiet Luxury Living ท่ามกลางสังคมที่มีคุณภาพ

.

ติดตามอ่านเรื่องราวของโครงการ CRYSTAL SOLANA พร้อมภาพถ่ายที่กานต์นำมาฝากกันต่อด้านในได้เลยครับ

.

สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.crystalsolana.com

นัดหมายแบบส่วนตัวเพื่อเข้าชมโครงการได้ที่โทร 02-101-5775

Line: @crystalsolana

โครงการ CRYSTAL SOLANA จาก K E Group มีขนาดที่ดินอยู่ที่ 31-0-73.7 ไร่ ทว่ามีจำนวนน้อยเพียง 47 ยูนิตเท่านั้นซึ่งตอนนี้เหลือบ้านขายเพียงไม่ถึง 20 ยูนิตแล้วครับ จะสังเกตได้ว่าเมื่อเทียบจำนวนบ้านกับเนื้อที่ของโครงการโดยรวมแล้ว ถือว่ามีจำนวนยูนิตไม่มาก บ้านทุกหลังจึงนำเสนอจุดเด่นเรื่องความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยได้เป็นอย่างดีท่ามกลางสังคมแห่งการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพครับ
โครงการตั้งอยู่บนที่สุดของทำเลเลียบทางด่วน ติดถนนใหญ่ประดิษฐ์มนูธรรม ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนเพียง 1 นาที* อยู่ห่าง Crystal Design Center (CDC) เพียง 5 นาที* และยังอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า The Crystal เพียง 12 นาที*

อีกทั้งยังมี Creative Community ร้านอาหาร คาเฟ่เก๋ ๆ มากมายในย่านนี้ ซึ่งกานต์ว่าเป็นทำเลที่ Rare Item มาก เพราะเรารู้กันดีว่า ถนนประดิษฐ์มนูธรรมเต็มไปด้วยโครงการบ้านหรูระดับ Luxury ถึง Ultra-Luxury มากมาย ราคาที่ดินมีการเติบโตสูงทุกปี จึงยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะหาที่ดินผืนใหญ่ในการสร้างโครงการ Ultra Luxury Residences ที่ใกล้เมืองขนาดนี้ได้
ในการเลือกบ้านของโครงการ CRYSTAL SOLANA นั้น เราจะต้องเลือกที่ดินแปลงที่เราต้องการก่อนนะครับ จากนั้นถึงจะมาเลือกแบบบ้านกัน ซึ่งแต่ละหลังก็มีดีไซน์หรูหราสวยงามแตกต่างกันไป ภายในมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 497 ตร.ม.ไปจนถึง 1,010 ตร.ม.
เมื่อเลือกที่ดินและแบบบ้านได้แล้ว ต่อมาเราจะมาเลือกรูปแบบการขาย ซึ่งมีให้เลือกด้วยกัน 4 อย่างคือ
Bare Shell เป็นการก่อสร้างเฉพาะภายนอกบ้านและตกแต่งตามมาตรฐานโครงการ ส่วนภายในจะไม่ได้มี Interior ใดๆ เพื่อให้เราสามารถตกแต่งเพิ่มเติมได้ตามใจ แน่นอนว่าสามารถไปเลือกชมและออกแบบเพิ่มเติมได้ที่ Crystal Design Center (CDC) ได้เลยครับ
Luxury Standard บ้านที่มาพร้อมกับการตกแต่ง โดยเราสามารถเลือกวัสดุตามมาตรฐานของโครงการได้ ซึ่งจะมีวัสดุให้เลือกหลายรูปแบบแตกต่างกันไป อาทิ พื้น ผนัง วงกบประตูหน้าต่าง
Prebuild เป็นบ้านพร้อมอยู่ที่โครงการจะมีวัสดุให้เลือกแบบเหนือระดับขึ้นไปอีกขั้น มีความหรูหรากว่าและตอกย้ำความเป็นที่สุดของงาน Luxury Design ได้มากขึ้น
Built-in Interior and Loose Furniture จะเป็นบ้านที่ตกแต่งพร้อมอยู่เหมือนกับที่เราเห็นในบ้านตัวอย่างเลยครับ เรียกได้ว่ามาชมแล้วชอบถูกใจก็สามารถเป็นเจ้าของได้ทันที 
ด้วยความที่มีจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่เดินทางสะดวกสบาย ใกล้กับทางด่วนฉลองรัช เชื่อมโยงเราไปสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ชั้นนำได้อย่างรวดเร็ว ระหว่างที่ขับรถมาก็สังเกตดูรอบๆ โครงการรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบและครบทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น เอกมัย ทองหล่อ พระราม 9 ลาดพร้าว อโศก ฯลฯ รายล้อมด้วยสถานศึกษา โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลชั้นนำ

อีกทั้งโครงการยังตั้งอยู่บนเส้นทางของแนวรถไฟฟ้าสายสีเทา (วัชรพล-ทองหล่อ) ซึ่งอยู่ระหว่างกทม.เตรียมนำเสนอแผนลงทุน เพื่อให้รัฐบาลพิจารณาการลงทุน (ข่าวจากประชาชาติธุรกิจ ณ เดือน กันยายน 2566) 
ทันทีที่เข้าไปภายในโครงการ CRYSTAL SOLANA เราจะสัมผัสได้ถึงความรื่นรมย์ในการพักอาศัยด้วยพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 2 ไร่ โดยมีไฮไลท์คืออาคาร Clubhouse ที่มีดีไซน์ในแบบ Contemporary Timeless Style และได้รับรางวัลระดับโลกมาแล้วมากมาย 
ด้วยความที่โครงการได้ออกแบบให้มีระยะถอยร่นจากถนนหลักมากพอสมควร โดยจัดทำเป็นสวนด้านหน้าและมีแนวต้นไม้ใหญ่คอยเป็น Buffer ช่วยป้องกันเสียงได้ดีทีเดียวครับ เมื่อขับรถเข้ามาในโครงการเราจึงแทบจะไม่ได้ยินเสียงรถราที่วิ่งอยู่ข้างนอกเลย

เพราะอย่าลืมว่าโครงการตั้งอยู่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือที่เรียกกันติดปากว่าเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วน ทำให้ลูกบ้านได้รับความสะดวกสบายในการเดินทาง ทั้งยังเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง ศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพมหานนคร และทำเลอื่นๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว 
แบบบ้านที่กานต์พามาชมกันในครั้งนี้คือ PEARL บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 576 ตร.ม. ฟังก์ชันการใช้งานภายใน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ สามารถจอดรถได้ 6 คัน ด้านหลังมีห้องแม่บ้านและ Maid Plaza

จุดเด่นของแบบบ้าน PEARL นอกจากความเป็น Ultra Luxury Residences ขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะแล้ว โครงการยังออกแบบพื้นที่แต่ละจุดแยกเอาไว้อย่างเป็นสัดส่วน ทืำให้สะดวกต่อการใช้งานและปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ โดยเฉพาะบ้านที่มีแขกมาเยี่ยมบ่อยๆ หรือมาพบปะพูดคุยธุรกิจ มีมุมรับแขกที่แยกตัวออกไปทำให้ได้รับความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนพื้นที่และห้องอื่นๆ ก็สามารถปรับได้เช่นกัน 
หน้าบ้านตกแต่งด้วยหิน Limestone ให้ผิวสัมผัสที่ดูเรียบหรูแบบบ้านยุโรปตามสไตล์ Contempolary Timeless Design รายละเอียดของการออกแบบที่กานต์ชอบในบ้านหลังนี้คือการมีโถงสูงเป็นซุ้มด้านหน้าเพื่อให้รถขับผ่านเข้าไปด้านในได้ประยุกต์มาจากดีไซน์ Porte-Cochere ตามสไตล์บ้านฝรั่งเศส สามารถใช้เป็นจุด Drop-off ได้ ทำให้ดีไซน์ดูสวยกว่าทั่วไปและได้ฟีลคฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่ให้ความหรูหรา บริเวณลานจอดรถออกแบบให้มีตู้เก็บของสำหรับจัดเก็บสัมภาระชิ้นใหญ่ที่ไม่จำเป็นต้องนำเข้ามาเก็บไว้ในบ้าน

ส่วนบริเวณตรงทางเข้าบ้านผ่านทางประตูเล็กซึ่งเชื่อมต่อกับครัวได้เลย ข้อดีก็คือสะดวกมากหากเราไปช้อปปิ้งข้าวของภายในบ้าน มาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตก็สามารถนำเข้ามาเก็บไว้ในครัวและห้องเก็บของได้โดยไม่ต้องเดินผ่านประตูทางเข้าหลัก หากว่ามีแขกมาก็จะได้ไม่เป็นการรบกวน 
บ้านตัวอย่างหลังนี้ตกแต่งในสไตล์ Art Deco (อาร์ตเดโค) เป็นหนึ่งในรูปแบบงานดีไซน์ที่กานต์ชอบมากครับ เพราะคงความคลาสสิคต่อเนื่องจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน

เหตุที่ชอบก็เพราะกานต์มองว่า Art Deco เปรียบเสมือนตัวแทนของความหรูหราเย้ายวนใจและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ด้วยการเลือกใช้สี รูปทรงเรขาคณิตอันโดดเด่น และการประดับประดาอย่างหรูหรา เพื่อตอบสนองต่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในยุคนั้น ผสมผสานองค์ประกอบจากศิลปะที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของยุค 20s เพื่อส่งมอบประสบการณ์พักอาศัยอันหรูหราสะดวกสบายให้กับลูกบ้าน 
ทางเข้าเป็นประตูไม้จริงบานคู่แบบ Oversize สามารถขนเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่เข้าบ้านได้สบายเลยครับ เมื่อเข้ามาภายในจะพบกับการจัดวางที่นั่งกระจายกันไปในหลายจุดพื้นที่ใช้สอยซึ่งขอแบ่งออกเป็น 3 เลเยอร์จะได้เข้าใจและนึกภาพตามได้ง่ายครับ

ตรงกลางด้านหน้าประตูจะเป็น Arrival Hall โดดเด่นด้วยพื้นปูกระเบื้องสีขาวดำลวดลายแบบ Art Deco ส่วนทางด้านขวามือเป็น Great Room ซึ่งอยู่ด้านหน้าบ้าน ออกแบบมาเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวหากต้องการนัดหมายแขกให้มาพูดคุยธุระกันที่บ้าน ซึ่งมุมนี้จัดเป็นโซฟาสีเทาควันบุหรี่ขลิบสีดำ ตัดด้วยหมอนอิงสีแดงเลือดหมูดูเรียบหรู พร้อมสตูลสไตล์โมเดิร์นสีเทาเข้ม ตรงกลางเป็นโต๊ะกลางจัดวางเป็นชุดตามมุมต่างๆ เพื่อต้อนรับแขก ท่ามกลางบรรยากาศของสวนหน้าบ้านเพื่อสร้างความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย

บรรยากาศภายในบ้านให้ความรู้สึกค่อนข้างสบาย นั่งนานๆ ได้ไม่อึดอัด มีความสูงโปร่งเปิดช่องแสงผ่านกระจกทรงรอบบ้านให้ความรู้สึกหรูหรา โอ่อ่าและผ่อนคลายสบายใจ 
ด้านซ้ายของบ้านออกแบบให้เป็นห้องเอนกประสงค์ที่หันหน้าออกไปทางฝั่งหน้าบ้าน สามารถปรับเป็นห้องต่างๆ ได้ตามที่ต้องการ ด้วยความที่บ้านออกแบบฟังก์ชันแบบ Open Plan ทำให้มีพื้นที่การใช้สอยค่อนข้างมากและปรับได้ตามใจ ภายในจึงให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงหลักความสวยงามและการใช้งานจริง เพื่อให้ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของเราให้ได้มากที่สุดดังนั้น บ้านตัวอย่างจึงปรับให้ห้องนี้กลายเป็นห้องทำงาน ทำเป็น Home Office หรือห้องสำหรับทำการบ้านอ่านหนังสือได้เช่นกัน ด้วยความที่เป็นห้องที่มีห้องน้ำในตัว สามารถปรับเป็นห้องนอนแขกหรือห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุได้เช่นกัน 
นอกจากนี้ ยังมีห้องน้ำสำหรับแขกเป็นแบบ Poder Room อยู่มุมนี้เช่นกัน ออกแบบมาให้ทั้งแขกและลูกบ้านใช้งานร่วมกันได้ 
ด้านในออกแบบให้เป็นมุมพักผ่อนจิบน้ำชาของสมาชิกในบ้านที่ Tea Room เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่คุมโทนคล้ายกันทำให้ดูกลมกลืน สามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับ Pre-Dinner ในงานเลี้ยงกับแขก จิบเครื่องดื่มเบาๆ นั่ง Mingle พูดคุยกันในบรรยากาศสบายๆ เพราะผนังกระจกใสจะหันหน้าออกไปทางสวนด้านข้างบ้าน เนื่องจากมุมนี้จะเชื่อมต่่อกับเคาน์เตอร์บาร์ด้านใน จากนั้นเมื่อได้เวลามื้ออาหารก็ค่อยย้ายไปที่โต๊ะรับประทานอาหารกันต่อไป 
บริเวณด้านในสุดของบ้านเชื่อมต่อกับ Pantry และเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวแอล (L-Shape) จาก Poggen Pohl นำเข้าจากเยอรมันซึ่งปรับเป็นมุมบาร์ชิลล์ได้ในตัว พร้อมเตาและเครื่องดูดควันจาก Bosch ติดกันยังออกแบบให้เป็น Nooks หรือมุมนั่งเล่นติดสวนหลังบ้าน ผนังออกแบบให้เป็นกระจกสไตล์ Bay Window เพื่อเปิดมุมมองได้กว้างขึ้น ทำให้มุมนี้ค่อนข้างโปร่ง 
กานต์ว่า พอเราออกแบบให้บ้านมีมุมส่วนตัวก็สามารถช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านได้มากขึ้น ดังนั้น Nooks จึงมักจะได้รับบทเป็นมุมโปรดของทุกคนในบ้านอยู่เสมอและมักจะมาพร้อมกับบรรยากาศของความผ่อนคลาย เช่น เป็นพื้นที่สำหรับนั่งรับประทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ ร่วมกัน 
ากนั้น ยังพอมีเวลาเหลือให้คุณพ่อได้นั่งต่อเพื่อจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์ตอนเช้า ก่อนไปเข้างาน หรือสำหรับคุณแม่ที่นั่งจิบชากาแฟยามบ่าย เม้าท์มอยกับเพื่อนบ้านในบรรยากาศสบายๆ ท่ามกลางสวนสีเขียวด้านหลังบ้าน 
ถัดจาก Nooks จะเป็นมุมสำหรับรับประทานอาหารที่โดดเด่นด้วยการเปิดรับวิวสวนจากทั้ง 2 ฝั่ง ข้อดีก็คือรองรับการใช้พื้นที่แบบ Semi-Outdoor จัดปาร์ตี้บาร์บีคิวกันได้สบายๆ หรือหากไม่ได้ใช้ก็แนะนำให้จัดเป็นสวนเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน เป็นการสร้างความเพลิดเพลินระหว่างมื้ออาหารไปด้วยได้

บ้านตัวอย่างจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ไว้สำหรับ 10 ที่นั่ง เราสามารถปรับให้มากกว่านั้นได้ครับ เพราะดูแล้วมีพื้นที่เพียงพอเหลือเฟือ ติดกันยังมีพื้นที่วางสำหรับติดตั้ง Pantry สำหรับจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไปด้วยในตัว 
เชื่อมต่อกับมุมรับประทานอาหาร จะเป็นบันไดสไตล์ Art Deco ปูพื้นลูกนอนด้วยหินแกรนิตสีดำ ประดับราวจับกันตกด้วยลวดลายเรขาคณิตสีทองตัดกับบันไดและผนังกรุเป็นฟอร์มสีเหลี่ยมลายตารางสีดำเกือบเข้ม สำหรับเชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้นบนของบ้าน 
บริเวณผนังโถงบันไดออกแบบให้มีช่องแสงเปิดเข้าภายในผ่านกระจกใส ทำให้ช่วยประหยัดพลังงาน ไม่จะำเป็นต้องเปิดไฟในช่วงเวลากลางวันเลยครับ 
ด้านบนจะมี 4 ห้องพร้อมกับ 1 พื้นที่เอนกประสงค์เป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับสมาชิกในบ้านหรือ Family Area ข้อดีของการแยกฟังก์ชันทำให้เราสามารถรับแขกที่ชั้นล่างได้ ในขณะเดียวกันก็ไม่เป็นการรบกวนสมาชิกคนอื่นที่อยากพักผ่อนหรือดูทีวีอยู่ที่ชั้นบน ออกแบบให้เป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัว ทำการบ้าน นั่งอ่านหนังสือหรือจิบเครื่องดื่มเบาๆ ก่อนนอนที่มุมนี้ได้

พื้นของชั้นบนปูด้วยไม้มะค่าแอฟริกาสีธรรมชาติ เพื่อให้ดูอบอุ่นมากยิ่งขึ้น หัวใจหลักคือเป็นบ้านออกแบบสวย เน้น Space และ Function การอยู่อาศัยที่สบาย มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ หลายคนรู้อยู่แล้วว่าผมชอบบ้านสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค รู้สึกถึงความทันสมัยและทำให้บ้านดูมีมิติ เปิดรับช่องแสงกว้างๆ 
โดยแบบบ้าน PEARL ได้ออกแบบเชื่อมต่อกับทุกห้อง เพื่อรองรับการทำกิจกรรมร่วมกันสำหรับทุกเจนเนอเรชั่นในครอบครัว แต่จะลงดีเทลให้เข้ากับยุค New Normal มากขึ้น ด้วยการจัดให้มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำกิจกรรมของตัวเอง ตรงนี้ถือเป็นหลักการออกแบบที่ดีมากครับ

ชั้นบนผมว่าฟีลลิ่งค่อนข้างโปร่งโล่งสบาย เพราะมีหน้าต่างกระจกช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามา ท่ามกลางบรรยากาศของยอดไม้จากสวนด้านข้างบ้านที่คอยชูช่อโบกทักทายเราอยู่ตลอดเวลา 
พื้นที่ครึ่งหนึ่งของบ้านฝั่งด้านหน้าขนานไปกับความกว้างของบ้านจะเป็น Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่มาก ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้สอยภายในเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว

ด้านหน้าเมื่อเปิดเข้ามาจาก Family Area จะยังไม่ใช่ส่วนพักผ่อนหรือมุมเตียงนอน เป็นการออกแบบที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวเป็นสำคัญ เพราะเตียงนอนจะถูกจัดไว้บริเวณห้องที่ถัดเข้าไปด้านใน ทำให้ได้ความเป็นส่วนเมื่อเปิด-ปิดประตู
ดังนั้น พื้นที่ส่วนแรกจะเป็น Living ภายในห้องนอนสำหรับนั่งพักผ่อนบนโซฟาสีเทาควันบุหรี่ที่ดูสบายตา หรือว่าจะใช้เป็นมุมทำงานภายในห้องนอน สำหรับนั่งเซ็นต์เอกสารเล็กๆ น้อยๆ ช่วงก่อนเข้านอน
ด้านในถูกกั้นด้วยผนังเบาเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวสำหรับมุมพักผ่อน เราสามารถจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ได้เพราะมีพื้นที่กว้างเดินได้รอบเลย ตกแต่งในสไตล์คลาสสิคที่ให้ความรู้สึกหรูหรา มีกลิ่นอายโมเดิร์นด้วยการเลือกใช้ดีไซน์ของเตียง โต๊ะหัวเตียง โคมไฟและการจับคู่สีน้ำตาล ขาว ดำที่ทำออกมาได้น่าสนใจ
เตียงนอนมีระยะห่างมากพอที่จะติดตั้งทีวีจอใหญ่บริเวณปลายเตียง สามารถจัดวาง Cabinet สำหรับสมาร์ททีวีขนาดใหญ่หรือจะเลือกเป็นทีวีแบบแขวนผนังก็ได้ให้เรานอนชมซีรีย์เรื่องโปรดจากบนเตียง หรือนั่งชมจากโซฟาที่อยู่ริมหน้าต่างได้สบายๆ ในช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนได้เลยครับ
ห้องนี้เป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว อยู่ถัดเข้าไปด้านในพร้อมมุมแต่งตัว โดยตู้เสื้อผ้าจะเป็น Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำ

ตู้เสื้อผ้าแบบสมมาตรแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคั่นกลางด้วยโต๊ะเครื่องแป้ง อีกฝั่งเป็น Island เก็บเครื่องประดับแบบส่วนตัว ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานระหว่างคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยความที่ออกแบบให้ห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet อยู่ติดกับห้องน้ำใช้พื้นที่ต่อเนื่องกัน ทำให้สะดวกเวลาออกจากห้องน้ำมาก็สามารถแต่งตัวต่อได้เลยจบในจุดเดียว
Master Bathroom มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่พร้อมระบบเจ็ทในตัว ห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้งเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ ภายในโดดเด่นด้วยกระจกเงาบานใหญ่ขนาดรับกันพอดีกับอ่างล้างหน้าทั้ง 2 หลุมแบบ His & Her พร้อมสุขภัณฑ์แบบ Washless อีกด้านติดตั้ง Shower Box พร้อมฝักบัวและ Rain Shower มาให้แล้ว

ความหรูหราสำหรับผมอาจเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมาก เช่นการได้นอนแช่อ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยฟองโฟมเนื้อนุ่ม เป็นการปรนเปรอกายใจในพื้นที่ส่วนตัวของเรา ผมว่าเป็นความรู้สึกดีที่เราได้มีเวลาให้กับตัวเองอย่างเรียบง่ายภายในบ้าน เพียงเท่านี้ก็มีความสุขแล้วครับ ผมยังสังเกตว่า สถาปนิกออกแบบห้องนี้ให้มีหน้าต่างบานสไลด์เพื่อให้เราสามารถเปิดออกไประบายอากาศและความชื้นภายในห้องน้ำได้ 
ฝั่งตรงข้ามเป็น Bedroom 2 ที่มีขนาดใหญ่เช่นกัน การออกแบบและวางแปลนภายในห้องยังเน้นหลักความเป็นส่วนตัวด้วยการเปิดให้มีโถงทางเดินเข้าไปเล็กน้อย ก่อนจะถึงยังพื้นที่พักผ่อนภายใน 
ห้องนอนนี้มีไฮไลท์คือมองเห็นวิวฝั่งหน้าบ้านซึ่งผมว่าการออกแบบในลักษณะนี้น่าสนใจ เพราะได้ทั้งความโปร่งโล่งจากผนังกระจกรอบห้องให้แสงส่องเข้ามาได้ตลอดเวลา และยังได้บรรยากาศของต้นไม้ใหญ่ด้านข้าง วิวสวนด้านหน้าบ้าน ที่ผมว่าน่าสนใจ โดยเฉพาะยิ่งเมื่อเราอยู่ไปนานวัน ต้นไม้บริเวณโถงกลางบ้านเริ่มชูช่อสูงขึ้นเรื่อยๆ จนขึ้นมาทักทายเราจากหน้าต่างห้องนอน เป็นบรรยากาศของการพักผ่อนใจกลางเมืองที่ได้สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติดีมากครับ 
บ้านตัวอย่างจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ไว้ชิดผนัง หัวนอนหันออกไปทางด้านข้างของบ้านซึ่งจะได้วิวต้นไม้ และสัมผัสกับสายลมแสงแดดแทน มีพื้นที่รอบเตียงให้เดินได้สบายเลยครับ หัวเตียงจัดวางโต๊ะเตี้ย และโคมไฟส่องสว่าง ด้านข้างเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่หน้าห้องแต่งตัวและมีห้องน้ำด้านใน ส่วนปลายเตียงสามารถจัดหาชั้นวางทีวีขนาดใหญ่มาติดตั้งไว้ในห้องนอนเพื่อให้เรานอนชมซีรีย์เรื่องโปรดจากบนเตียงได้เลยครับ 
“𝓛𝓾𝔁𝓾𝓻𝔂 𝓲𝓼 𝓱𝓪𝓿𝓲𝓷𝓰 𝓽𝓱𝓮 𝓽𝓲𝓶𝓮 𝓽𝓸 𝓭𝓸 𝔀𝓱𝓪𝓽 𝔂𝓸𝓾 𝓵𝓸𝓿𝓮.” – John F. Kennedy 
ติดกันเป็นห้องนอนรอง 3 มีประตูทางเข้ากั้นระหว่างโซนพักผ่อนกับโซนแต่งตัว

เมื่อเปิดประตูเข้าไปด้านในสุดออกแบบเป็นพื้นที่พักผ่อน จัดวางเตียงนอนไว้เกือบชิดผนัง ส่วนด้านข้างเป็นพื้นที่นั่งทำงานพร้อมกับเป็นโต๊ะเครื่องแป้งไปในตัว วางชิดติดผนังเรียงกันไป ส่วนปลายเตียงจัดวางตู้เก็บของขนาดไม่ใหญ่ สำหรับวางทีวีไปพร้อมกัน 
ห้องนอนทุกห้องภายในบ้านจะเป็นแบบ En Suite คือมีห้องน้ำส่วนตัวทุกห้อง และมีห้องแต่งตัวอยู่ถัดเข้าไปด้านใน แบ่งสัดส่วนการใช้งานชัดเจน 
จริงๆ แล้วหากบ้านไหนสมาชิกในครอบครัวไม่ได้เยอะมาก กานต์ว่าเราสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องเอนเตอร์เทนเม้นท์ สำหรับดูหนังฟังเพลงก็ได้ เพราะอย่างที่บอกไปว่า ทุกห้องล้วนเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ที่สามารถออกแบบได้ตามใจ ซึ่งโดยหลักของการออกแบบที่ผมเคยเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้คือ Open Plan การออกแบบจึงเปิดให้มีความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่และตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยในบ้าน 
“𝓣𝓱𝓮 𝓱𝓲𝓰𝓱𝓮𝓼𝓽 𝓵𝓾𝔁𝓾𝓻𝔂 𝓲𝓼 𝓽𝓱𝓮 𝓵𝓾𝔁𝓾𝓻𝔂 𝓸𝓯 𝓾𝓷𝓲𝓷𝓽𝓮𝓻𝓻𝓾𝓹𝓽𝓮𝓭 𝓽𝓻𝓪𝓷𝓺𝓾𝓲𝓵𝓲𝓽𝔂.” – Matt Kepnes 
ส่วนห้องนอนที่ 4 อยู่โซนด้านหลังบ้านทำให้ได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบ ตกแต่งภายในห้อง โดยจัดแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่พักผ่อน สามารถวางเตียงนอนขนาด King Size ได้สบายเลยครับ ด้วยความที่เป็นห้องมุมอยู่ทางด้านหลังทำให้เปิดรับช่องแสงผ่านหน้าต่างได้จากทั้ง 2 ด้าน ทำให้บรรยากาศภายในห้องค่อนข้างโฟลว์ครับ 
ส่วนช่วงปลายเตียงจะเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ขนานไปกับผนัง
ด้านข้างเตียงจะเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งซึ่งถัดเข้าไปจะเป็นห้องน้ำภายในห้องนอนแบบส่วนตัว
ด้านข้างบ้านเป็นลานกว้างยกพื้น Inner Courtyard สำหรับทำเป็นมุมพักผ่อนต่างอากาศสไตล์ยุโรป สามารถจัดทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น จิบกาแฟยามเช้า ติดตามข่าวสาร อ่านหนังสือ หรือจัดเป็นบาร์บีคิว ปาร์ตี้ ท่ามกลางบรรยากาศสีเขียวของต้นไม้นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ให้ลมพัดเย็นๆ ในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ ชวนให้เราอยากย่างบาร์บีคิวกินกันในครอบครัว เสิร์ฟช็อคโกแลตอุ่นๆ ใส่มาร์ชเมลโล่ลงไปให้สัมผัสที่นุ่มละมุน บ้าน PEARL จึงเหมาะที่จะรองรับบรรยากาศแห่งความสุขของครอบครัวเช่นนี้มาก
มาดูในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางกันบ้างครับ ต้องบอกก่อนเลยว่าโครงการ CRYSTAL SOLANA จัดเต็มมากสำหรับพื้นที่สีเขียวและอาคาร Clubhouse รวมเนื้อที่กว่า 2 ไร่ กลายเป็นโอเอซิสใจกลางกรุงไปโดยปริยาย

ทัศนียภาพภายในโครงการมีความสวยงาม หรูหรา เมื่อผ่านประตูด้านในจะพบกับ Clubhouse ขนาดใหญ่อยู่เบื้องหน้า ทำหน้าที่ต้อนรับแขกผู้มาเยือนและอำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านที่มาใช้บริการพักผ่อน พื้นที่โดยรอบปลูกต้นไม้นานาพันธุ์เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่
เราประทับใจกับการออกแบบพื้นที่ Main Park ที่กว้างขวางเต็มไปด้วยสนามหญ้าสีเขียว ช่วยเติมความสดชื่นให้หายเหนื่อยทันทีที่กลับมาถึงบ้าน พื้นที่ส่วนกลางของโครงการมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เราจะเห็นได้ทันทีที่ขับรถเข้ามาภายในโครงการ

มีสวนสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจในบรรยากาศของสีเขียวสบายๆ เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ดอกไม่้ ดอกหญ้า ผืนสนามหญ้าพร้อมที่นั่งพักผ่อนและลานกลางแจ้งใต้ร่มไม้สำหรับทำกิจกรรมภายในครอบครัว บรรยากาศแวดล้อมจึงเต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ ทำให้เราได้รู้สึกถึงความสดชื่นใจกลางกรุงจริงๆ
โครงการให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวในทุกจุดรับสายตา นั่นหมายความว่า เมื่อเรามองหรือกวาดสายตาไปทางไหน เราจะเห็นสีเขียวของต้นไม้เต็มไปหมด ที่สำคัญคือนอกจากจะให้ร่มเงาและความร่มรื่นแล้ว เรารู้กันดีว่าต้นไม้มีประโยชน์ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น เพิ่มอากาศบริสุทธิ์ ดักจับอนุภาคมลพิษ และช่วยให้อุณหภูมิรอบบ้านลดลงได้ 2-4 องศาเซลเซียสอย่างไม่น่าเชื่อ เห็นจะจริงอย่างที่ว่า เพราะเรากลับรู้สึกได้ถึงความเย็นสบาย สายลมที่พัดไหวเบาๆ ปะทะดอกหญ้าให้พริ้วไหวราวกับอยู่บ้านพักตากอากาศบนเนินเขาที่ฝรั่งเศส
ในส่วนของการออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง ค่อนข้างคำนึงถึงการอยู่อาศัยที่หลากหลาย ทั้งเพศ วัยและความจำเป็นในการใช้ชีวิตในสังคม

ดังนั้น หลักการออกแบบอาคาร Clubhouse และบรรยากาศโดยรวมของโครงการจึงไม่ใช่เพียงแต่เหตุผลด้านความใหญ่โตอลังการสวยงามเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงคุณภาพของผู้พักอาศัยและการใช้งานจริงด้วย

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้โครงการ CRYSTAL SOLANA ได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจในระดับสากลถึง 2 รางวัลระดับโลกจากการประกวด Gold Nugget Awards ได้แก่ รางวัลที่สุดของคลับเฮาส์ระดับนานาชาติ (Best International Residential project – Amenity) และรางวัลที่สุดของหมู่บ้านระดับนานาชาติ (Best International Residential project) จากสหรัฐอเมริกา จึงเป็นเครื่องการันตีความเป็นที่สุดของบ้านหรูระดับ Ultra Luxury Residences ในประเทศไทย 
จากประตูทางเข้าอาคาร Clubhouse เราจะพบกับ Conference Room เป็นห้องประชุมที่สร้างมาเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้บริหารหรือลูกบ้านที่จัดการประชุม พร้อมที่นั่งพักระหว่างการประชุม ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ของสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวที่สวยงาม ผมว่าจะสามารถสร้างความผ่อนคลายในการประชุมได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้หากต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถปิดม่านได้ครับ
ตรงกันข้ามห้องประชุมจะเป็น Library ภายในห้องโดดเด่นด้วยเพดานสูงแบบ Double Volume ช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งสบาย พักผ่อนหย่อนใจได้เต็มที่ไม่รู้สึกแออัดแต่อย่างใด
ห้องประชุม Library สำหรับนั่งพักผ่อนในบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะสำหรับการมานั่งอ่านหนังสือหรือเขียนงาน ในบรรยากาศที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
ติดกันเป็น Lounge ที่เปิดโล่งด้วยผนังกระจกกรุในกรอบอลูมิเนียมสีดำเข้ม ทำให้ได้ฟีลแบบยุโรป ภายในจัดวางโต๊ะเก้าอี้เรียงรายพร้อมกับมุมโซฟาสำหรับพักผ่อนพูดคุยกันในบรรยากาศสบายๆ
โครงการยังได้จัดให้มีเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหาร พร้อมอ่างล้างจาน สามารถจัดงานเลี้ยงภายในห้องนี้ โดยมีเชฟชื่อดังมาเปิดเชฟ เทเบิ้ลที่นี่ได้เลยครับ นอกจากนี้ยังสามารถเปิดประตูเชื่อมต่อกับ Library ได้ ในกรณีที่ต้องการปิดแบบไพรเวทเพื่อจัดงานเลี้ยงและต้องการพื้นที่เพิ่มก็สามารถทำได้
Clubhouse นอกจากจะออกแบบให้มีสวนและที่นั่งกลางแจ้งแล้ว ยังจัดให้มี Sun Bed ไว้โดยรอบเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ ประดับผนังด้วยกระเบื้องหินอ่อนลาย White Panda ที่นำมาต่อกันได้อย่างประณีต เสริมบรรยากาศให้สดชื่นด้วยไม้กระถาง วางแทรกไว้ด้วยชุดที่นั่งเก้าอี้หวายจัดไว้สำหรับให้เหล่าคุณแม่่จับกลุ่มพูดคุยกันระหว่างที่รอเด็กๆ กำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน หรือใช้เป็นมุมนั่งอ่านหนังสือสำหรับลูกบ้านได้
เราสามารถว่ายน้ำในสระขนาดใหญ่สีฟ้าสดใสในบ่ายวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันครอบครัว ชวนกันมาชมความงามของธรรมชาติราวกับศิลปะชั้นเลิศ ด้วยสีฟ้าของน้ำที่ตัดกันกับวิวสีเขียวของต้นไม้ในสวนเบื้องหน้า ที่เริ่มทอดเงาร่มรื่นในช่วงเวลาพระอาทิตย์เริ่มทอแสงสีส้ม ได้ฟีลลิ่งของการพักผ่อนจริงๆ ครับ

สระว่ายน้ำขนาดใหญ่แบบ Half-Olympic ยาว 25 เมตร เป็นสระระบบเกลือแบ่งเป็น 2 สระแบบ Semi-Outdoor สระว่ายน้ำมีขนาดใหญ่มาก สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้สบายเลยครับ มาพร้อมกับสระว่ายน้ำสำหรับเด็กและติดตั้งสไลเดอร์ให้ด้วย พร้อมอำนวยความสะดวกด้วยห้องน้ำแยกชายหญิงและมีตู้ล็อกเกอร์บริการด้วย 
การออกแบบผังโครงการเน้นความเป็นธรรมชาติของน้ำ ฟ้า ต้นไม้ โดยมีลานสนามหญ้ากว้างๆ ทำหน้าที่เชื่อมโยงเราเข้ากับธรรมชาติ ผมนึกภาพไปถึงช่วงเวลาเย็นๆ เห็นหลายบ้านพาน้องหมามาเดินเล่น ลูกบ้านชวนกันมาออกกำลังกายกลางแจ้ง บางบ้านนั่งจับเข่าคุยกันอยู่บนม้านั่งกลางแจ้ง บรรยากาศคงจะดีมากครับ
ใกล้อันยังออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยกลางแจ้งสำหรับทำกิจกรรมแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น Playground เพื่อกระตุ้นให้เด็กๆ ได้ออกมาใช้ชีวิตสัมผัสกับธรรมชาตินอกบ้าน เน้นให้ทุกคนในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน มีสไลเดอร์สำหรับเด็ก ลานเอนกประสงค์กลางแจ้งสำหรับออกกำลังกาย เอาไว้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
นอกจากนี้ยังมีสนามเทนนิสบนชัั้นดาดฟ้า ให้เราได้ออกกำลังกายเรียกเหงื่อโดยที่ไม่ต้องออกไปคอร์ดเทนนิสที่ไหน เด็กๆ ก็สามารถเชิญครูมาสอนเทนนิสแบบส่วนตัวที่สนามของโครงการได้เลยครับ
ติดกันมี Golf Driving Cage สำหรับซ้อมวงสวิงเบาๆ เป็น Facilities ที่เหล่าคุณพ่อน่าจะชอบมาก เพราะได้ฝึกซ้อมในช่วงเวลาว่างๆ ก่อนจะไปออกรอบกับก๊วนในเช้าวันหยุด
นอกจากนี้ยังมีฟิตเนสขนาดใหญ่บนชั้น 2 สามารถออกกำลังกายไปพร้อมกับการชมวิวของธรรมชาติภายนอกได้ ภายในฟิตเนสมีพื้นที่กว้างขวาง ปลอดโปร่งเมื่อใช้งานจริง เน้นเอาใจคนรักสุขภาพสายแอคทีฟ มีทั้งโซนฟรีเวทและแมทชีน โดยทางโครงการได้ติดตั้งเครื่องออกกำลังกายวางกระจายกันไปทั่วห้อง พร้อมติดตั้งพื้นรองรับการกระแทก
ใกล้กันออกแบบให้เป็น Yoga Studio มีลักษณะเป็นห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยรอบห้องติดกระจกเงา เพื่อให้เราสามารถเช็คท่วงท่าและกำหนดลมหายใจระหว่างเล่นโยคะได้อย่างถูกต้อง หรือจะปรับเป็นห้องซ้อมเต้นก็ได้เช่นกัน
สำหรับคุณแม่และสาวๆ ที่หลงใหลในเรื่องความสวยความงาม การปรนนิบัติผิวโดยที่ไม่จำเป็นต้องออกไปสปานอกบ้าน ก็สามารถมาใช้บริการห้องสปาและซาลอนของโครงการได้ครับ
สำหรับนัดหมายเทอราพิสจากภายนอกมาให้บริการแบบส่วนตัว โดยที่เทอราพิสเองก็ไม่จําเป็นต้องเข้าไปภายในบ้านของเรา ทั้งนี้เพื่อความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยของสมาชิกทุกคนในบ้าน เราสามารถใช้บริการที่ Clubhouse ได้ครับโดยมีห้องสปา เตียงนวด ไว้บริการ
นอกจากนี้ ยังมี SALON ให้ด้วย ทางโครงการจัดเตรียมห้องพร้อมเก้าอี้ทำผมแต่งหน้าและห้องแต่งตัวไว้คอยให้บริการ เพื่อให้เราได้ปรนเปรอผิว ประทินโฉมเตรียมพร้อมความสวยได้จากภายในบ้านไม่ต้องออกไปใช้บริการข้างนอกเลยครับ เป็นการเตรียมความพร้อมเสร็จสรรพสำหรับการไปร่วมงานกาล่าในคืนนี้ได้ทันที
พื้นที่สวนส่วนกลางกว้างใหญ่ดีครับ บรรยากาศก็ดูร่มรื่น ด้วยต้นไม้ใหญ่ เป็นสวนสไตล์อังกฤษที่เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้ดอก ช่วยให้บริเวณนี้ดู ร่มรื่น สดชื่น สบายตา สบายใจ เชื้อเชิญให้เราอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการพักผ่อนภายในบ้านมานั่งเล่นที่ส่วนกลางดูบ้างครับ
#โดยสรุป โครงการ CRYSTAL SOLANA เหมาะสำหรับคนที่มองหาคฤหาสน์หลังใหญ่ เน้นฟังก์ชีันที่หลากหลายและมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าบ้านทั่วไป โดยเฉพาะแบบบ้าน PEARL ที่กานต์พามาชมกันในครั้งนี้ต้องบอกว่าเป็นบ้านที่มีความหรูหรา ทว่ายืดหยุ่นสูงให้เราปรับเปลี่ยนการใช้สอยได้ตามใจให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในบ้าน ที่สำคัญโครงการมีทั้งบ้านสั่งสร้างและบ้านที่สร้างเสร็จแล้วพร้อมให้เราเข้าอยู่ได้ทันที

สามารถนัดหมายแบบส่วนตัวเพื่อเข้าชมโครงการได้ที่ โทร 02-101-5775
Line: @crystalsolana
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.crystalsolana.com
KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน